forwriter.com
 
นวนิยายรักโรแมนติก

 


ดั่งไฟรัก

โดย ฟีลิปดา

 

ม.ร.ว. ศีตลา ตื่นแต่เช้ามืด งานเมื่อคืนผ่านพ้นไปด้วยดี แขกทุกคนต่างสนุกสนานและกล่าวชื่นชมไม่ขาดปาก เช้านี้เธอมีนัดว่ายน้ำกับราล์ฟ แต่ก็ตั้งใจว่าจะไปเดินเล่นที่ชายหาดคนเดียวเสียก่อน หญิงสาวเปิดประตูห้องออกมาแล้วต้องชะงัก เพราะฟาริดาก็เปิดประตูห้องที่เยื้องห่างออกไปเพียงสองห้องออกมาเหมือนกัน หล่อนยิ้มและไหวไหล่ให้ ม.ร.ว. ศีตลาอย่างไม่แคร์ ติดจะยิ้มในหน้าอย่างผู้ชนะด้วยซ้ำ ก่อนจะผละเดินไปทางห้องตัวเอง

เลือดในกายม.ร.ว.ศีตลาเย็นเฉียบ ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจ เดินไปยังทิศทางที่ตั้งใจไว้ แต่ความรู้สึกบางอย่างมันก็พุ่งวูบขึ้นมาอีกอย่างอดไม่ได้ มันคือความผิดหวัง หดหู่ ไม่คิดว่าโรมรันจะทำสิ่งน่าขยะแขยงอย่างนี้

“ บอกรักผมสิ ”

ให้ตาย ... แล้วเธอเคลิ้มไปกับคำพูดของเขาได้ไงนะ มันน่าอายตัวเองจริง ๆ

น่าจะรู้อยู่แล้วว่า ไอ้เรื่องพูดจาทำนองนี้กับโรมรันน่ะ จะถือเป็นเรื่องจริงจังได้ยังไง เธอยังพูดเล่นกับเขา ทำไมเขาจะย้อนเธอเล่นไม่ได้ เขาไม่เคยมีวันคิดกับเธออย่างนั้นหรอก นอกจากจะยั่วเย้า เอาชนะเธอเท่านั้น

แล้วนี่มันก็เรื่องของเขา เธอไม่มีสิทธิ์อะไรไปยุ่ง แม้แต่จะคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าขยะแขยงด้วยซ้ำ เขาก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องรักษาพรมจรรย์เอาไว้ให้ใคร

หญิงสาวสะบัดหน้าแรง ๆ ก่อนจะเร่งฝีเท้า ออกไปที่ชายหาด เธอต้องการดื่มด่ำกับความสดชื่นในเช้าที่สดใส ไม่ยอมให้อะไรหรือใคร มาทำลายบรรยากาศของเธอได้หรอก

แล้วสายตาของเธอก็มองเห็นเงาตะคุ่มของใครคนหนึ่งที่ยืน เหม่อมองท้องทะเลอยู่ ทำให้เธอเร่งฝีเท้าไปหาอย่างไม่ลังเล

“ เอะ เรานัดกันที่สระว่ายน้ำไม่ใช่เหรอครับ? ”

ม.ร.ว. ศีตลายิ้ม กับคำทักทายของราล์ฟ ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมายืนอยู่ที่หาดทรายก่อนหน้าเธอด้วยซ้ำ

“ อยากดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ ”

“ เหมือนผม เกาะนี้สวยนะครับ ”

“ เริ่มสนใจขึ้นมาไหมคะ ? ”

ราล์ฟยิ้ม “ คุณอยากฟังข้อเสนอของผมไหม ? ”

“ ดิฉันไม่เริ่มงานก่อนแปดโมงค่ะราล์ฟ ” เธอบอกเขาล้อ ๆ ทำเอาราล์ฟหัวเราะ

“ ค่อยยังชั่วหน่อย ที่คุณยิ้มออกมาได้ รู้ไหมเวลาคุณเผลอตัวทีไร ดูเหมือนคุณจะอยู่คนเดียวในโลกงั้นแหละ เหมือนคนอกหัก ”

