แสงอรุณเผยให้เห็นสภาพของเมืองที่รอดพ้นจากแผ่นดินไหวได้อย่างกระท่อนกระแท่น อาคารบ้านเรือนกว่าหนึ่งในสี่ของเมืองพังทลาย ประชากรเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง บาดเจ็บนับไม่ถ้วน มีแต่ความเศร้าโศกฉาบอยู่บนใบหน้าของชาวเมือง เหล่าคณะเดินทางออกจากประตูทางตอนเหนือของเมือง มุ่งหน้าไปยังอาณาจักรโลอาเมีย
เมื่อพ้นกำแพงเมืองลักซ์ เอล ยูคาล ก็เป็นทุ่งหญ้าเขียวสดทอดตัวยาวจนสุดริมแม่น้ำกว้าง มีสะพานแข็งแกร่งขนาดมหึมาที่สร้างด้วยอิฐสีน้ำตาลทอดยาวเชื่อมฝั่งแม่น้ำทั้งสองไว้ด้วยกัน ที่ปลายสะพานมีป้อม และจุดพักนักเดินทางตั้งอยู่ เหล่าคณะเดินทางค่อยๆพาตัวเองเดินเข้าไปสู่สะพานกว้าง
" สะพานนี้กว้างมากเลยนะครับ " เคอิลใช้มือลูบไปตามผนังสะพานที่ก่อด้วยอิฐสีน้ำตาลก้อนโต
" ใช่จ้ะ สะพานเชื่อมแห่งนี้กว้างพอที่จะนำรถม้าหกคันแล่นหน้ากระดานพร้อมกันได้ทีเดียว " ซาเวียร์อธิบาย
" สะพานแห่งนี้เป็นทางเดียวที่จะสามารถเดินทางไปยังอาณาจักรโลอาเมียได้ และยังเป็นสะพานที่แสดงถึงการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองอาณาจักรนี้เข้าด้วยกัน สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และมั่นคง ใช้เวลาในการสร้างถึงหกสิบห้าปีด้วยแรงงานมนุษย์นับไม่ถ้วน ด้วยวิทยาการโบราญทำให้มันสามารถรับน้ำหนักคนได้ร่วมแสนเชียวนะ " อักเนสเสริมขึ้นบ้าง
" น่าแปลก ..." ซิสิเลียเปรยขึ้น " แล้วทำไมสะพานนี้ถึงดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลย มันดูปกติราวกับไม่ได้เจอแผ่นดินไหวเมื่อวาน " เธอพูดพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบ
" จริงๆแล้วระหว่างที่เดินออกจากเมืองกัน ผมได้ยินชาวบ้านพูดกันว่าที่ลักซ์ เอล ยูคาลเป็น [b] เมืองเดียว [/b] ที่เกิดแผ่นดินไหว เมืองอื่นๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยน่ะครับ " เซราฟเอ่ยขึ้น
" นั่นเป็นเพราะข้า ..." น้ำเสียงเคอิลเจือความเศร้าสลด " ที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นก็เพราะข้า ... ข้าเองคือคนที่ยิมิร์ต้องการตัว ข้าอยู่ที่นั่น .... แผ่นดินไหวเลยเกิดขึ้น เพราะข้า ..."
และแล้วเคอิลก็เล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นให้ทุกๆคนฟังขณะที่กำลังเดินไปตามสะพานกว้าง เหล่าสมาชิกต่างมีสีหน้าแปลกใจระคนตกตะลึง
" ถ้าข้าไม่อยู่ที่เมืองนั่น ป่านนี้คงไม่มีใครเป็นอะไร " นักเวทย์หนุ่มก้มหน้านิ่ง สายตาจับจ้องอยู่ที่ชายผ้าคลุมที่ระข้อเท้า
" ไม่ใช่เพราะเคอิลหรอกนะ " เซราฟก้าวเข้ามาเดินขนาบข้างนักเวทย์หนุ่ม " เคอิลเองก็ไม่ได้ต้องการให้มันเกิดเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เหรอ ? เคอิลเองก็ไม่มีอำนาจมากพอที่จะไปหยุดแผ่นดินไหวไม่ใช่เหรอ ? เคอิลเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น " เสียงที่ฟังดูไร้เดียงสาอยู่เสมอกลับแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนอันสามารถปลอบประโลมจิตใจแก่ผู้ฟัง " ไม่เป็นไรหรอก เพราะเคอิลได้ทำในสิ่งที่เคอิลสามารถทำได้ไปแล้ว อย่าไปเสียใจในสิ่งที่เกินกำลังของเราจะทำได้เลยนะ " ดวงตาสีเขียวสดมองมาอย่างให้กำลังใจ ทั้งซาเวียร์ และอักเนสอมยิ้มอย่างชื่นชมในตัวของนักบวชน้อย โดยเฉพาะซิสิเลียฉีกยิ้มกว้างอย่างเห็นด้วยในสิ่งที่ได้ยิน มีเพียงเดโรนิกาที่ยังคงมีสีหน้านิ่งเฉย
" ขอบใจนะ " เคอิลส่งสายตากลับไปยังดวงตาสีเขียวสดคู่นั้น ยิ้มให้น้อยๆเป็นเครื่องหมายถึงการขอบใจ นักบวชผมดำยกมือขึ้นขยี้เรือนผมสีทองของเซราฟจนยุ่ง
" หย๋า !!! ผมของผมยุ่งหมดแล้ว !" นักบวชตัวน้อยพยายามปัดมือของเคอิลออกไป พวงแก้มแดงเรื่อด้วยเลือดฝาด
และแล้วเมื่อผ่าเท้าของคณะเดินทางได้สัมผัสกับพื้นดินอีกฝากของสะพาน ก็ราวกับทั้งหมดได้ก้าวเข้ามาอีกโลกหนึ่ง ทุกสิ่งรอบข้างล้วนอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเก่าแก่ ทุกสิ่งทุกอย่างดูเป็นสีน้ำตาลไปเสียหมด พื้นดินเป็นสีน้ำตาลเข้ม หมู่ต้นไม้ และก้อนหินก็ล้วนแต่เป็นสีอมน้ำตาล ไม่ใช่สีน้ำตาลของความแห้งแล้ง ผืนแผ่นดินทั้งมวลที่รายล้อมยังคงมีกลิ่นอายแห่งความอุดมสมบูรณ์ แต่เป็นสีน้ำตาลที่ให้ความรู้สึกเก่าแก่ ราวกับทุกอณูของแผ่นดินอาบไปด้วยภูมิปัญญาแห่งอดีตที่สั่งสมมาเนิ่นนาน
" ที่นี่คือแผ่นดินของ [b] โลอาเมีย [/b] เหรอครับ " เคอิลถามขึ้น เขาเองก็สามารถสัมผัสความเก่าแก่ในผืนดินแห่งนี้ได้
" ถูกต้องแล้ว แต่จากนี้ไปต้องระวังตัวให้มากนะ เพราะอันตรายรอบด้านเชียวล่ะ " ซิสิเลียเอ่ยขึ้นพร้อมกับปัดผ้าคลุมให้พลิกรวมกันอยู่ที่หลัง มีแสงเรืองๆสีขาวที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง เตรียมพร้อมที่จะเรียกอาวุธศักดิ์สิทธิ์ออกมา เช่นเดียวกับเหล่าอัศวินสาวทุกคน ที่เตรียมพร้อมจะต่อสู้
ก็ดั่งเช่นดินแดนเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณโบราณ ผู้พิทักษ์ ผู้อยู่อาศัยก่อนเก่า และสิ่งเร้นลับมากมาย
.......................................................................
