ด้วยร่างกายที่เหลือแต่เพียงธุลีเถ้า สัมภาระต่างๆที่อยู่ในรถเข็นจึงใช้ต่างรายกายเพื่อนำมาประกอบพิธีฝังศพ ยังไม่ทันจะเที่ยงวันดี หลุมฝังศพเล็กๆของเทซซ่าก็ถูกตั้งขึ้นบริเวณเชิงเขาเหนือเมืองแอมโบรเซีย บนแผ่นป้ายหลุมศพที่ทำจากกิ่งไม้หยาบๆ มีสร้อยประคำกางเขนเล็กๆของเซราฟแขวนไว้ เคอิลตัดสินใจเก็บสมุดหนังเล่มเล็กที่เธอจดบันทึกต่างๆเกี่ยวกับการค้นคว้าแนวทางการสร้างมนุษย์เทียมไว้เป็นของดูต่างหน้า เหล่าอัศวินสาวทั้งสี่ต่างก็อยู่ในอารมณ์สงบเพื่อไว้อาลัย
เคอิลเปิดสมุดเล่มเล็กออกอ่าน หน้าแรกมีตัวหนังสือที่เขียนด้วยน้ำหมึกสีดำอย่างประณีตบรรจงเล่นหางเล็กน้อย
" เทซซ่า พรูเดนเทีย
ว่าด้วยการสร้างมนุษย์เทียม "
ขณะที่เคอิลกำลังกรีดนิ้วไล่ไปตามขอบกระดาษเพื่อพลิกหน้าต่อไป ก็มีเสียงเรียกจากซิสิเลียเพื่อออกเดินทาง ปกหนังสือถูกปิดเข้าหากันและสอดไว้ภายใต้ผ้าคลุม ก่อนที่นักเวทย์หนุ่มจะลุกขึ้นเดินจากไป
เหล่าคณะเดินทางมุ่งหน้าขึ้นเหนือข้ามเทือกเขาอคาทรัส ตรงไปยังเมืองลักซ์ เอล ยูคาล ระหว่างทางเรียกได้ว่ามีเหล่าเซราฟิมทั้งสี่เป็นผู้นำทางโดยแท้จริง เพราะหนทางล้วนแต่เป็นป่ารกพงหนามทั้งสิ้น ยังไม่นับรวมสัตว์ป่าที่ตื่นกลัวมุ่งเข้าทำร้าย แต่ทว่าอุปสรรคต่างๆก็หาได้ระคายผิวพวกเธอแม้แต่น้อย ระหว่างทางนั้นเอง เซราฟก็ยิ่งร่าเริงขึ้นขึ้นมาก อาจเป็นเพราะได้พบเจอคนที่คุ้นเคยก็เป็นได้ ทั้งยังทำให้เคอิลได้รู้จักกับเหล่านักรบสาวมากขึ้น
" ระวัง !!!" อักเนสร้องเตือน เสียงอันกังวานใสแต่เปี่ยมพลังของเธอทำให้เคอิลสะดุ้งสุดตัวแทบจะทันที นักเวทย์หนุ่มซึ่งเดินใจลอย เกือบจะถูกดาบอันคมกริบของซิสิเลียที่คอยฟันเปิดทาง เหวี่ยงเข้าให้เสียแล้ว ปลายดาบอยู่ห่างจมูกของเขาไปเพียงไม่กี่นิ้ว
" เดินระวังหน่อยนะ " ซิสิเลียหันมาพูดปนหัวเราะแล้วก็ใช้ดาบของเธอฟันรกพงเปิดทางต่อไป
" ขอบคุณครับ " นักเวทย์ผมดำเอ่ยขอบคุณแก่อักเนส
" ด้วยความยินดี คราวหน้าคราวหลังก็ระวังหน่อยล่ะ " เธอตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเธอทำให้เคอิลนึกถึงอะไรบางอย่าง แต่ก็นึกไม่ออกเสียที มันเหมือนติดอยู่ที่ปลายลิ้น ความสงสัยนี้เข้าเกาะกุมจิตใจของนักเวทย์หนุ่มตลอดทั้งวัน
และแล้วยามเย็นก็ย่างกรายเข้ามาเยือนผืนพิภพ ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว แล้วเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำเงินเข้มแกมดำได้อย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน ดวงดาวแข่งกันทอแสงประกาย แต่ก็ยังพ่ายให้กับแสงจันทร์ที่แม้ส่องสว่างเพียงครึ่งดวงก็ยังคงสวยเด่นท่ามกลางละอองดาวที่รายล้อม คณะเดินทางตัดสินใจพักผ่อนกันใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ระหว่างรากที่ทอดตัวไปตามพื้นดิน ใบไม้แห้งได้โรยตัวปกคลุมผืนดินไว้ราวกับถูกตระเตรียมให้พวกเขาลงนอน กลิ่นใบไม้แห้ง และกลิ่นเปลือกไม้อบอวลปะปนอยู่กับกลิ่นชื้นของไอดินและสายลม ท่ามกลางกองไฟที่คอยให้ความอบอุ่นแก่พวกเขา เสียงไฟปะทุดังแทรกเป็นจังหวะแต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการสนทนาของพวกเขาเท่าไรนัก
" รู้สึกคุ้นๆกับอักเนสงั้นสิ " เซราฟที่กำลังคุยหัวเราะคิกคักกับซาเวียร์หันกลับมาถามเคอิล
" ช .. ใช่ "
" จำพี่ลอเรียตได้ไหม ?" เซราฟถามเย้า พร้อมๆกับที่อักเนสอมยิ้มไม่ต่างจากเด็กที่กำลังกุมความลับอะไรไว้
" นักบวชชายที่ เอ่อ ... ส .. สวยๆ เสียงดีๆ ผมยาวๆสีทองคนนั้นน่ะเหรอ ?" เคอิลตอบกลับ แต่ในใจของเขากลับตะโกนลั่น " จริงสิ ! เหมือนมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกันระหว่างทั้งสองคนนี้อยู่ แต่ว่ามันคืออะไรกันนะ ?"