“ ผมไม่ยอมรับข้อกล่าวหาของคุณ ” ราล์ฟบอก

“ ควรจะเป็นอย่างนั้นค่ะ ถ้าคุณยังไม่ได้สู้จนถึงที่สุด เพื่อคนที่คุณรัก ”

ราล์ฟมองหน้าเธอ

“ ผมยังไม่รู้เลยว่านี่ใช่ รักหรือเปล่า ”

ม.ร.ว. ศีตลา หัวเราะ

“ ลงเธอทำให้คุณเป็นได้ถึงขนาดนี้ อย่ามัวสงสัยเลยค่ะ ว่ารักหรือเปล่า คว้าเธอเอาไว้ก่อนที่คนอื่นจะเอาเธอไปก็แล้วกัน ”

“ หือ ... นี่ปรัชญาความรักของคุณหญิงเหรอ ”

ม.ร.ว. ศีตลาส่ายหน้า

“ ฉันไม่มีปรัชญาอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่คิดว่า คนไหนบอกได้ว่าความรักคืออะไรละก้อ โง่ชะมัด มาทางนี้ดีกว่า ดิฉันจะพาคุณไปดูมุมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของเกาะนี้ ”

เธอดึงแขนเขาอย่างสนิทสนม ไปยังทิศทางที่มีโขดหินเกะกะ มุ่งไปยังภูเขาขนาดย่อมที่ดูเหมือนจะกั้นปิดพรมแดนเอาไว้

“ ธรรมชาติสร้างไว้อย่างวิเศษเลยค่ะ ตรงภูเขานี่จะมีช่องเล็ก ให้คุณลอดออกไปสู่ชายหาดเล็ก ๆ ส่วนตัวของคุณได้ นี่ถ้าไม่เพราะคุณเป็นคู่เดทของดิฉัน จ้างให้ก็ไม่พามา ”

ราล์ฟลอดผ่านช่องออกมาแล้วก็ต้องทึ่งกับความงดงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์เอาไว้ มันเป็นอ่าวเล็ก ๆ ที่มีหาดทรายสีขาว ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใส แต่นั่นไม่ใช่จุดเด่นที่ของมัน สิ่งที่ทำให้ราล์ฟต้องตะลึงมองก็คือภูเขาเขาที่โอบรอบมันไม่ได้สูงทะมึน แต่มันเหมือนกับมีคนเอาอะไรสักอย่างไปเจาะที่วะง่อนให้เกิดช่องวงกลมเรียงกันลงมาอยู่สี่ห้าวง และตอนนี้ลำแสงอาทิตย์กำลังสาดผ่านเข้ามาเป็นรังสีสีทอง วูบวาบสวยงามจนราล์ฟต้องพูดว่า

“ วิเศษอะไรอย่างคุณหญิง ”

“ มันเป็นที่ ๆ เดียวที่คุณจะมานั่งมองพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกได้งดงาม และมีมนตร์ขลังสวยสุด ๆ ดิฉันหลงเสน่ห์มันทุกครั้งที่มา ไม่อยากจากไปเลย ” หญิงสาวเอ่ยเหมือนต้องมนตร์มันเช่นกัน

“ นี่ผมหลงกลคุณหญิงหรือเปล่านี่ ” ราล์ฟถึงกับครางออกมา “ กับอารมณ์ตอนนี้ของผม คุณหญิงปั่นราคาได้ตามใจเลยนะครับ ”

ม.ร.ว. ศีตลาหัวเราะสดใส ดวงตาเป็นประกายบอกเขาอย่างจริงจังว่า

“ ฉันอยากได้มัน แลกกับการขายโรงแรมวินเน่อร์ให้ฉันค่ะ ”