" ฮู่ม !!!" " ซ่า !!!"
เหล่ากองกรวดทรายมีชีวิตจำนวนนับสิบกำลังโจมตีเหล่าคณะเดินทางอย่างดุเดือด มันรวมตัวกันเป็นก้อนหลวมๆราวกับมีเวทมนตร์วิเศษทำให้มันก่อร่างขึ้นมาได้ กองทรายเหล่านี้เข้าห้ำหั่นผู้แปลกถิ่นราวกับเป็นหน้าที่รับผิดชอบ
" สวบ !!!" เสียงดาบของซิสิเลียที่ฟาดฟันเข้าใส่กองทรายสีหม่นจนฝุ่นทรายฟุ้งกระจาย
ทุกครั้งที่เข้าโจมตีเหล่ากองทรายนี้ ก็จะมีฝุ่นสีเทาอมน้ำตาลฟุ้งกระจายออกมาเสมอ ขณะนี้เหล่าสมาชิกต่างอยู่ในกลุ่มฝุ่นควันคละคลุ้งรายล้อมไปทั่ว
" ทำไม ... ผม ... ง่วงจังเลย " เซราฟเอ่ยขึ้นขณะที่อยู่กลางวงเหล่าอัศวินที่เข้ามาปกป้อง จู่ๆเขาเองก็รู้สึกง่วง หนักตาหนักอึ้งราวกับไม่ได้นอนมาทั้งชีวิต ง่วงมากเสียจนอยากล้มตัวลงนอนตรงนี้เสียให้รู้แล้วรู้รอด
" พวกนี้มัน ... [b] มิสตี้ เดราส์ !!![/b] ([b]Misty Drowse!!![/b]) อย่าสูดดมฝุ่นที่ออกมาจากร่างกายพวกมัน ! ไม่งั้นจะ ..." อักเนสร้องตะโกนทันทีที่เธอนึกขึ้นได้ แต่ก็สายไปแล้ว ตัวเธอเองก็เริ่มถูกความง่วงอันร้ายกาจเข้าครอบงำแล้วเช่นกัน
" แต่ผม ... ไม่ไหวแล้ว ...." เซราฟหลับตาลง ปล่อยให้ความง่วงแสดงผลงานของมันให้เต็มที่ นักบวชตัวน้อยทิ้งร่างผล็อยหลับลงไปทั้งๆที่ยังยืนอยู่ โชคยังดีที่เคอิลกระโจนเข้าไปคว้าตัวไว้ก่อนที่จะล้มลงพื้น ฝ่ายนักเวทย์หนุ่มเองก็เกินที่จะทานทนไหว ความง่วงเริ่มเข้ามาจู่โจม หนังตาของเขาหนักขึ้น ร่างกายไม่ยอมทำตามคำสั่ง มันอ่อนล้า และพากันกรีดร้องวิงวอนเพื่อพักผ่อน ทุกสิ่งรอบข้างหมุนคว้าง "[b] พักผ่อน ![/b] หลับซักงีบก็คงจะดี " ถ้อยคำเหล่านี้วิ่งไปมาในสมองของนักเวทย์หนุ่ม
"[b] อย่าหลับนะ !!![/b] ไม่งั้นพวกเราไม่มีกำลังพอที่จะแบกพวกเธอแน่ ! แค่พยายามฝืนความง่วงก็ยากเต็มทีแล้ว " อักเนสตะโกน พร้อมๆกับที่ใช้หอกหวดฟาดเหล่ากองทราย เหล่านักรบสาวยังคงพอจะต่อกรกับความง่วงได้บ้าง ด้วยความที่ฝึกฝนมามาก
" เดโรนิกาเป่าแตรที !" ซิสิเลียร้องเรียก ดวงตาสีเทาหรี่ปรือใต้คิ้วที่ขมวดมุ่น
" ไม่ได้หรอก ! ฝุ่นพวกนี้มันทำให้ข้าเป่าไม่ได้ " เดโรนิกาเอ่ยขึ้น สีหน้าเคร่งขรึม พลางหวดแตรฟาดใส่เหล่ากองกรวดทรายที่อยู่ใกล้ๆ
" ไม่ไหวแล้ว ! มันเยอะเกินไป ฝุ่นควันนี่หนาเกินที่พวกเราจะทนได้แล้วนะ " ซิสิเลียร้อง ความถี่ในการฟาดดาบเริ่มช้าลง ฝุ่นทรายคละคลุ้งไปทั่ว แต่เหล่ากองทรายมีชีวิตเหล่านั้นก็ยังถาโถมเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
" ผมง่วง ..." เคอิลพูดได้เพียงเท่านี้ ก็รู้สึกว่าสติจวนเจียนจะขาดลง
"[b] ฮาเรลูยา !!![/b]" เสียงจากซาเวียร์ร้องตะโกนขึ้น พร้อมกับแสงสว่างวาบจากปลายคฑายอดกางเขนของเธอ เกิดความรู้สึกที่ไหลอาบไปทั่วร่าง มันเป็นความสดชื่น ความอบอุ่น แสงสว่าง และพลัง ทั้งหมดนี้ต่างขับไล่ความง่วงงันได้เป็นปลิดทิ้ง
" อยู่ได้ไม่นานหรอกนะ ยังไงก็พยายามฝืนด้วย " ซาเวียร์เอ่ย ก่อนที่จะกลับไปสมทบกับนักรบสาวที่เหลือ
และโชคก็เข้าข้างเหล่าคณะเดินทาง เกิดสายลมโชยอ่อนพัดผ่านเข้ามาแต่ก็รุนแรงพอที่จะพัดพาเอาฝุ่นทรายที่ก่อให้เกิดความง่วงกระจายหายไป
" ฝุ่นควันหายไปแล้ว งั้นคราวข้าบ้าง [b] อมาเกดดอน !!![/b]" เดโรนิกายกแตรขึ้นจ่อริมฝีปาก ทันทีที่เสียงแตรดังกึกก้อง เหล่ากองทราบประหลาดก็มีท่าทีที่เชื่องช้าลงไป ทั้งความรุนแรงในการโจมตีรวมไปถึงความรวดเร็วในการเคลื่อนไหว พวกมันเองต่างก็ได้รับผลจากเสียงแตร