" ก็พี่อักเนสคนนี้ล่ะ เป็นครูของพี่ลอเรียตเอง " นักบวชตัวน้อยเฉลยพลางเบิกตากว้างเหมือนเด็กที่เล่นเกมอะไรบางอย่างแล้วได้รับชัยชนะ พวงแก้มแต่งตึงสีชมพูสวยถูกประดับไปด้วยรอยยิ้มอันแสนบริสุทธิ์ซื่อ
" เป็นครู ?" เคอิลยังไม่เข้าใจ
" ร้องเพลงน่ะ " อักเนสช่วยคลายความสงสัย
" ทั่วทั้งโทเทียก็คงมีแต่สองคนนี้เท่านั้นกระมัง ที่มีเสียงอันไพเราะและบริสุทธิ์ได้เช่นนี้ " เซราฟอวดอ้างพลางกระโดดเขย่งขา เส้นผมสีทองพริ้วไหวไปมาสะท้อนแสงเล่นกับแสงไฟ
" ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก " อักเนสถ่อมตน เธอม้วนปอยผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างขวยเขิน
" แต่ในบทเพลงที่พี่ร้องมันมีอะไรพิเศษมากกว่าบทเพลงธรรมดา ไม่งั้นไม่ทำให้เอ่อ ... ปีศาจนั่นทรมานได้อย่างนั้นหรอก " เคอิลสงสัย ดวงตาสีดำสนิทสะท้อนแสงจากกองไฟไหวระริก
" งั้นพี่อักเนสก็เล่าเกี่ยวกับบทเพลงของพี่ให้ เคอิลฟังสิ ผมเองก็อยากฟัง " เซราฟเร้า
นักเนสอมยิ้มน้อยๆ ดวงตาสีฟ้าฉายแววปิติเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากเอิบอิ่มจะเอ่ยขึ้น " รู้จักนักกวีไหม ?" คำถามที่ถูกเอื้อนเอ่ยราวกับมีเสียงฮัมเพลงเบาๆปนมาในคำพูดของเธอ
" พอรู้จักครับ แต่พี่อธิบายอีกก็ได้ " เคอิลตอบ
เป็นบ่อเกิดของพลัง มาถักทอร้อยเรียงกันจนเป็นบทเพลงที่ทั้งสามารถสร้างเสริมพลังให้แก่ตน หรือลดทอนพลังของศัตรูลงไปก็ได้เช่นกัน " สิ้นประโยคอักเนสก็ฮัมเพลงเป็นทำนองช้าๆที่ฟังดูราวกับลอยมาจากนครโบราญอันสาปสูญไกลโพ้น
" แต่ทว่า การสรรเสริญพระเจ้าที่ไม่ใช่องค์เดียวกับของเรานั้นเป็นไปไม่ได้ แต่รูปแบบการใช้พลังนั้น เราสามารถนำมาดัดแปลงได้ นั่นก็เป็นอีกหนึ่งภารกิจของบุคลากรในศาสนจักรทุกคนต้องเผชิญ แต่ใครแถวนี้ ได้หนีภารกิจนั้นมาอยู่ท่ามกลางป่าเขา มาอยู่ในที่ที่ไม่สมควรจะอยู่ " อักเนสเหน็บ ปรายหางตามาทางเซราฟที่กำลังหลุบหน้าลงด้วยความสำนึก
" เพราะเหตุนี้ ข้าเองจึงได้ริเริ่มผสานการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าในโบสถ์ กับการขับลำนำของเหล่านักกวี จนได้เป็นบทเพลงอันศักดิ์สิทธิ์ ที่จะสามารถใช้ได้จากผู้ที่มีเสียงอันศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น " อักเนสกระแอมเบาๆ แต่นั่นก็ทำให้ทุกๆคนนิ่งเงียบ ราวกับป่าทั้งป่าอยู่ในภวังค์