ราล์ฟเงียบ สีหน้าของเขามีแววเครียดอย่างลืมตัว ม.ร.ว.ศีตลาจับความรู้สึกของเขาได้ จึงไม่ได้ซักไซ้อะไร ทอดสายตาไปยังสิ่งรอบตัวอย่างพึงใจ

ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่กำลังสว่างเข้มขึ้น มีเสียงเครื่องยนต์แว่วมา แล้วเรือลำหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดที่ชายหาด ในระยะที่ไม่ไกลเกินห้าสิบเมตร ม.ร.ว.ศีตลา เห็นโรมรันกระโดดออกจากเรือลำนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนพูดอะไรบางอย่างกับเขา ซึ่งทำให้โรมรันหันกลับอย่างรวดเร็ว ดึงเอาเจ้าหล่อนตกลงมาล้มลงไปในน้ำทั้งคู่ แล้วดูเหมือนทั้งคู่จะปลุกปล้ำต่อสู้กันอยู่ในน้ำ ชั่วครู่จนโรมรันเป็นฝ่ายเดินขึ้นฝั่ง ผู้หญิงคนนั้นตามมา แต่เมื่อมีชายคนหนึ่งโผล่ออกมาจากเรือเรียกเอาไว้ เธอจึงหันกลับปีนขึ้นเรือ เรือลำนั้นย้อนกลับไปทางที่มันมา โรมรันเดินดุ่มมาทางที่เธอและราล์ฟยืนอยู่ เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะย้อนกลับไปยังโรงแรม

“ ดูพระอาทิตย์ขึ้นเหรอคุณหญิง ” เขาทัก สายตามองไปที่ราล์ฟเยาะ ๆ “ ระวังไอ้หน้ามืดนี่หน่อยก็แล้วกัน ”

เมื่อถูกก้าวร้าวเอาซึ่งหน้าอย่างนี้ มีหรือราล์ฟจะไม่โต้กลับ

“ ฉันไม่เคยทำถ้าผู้หญิงไม่เต็มใจ ”

“ เห็นชัดเลยละวะ ”

“ จะรู้ได้ไง ว่าผู้หญิงเขามีรสนิยมแบบนั้น ”

เท่านั้นแหละ กำปั้นของโรมรันก็ซัดโครมเข้าที่หน้าของราล์ฟอย่างถนัด อีกหมัดก็ที่ท้อง ราล์ฟตัวงอ

“ หยุดนะคุณรบ ” ม.ร.ว. ศีตลา ตะโกนห้าม ฉุดแขนโรมรันเอาไว้ และนั้นทำให้เธอถึงกับถลาล้มเมื่อถูกโรมรันเหวี่ยงออกไป และเมื่อรู้ตัวโรมรันก็รีบเข้ามาเหมือนจะประคองให้เธอลุก

“ เจ็บไหมคุณหญิง ”

แต่คำตอบที่ได้ก็คือ ม.ร.ว. ศีตลาสะบัดฝ่ามือใส่หน้าเขา

“ ฉาด ”

ปฏิกิริยานี้ ทำเอาตะลึงนิ่งไปทั้งคู่ โรมรันมองเธออย่างไม่เชื่อสายตา แต่น้ำเสียงราบเรียบเมื่อพูด

“ แสดงว่าไม่เจ็บเท่าไหร่ ”

แล้วเขาเดินจากไป เงียบ ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ม.ร.ว.ศีตลามองตามหลังโรมรันไป หากโรมรันจะงง ว่าทำไมเธอถึงตบหน้าเขา ก็คงต้องงงล่ะ เพราะเธอเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่า ทำลงไปได้ยังไง ในชีวิตเธอไม่เคยคิดว่าจะทำได้ด้วย แล้ว ม.ร.ว สาวก็หันมาทางราล์ฟ มองเลือดที่ไหลออกจากจมูกของเขาอย่างกังวล

“ คุณเป็นไงบ้างราล์ฟ ”