" เราต้องจัดการพวกมันให้หมด ก่อนที่ฝุ่นพวกนั้นจะฟุ้งขึ้นมาอีก " อักเนสเอ่ยขึ้น " งั้นไม่เกรงใจแล้วนะ " วินาทีถัดมา เธอก็กระโดดพุ่งขึ้นฟ้า
"[b] อาเว โกดิว่า !!![/b]" หอกจำนวนสิบหกเล่มได้พุ่งเข้าใส่เหล่ากองทรายจากฟากฟ้า
"[b] เฟธฟูล !!![/b]" ซิสิเลียเองก็ไม่น้อยหน้า ตวัดดาบจนเกิดลำแสงสีขาวพุ่งเข้าใส่กองกรวดทรายจนพวกมันแตกกระจายออกจากกัน
เหล่าสี่สาวต่างแสดงศักยภาพอย่างเต็มกำลังโดยที่เด็กทั้งสองแทบไม่ต้องทำอะไรนอกเสียจากระวังตัวเอง และพยายามไม่ง่วงเท่านั้น เพียงเวลาไม่นานเหล่ากองทรายก็ถูกกำจัดไปจนหมด ฝุ่นควันแตกกระจายพัดปลิวไปพร้อมกับสายลม
" หมดเสียที " ซาเวียร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะที่ร่ายเวทย์รักษาแก่ทุกคน
ทว่าเบื้องหลังคณะเดินทางนั้น กองทรายประหลาดก้อนหนึ่งที่เหลือรอดจากการโจมตี ก็ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งอย่างเงียบๆ มันพุ่งเข้ามาหมายจะโจมตีซาเวียร์ที่กำลังร่ายเวทย์รักษา
"[b] ระวัง !!![/b]" อักเนสสังเกตเห็นได้ทันท่วงที เธอพุ่งเข้าขวางทางระหว่างกองกรวดทรายกับร่างของซาเวียร์ แต่อาวุธในมือถูกเก็บไปเสียแล้ว ก้อนทรายพุ่งเข้ามารวดเร็วเกินกว่าที่จะเรียกหอกเอ็กโซดัสออกมาได้ทัน
" ไม่ทันแล้ว " อักเนสคิดในใจ พร้อมกับหลับตาลง รอแรงปะทะจากการโจมตี
"[b] ไฟร์แลนซ์ !!![/b]"
"[b] ผลั่กๆๆๆๆ ![/b]" ลูกไฟจำนวนห้าลูกพุ่งเข้ากระแทกใส่กองทรายมีชิวิตก่อนที่มันจะถูกตัวของอักเนสเพียงเสี้ยววินาที ร่างของกองทรายประหลาดแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆเหลือเพียงฝุ่นทรายฟุ้งกระจาย
ทุกคนต่างหันไปที่ต้นเสียงเจ้าของเวทย์ที่ร่ายมนตร์กำจังศัตรู เคอิลยกมือขึ้นเสมอช่วงอก เขานั่นเอง ... ที่ร่ายเวทย์โจมตีปกป้องเธอไว้ บนถุงมือสีเทาอมม่วงที่สวมอยู่ที่มือขวาของเขา มีอักขระแปลกๆส่องแสงสีแดงส้มออกมาเรืองๆ อีกนาทีถัดมานักเวทย์หนุ่มจึงลดมือลง
" นี่เธอ ... ร่ายเร็วขนาดนี้ ... เธอเป็นใครกันแน่ ?" อักเนสถามเสียงสั่นๆ พลางมองเคอิลอย่างตกตะลึง สำหรับนักเวทย์ทั่วไปแล้ว ความเร็วในการร่ายมนตร์ขนาดนี้ถือว่าน่ากลัวยิ่งนัก
" แต่เคอิลเองก็ร่ายเร็วอย่างนี้อยู่แล้วนี่ฮะ ผมเคยเห็น " เซราฟพูดขึ้นเมื่อนึกถึงครั้งที่ยังเคยเฝ้าดูการฝึกฝนของเคอิล
"[b] แกว๊ก !!![/b]" ยังไม่ทันที่อักเนสจะเอ่ยปากถามไถ่อะไร เสียงแหลมสูงประหลาดก็กรีดร้องขึ้นมาเหนือศีรษะของเหล่าคณะเดินทาง
" นกเหรอ ? รึว่าเหยี่ยว ?" ซาเวียร์เปรยเบาๆพร้อมกับที่ป้องมือบังแสงอาทิตย์พร้อมกับเพ่งมองขึ้นไปยังท้องฟ้าเบื้องบน บนฟากฟ้าปรากฏเงาของสัตว์ปีกขนาดใหญ่บินสูงอยู่เบื้องบน มันบินตีวงโค้งเป็นวงกลมเหนือคณะเดินทาง เสียงร้องดังเป็นระยะ และดังขึ้นเรื่อยๆ นกประหลาดตีวงแคบลงพร้อมกับที่ลดระดับต่ำลงมาอย่างเห็นได้ชัด
เพียงไม่กี่อึดใจ นกนั่นก็บินอยู่ไม่สูงไปกว่ายอดไม้เท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่สามารถจับรายละเอียดได้เพราะมองย้อนแสงอาทิตย์จึงเห็นเป็นเพียงเงาดำทะมึน นาทีถัดมามันหยุดบินและพยุงตัวกลางอากาศ โบกกระพือปีกอย่างรวดเร็วสองสามครั้ง ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังราวกับวัตถุพุ่งแหวกอากาศตรงเข้ามา