และแล้วริมฝีปากได้รูปสีชมพูระเรื่อกำลังเผยอขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับหายใจเอาอากาศเข้าไปเต็มปอด ดวงตาที่เป็นประกายหรี่ลงช้าๆจนเกือบจะปิดสนิท และหลังจากความเงียบอันกินเวลาเพียงไม่นาน ก็มีเสียงหนึ่งดังลอดออกมาเบาๆ มันออกมาจากริมฝีปากได้รูปของอักเนสนั่นเอง จากเสียงที่แผ่วเบาราวกับขนนกกำลังลอยพริ้ว ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเสียงที่สูงลิ่วราวกับยอดสนที่กำลังลู่ลมท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำ ไม่นานก็หลุบต่ำจนเหมือนเพียงเสียงของลมยามเย็นที่พัดระใบหน้า เสียงเหล่านี้เรียงตัวกันช้าๆสลับไปมาจนเป็นท่วงทำนอง ท่วงทำนองที่ให้ความรู้สึกเหมือนฝนแรกของปีที่นำพาความชุ่มชื้นมาสู่แผ่นดิน
หลังท่วงทำนองที่นำพาให้เอมอิ่มในความชุ่มชื่น เปลือกตาของอักเนสก็ลืมขึ้นช้าๆจนเห็นดวงตาสีฟ้าเข้มส่องประกายระยับพร้อมกับเนื้อเพลงที่ค่อยๆหลอมรวมกับท่วงทำนองในตอนต้น มักถูกถักทออย่างพิถีพิถันราวกับผ้าไหมผืนยาวที่ไร้รอยฝีเข็ม คำร้องที่เปล่งออกมาช่างเรียบและคม ทั้งยังสอดประสานกันไปราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์ !
ทันทีที่เนื้อเพลงคำแรกถูกเปล่งออกมา ก็ราวกับว่าแสงจันทร์นั้นเจิดจ้าขึ้น ทรงพลังขึ้น และอบอุ่นขึ้นไม่แพ้กับแสงของดวงตะวัน สิ่งต่างๆรอบกายก็ราวกับจะมองเห็นได้ชัดเจน และงดงามขึ้นมาก ฝูงหิ่งห้อยนับร้อยบินเกาะกลุ่มกันผ่านท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม แต่งแต้มสีสันจากแสงสว่างอันน้อยนิดของมันลงบนผืนฟ้าจนงดงามไม่แพ้ดวงดาวที่อยู่สูงลิบ ต้นไม้ใบหญ้าสะท้องแสงจันทร์ระยิบระยับจนดูเหมือนกับงานเลี้ยงย่อมๆที่มีเหล่าเทวดาตัวน้อยร่ายรำอยู่ตามยอดหญ้า และกิ่งก้านใบ เหล่าก้อนหินกรวดที่ไร้ค่าก็กลับดูยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งไม่แพ้ภูผาสูงชัน แม้แต่เหล่าสัตว์ป่าในละแวกใกล้เคียงก็ต่างรับรู้ได้ถึงความงามของเสียงเพลงที่ขับขาน พวกมันต่างหมอบลงนอนราบเพื่อดื่มด่ำกับความงดงามในสรรพสำเนียงอันเต็มตื้นนั้น
" เชิญเถิด เชิญมาร่วมแซ่ซ้องยินดี
เมื่อพระผู้เป็นเจ้ามาสถิต ณ ที่นี้
สรวงสวรรค์พลันเปิดออก
เหล่าเชรูบิมต่างโบยบิน
เซราฟิมขับร้องเพลงสรรเสริญ
เทวดาใหญ่น้อยอำนวยพร
พระองค์มาสถิตกับเรา
ยังมาซึ่งความปิติล้น
บทเพลงเพื่อพระองค์
ที่เหล่าคณะฑูตสวรรค์ขับขาน
กึกก้องทั้งแผ่นดินและแผ่นฟ้า
เมื่อพระองค์เสด็จมา
ปีศาจร้ายมิอาจกร้ำกราย
เหล่าภูติผีจักหนีหน้า
ไกลจากพระรัศมีอันสุกสว่าง
เจริญเถิด
เจริญเถิด
ข้าแต่พระองค์ "
ทำนองเพลงสุดท้ายค่อยๆแผ่วเบาลงช้าๆราวกับจะยังอาลัยอาวรณ์อยู่กระทั่งเงียบหายไป ทิ้งไว้แต่เพียงความรู้สึกที่ตื้นตันเปี่ยมล้นอยู่ในอก เป็นความรู้สึกที่หัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความปลาบปลื้มยินดีอย่างบอกไม่ถูก
" ที่จบไปเมื่อครู่คือบทเพลง เดอะเฮเวนส์เฮล (The Heaven's Hail) ที่ประพันธ์และขับร้องโดย อักเนส เซลิสิตาส วอน กราเฟนเรียธ " ซิสิเลียเอ่ยขึ้นเบาๆ เธอสังเกตเห็นเซราฟที่ตอนนี้หลับผล็อยอยู่บนตักของซาเวียร์
