forwriter.com
 
นวนิยายรักโรแมนติก

 


ดั่งไฟรัก

โดย ฟีลิปดา

 

บทนำ

รถคันนั้นวิ่งมาเร็ว แถมเมื่อถึงทางเข้ายังกดแตรเสียงดังถี่ยาว   จนยามที่แม้จะมองเห็นอยู่ก่อนแล้วก็ยังสะดุ้งโหยง คนขับลดกระจกลงเมื่อยามเอาแผงกั้นออกไม่ทันใจ

“ ทำไมช้าละลุง ”

“ คุณรบมาสายนะครับ ”

“ รู้น่า ”

“ ระวังนะครับมี ... ”

ไม่ทันได้พูดจบ รถก็พรวดออกไปเสียก่อนไม่กี่อึดใจเสียงเบรคก็ดังสะนั่นขึ้น คนขับลงจากรถแล้วสบถออกมา

“ เวร ... ตัวอะไรละนี่ ”

นายบุญธรรมที่วิ่งกระหืดกระหอบตามมา รีบตอบว่า

“ เจ้าซัน ของคุณหญิงครับ ”

“ ก็มันตัวอะไรละ ? จะได้ซื้อมาใช้เขาถูก ”

“ เซนเบอร์นาดครับ เพิ่งหย่านม   ได้มาเมื่ออาทิตย์นี่เอง ”

“ เลี้ยงหมายังไงออกให้มาเพ่นพ่านจนโดนรถชน ”

คำพูดนี้เล่นเอาคนฟังถึงกับทำตาปริบ ๆ อดไม่ได้ที่จะเอ่ย

“ ก็ถ้า ... ”

“ รู้ละน่าว่า ฉันผิด ลุงเอาออกมาสิ ยิ่งรีบ ๆ อยู่ด้วย ข้างในรอจนด่าแล้วมัง ”

ทันทีที่เจ้าตัวเคราะห์ร้ายถูกดึงออกจากล้อรถ คนขับก็ดิ่งรถไปจอดที่หน้าคฤหาสน์์ด้วยความเร็วที่ไม่มีทีท่าจะลดระดับลงกว่าเดิม เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างความสะทกสะท้านอะไรให้แก่เขาแม้แต่น้อย

ผิดกับ ยามบุญธรรม ที่ยืนมองซาก เจ้าซัน ด้วยความสลด มันวิ่งเล่นอยู่ในบ้านของมันอยู่ดี ๆ แท้ ๆ ก็แค่จะขับรถให้ระวังหน่อยเท่านั้น

รึจะเป็นอย่างที่คุณหญิงศีตลาเคยพูด

“ นายคนนี้ มีดวงฆ่าสัตว์ ”

แต่ที่ นายบุญธรรม หวังไว้ ก็คือ โรมรันอย่าได้ซื้อมาชดใช้เลยมีหวังทุกคนกระอักแน่

แค่เปิดประตูรถ ร่างท้วมอวบของสตรีผู้หนึ่งก็กระวีกระวาดเข้ามา เหมือนดักรอเขาอยู่แล้ว

“ เร็วค่ะ คุณรบทุกคนกำลังรอ ”

“ ก็มาถึงแล้ว ไม่ต้องรีบมากก็ได้ป้า ” โรมรันย้อนสนุก ๆ

“ ก็หม่อมย่าท่านมารอนานแล้วนี่คะ ”

โรมรันขมวดคิ้ว

“ มาทำไม ”

“ เป็นประธานเปิดพินัยกรรม ไงคะคุณผู้หญิงไม่ได้บอก เหรอคะ ”

“ ไม่รู้เรื่อง เพิ่งเข้าไปที่กรม ก็โทรให้มาด่วนนี่แหละ ”

“ รีบเข้าเถอะค่ะ รอกันที่ห้องสมุด ”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับ แต่ฝีเท้าและก้าวย่างอันสง่าทรนงของเขาก็เป็นไปอย่างปกติ ไม่ได้รีบร้อนเหมือนใจ คุณแม่บ้านเลย