"[b] ฟิ้ว !!![/b]"
" ไม่ใช่นกแล้ว !!!" ซิสิเลียร้องขึ้นพร้อมๆกับที่พุ่งเข้าไปอยู่กลางกลุ่มคณะเดินทาง ในมือของเธอได้เชิญเซเคร็ท เอดจ์ และชีรับไว้พร้อม
"[b] โฮลี่ ชีลด์ !!![/b]" สิ้นเสียงเพียงพริบตา ก็เกิดเสียงของวัตถุตกกระทบกับม่านพลังสีฟ้าจากโล่ของซิสิเลีย
" ขนนกนี่นา !?" ซาเวียร์ก้มลงหยิบวัตถุเจ้าการที่พุ่งเข้ามา ทันทีที่ขนนกสัมผัสกับฝ่ามือ ร่างกายเธอก็เกิดอาการสั่นกระตุก ขนนกร่วงหลุดจากมือพร้อมๆกับที่ร่างกายที่ทรุดลงไปกองกับพื้น
" ซาเวียร์ !!!" ทั้งซิสิเลียและอักเนสกระโจนเข้าไปประคองร่างของนักรบสาวผู้สิ้นสติ เด็กหนุ่มทั้งสองก้าวเท้าตามไปทันที
ซาเวียร์นอนนิ่งหายใจแผ่วระโรย ดวงตาหรี่ปรือไร้เรี่ยวแรง ริมฝีปากขยับพะงาบเหมือนเธอต้องการจะกล่าวอะไรออกมา
"[b] ฮาร์ปี [/b] ([b]Harpy[/b])... ขนของฮาร์ปีมันทำให้เป็นอัมพาธได้ชั่วขณะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ราวสองถึงสามชั่วโมงอาการก็คงหายเป็นปกติ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเจ้าของขนเหล่านี้ต่างหาก " เดโรนิกาพูดขึ้น ขณะที่ใช้ปลายผ้าคลุมหยิบขนนกขึ้นมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ขนนกนั้นเป็นสีน้ำตาลอ่อน บริเวณปลายขนมีสีเหลือง แดง และเขียวแต้มสลับดูสวยงาม
" ออกไปจากที่นี่ซะ พวกท่านจะเข้ามายังโลอาเมียไม่ได้ !!!" เสียงแหลมเล็กแต่ก็ไพเราะในทีดังขึ้นข้างหน้าพวกเขา นกประหลาดที่อยู่บนฟ้าเมื่อสักครู่ทิ้งตัวลงมายังพื้นดิน
เคอิลเห็นได้ชัดเจนทีเดียว ร่างที่หย่อนกายลงมานั้นเป็นหญิงสาวรูปร่างงดงาม ทว่าที่แขนของเธอกลับกลายเป็นปีกที่กางออกกว้าง ตั้งแต่เอวลงไปนั้นดูคล้ายท่อนขาของเหยี่ยวอันทรงพลัง กรงเล็บแหลมคมจิกพื้นดินอย่างมั่นคง ที่งดงามที่สุดเห็นจะเป็นดวงหน้าที่คมคายได้รูปรับกับดวงตากลมโต
ที่เป็นสีแดงฉานวาววับกับเส้นผมที่ดูก้ำกึ่งระหว่างเส้นผมของมนุษย์และขนของนก
" กลับไปซะ ! ไม่เช่นนั้นพวกท่านอาจจะได้รับโทษมากกว่าที่หญิงสาวผู้นั้นเป็นอยู่ " ฮาร์ปีสาวขู่ พร้อมกับบุ้ยใบ้มาทางซาเวียร์ที่นอนหายใจระรวย
" แต่ว่าพวกเราไม่ได้มาทำอันตรายอะไรนะครับ พวกเราต้องการไปยังโลอาเมีย " เคอิลร้องวอน
นางนกสาวขยับปีกอย่างหงุดหงิด ดงตาสีแดงทับทิมจ้องเขม็งอย่างดุดัน
" ไม่ได้ ! ข้าไม่อาจให้พวกท่านผ่านไปได้ โปรดออกไปซะ ก่อนที่ข้าจะทำร้ายพวกท่าน " นางยังคงยืนกราน พร้อมกับกางปีกหลวมๆเป็นเชิงข่มขู่
" แต่ว่าพวกเราจำเป็นต้องไปยังโลอาเมียจริงๆนะครับ ได้โปรดเถอะ " เซราฟร้องขึ้น เขาช่วยขอร้องอีกคน
" ถ้าพูดไม่ฟัง เห็นทีต้องลงมือ " ฮาร์ปีเอ่ยขึ้นก่อนจะกรีดร้องเสียงแหลมไม่ต่างจากนกป่าดุร้าย ขนตามตัวพองฟู ปีกเหยียดกางออกกว้าง
" เซราฟ ! เคอิล ! ฝากซาเวียร์ด้วยนะ [b] เอ็กโซดัส [/b] จงมา !" อักเนสพูดขึ้น พลันหอกด้ามยาวก็ปรากฏขึ้นบนมือของเธอ
ฮาร์ปีกระพือปีกยกร่างลอยขึ้น เกิดฝุ่นทรายปลิวว่อนคละคลุ้ง
" หนีขึ้นข้างบนเรอะ ไม่พ้นหรอก !" ซิสิเลียกระหยิ่มยิ้ม ที่ดาบของเธอเกิดแสงสีขาวจางๆค่อยๆสว่างขึ้นช้าๆ
"[b] เฟธฟูล !!![/b]" เธอตวัดดาบเหนือศีรษะ ลำแสงพุ่งตรงไปยังนางนกสาว
ฮาร์ปีเบี่ยงตัวหลบได้ทันท่วงที เรียกได้ว่าเฉียดปลายปีกของเธอไปเพียงนิดเดียว