" โถ ... คงจะเพลียน่ะ เจอเรื่องหนักๆมาตลอดวัน เมื่อคืนก็ไม่ได้นอน " อักเนสเปรยด้วยความสงสาร
" ว่าแต่ว่า เพลงของพี่ เพราะจริงๆนะครับ " เคอิลออกปากชม ท่ามกลางสีหน้าเห็นด้วยของเหล่าสมาชิก
ความเหมือนกันระหว่างอักเนสและลอเรียต เห็นท่าจะไม่เพียงแค่มีน้ำเสียงในการขับขานดนตรีที่เหมือนกันเท่านั้น หากแต่ความอบอุ่นในน้ำเสียง บุคลิกลักษณะ ยังคล้ายคลึงกันอีกด้วย เป็นบุคคลประเภทที่อยู่ใกล้แล้วสามารถทำให้ผู้อื่นมีความสุข
" พลังแห่งเสียงน่ะ มีมากกว่าที่พวกเธอเข้าใจนะ แต่อยู่ที่ผู้ใช้จะสามารถดึงเอาพลังนั้นออกมาได้มากน้อยแค่ไหน ? ก็เหมือนกับที่เดโรนิกาใช้แตรของเธอทำให้ผู้ฟังรู้สึกหดหู่นั่นล่ะ " อักเนสหันไปหาเดโรนิกา " ใช่ไหม ? เดโรนิกา "
นักรบสาวผมดำขลับหันกลับมาตามเสียงเรียก ไม่มีสุ้มเสียงใดออกมาจากปากของเธอ สีหน้าราบเรียบ ดวงตานิ่งสงบจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของอักเนสซักครู่ ก็หันกลับไป
" เดโรนิกาบอกว่าให้พี่พูดเองน่ะ " อักเนสหันกลับมาหลังจากที่สบตากับเดโรนิกา เป็นจังหวะเดียวกับที่ซิสิเลียลุกขึ้นปลดผ้าคลุมของเธอไปห่มเซราฟที่หลับอย่างสุขสบายโดยมีซาเวียร์คอยลูบศีรษะให้
" อา .... เคอิลไม่ใช่คนในศาสนาเรานี่นะ แต่พี่คงพูดอะไรละเอียดมากไม่ได้ เดี๋ยวพวกเราต้องพักผ่อนกัน เย็นวันพรุ่งนี้พวกเราทุกคนต้องถึงเมือง ลักซ์ เอล ยูคาล " อักเนสขยับผ้าคลุมสีม่วงของเธอให้ห่มกายกระชับขึ้น " เอาล่ะ ! อย่างที่ทราบกันดีนะเคอิล ว่าพวกเรานับถือศาสนาคริสต์ และในพระคำภีร์ฉบับสุดท้าย วิวรณ์ (Apocalypse) ที่กล่าวถึง ' วันแห่งพันธะสัญญา ' ที่จะเกิดภัยภิบัติต่างๆมากมาย จะมีเทวฑูตเจ็ดองค์ปรากฎกายมาเพื่อเป่าแตรซึ่งก่อให้เกิดหายนะต่างๆ ซึ่งแตรจัดจ์เมนท์ของเดโรนิกาก็สร้างขึ้นมาเพื่อให้เทียบเคียงอำนาจของแตรแห่งเทวฑูตนั้น " อักเนสเล่าด้วยน้ำเสียงอันน่าฟังของเธอ
" จัดจ์เมนท์หาได้นำหายนะมาสู่มวลมนุษย์ หรือผืนโลกแต่อย่างใด แต่แตรวิเศษเลานี้ นำหายนะมาสู่จิตใจมนุษย์ เสียงของจัดจ์เมนท์ก่อให้เกิดภาวะด้านมืดในจิตใจ ไม่ต่างกับจิตใจอันหดหู่ของมนุษย์ในวันแห่งพันธะสัญญา "
" แล้วแตรนั้นสร้างขึ้นมาได้อย่างไรล่ะครับ ? พลังแบบนั้น ... พลังที่น่ากลัวขนาดนั้น " เคอิลถามขึ้นด้วยความสงสัย
แต่ก็ราวกับคำถามของเขาเป็นสิ่งต้องห้าม เหล่าเซราฟิมต่างสบตากับด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ก็มีเพียงเดโรนิกาเท่านั้นที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย
" เอ่อ ... เดโรนิกา ...." ซาเวียร์เรียกขึ้นด้วยความเป็นห่วง ดวงตาสีม่วงของเธอเป็นประกายสีทองจากแสงของกองไฟ นักรบสาวผู้มีสีหน้านิ่งสนิทตอบกลับด้วยการพยักหน้าช้าๆ