ห้องสมุดเปิดม่านรับแสงสว่าง จนแทบไม่ต้องเปิดไฟ ที่โต๊ะกลางห้องมีคนนั่งอยู่แล้วหกเจ็ดคน สตรีชราท่าทางภูมิฐานสูงศักดิ์นั่งอยู่หัวโต๊ะ ถัดมาเป็นสตรีสองคนนั่งตรงข้ามกันหนึ่งในนั้นคือคุณสรวงสุดา มารดาของโรมรัน ถัดจากคนทั้งคู่ก็เป็น ชายหนุ่ม และหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามกัน ปลายโต๊ะอีกด้านเป็นบุรุษหนุ่ม และชายวัยกลางคน

“ มาแล้วเรอะ น่าจะรักษาเวลากว่านี้นะ ”

เสียงเปรยจากสตรีที่นั่งตรงข้ามมารดาเขาดังขึ้น แต่โรมรันไม่สนใจ เขาเดินเข้าไปใกล้ สตรีชราที่อยู่หัวโต๊ะได้ระยะ ก็คุกเข่ากราบลงที่ตักสตรีชราผู้นั้น แล้วก็ลุกขึ้น ตอบคนทักว่า

“ ผมเป็นคนไม่มีเวลาจึงไม่จำเป็นต้องรักษาหรอกครับ ”

จากนั้นก็ทำความเคารพผู้เป็นมารดา เดินผ่านไปทางปลายโต๊ะ ทำความเคารพชายวัยกลางคน แล้วพยักหน้าให้กับบุรุษหนุ่มที่อยู่เคียงข้างก่อนจะทรุดตัวนั่งเก้าอี้ที่ว่าง นิ่งเงียบ

คุณศศิวิมลถึงกับคอแข็งเมื่อเจอกริยาที่ไม่แยแสของเขา พูดเสียงเย็นว่า

“ ในเมื่อคนสำคัญมาแล้ว คุณประวิตรก็เริ่มเรื่องเสียทีสิ ”

นายประวิตร พิทักษ์ประชา ทนายประจำตระกูลวงศ์เทวัญ ขยับตัวเปิดซองเอกสารที่อยู่ด้านหน้ากระแอม ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ เอกสารทั้งหมดนี้เป็นพินัยกรรม ที่ท่านชาย สุทธิศักดิ์ได้มอบให้ผมเอาไว้ก่อนที่ท่านจะสิ้น โดยมีคุณพงษ์พันธ์ เบ็ญจรงค์ เป็นพยาน ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็ได้มาอยู่ในที่นี่แล้ว ” เขาผายมือไปยังชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง กล่าวต่อว่า “ และบุคคลที่ ... ”

“ รู้ละน่า ... ผ่าน ๆ ไปเถอะตรงนี้ ” คุณศศิวิมลพูดปัดอย่างรำคาญ

นายประวิตรขยับแว่นตา “ ผ่านไม่ได้ครับ เพราะ ท่านสุทธิศักดิ์ กำหนดไว้ว่า ให้เปิดพินัยกรรมต่อหน้า หม่อมศกุนตลา คุณสรวงสุดา คุณโรมรัน คุณหญิงศีตลา คุณศรุต และพยานซึ่งคือคุณพงษ์พันธ์เท่านั้นผมจึงต้องขอ
คำรับรองจากทุกคนก่อนว่า จะยอมให้คุณศศิวิมลร่วมฟังด้วย ”

คุณศศิวิมลถึงกับคอแข็ง เพราะไม่นึกว่าท่านชายสุทธิศักดิ์ วงษ์เทวัญ ผู้เป็นน้องชายต่างบิดาจะกำหนดเอาไว้เช่นนั้น และนายประวิตรก็ช่างเถรตรงดีเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า เธอเป็นใคร

“ ฉันรับรอง อ่านต่อเถอะ ” ” หม่อมศกุนตลารีบพูดขึ้นเพราะรู้นิสัยบุตรสาวดี

“ ต้องเป็นเสียงจากทุกคนครับ ขอเริ่มจากคุณพงษ์พันธ์ ”

“ รับรองครับ ” พงษ์พันธ์ เบ็ญจรงค์ตอบ

นายประวิตร ขานชื่อทุกคนตอบรับแต่เมื่อมาถึงโรมรันทุกคนต้องหันมา
ยังเขาเมื่อชายหนุ่มตอบว่า