"[b] คริปเปิล ทอร์เนโด !!![/b] ([b]Cripple Tornado!!![/b])" ฮาร์ปีตอบโต้ด้วยการกระพือปีกอย่างรวดเร็ว ขนนกจำนวนมากม้วนตัวกับสายลมล้อมรอบซิสิเลียและอักเนสไว้
" พี่เดโรนิกาเป่าแตรสิฮะ !" เซราฟร้องเรียกอย่างสุดเสียง เมื่อเห็นท่าไม่ดี
" ไม่ได้ ! ซาเวียร์ไม่ได้สติแบบนี้ พี่เป่าไม่ได้ แตรของพี่ไม่เพียงแค่ส่งผลกับศัตรูเท่านั้น มันมีผลต่อทุกคน ถ้าไม่มีซาเวียร์คอยสนับสนุนฝ่ายเรา แตรของพี่ก็ไร้ประโยชน์ " เดโรนิกาอธิบาย สีหน้าเรียบเฉยแต่น้ำเสียงฉายแววกังวล
ขนนกจำนวนมากม้วนตัวรอบๆซิสิเลีย และอักเนส จริงอยู่ที่ว่าขนนกไม่อาจสร้างบาดแผลสาหัสได้ แต่ว่าพิษจากขนของฮาร์ปีจะออกฤทธิ์ทันทีที่สัมผัสกับผิวหนัง ตอนนี้นักรบสาวทั้งสองคนก็รู้สึกได้ว่าร่างกายเริ่มขยับได้อย่างยากลำบาก อาการชาเริ่มสำแดงตนตามปลายเส้นประสาททั่วร่าง
" ยิงเวทย์ไฟใส่พวกเรา !" อักเนสร้องเรียกเคอิล
" อะไรนะครับ " นักเวทย์หนุ่มถามอีกครั้ง เขาไม่มั่นใจในสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ อักเนสโดนพิษของฮาร์ปีจนเสียสติแล้วหรืออย่างไร ?
" ยิงเวทย์ไฟใส่พวกเรา เดี่ยวนี้ ! เร็วเข้า " อักเนสตะโกนสุดเสียง แก้วเสียงยังคงกังวานใสไพเราะแต่ร่างเธอทรุดกายลงไปคุกเข่ากับพื้น นางนกสาวเบื้องบนยังคงโบกกระพือปีกของเธออย่างต่อเนื่อง สายลมม้วนตัวพัดพาเอากลุ่มขนนกตวัดรอบร่างของนักรบสาวรอบแล้วรอบเล่า
เคอิลหลับตาลง รวบรวมสมาธิ ยกฝ่ามือขวากางออกเบื้องหน้า เกิดแสงสีส้มแดงจางๆส่องประกายจางถุงมือ " ด้วยพลังแห่งอัคคีธาตุ จงผลาญเหล่าศัตรูข้าให้มอดไหม้ [b] ไฟร์วีล !!![/b] ([b]Fire Wheel!!![/b])" ทันใดนั้นดวงไฟขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของนักเวทย์หนุ่ม มันม้วนตัวด้วยความร้อนก่อนที่จะพุ่งเข้าหาซิสิเลีย และอักเนส เปลวเพลิงลุกโชนอย่างน่ากลัว ประกายไฟแตกกระจายลามเลียไปในอากาศ ไอร้อนแผ่ออกมาจนรู้สึกราวกับขนบนกายกำลังไหม้
ฮาร์ปีบินไต่ระดับให้สูงขึ้น เพื่อให้พ้นระยะโจมตีของเวทย์
" พรึ่บ !" ดวงไฟเข้าปะทะกับสองสาว มันแตกกระจายและลุกโชนอยู่ขณะหนึ่งก่อนที่จะค่อยๆมอดดับ บัดนี้ขนนกได้มอดไหม้เหลือแค่เพียงฝุ่นเถ้า เผยให้เห็นสองนักรบสาวที่ยกผ้าคลุมขึ้นบังกายแต่ก็บาดเจ็บไม่น้อย
" ไม่ออมมือเลยนะ " อักเนสส่งสายตาขอบคุณมาให้เคอิล
ความเหนื่อยล้าจากการต่อกรกับฝูงกองทราบประหลาด ทั้งยังพิษจากขนของฮาร์ปี ทำให้ทั้งสองสาวจวนเจียนจะสิ้นเรี่ยวแรง ทว่าซิสิเลียกัดฟันรวบรวมเรี่ยวแรงที่หลงเหลือเพียงเล็กน้อยตวัดดาบขึ้นอีกครั้ง เธอใช้เฟธฟูล ! คราวนี้ลำแสงของดาบพุ่งแหวกอากาศตรงไปยังร่างของนางนกสาว คราวนี้ฮาร์ปีหลบไม่พ้นเสียแล้ว ด้วยความชะล่าใจหมายว่าศัตรูสิ้นท่า จึงทำให้คมแสงบาดโคนปีกเป็นทางยาว เลือดข้นสีแดงเข้มสาดกระเด็น นางนกสาวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ปีกอีกข้างพยายามกระพือเพื่อพยุงร่างไว้ แต่ก็เสียการทรงตัวเสียแล้ว พิษบาดแผลเจ็บปวดเกินกำลังที่ปีกอีกข้างจะรับไหว ร่างสีน้ำตาลอ่อนโงนเงนกลางอากาศก่อนที่จะหล่นร่วงลงมายังพื้นดินอย่างเสียท่า
" ตอนนี้แหละ จัดการเลยเคอิล ! เจ้าร่ายไฟร์แลนซ์ได้กี่จบ ?" เดโรนิการ้องถาม
" หะ ... ห้าจบครับ " เคอิลตอบกลับไปทันควัน ถึงแม่เขาเองจะสามารถร่ายมนตร์ได้อย่างรวดเร็ว แต่สมาธิของหนุ่มน้อยช่างสั้นนัก