" ถ้าเธออนุญาตนะ ก็ตกลง " อักเนสยังคงมองเดโรนิกาด้วยความเป็นห่วง และยิ่งสังเกตได้ชัดในน้ำเสียงของเธอ
อุทรณ์ใดๆทั้งสิ้น ชีวิตแล้วชีวิตเล่า ... เหล่าดวงวิญญาณได้ถูกสังเวยเพื่อสร้างแตรมรณะนี้ดวงแล้วดวงเล่า ..." น้ำเสียงอันแสนขื่นขม ค่อยๆถูกเปล่งออกอย่างยากเย็น
" แต่ว่า ตระกูล วอน กรูนาว์ ... ถ้าจำไม่ผิดมัน ....." เคอิลปล่อยคำพูดออกมาตามความคิด แต่ในใจกลับกลัวที่จะได้ยินคำตอบ
" ครอบครัวของข้าเอง เดโรนิกา วอน กรูนาว์ " เดโรนิกาเอ่ยขึ้น ดวงหน้าราบเรียบแต่น้ำเสียงสั่นไหวเล็กน้อย
" แต่ตัวข้ากลับรอดมาได้ แต่ก็จำความอะไรไม่ได้เลย ความจำสุดท้ายที่ระลึกได้ก็คือชีวิตในศาสนจักร ที่หลวงพ่อเก็บข้ามาเลี้ยงไว้ " นางยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย แต่เสียงกลับสั่นเครือหนักขึ้น
" ให้ข้าพูดเถอะ " ซาเวียร์เอ่ยขึ้นพลางลูบศีรษะของเซราฟที่หลับไหลเบาๆ
" ทันทีที่แตรนั้นถูกสร้างขึ้น ก็มิอาจจะมีผู้ใดแตะต้องมันได้ หากแต่เลือดเนื้อเชื้อไขแห่งวอน กรูนาว์เท่านั้น ซึ่งก็คือเดโรนิกาเท่านั้นที่สามารถจะใช้มันได้ เธอจึงได้รับการเลี้ยงดูและฝึกฝนให้เป็นอัศวินฝ่ายใน เพื่อเป็นเซราฟิมแห่งสังฆราชเหมือนกับพวกเรา โดยไม่ให้เธอรู้ถึงปูมหลังของตัวเธอเอง ทุกคนต่างบอกเธอว่าเธอเป็นเด็กพร้าที่หลวงพ่อท่านหนึ่งเก็บได้ " ซาเวียร์หยุดครู่หนึ่ง ดึงผ้าคลุมของซิสิเลียให้กระชับร่างของเซราฟมากขึ้น
" แต่ความลับก็เก็บได้ไม่นาน ทันทีที่เธอรู้ความจริงเกี่ยวกับแตรที่เธอสามารถใช้ได้เพียงผู้เดียว ความจริงเกี่ยวกับคนในครอบครัวของเธอ เกี่ยวกับศาสนจักรที่ตัดสินใจผิดพลาดจนทำให้เสียผู้ศรัทธาไป ... ทั้งที่เธอเองก็รักทุกคนในศาสนจักรราวกับเป็นครอบครัวหนึ่ง ด้วยแรงช๊อค เธอจึง ...." ซาเวียร์ยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาสีม่วงรื้นน้ำตา เสียงปะทุของกองไฟดังขึ้นราวกับจะอุทธรณ์ในความโหดร้ายของเรื่องราวที่มันได้รับฟัง
" ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่เคยแสดงสีหน้าอย่างอื่นอีกเลย รวมทั้งพูดจาน้อยลง เท่าที่จำเป็น " อักเนสเล่าต่อ
บรรยากาศรอบข้างตกอยู่ในความเศร้าสร้อย ทุกคนต่างก็มีสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หากแม้มีเพียงสักคนสังเกตที่เซราฟ ก็จะเห็นหยดน้ำตาเล็กๆที่หางตาสะท้อนแสงไฟวูบหนึ่ง ก่อนที่จะไหลผ่านไรผมหายเข้าไปในกลุ่มเส้นผมสีทองสลวย
" ฟังกี่ครั้งก็ยังเศร้า นี่เป็นตราบาปแห่งศาสนจักรของเราจริงๆ ถ้าถึงสมัยของเซราฟ มันจะต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด " ซิสิเลียเอ่ยขึ้น
" ' สมัยของเซราฟ '? หมายความว่ายังไง ?" เคอิลสะดุดในคำพูดของซิสิเลีย