“ ไม่ ... ”

“ โรมรัน ” คุณสรวงสุดา เรียกลูกชายเสียงเย็นเยียบ

“ ไม่มีปัญหาอะไรครับ จะเอาเทปมาอัดด้วยยังได้เลย ” โรมรันพูดหน้าเฉย แต่แววตาที่สบกับพงษ์พันธ์มีรอยยิ้ม ถ้าจะบอกว่าเขารู้จักกับใครในห้องนี้เป็นที่สุด ก็ต้องเป็นพงษ์พันธ์ เบ็ญจรงค์ คนนี้แหละ ไม่ใช่มารดาของเขาเองเลยสักนิด

“ เมื่อทุกคนรับรอง ผมก็พร้อมจะอ่านพินัยกรรมเดี๋ยวนี้เลยครับ ” นายประวิตรกล่าว ซึ่งก็ไม่มีเสียงใดขัดขึ้น

โรมรันนั่งนิ่ง หูฟังเสียงอ่านเพียงผ่าน ๆ เขาไม่สนใจ และไม่รู้ว่าตัวเองจะมายุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติของตระกูลนี้ตรงไหน จริงอยู่แม้ว่าท่านชายสุทธิศักดิ์ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของเขาจะมีทีท่ารักใคร่ชอบพอเขาทุกครั้งเจอหน้ากัน แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะถูกพิศวาสถึงกับจะแบ่งปันมรดกให้ แต่ถึงจะยกให้ เขาก็ไม่คิดจะเอา เท่าที่มีอยู่เขาก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับมันเท่าไหร่ ยกให้เท่าไหร่ เขาก็จะคืนม.ร.ว. หญิงศีตลา ทายาทสาวแสนหยิ่งคนเดียวของท่านให้หมด ตั้งแต่เข้ามาในห้อง แม้แต่จะชำเลืองหรือทักทายก็ไม่มี สม ...คอยดูเถอะ ถ้าได้รับรายงานเรื่องเจ้าซัน คงคอแข็งตาวาว โกรธจนลมออกหู แน่

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น นายประวิตรที่กำลังตั้งใจอ่านพินัยกรรมชะงัก พอ ๆ กับที่ทุกคนหันมาทางโรมรันอีกครั้ง และครั้งนี้ ชายหนุ่มเห็นสายตา
ตำหนิโดยตรงจากหญิงสาวหน้าสวยแต่เรียบเฉยนั้นเป็นครั้งแรก

โรมรันดูเบอร์แล้วลุกขึ้นยืน

“ ขอโทษนะครับผมมีงานด่วน มอบหมายให้นายพงษ์ ฟังแทนก็แล้วกัน ”

“ เดี๋ยวครับ คุณรบ ถึงคุณแล้วครับ ต้องฟังด้วยตัวเองนะครับไม่ถึงนาทีหรอก ” นายประวิตรรีบบอก เมื่อโรมรันทำทาจะออกไป

โรมรันนั่งลงเร่งว่า

“ เร็วเข้า ผมรีบ ”

“ สำหรับนายโรมรัน อัศวชาติ ข้าพเจ้าขอมอบทรัพย์สินอันเป็นสิ่งแสดงถึงความรัก
และความไว้วางใจประดุจบุตรชายคนหนึ่งให้ดังนี้ หนึ่งที่ดินจำนวนสองพันไร่ที่จังหวัดเชียงใหม่ สองหุ้นในบริษัทวงศ์เทวัญจำนวนสิบล้านหุ้น และสาม ... ”

“ พอครับ ” โรมรันตัดบทลุกขึ้นยืน “ อะไรที่ยกให้ผม ผมโอนกลับให้คุณหญิงศีตลาทั้งหมดให้นายพงษ์ทำเอกสาร แล้วให้ทุกคนในที่นี่เป็นพยาน ผมจะมา ... ”