" ร่ายซะ ! คราวนี้ข้าขอสิบจบ เจ้าไหวไหม ?" อักเนสร้องขอเสียงอ่อนล้า ฮาร์ปีพยายามตะกุยดินเพื่อทรงตัวลุกขึ้นยืน ฝ่าเท้าอันทรงพลังราวพญานกอินทรี ตะกุยพื้นดินอย่างเต็มกำลัง พยายามฉุดรั้งร่างกายให้ลุกขึ้นยืน
" ผมจะพยายาม " เคอิลตอบรับ แต่ในใจเขารู้สึกกดดันไม่น้อย สิบจบเชียวรึ ? เขาหันหลังกลับไปสบตากับเซราฟที่มีซาเวียร์หนุนตักอย่างอ่อนระทวย
นางนกสาวลุกขึ้นทรงตัวยืนได้แล้ว ปีกข้างที่ถูกคมดาบตกลู่อยู่ข้างตัว เลือดสีแดงเข้มไหลอาบขนสีสวย ดวงหน้าคมคายได้รูปและดวงตาสีแดงทับทิมแสดงความโกรธและเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด นาทีถัดมานางพยายามจะพุ่งตัวเข้ามาโจมตีเคอิล กรงเล็บอันทรงพลังถีบพื้นอย่างรุนแรง เป้าหมายคือนักเวทย์หนุ่มผู้ยืนตกประหม่าอยู่เบื้องหน้า [b] รวดเร็วปาดความคิด ![/b] หอกของอักเนสพุ่งปักเข้าไปที่ปีกของฮาร์ปีข้างที่บาดเจ็บอีกครั้ง หอกปักลงกับพื้นดินผลักให้ร่างของฮาร์ปีคว่ำลงกับพื้นอย่างหมดท่า นางนกสาวกรีดร้องเสียงแหลมอย่างเจ็บปวด คราวนี้นางถูกตรึงอยู่กับที่เลือดสีแดงเข้มเจิ่งนองไหลอาบปากแผล
" เร็วเข้า !" ซิสิเลียตะโกนก้อง
เคอิลตั้งสมาธิ รวบรวมจิตใจเพ่งถึงพลังอำนาจแห่งอัคคีธาตุ พร้อมๆกับร่ายคาถาไฟร์แลนซ์อย่างรวดเร็ว เขายกมือขึ้นเสมอทรวงอก เกิดแสงสีแดงส้มจางๆบนฝ่ามือที่สวมถุงมือของเขา
[b] สามจบ ...[/b] ใช้เวลาเพียงไม่ถึงวินาที ตรงนี้นักเวทย์หนุ่มสามารถผ่านไปได้สบาย
[b] ห้าจบ ...[/b] ราวสามวินาที เขาเคยมาได้สูงสุดเพียงตรงนี้เท่านั้น หลังจากนี้ไปล่ะ ?
[b] หกจบ ...[/b] ในวินาทีถัดมา สมาธิยังคงมั่นคงอยู่ เขาทำได้ ! เขาสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดที่เขาเคยทำไว้ได้
[b] เจ็ดจบ ...[/b] ดวงตาสีทับทิมของฮาร์ปีจ้องกลับมาอย่างเจ็บแค้น ไม่มีแววตาของการวิงวอนร้องขอชีวิตแม้แต่น้อย มีก็แต่ริมฝีปากบางได้รูปสั่นระริกด้วยความเจ็บปวด
[b] แปดจบ ...[/b] นางนกสาวกรีดร้องสุดเสียงราวกับสั่งเสียผืนดินที่นางเฝ้าปกป้อง
" จงมลายสิ้น เวทย์ทั้งหลาย [b] ดิสแทรค สเปลล์ !!![/b] ([b]Distract Spell!!![/b])" เสียงหนึ่งดังขึ้นในร่มไม้ไม่ไกลนัก ร่างของเคอิลเกิดประกายแสงสีขาวขึ้นรอบตัวส่งผลให้สมาธิของเขาหลุดออก เวทย์ที่ร่ายไว้ซึ่งกำลังจะครบจบที่เก้าก็เป็นอันแตกดับไปด้วย
" นายท่าน !" ฮาร์ปีร้องอย่างยินดี นางจำเสียงนั้นได้แม่นยำ
The Seraphim - สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้ง กับ 50 คำถาม ไขความลับของนักแสดงนะคะ แต่แหม เหตุการณ์ในเรื่องกำลังเข้มข้นอยู่ทีเดียวเชียว ก็พาท่านผู้อ่านนอกเรื่องเสียแล้ว ถือซะว่าเป็นการพักผ่อนนะคะ จะได้ไม่เครียดมาก ผู้อ่านหลายท่านคงจะรอคอยใจจดใจจ่อว่าเหยื่อ อุ๊ย ! ผู้ให้สัมภาษณ์รายต่อไปจะเป็นใคร เดี๋ยวเราตามไปดูกันเลยนะคะ
The Seraphim - พบแล้วค่ะ คราวนี้เป็นเด็กหนุ่มค่ะ ผมสีทอง แต่เอ ... ทำไมรูปร่างแบบบางจริงๆ ขอโทษนะคะ ! สวัสดีค่ะ
??? - สวัสดี
The Seraphim - อ้าว ! ผู้หญิงเหรอคะเนี่ย นึกว่าผู้ชาย ขอโทษค่ะ รบกวนขอสัมภาษณ์อะไรหน่อยนะคะ
??? - ได้สิ กำลังเบื่อพอดี ว่ามาๆ
Q 0 1 - กรุณาบอกชื่อของคุณ
- ซิสิเลีย วอลเต็นเบิร์ก ( Sicilia Volthenberg ) ที่จริงข้าเองก็ไม่ค่อยชอบชื่อนี้เท่าไหร่นะ มันดูอ่อนแอจริงๆ เจ้าว่ามั้ย?