" แต่ก็ช่างเถอะ มันเป็นอดีตไปแล้ว ข้าเองก็ไม่ได้เก็บอะไรมาคิดมากมาย " เดโรนิกาขัดขึ้น เป็นการตัดบทที่ราบเรียบ แต่ได้ผลที่สุด นั่นอาจเป็นเพราะสีหน้าราบเรียบของเดโรนิกาเอง
แต่ภายในใจของเคอิลเองยังคงสงสัย เซราฟนั้นต้องไม่ใช่แค่นักบวชธรรมดาเป็นแน่ แต่ก็เพียงไม่นาน ความง่วงก็ได้เข้ามาเกาะกุมพาให้หนังตาหนักอึ้ง และแล้วนิทรารมณ์อันแสนสุขก็เข้าครอบครองกลุ่มคณะเดินทาง
**********
50 คำถาม ไขความลับของนักแสดง
The Seraphim - สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้ง กับ 50 คำถาม ไขความลับของนักแสดงนะคะ คราวนี้เราจะมาสัมภาษณ์สาวสวยค่ะ ถึงแม้ตอนนี้ เธอเองจะหมดบทบาทหน้าที่ไปแล้ว แต่ก็ได้ทิ้งลวดลายการแสดงที่ประทับใจผู้ชมไม่น้อยเลยนะคะ เธอคนนี้เป็นสาวสวยค่ะ เส้นผมและดวงตาสีม่วงที่โดดเด่นของเธอ เป็นที่ประทับใจแก่ผู้ที่พบเห็นมากเลยค่ะ สวัสดีค่ะ !
??? - สวัสดีค่ะ สวัสดีๆ
The Seraphim - งั้นขอเริ่มคำถามเลยนะคะ
Q 0 1 - กรุณาบอกชื่อของคุณ
- เทซซ่าค่ะ เทซซ่า พรูเดนเทีย ( Tessa Prudentia )
Q02 - กรุณาบอกส่วนสูง น้ำหนัก และอายุของคุณ
- สูง 179 เซติเมตรค่ะ น้ำหนักและอายุขอผ่านได้ไหมคะ(น้ำเสียงโกรธๆ)
(ราวๆ 68 กิโลกรัม อายุ 23 ปีค่ะ /จากผู้เขียน)
Q03 - กรุณาบอกอาชีพของคุณ
- เป็นแม่ค้าค่ะ ถึงจะเป็นนักสารยเวทย์แต่ก็ชอบขายของมากกว่าค่ะ สนใจมั้ยคะ? จะลดให้เป็นพิเศษเลย
Q0 4 - กรุณาบอกสีที่ชอบ และสีที่ไม่ชอบ
- ชอบสีม่วง กับสีทองค่ะ ที่เกลียดคือสีน้ำตาลค่ะ
Q0 5 - กรุณาบอกของกินที่ชอบและไม่ชอบของคุณ
- ต้องมันฝรั่งอบของแอมโบรเซียค่ะ อร่อยนัก อุ๊ย ! เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร ลืมๆไปซะเถอนะคะ
Q06 - กรุณาบอกคำพูดที่ชอบ
- "กำไร" กับ "อย่าหวังจะลดให้เลย" ค่ะ
Q07 - กรุณาบอกงานอดิเรก และสิ่งที่ถนัด
- งานอดิเรก กำลังค้นคว้าวิธีการสร้างมนุษย์เทียมค่ะ งานที่ถนัดก็ค้าขายสิคะ อาชีพนี่นา
Q08 - กรุณาบอกข้อดีและข้อเสียในนิสัยของคุณ
- ข้อดีประหยัดค่ะ(พูดได้หน้าตาเฉย) ข้อเสียชอบใจอ่อนค่ะ
Q09 - กรุณาบอกสิ่งที่ชอบอ่าน
- "ตำนานการสร้างมนุษย์เทียม" กับ "โอม...กำไรจงมา" ค่ะ
Q10 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณติดนิสัย
- ต่อราคาค่ะ เห็นแล้วอดไม่ได้ทุกที
Q11 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณขาดแล้วจะเป็นจะตายมาหนึ่งสิ่ง
- เงินค่ะ !!! (เสียงดังจนคล้ายตะโกน แถมยังตอบกลับทั้งๆที่ยังไม่สิ้นประโยคด้วยซ้ำ)
Q12 - กรุณาบอกรายการทีวีที่ชอบ
- "เกาะติดเศรษฐกิจ" ค่ะ
Q13 - กรุณาบอกยี่ห้อแบรนแนมที่ชอบ
- พราด้า ( Prada ) ค่ะ
Q14 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณทำอย่างแรกตอนอาบน้ำ
- ถามทำไมยะ ! ลามก !