“ เดี๋ยวครับ คุณรบอย่าเพิ่งรีบนัก ฟังต่อสักนิด ” นายประวิตรขัดขึ้นแล้วรีบอ่านต่อโดยเร็ว
“ และสามข้าพเจ้าขอมอบคฤหาสน์วงษ์เทวัญให้กับนายโรมรันโดยมีข้อแม้ว่า ทรัพย์สินทุกอย่างจะตกเป็นของนายโรมรัน อัศวชาติก็ต่อเมื่อนายโรมรัน อัศวชาติได้แต่งงานกับ ม.ร.ว.หญิงศีตลา วงษ์เทวัญ ลูกสาวคนเดียวของข้าพเจ้าภายในหนึ่งปีนับจากเปิดพินัยกรรมนี้ หากนายโรมรัน อัศวชาติ ไม่อาจปฏิบัติตามนี้ได้ ให้ยกมรดกส่วนนี้ให้กับองค์การกุศลทุก หน่วยที่ตระกูลวงศ์เทวัญเป็นประธาน ”

อ่านจบ นายประวิตรหอบหายใจ ถอดแว่นออกมาเช็ดขณะที่ทั้งห้องเงียบกริบ

สายตาของโรมรัน และ ม.ร.ว.หญิงศีตลาสบกันแล้วต่างเมิน

เสียงสัญญาณโทรศัพท์ของโรมรันดังขึ้นอีกครั้ง

เขาไม่หยิบมันขึ้นมา แต่พูดว่า

“ ขอโทษนะครับ ผมมีงานด่วน ”

“ ตารบ ” คุณสรรวงสุดารีบเรียกลูกชายเอาไว้

“ แล้วค่อยกลับมาคุยกันครับ ”

เขาบอกมารดา ก่อนจะเดินออกจากห้องไม่สนใจจะ ร่ำลาใครเลย

***********

ด้านนอกแม้ฝนหยุดจะตกแล้ว แต่ก็ยังมีแสงฟ้าแลบ แทรกด้วยเสียงฟ้าร้อง เป็นครั้งคราว สตรีสองวัยนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น นาน ๆ ทีฝ่ายที่อ่อนวัยกว่าจะชำเลืองไปที่นาฬิกาทีแขวนอยู่ผนังเสียที ก่อนจะก้มลงอ่านนิตยสารในมือต่อ ส่วนฝ่ายที่สูงวัยกว่าก็นั่งถอดไพ่เล่น ข้าง ๆ มีแก้วเครื่องดื่มวางอยู่ จวบจนมีเสียงรถแว่วมา จึงเอ่ยว่า

“ สงสัยตารบคงมาแล้วมัง ดีอย่างที่ไม่ค่อยจะผิดคำพูด ”

มาเอาปาจะห้าหกทุ่มนี่เหรอด    ม.ร.ว.หญิงศีตลาค่อนในใจก่อนจะลุกขึ้นยืน

“ หญิงปล่อยให้คุณน้าคุยนะคะ ”

“ พูดเสียต่อหน้ากันไม่ดีกว่าหรือ ”

“ ถ้างั้นประเดี๋ยวหญิงจะกลับมาค่ะ ”

มันเรื่องอะไรจะให้เห็นว่าฉันนั่งรอนายอยู่    ม.ร.ว. ศีตลา คิดขณะเดินออกไป พอ ๆ กับเสียงเดินโครมของอีกฝ่ายเข้ามาอีกด้าน

“ อ้าว ... คุณแม่ยังไม่นอนเหรอครับ ”

“ ก็รอคุยกับเราอยู่นะสิ ”

“ เอาไว้คุยตอนเช้าก็ได้นี่ครับ ”

“ รอเช้ารบก็หายหัวไปอีกนะสิ มันยังไงนะพบยากพบเย็นเสียเหลือเกิน จะครบปีแล้วนะที่บอกว่าแล้วค่อยกลับมาคุยกันน่ะ ”

“ งานผมยุ่ง ” โรมรันพูดเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์หยิบขวดบรั่นดีพร้อมแก้ว
เดินกลับมานั่งตรงข้ามมารดา

“ ว่ามาเลยครับเรื่องอะไร ? ”

“ ก็เรื่องการแต่งงานของรบกับคุณหญิงตามพินัยกรรมนั่น ”

โรมรันอึ้งไปนิด แล้วถามออกมาตรง ๆ ว่า

“ ทำไมคุณหญิงอยากแต่งงานกับผม หรือว่าอยากได้สมบัตินั่นคืน ”