Q02 - กรุณาบอกส่วนสูง น้ำหนัก และอายุของคุณ
- สูง 182เซนติเมตร อายุ 19 ปี หนัก 71 กิโลกรัม เบาไปนะข้าว่า พักนี้พยายามกินเยอะๆแล้วนะ
Q03 - กรุณาบอกอาชีพของคุณ
- เป็นราชองค์รักษ์พิเศษของสังฆราช ที่เรียกตัวเองว่าเซราฟิม
Q0 4 - กรุณาบอกสีที่ชอบ และสีที่ไม่ชอบ
- ขอบสีแดง ข้าว่ามันทำให้ดูฮึกเหิม แต่เกียดสีชมพูนะ ทั้งที่มันก็ต่างกับสีแดงแค่นิดเดียว มันดูหวานไป ข้าไม่ชอบ
Q0 5 - กรุณาบอกของกินที่ชอบและไม่ชอบของคุณ
- เอามาเถอะข้าทานได้หมดล่ะ เอ.. พูดไปก็ชักหิวแฮะ
Q06 - กรุณาบอกคำพูดที่ชอบ
- "ลุย !!! " " Let's GO!!! " ประมาณนี้ล่ะมั้ง
Q07 - กรุณาบอกงานอดิเรก และสิ่งที่ถนัด
- งานอดิเรกเหรอ? ขี่นกเซโรต้าน่ะสิ เรื่องที่ถนัด การต่อสู้
Q08 - กรุณาบอกข้อดีและข้อเสียในนิสัยของคุณ
- ข้อดีก็คงจะเป็นคนที่กระตืนรือร้น ข้อเสีย กระตือรือร้นเกินไป -_-"
Q09 - กรุณาบอกสิ่งที่ชอบอ่าน
- "ตำราพิชัยสงคราม"
Q10 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณติดนิสัย
- ไม่พอใจแล้วชอบท้าดวล
Q11 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณขาดแล้วจะเป็นจะตายมาหนึ่งสิ่ง
- อาหารน่ะสิ เจ้าลองไม่กินดูซักมื้อสองมื้อ ทรมานจะตาย
Q12 - กรุณาบอกรายการทีวีที่ชอบ
- ไม่ค่อยดูทีวีนะ ข้าว่าโลกภายนอกน่าดูกว่าเยอะ เจ้าว่ามั้ย?
Q13 - กรุณาบอกยี่ห้อแบรนแนมที่ชอบ
- เอ๋ ! ไม่มีหรอก มีอะไรก็ใส่ๆไปเถอะน่า อย่าเรื่องมากเลย
Q14 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณทำอย่างแรกตอนอาบน้ำ
- สระผม
Q15 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณทำเป็นอย่างแรกหลังตื่นนอน
- บิดขี้เกียจจนตัวโก่ง เวลาได้ยินเสียงกระดูกลั่นกร๊อบแกร๊บแล้วรู้สึกสบายตัวจริงๆ
Q16 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณทำทุกครั้งก่อนนอน
- เปลี่ยนเสื้อเป็นชุดนอน แต่พักนี้เดินทาง ไม่ได้เปลี่ยนเลย นอนไม่ค่อยสนิทเลยแฮะ
Q17 - คุณทำอาหารหรือไม่ ถ้าทำถนัดทำอะไร
- ถนัดของย่าง มันง่ายมากแค่ก่อไฟ แล้วก็ย่างๆไป เดี๋ยวก็สุกเอง ไม่ต้องมาใส่โน่นปรุงนี่ เสียเวลา...
Q18 - กรุณาบอกความฝันที่ช่วงนี้เห็นแล้วติดตา
- ฝันว่าเจอคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวมากๆ แต่จำไม่ได้ซักทีว่าสู้กับใคร ตื่นขึ้นมาเหงื่อท่วมตัวเลยนะ (วาดมือประกอบไปด้วย ผู้สัมภาษณ์ต้องคอยหลบมือที่วาดไปมา)
Q19 - กรุณาบอกสไตล์ชุดชั้นในของคุณ
- กระชับ เรียบง่าย คล่องตัว
Q20 - กรุณาบอกวิธีแก้กลุ้มใจของคุณ
- ซ้อมรบ, กิน
Q21 - กรุณาบอกเหตุการณ์ที่ทำให้คุณกลุ้มใจที่สุด
- เห็นซาเวียร์กำลังนั่งถักไหมพรม นี่มันใช่งานของนักรบอย่างเราเหรอเนี่ย?
Q22 - กรุณาบอกเหตุการณ์ที่ทำให้คุณหัวเราะมากที่สุดในช่วงนี้
- ก็ซาเวียร์อีกนั่นล่ะ ตอนที่ถักเสร็จแล้ว เธอเพิ่งเห็นว่า แขนขวากับแขนซ้ายของเสื้อยาวไม่เท่ากัน ฮ่าๆ หน้าตาดูไม่จืดเลย(หัวเราะจนน้ำตาไหล)
Q23 - กรุณาบอกเหตุการณ์ที่ทำให้คุณโกรธที่สุดในช่วงนี้
- เห็นเคอิลแกล้งท่านเซราฟ ไม่รู้รึไง นั่นน่ะว่าที่สังฆ.. (โดนเซราฟกระโดดตะครุบปาก)
Q24 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณต้องการตอนนี้
- พาท่านเซราฟกลับศาสนจักร
Q25 - กรุณาบอกสมบัติของคุณ
- ศาสนจักร และเพื่อนเซราฟิม
Q26 - ถ้าคุณขอพรได้หนึ่งข้อ คุณจะขออะไร
- ขอให้ท่านเซราฟเติบโตขึ้นอย่างสง่างาม
Q27 - กรุณาบอกความฝันในอนาคตของคุณ
- ได้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านเซราฟ
Q28 - กรุณาบอกลักษณะเพศตรงข้ามในอุดมคติของคุณ
- ผู้ชายงั้นรึ? ข้ายังไม่สนใจ
Q29 - กรุณาบอกเงื่อนไขที่มีต่อคนรักของคุณ
- อย่าเห็นว่าข้าเป็นคนอ่อนแอ
Q30 - กรุณาบอกเงื่อนไขที่มีต่อคู่ครองของคุณ
- ขึ้นไปดูข้อข้างบนสิ
Q31 ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วมีเพศตรงข้ามที่ไม่รู้จักนอนอยู่คุณจะทำอย่างไร
เป็นอย่างแรก
- มันตาย ! (สีหน้าน่ากลัวมาก)
Q32 - คนรักของคุณนอกใจคุณ คุณจะทำอย่างไรเป็นอย่างแรก
- เรียกมาคุยอย่างเปิดอก
Q33 - คุณถูกคนรักจับได้ว่านอกใจ คุณจะทำอย่างไรเป็นอย่างแรก
- ยอมรับอย่างลูกผู้ชาย
Q34 - กรุณาบอกประโยคที่คุณจะใช้จีบเพศตรงข้าม
- อย่างที่บอก ข้ายังไม่สน
Q35 - กรุณาบอกลักษณะเพศตรงข้ามที่อยากลองถูกจีบดู
- ถ้าเป็นท่านเซราฟ... ไม่แน่นะ...