Q15 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณทำเป็นอย่างแรกหลังตื่นนอน
- มวยผมค่ะ
Q16 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณทำทุกครั้งก่อนนอน
- หวีผมค่ะ
Q17 - คุณทำอาหารหรือไม่ ถ้าทำถนัดทำอะไร
- ไม่ล่ะค่ะ เวลาเป็นเงินเป็นทอง ซื้อทานเอาดีกว่า
Q18 - กรุณาบอกความฝันที่ช่วงนี้เห็นแล้วติดตา
- น่ากลัวมากๆเลยค่ะ ฝันว่านั่งนับเงินอยู่ดีๆ พวกเหรียญต่างๆก็กลายเป็นช๊อกโกแลตที่ห่อด้วยกระดาษสีทองไปหมดเลย น่ากลัวมาก (หน้าซีดเผือด)
Q19 - กรุณาบอกสไตล์ชุดชั้นในของคุณ
- ลามก !
Q20 - กรุณาบอกวิธีแก้กลุ้มใจของคุณ
- ทำทานมั้งคะ
Q21 - กรุณาบอกเหตุการณ์ที่ทำให้คุณกลุ้มใจที่สุด
- บทน้อยค่ะ ออกมาแป๊บเดียวก็ตายซะแล้ว เสียดายค่ะ ยังแสดงฝีมือไม่เต็มที่เลย
Q22 - กรุณาบอกเหตุการณ์ที่ทำให้คุณหัวเราะมากที่สุดในช่วงนี้
- เห็นเคอิลเกาหลังมือตัวเองข้างที่ใส่ถุงมือน่ะค่ะ หุๆ ติดตามากๆ ตลกสุดๆ
Q23 - กรุณาบอกเหตุการณ์ที่ทำให้คุณโกรธที่สุดในช่วงนี้
- โกรธคนเขียนค่ะ เอาสมบัติชั้นไปฝังหมดเลย ในรถนั้นมีเงินมากพอที่จะซื้อบ้านได้ซัก 2-3 หลังเลยนะยะ ! (ง่าา ขอโทษค่าาา / ผู้เขียน)
Q24 - กรุณาบอกสิ่งที่คุณต้องการตอนนี้
- ปิ่นปักผมอันใหม่ค่ะ อันนี้สั้นไปแล้ว มวยลำบากมาก
Q25 - กรุณาบอกสมบัติของคุณ
- อยู่ในดินหมดล่ะค่ะ ! เสียดายจริงๆ ฝังไปหมดเลย
Q26 - ถ้าคุณขอพรได้หนึ่งข้อ คุณจะขออะไร
- ขอให้ชั้นร่ำรวยที่สุดในมิดการ์ดเลยค่ะ
Q27 - กรุณาบอกความฝันในอนาคตของคุณ
- อยากมีบทแสดงต่อค่ะ เอาชั้นกลับมาเล่นทีนะ ได้โปรด (ตายไปแล้วนะคะ จะเป็นผีกลับมาเหรอ?/ผู้เขียน)
Q28 - กรุณาบอกลักษณะเพศตรงข้ามในอุดมคติของคุณ
- เป็นคนที่พึ่งพาได้ค่ะ แต่ก็ต้องตามใจชั้นได้ด้วย
Q29 - กรุณาบอกเงื่อนไขที่มีต่อคนรักของคุณ
- ไม่ฟุ่มเฟือยค่ะ รู้จักประหยัด
Q30 - กรุณาบอกเงื่อนไขที่มีต่อคู่ครองของคุณ
- อันเดียวกับคนรักล่ะค่ะ อ้อ ! เพิ่มอีกข้อ รายได้ต้องให้ดิชั้นเป็นคนเก็บค่ะ
Q31 - ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วมีเพศตรงข้ามที่ไม่รู้จักนอนอยู่คุณจะทำอย่างไรเป็น
อย่างแรก
- กรี๊ดค่ะ แล้วก็ตบๆๆๆๆ
Q32 - คนรักของคุณนอกใจคุณ คุณจะทำอย่างไรเป็นอย่างแรก
- ขวดไบโอติก เบิร์สท์หายไปไหนนะ?
Q33 - คุณถูกคนรักจับได้ว่านอกใจ คุณจะทำอย่างไรเป็นอย่างแรก
- ไม่หรอกค่ะ ดิชั้นเชื่อว่าตัวชั้นดีพอ
Q34 - กรุณาบอกประโยคที่คุณจะใช้จีบเพศตรงข้าม
- เงินเดือนเท่าไหร่คะ?