“ หมัดหนักน่าดู ”

ราล์ฟตอบมองตามหลังที่เดินอาด ๆ จากไป หากจะมีศัตรูสักคน เขาก็ไม่อยากจะเลือกผู้ชายคนนี้เลยจริง ๆ แต่ให้ตาย สังหรณ์ในใจมันบอกว่า เขาไม่มีสิทธิ์จะเลือกเสียแล้วสิ

“ โชคดีนะ เขาไม่ซัดโครมฉันเข้าให้เหมือนกัน ที่บังอาจไปตบเขาแบบนั้น ” ม.ร.ว.ศีตลาพูดติดตลก แต่แววตานั้นตรงข้าม

“ เขาไม่ทำหรอก ”

“ ว่าได้เหรอ ท่าทางเขาเหมือนจะฆ่าคนได้เลยนะนั่น ”

“ นั่นเขาเก็บไว้ให้ผม ไม่ใช่คุณ ”

ม.ร.ว. ศีตลา มองหน้าราล์ฟ

“ แปลกจัง ทำไม เขาถึงทำท่าหาเรื่องคุณอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้น ”

“ อย่าอยากรู้เลยครับ อย่างน้อยภาพพจน์ผมอาจจะยังดีอยู่ในสายตาคุณ ”

ม.ร.ว.ศีตลา ยิ้มน้อย ๆ พูดว่า

“ ฉันเชื่อว่า คุณไม่ผิดหรอกค่ะราล์ฟ ”

ราล์ฟเงียบ ความผิดบางครั้งมันได้ถูกพิพากษาด้วยกฎหมายเท่านั้น มันยังถูกตัดสินด้วยจิตสำนึกของคนทำด้วย และราล์ฟก็รู้ดีว่า เขาผิดแค่ไหน ยิ่งมาเห็นโรมรันที่นี่ มันก็เหมือนจะตอกย้ำ แม้ว่าเรื่องที่เขาถูกโรมรันซ้อมที่สถานีตำรวจ จะถูกเก็บเงียบเอาไว้ ด้วยความเต็มใจของเขาเอง แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะต้องมาพบโรมรันที่นี่อีก มิหนำซ้ำนายนี่ ก็ไม่ได้ปกปิดความเกลียดชังในตัวเขาเอาไว้เยี่ยงอารยชนที่ดีเลย

โรมรันเปิดประตูห้องเข้าไปก็เจอศรุตนอนเอกเขนกอยู่บนเตียง

“ พี่รบไปไหนมา ผมมารอทั้งคืน ”

“ ไปธุระ ” เขามองไปรอบ ๆ ถามว่า “ พาใครมาดื่มในห้อง ”

“ แขกของพี่รบนั่นแหละครับ เธอมาหาพี่ แต่พีดันไม่อยู่ ผมเลยต้อนรับแทน ”

“ เล่นต้อนรับกันถึงบนเตียงแบบนี้ รุตต้องรู้จักมากกว่าพี่แน่ ”

ศรุตหน้าแดง ลุกจากเตียง

“ พี่รบรู้ได้ยังไง ”

โรมรันหัวเราะหึ ๆ ไม่ตอบ สังเกตเห็นแววตาของศรุตดูสดใส มีชีวิตชีวา ไม่เซ็งๆ เบื่อ ๆ เหมือนครั้งก่อน แล้วโรมรันก็หยิบกระเป๋าเดินทางออกมา ม้วนเสื้อผ้ายัดเข้าไป

“ จะไปไหนเหรอครับ? ”

“ กลับไปทำงาน ”

“ ดูไม่ค่อยจะว่างเลยนะครับ ”

“ ก็ยังนี้ละ ” โรมรันตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ มีธุระอะไรกับพี่รึเปล่า? ”

“ ก็มีครับ แต่ถ้าพี่รบรีบ เอาไว้ทีหลังก็ได้ ”

“ ไม่รีบ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จ ไปคุยตอนกินกาแฟก็ได้ ”