Q36 - กรุณาบอกกริยาของเพศตรงข้ามที่ทำให้คุณใจเต้น
- อา... เวลาที่ร้องไห้ มันทำให้รู้สึกว่า อยากเข้าไปปกป้อง
Q37 - กรุณาบอกกริยาของเพศตรงข้ามที่ทำให้คุณเอือมระอา
- อวดเบ่ง วางก้าม เห็นแล้วน่ากระโดดไปต่อยซักที
Q38 - กรุณาบอกแฟชั่นของเพศตรงข้ามที่คุณชอบ
- ไม่รู้
Q39 - กรุณาบอกแฟชั่นของเพศตรงข้ามที่คุณไม่ชอบ
- ไม่รู้สิ
Q40 - กรุณาบอกว่าคุณคิดอย่างไรกับการแต่งหน้าของผู้หญิง
- ถ้าออกมาสวยก็ไม่เป็นไร แต่ต้องไม่ใช่ข้านะ
Q41 - กรุณาบอกว่าคุณคิดอย่างไรกับการแต่งหน้าของผู้ชาย
- เหมือนข้อข้างบน
Q42 - กรุณาบอกความทรงจำเกี่ยวกับรักแรกของคุณ
- เป็นคนที่เห็นแล้วน่าเข้าไปปกป้อง ดูบอบบาง น่าเอ็นดู
Q43 - กรุณาบอกความทรงจำเกี่ยวกับจูบแรกของคุณ
- ยังไม่มี
Q44 - กรุณาบอกเกี่ยวกับการอกหักครั้งแรกของคุณ
- ยังไม่เคยอกหัก เพราะยังแอบชอบอยู่ ไม่เคยบอก
Q45 - กรุณาบอกความทรงจำเกี่ยวกับความรักที่คุณไม่อยากนึกถึง
- ยังไม่เคยมีนะ คนที่แอบชอบอยู่ก็ยังไม่เคยทำให้เสียใจ
Q46 - หากพรุ่งนี้โลกจะแตกดับ กรุณาบอกสิ่งที่คุณจะทำวันนี้
- จะดูแลท่านเซราฟให้ดีที่สุด
Q47 - กรุณาบอกจินตนาการในอีกสิบปีข้างหน้าของคุณ
- อา... ไกลเกิน ข้าคิดไม่ออกหรอก
Q48 - กรุณาบอกความลับของคุณ
- ข้าพูดมากไม่ได้ เอางี้ คนที่ข้าแอบชอบอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
Q49 - อยากพูดอะไรกับนักแสดงท่านอื่นไหมคะ?
- ไม่มีนี่
Q50 - ขอบคุณค่ะ มีอะไรจะพูดถึงผู้อ่านไหมคะ?
- ก็ขอบคุณที่ตามอ่านเรื่องนี้มาโดยตลอด พวกเราก็จะพยายามทำให้เต็มความสามารถ
ส่งท้าย
The Seraphim - ขอบคุณนะคะที่ให้สัมภาษณ์
ซิสิเลีย - ไม่เป็นไร สนุกดี มีอะไรแบบนี้ก็เอามาอีกได้นะ ข้าชอบ
อักเนส - นี่เจ้าพูด "ค่ะ" บ้างไม่ได้รึไง? สุภาพกับผู้อ่านหน่อยสิ
ซิสิเลีย - ก็ข้าเขินนี่ ให้พูดอะไรหวานๆอย่างนั้น ไม่เอาหรอก
ซาเวียร์ - แต่ว่า Q21 นี่หมายความว่ายังไงกัน? ชั้นจะทำอะไรก็เรื่องชั้น แล้วดู Q22 อีก นี่มาแอบดูด้วยเหรอ? น่าเกลียดมาก ! (หน้าแดงด้วยความอาย)
เคอิล - เอ... Q23 นี่เซราฟเค้าทำไมเหรอครับ?
สี่สาวเซราฟิม/เซราฟ - ไม่มีอะไรจ่ะ ! ลืมๆมันไปเถอะ ! (พูดพร้อมกันราวกับอัดเทป)
เซราฟ - แต่ว่า Q33 คำว่า "ลูกผู้ชาย" นี่หมายความว่ายังไงกันครับ?
ซิสิเลีย - อ้อ ! ขอโทษ มันติดปากหน่ะ (ยิ้มเขินๆ)
อักเนส - นี่เธอมีอะไรที่สมกับเป็นผู้หญิงมั่งไหมเนี่ย?
เดโรนิกา - Q16 Q 19 Q 35 (กระซิบอย่างแผ่วเบา)
ซาเวียร์ - เดโรนิกา เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?
เดโรนิกา - เปล่า ! แต่รู้สึกว่าจะพูดถึงท่านเซราฟบ่อยเหลือเกินนะ
ซิสิเลีย - (เฮือก !!! )
เคอิล - เอ๋ ! ใช่ครับ อา... พอย้อนกลับไปดูก็มีเยอะนะเนี่ย
อักเนส - อย่าง Q35 Q42 Q44 Q46 แล้วนี่อะไรกัน? Q 46 นี่ล่อแหลมมากเลยนะ Q36 นี่คล้ายท่านเซราฟมากเลยนะ !
เซราฟ - ไหนฮะ? ขอผมดูมั่ง ผมยังไม่ได้อ่านเลย ไหนๆ?
ซิสิเลีย - อ๊า !!! ไม่มีอะไรค่ะท่านเซราฟ ไม่มี้ไม่มี (คว้ากระดาษกรอกแบบสอบถามมาฉีกจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย)
ซาเวียร์ - กรี๊ด !!! แบบสอบถาม !!!
เดโรนิกา - คำว่า "ค่ะ" ออกมาจากปากของซิสิเลีย (หันมากระซิบกับผู้เขียนอย่างแผ่วเบา ท่ามกลางสี่สาวที่กำลังชุลมุน)