Q35 - กรุณาบอกลักษณะเพศตรงข้ามที่อยากลองถูกจีบดู
- เป็นเจ้าชายในประเทศที่ร่ำรวยค่ะ
Q36 - กรุณาบอกกริยาของเพศตรงข้ามที่ทำให้คุณใจเต้น
- เวลาที่เขาคุกเข่าตรงหน้าแล้วก้มลงจูบหลังมือดิฉันค่ะ
Q37 - กรุณาบอกกริยาของเพศตรงข้ามที่ทำให้คุณเอือมระอา
- ไม่อาบน้ำค่ะ ไม่ชอบเลย ทำไมผู้ชายไม่ชอบอาบน้ำกันนะ
Q38 - กรุณาบอกแฟชั่นของเพศตรงข้ามที่คุณชอบ
- เรียบง่าย แต่ดูภูมิฐานค่ะ (ดูรวยนิดๆ)
Q39 - กรุณาบอกแฟชั่นของเพศตรงข้ามที่คุณไม่ชอบ
- ที่ปอนๆ ดูไม่มีฐานะค่ะ
Q40 - กรุณาบอกว่าคุณคิดอย่างไรกับการแต่งหน้าของผู้หญิง
- ธรรมชาติค่ะ ไม่แต่งสิแปลก
Q41 - กรุณาบอกว่าคุณคิดอย่างไรกับการแต่งหน้าของผู้ชาย
- มีด้วยเหรอคะ? คงไม่เหมาะล่ะมั้งคะนั่น
Q42 - กรุณาบอกความทรงจำเกี่ยวกับรักแรกของคุณ
- สมัยเด็กๆค่ะ คนนั้นเค้ายื่นขนมปังที่ขโมยมาให้ ทั้งๆที่หิวกันทั้งคู่ ประทับใจมากๆ
Q43 - กรุณาบอกความทรงจำเกี่ยวกับจูบแรกของคุณ
- เอ๋ ! ไม่ตอบดีกว่าค่ะ
Q44 - กรุณาบอกเกี่ยวกับการอกหักครั้งแรกของคุณ
- เค้าเสียชีวิตไปนี่ เรียกว่าอกหักรึเปล่าคะ?
Q45 - กรุณาบอกความทรงจำเกี่ยวกับความรักที่คุณไม่อยากนึกถึง
- คนที่รักเสียชีวิตไปค่ะ ถูกจับได้ว่าเป็นขโมย โดนทรมานจนตาย
Q46 - หากพรุ่งนี้โลกจะแตกดับ กรุณาบอกสิ่งที่คุณจะทำวันนี้
- ใช้เงินให้หมดค่ะ
Q47 - กรุณาบอกจินตนาการในอีกสิบปีข้างหน้าของคุณ
- ร่ำรวยเป็นเศรษฐีณี
Q48 - กรุณาบอกความลับของคุณ
- เอ่อ... บางครั้งดิชั้นก็คิดเงินให้ลูกค้าผิดค่ะ คิดให้สูงกว่าราคาจริง แหะๆ
Q49 - อยากพูดอะไรกับนักแสดงท่านอื่นไหมคะ?
- ขอบคุณสาวๆเซราฟิมมากนะคะ ที่พยายามช่วยจนสุดความสามารถ ถึงเวลาที่อยู่ด้วยกันจะน้อย แต่ก็สนุกมากค่ะ
Q50 - ขอบคุณค่ะ มีอะไรจะพูดถึงผู้อ่านไหมคะ?
- ถึงบทของดิชั้นจะหมดแล้ว แต่ก็อย่าลืมนะคะ สนใจจะซื้ออะไรก็ติดต่อได้นะคะ คิกๆ
ส่งท้าย
The Seraphim - ขอบคุณนะคะที่ให้สัมภาษณ์
เคอิล - รู้สึกจะพูดถึง เงินๆทองๆ เยอะไปนะ
เซราฟ - นั่นสิครับ
เทซซ่า - ไม่สน ! ชั้นชอบนี่นา
The Seraphim - แต่ว่าบทเรื่องความงกเนี่ย คิดมานานแล้วนะ ชื่อของเธอก็เอามาจาก Asset เขียนกลับหลังเป็น Tessa แปลว่า "สมบัติ" ยังไงล่ะ
เคอิล - เอ๋ !!! แสดงว่า ความงกนี่ก็อยู่ในชาติกำเนิดเลยน่ะสิครับ
เทซซ่า - กรี๊ด !!! เอาไบโอติก เบิร์สท์ไปกินซักตัวสองตัวมั้ยยะ !!!
The Seraphim - หวา ! ขอตัวก่อนนะคะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน ขอตัวไปเจรจาสงบศึกก่อนค่ะ น่ากลัวว่าเคอิลจะตายก่อนแสดงเรื่องนี้จบ คราวต่อไปใครจะถูกสัมภาษณ์ก็รอลุ้นกันนะคะ ขอบคุณมากค่า !