โรมรันใช้เวลาในห้องน้ำไม่ถึงยี่สิบนาที ก็ออกมา ศรุตยังครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเตียงมองดู หนุ่มรุ่นพี่แต่งตัวอย่างอิจฉานิดๆ ในรูปร่างหน้าตา ไม่ได้ มันเรื่องอะไรที่เขาจะคิดไม่ออกว่า ฟาริดา มาหาโรมรันทำไมเมื่อคืนนี้ เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงเท่านั้นแหละว่า โรมรันก็มีเรื่องผู้หญิงแบบนี้เหมือนกัน แถมงานนี้ หญิงศีตลา ก็อยู่ที่นี่เสียด้วยสิ โรมรันไม่คิดอะไรบ้างเลยเหรอ?

คิดถึงตรงนี้ ศรุต ก็นึกไม่พอใจขึ้นมานิด ๆ เพราะโดยความรู้สึกลึก ๆของเขาแล้ว โรมรันคือผู้ชายสำหรับ ม.ร.ว.ศีตลา ญาติของเขาเท่านั้น แม้ทั้งคู่ดูจะไม่พอใจ ที่ถูกหมายให้ผูกติดกันก็เถอะ

โรมรันโยนผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ใช้เช็ดผมลงในตระกร้ามุมห้องได้อย่างเหมาะเหม็ง หยิบนาฬิกาขึ้นมาสวมยัดกุญแจลงกระเป๋ากางเกงแล้ว คว้ามือถือ หันมาพยักหน้าให้ศรุต

“ ไปเถอะ ”

ศรุตลุกขึ้นพูดว่า

“ แปลกนะพี่รบเป็นตำรวจ ทำไมไม่พกปืน ส่วนมากผมเห็นแบบนั้น ”

แต่คำตอบที่ได้จากโรมรัน ทำเอาศรุตแปลกใจยิ่งกว่า เพราะเขาตอบหน้าเฉยว่า

“ พี่ทำมันตกทะเลเมื่อคืน ”

คำตอบของโรมรัน ทำให้ศรุตรู้สึกดีขึ้น เพราะประมวลความคิดออกมาได้ว่า โรมรันจะต้องไปทำอะไรสักอย่างกลางทะเลมาแน่นอน และไม่ได้กลับมาจนเช้านี้ แสดงว่า โรมรันไม่ได้นัดฟาริดาเอาไว้ สิ่งที่เขาคิดจะพูดกับโรมรันวันนี้จึงออกจะสะดวกใจขึ้น

ห้องบุฟเฟ่ต์ในตอนเช้า มีแขกไม่กี่คน ตอนโรมรันกับศรุตเดินเข้าไป

“ โห ... หญิงนี่เขารสนิยมชาวต่างประเทศจริง ๆ ” ศรุต พูดเมื่อเห็นม.ร.ว.ศีตลา นั่งอยู่กับมิสเตอร์ราล์ฟ

“ พูดจาให้สุภาพรุต ” โรมรันเตือนเสียงหนัก เดินนำไปนั่งที่โต๊ะ ที่ห่างออกไป

ศรุตเดินตามยิ้มนิด ๆ เขามีความรู้สึกว่า โรมรันชอบคุณหญิงศีตลา แต่พอจะเอาจริง ๆ มันก็เหมือนไม่ใช่ จึงสร้างความมั่นใจให้ไม่ได้เลยว่า ทั้งคู่ รู้สึกอย่างไรต่อกัน

“ ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยเห็นหมอนี่เป็นข่าวตกเป็นผู้ร้ายฆ่าข่มขืนอยู่นี่นา หญิงไปรู้จักเขาได้ยังไง ”