“ พูดจาดี ๆ หน่อยรบ หญิงศีตลาเขาก็เหมือนกับน้องเรานะ ”

“ โอย... ผมไม่บังอาจนับญาติกับคุณเธอหรอกครับ ไม่เคยคิดสักทีว่าคุณหญิงนั่นเป็นน้อง จะว่าไปก็คงไม่มีใครคิดหรอกครับ พี่น้องจะแต่งงานกันได้ยังไง ”

คุณสรวงสุดามองหน้ากวน ๆ ของลูกชายอย่างอดทนสุด ๆ

“ ก็แล้วจะเอายังไงเรื่องแต่งงาน จะปล่อยให้เรื่อยเฉื่อยเวลาหมดไปพร้อมกับคฤหาสน์หลังนี้เหรอ ”

“ ก็แล้วคุณหญิงว่ายังไง ”

“ ทางหญิงศีตลาก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว คฤหาสน์หลังนี้ผูกพันกับหญิงตั้งแต่เกิด หญิงไม่ยอมให้มันหลุดมือไปหรอก ”

โรมรันกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก แล้ววางเสียงกึก

“ ผู้หญิง บ้านนี้เป็นไงนะ กะอีแค่อยากได้สมบัติ ก็เห็นเรื่องการแต่งงานเป็นเรื่อง
เล่น ๆ คุณแม่สอนได้ดีแท้ ๆ ”

“ อย่าก้าวร้าว โรมรัน ” คุณสรวงสุดาพูดเสียงเฉียบ “ โตแล้ว อย่าทำตัวกระแนะกระแหนเก่ง แบบนี้ แม่ไม่ชอบ ”

“ ผมขอโทษ บังเอิญผมทนไม่ได้กับผู้หญิงที่แต่งงานเพราะสมบัติ มากกว่าความรัก ”

โรมรันนิ่งเงียบ แม่รู้ว่าเขาไม่ได้หมายถึงคุณหญิงเท่านั้น แม้อายุจะปาเข้าไปเกือบสามสิบ แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะประชดประชันมารดา
ที่หย่าพ่อของเขามาแต่งงานกับท่านชายสุทธิศักดิ์ ตอนนั้นเขาเพิ่งจะสิบขวบ และอัปสรศิริ น้องสาวของเขาเพิ่งจะสี่ขวบร้องไห้หาแม่ทั้งวัน และภาพที่ติดตาเขาทุกครั้งที่มาหามารดาก็คือการพะเน้าพะนอเอาใจของมารดา
ที่มีต่อเด็กหญิงตัวอ้วนผมเปียแกว่งไกวที่คอยเกาะแม่เขาแจ ...ก็ยัยคุณหญิงศีตลานี่แหละ

“ รบก็คงรู้นะว่า ท่านชายรักและให้ความไว้วางใจลูกแค่ไหน ท่านหวังจะให้รบแต่งงานและดูแลคุณหญิงจริง ๆ ถึงได้กำหนดไว้อย่างนั้น ”

โรมรันยักไหล่ พูดเยาะ ๆ ว่า

“ อย่างคุณหญิงศีตลา นั้นเรอะ จะต้องมีคนดูแล พากันเข้าใจอะไรผิดไปละมัง ”

คุณสรวงสุดาถอนใจ บางทีโรมรันก็รวนเสียเหลือเกิน แต่เขาก็คือลูกชายของเธอ

“ เอาเป็นว่าแม่อยากให้รบแต่งงานกับหญิงศีตลา

ตามพินัยกรรมก็แล้วกัน จะทำได้ไหม ? ” มารดาถามตรงๆ

“ ผมอยากคุยกับเจ้าตัวเองมากกว่า ” โรมรันเกี่ยง

“ ถ้างั้น แม่ก็จะให้คุยกันเอง แต่อยากให้เข้าใจเอาไว้ด้วยว่า คนที่เสียดาย เป็นแม่ ไม่ใช่หญิงศีตลา ”

โรมรันกระดกเหล้าเข้าปาก รู้ตัวเองอยู่หรอกว่า ยังไง ๆ ก็ต้องทำตามสั่ง แต่เขาก็ไม่อยากให้มันง่ายเกินไป

ก็อยากกวนคนเล่น ๆ นี่แหละ ใครจะทำไม ?

สักครู่ เขาก็ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมา แล้วน้ำเสียงเรียบเย็นแกมเยาะหยัน ก็ดังขึ้นว่า

“ มีปัญหาขาดความรักเรอะ ? คุณโรมรัน ”

โรมรันสูดลมหายใจลึกเงียบ ๆ

ใครจะไปคิดแม้แต่เวลานี้ เธอยังเยาะเย้ยเขาในเรื่องนี้อีก

“ เอาเถอะ แต่งงานกันไปแล้ว ฉันพร้อมจะรักคุณเต็มที่เลย ไหน ๆ หมาแมวของฉันก็ตายเพราะคุณหลายตัวแล้วนี่ ”

“ ระวังคำพูดหน่อยคุณหญิง ” โรมรันปรามเสียงเย็นพอกันแต่ในใจไม่ได้นึกโกรธที่คุณหญิงเปรียบอย่างนั้น เพราะภาพของเด็กสาววัยรุ่นที่นั่งกอดศพเจ้าหมาพูเดิ้ลน้ำตาซึม ใบหน้าแสดงความสลดใจอย่างสุดซึ้งยังจำติดตา

โรมรันคิดว่า เธอแสดงอาการเกลียดเขาให้เห็นอย่างชัดเจนตั้งแต่วันนั้น

เขารู้ว่าเธอรักสัตว์ี่เลี้ยงทุกตัว   ทะนุถนอมมันเป็นอย่างดี เจ้ากรรม มันก็ดันมาตายเพราะเขาทุกตัวเสียด้วยสิ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เขาไม่ได้แกล้งเลย
จริง ๆ

“ ก็แล้วจะให้ทำไง ถึงจะพอใจ ในเมื่อคุณไม่รักฉัน ฉันไม่ได้รักคุณ แต่ก็น่าจะเห็นกับท่านพ่อที่รักคุณยิ่งกว่าลูก และคุณน้าที่ต้องการมัน แต่งแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ ว่าง ๆ คุณก็โอนสมบัติให้ฉัน ฉันจะได้โอนต่อให้คุณน้าแค่นี้เองทำไมต้องเรื่องมากให้รอด้วย ”

น้ำเสียงคนพูดราบเรียบเหมือนคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้ เสียจนโรมรันหมั่นไส้ อารมณ์อย่างหนึ่งเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

“ ถ้าจะให้ทำอย่างนั้น ขออย่างเดียว ”

ม.ร.ว.ศีตลาส่งสายตาเป็นเชิงถาม แล้วเธอก็เห็นรอยยิ้มกวน ๆ อย่างที่เธอเกลียดของเขา

“ ขอจูบเด็ด ๆ ให้ไอ้รบมันสักครั้งสิ ถ้าทำได้ก็ ตกลง ”

ประกายตาของศีตลาแว่บขึ้น แต่เพียงครู่เดียว เธอก็เหยียดยิ้มเย็น ๆ เดินเข้ามาหา

“ ได้สิ ”

“ เอะ ...เอาจริงเรอะ จูบเป็นกับเขาด้วยเหรอ แบบสาวน้ำแข็งถือว่าไม่ผ่านนะ เอาเหล้าสักแก้วกระตุ้นก่อนไหม ” โรมรันพูดกลั้วหัวเราะ ยื่นแก้วในมือออกไปให้อย่างล้อเลียน

“ ไม่จำเป็น ” แล้วฝ่ามือของหญิงสาวตวัดฉาดเข้าที่ใบหน้าเขาอย่างแรง ก่อนจะหันตัวกลับ

แต่ก็ไม่เร็วไปกว่าที่โรมรันจะกระชากเธอเข้ามาในอ้อมแขน ประกบริมฝีปากเข้ากับของเธออย่างรวดเร็ว รสชาติของคุณหญิง มันหอมหวานไม่เยือกเย็นอย่างที่เขาคิด เขารู้ว่าคุณหญิงจูบไม่เป็นแต่ในที่สุดเธอก็สามารถใช้ลิ้นสอดรับกับเขาได้อย่างรุ่มร้อนพอกันแล้วความรุนแรงเร่าร้อนก็ซาบซ่านไปทั่วร่าง อารมณ์ของเขาคงจะเตลิดไปกว่านี้ แน่ถ้าศีตลาไม่เป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี พร้อมกับผลักที่อกเขาอย่างแรงเธอ ถอยหลังไปก้าวหนึ่งพูดกับเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า

“ ฉันจะบอกคุณน้า ว่าวันศุกร์นี้คุณจะไปจดทะเบียนกับฉันเจอกันเก้า โมงก็แล้วกัน อ้อ ... วันนั้นฉันจะใช้หนี้เหล้าแก้วนี้ให้คุณด้วย ”

โรมรันยืนนิ่งเป็นเบื้อ สายตาเขามองแก้วเหล้าที่ตกอยู่บนพื้น เขาคงทิ้งมันลงตอนกระชากยัยคุณหญิงนั่น ให้ตายสิ... เธอกระตุ้นให้เขาเป็นฝ่ายจูบก่อนผิดกับความต้องการของเขาที่ต้องการแกล้งให้เธอเป็นฝ่ายจูบเขาก่อน และเขาเชื่อว่าเธอไม่ทำแน่ แต่ถ้าหากเธอกล้า เขาก็จะเยาะเย้ยว่าเธอจูบไม่ได้เรื่อง

... ในขณะที่เขาคิดว่าตัวเองเป็นต่อ แต่ทำไมกลายเป็นยัยคุณหญิงได้ผลสำเร็จไปนะ

แต่บ้าจริง ... เขาไม่อยากเชื่อความรู้สึกตัวเองเลยว่า เขาชอบจูบของคุณหญิงขี้เก็ก นั่น

จะเป็นยังไงนะ ถ้าเขาเกิดแต่งงานกับเธอจริง ๆ

***********

วันศุกร์ โรมรัน อัศวชาติจดทะเบียนสมรสกับ ม.ร.ว.ศีตลา วงศ์เทวัญ โดยมีคุณสรวงสุดา ผู้เป็นแม่ และพงษ์พันธ์ เบ็ญจรงค์ เป็นพยาน

สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดว่าโรมรันจะทำหลังจากจดทะเบียนเสร็จก็คือ เขารวบตัว ม.ร.ว. ศีตลา เข้ามาจูบต่อหน้าใคร ๆ นิ่งนานก่อนจะผลักเธอออก

“ ของขวัญวันแต่งงานจากผม ” เขาบอกแล้วเดินจากไปโดยไม่สนใจใคร

ม.ร.ว.ศีตลากัดริมฝีปากแน่น มองตามหลังเขาไปอย่างเจ็บใจ เขาจงใจแกล้งเธอและแสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกอย่างไรกับการจดทะเบียนสมรสครั้งนี้ แล้วพงษ์พันธ์ ก็ยื่นซองสีน้ำตาลให้

“ พี่รบฝากให้คุณหญิงครับ ”

ในซองคือเอกสารการโอนทรัพย์สินมรดกที่ได้รับทั้งหมดให้กับ ม.ร.ว.ศีตลา
แต่ม.ร.ว.สาวถึงกับกัดริมฝีปากอีกครั้งเมื่อเห็นแผ่นสุดท้าย

มันคือ เอกสารหย่า ที่จะมีผลตามกฎหมายทันทีที่เธอเซ็นชื่อตัวเองลงไป

ตั้งแต่วันนั้นทั้งคู่แทบจะไม่ได้พบหน้ากันอีก

จนกระทั่ง .....

 

 

นวนิยาย ดั่งไฟรัก เสร็จสมบูรณ์พิมพ์เป็นพอคเก็ตบุ้ค จำหน่ายในราคา 265 บาท
ที่เว็บเท่านั้น

 

นวนิยาย ดั่งไฟรัก เสร็จสมบรูณ์ ในรูปแบบ E-book แล้ว
สนใจ
คลิก


© ลิขสิทธิ์ตามกฏหมายโดย ฟีลิปดา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง
 

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์
 

 

2009 free writing

 



๕๐๕ แคนโต้แห่งความรัก

 

 

 

  http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.