“ เป็นเจ้าของโรงแรมวินเน่อร์ ” โรมรันตอบสั้น ๆ

“ มิน่า ... หญิงถึงเทคแคร์ใหญ่ สงสัยคงอยากซ้อโรงแรมคืน หล่อไม่เบาเหมือนกันนะ แต่ถ้าจะให้คะแนน ผมว่านายโรเจอร์ ดูดีกว่าเยอะ พี่รบว่าไง ”

โรมรันหงายถ้วยกาแฟ พยักหน้าให้บริกรมาเติม ตอบว่า

“ คนนี้พี่ไม่ชอบเป็นส่วนตัว แต่นายโรเจอร์นั่น คุณแม่ไม่ชอบ ”

ศรุตหัวเราะ

“ อ้าว ... อย่างนี้หญิงมิแย่เหรอครับ คนหนึ่งพี่รบไม่ชอบ คนหนึ่งป้าสรวงไม่ชอบ เลือกใครก็ไม่ได้ ”

“ ใครเขาจะไปห้ามคุณหญิงได้ ถ้าเขารักเขาชอบเอาจริง ๆ นี่เล่นควงไม่เลือก แล้วมาโทษเอาว่าเราขัดขวางความรักเขาต่างหาก ”

“ โห ... พี่รบนี่รู้ทันหญิง สมกับเป็น อ ... ” คำว่าอดีตสามีไม่กล้าเอ่ยจากปาก เพราะสบเขากับตาดุ ๆ ของอีกฝ่าย ทำเอาศรุตยิ้มแหย ๆ เอ่ยว่า

“ ขอโทษครับ ปากมันจะเสียอยู่เรื่อย ”

“ มีธุระอะไรว่ามา ” เขาถามทันทีที่บริกรเดินมาเติมกาแฟผ่านไปแล้ว

ศรุตอึกอัก ก่อนที่พูดออกมาว่า

“ ผมอยากจะขายหุ้นที่ได้จากท่านลุงให้พี่รบทั้งหมด ”

“ มีปัญหาอะไร ? ”

“ ผมจะไปเรียนต่อ ”

“ ก็ไม่จำเป็น ต้องขาย มีปัญหาอะไร ” เขาถามย้ำคำเดิมอีก

“ ผมต้องการใช้เงิน ”

“ จะเอาไปทำอะไร มากขนาดนั้น ”

ศรุตชักอึดอัด

“ ลงทุน หุ้น ใช้หนี้การพนัน ถูกแบลคเมล์ ” โรมรันพูดเรื่อย ๆ

“ พี่รบนี่สมกับเป็นตำรวจจริง ๆ ซักไซ้เป็นบ้า ” พูดแล้วศรุตก็ควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ

“ ตกลงข้อไหน ”

“ อุตส่าห์เลือกพี่รบเพราะนึกว่าจะไม่สนใจแล้วนะ ไม่บอกได้ไหม ? ”

“ ป้าศศิเหรอ ? ”

ศรุตถอนใจ พ่นควันยาว

“ พี่รบเห็นเฉย ๆ นี่รู้ไปหมดนะครับ ”

“ ปรึกษากับป้าศศิแล้วยังเรื่องจะขายหุ้น ”

“ ยัง ... คุณแม่นึกว่าผมมีตลอด และไอ้ที่ผมบริหารอยู่ มันจะเจ๊งไม่เป็นท่าอยู่แล้ว ดีแต่หญิงเขาอุดไว้ให้ตลอด แต่เห็นจะให้เขาช่วยมากก็ไม่ไหว ผมเลยอยากขายเท่าที่มีให้พี่รบ เพราะไม่อยากให้มันเอิกเกริกไป คงต้องสารภาพกับท่านตรง ๆ แล้วละครับ เพราะเบื่ออยากกลับไปเรียนต่อจริง ๆ ”

โรมรันพยักหน้าเรียกบริกรมาเติมกาแฟให้เขาอีก

“ อยากได้เท่าไหร่ เอากับพี่ไปก่อนแล้วกัน เรื่องหุ้นเก็บเอาไว้เถอะเพราะไม่รู้จะเอามาทำอะไรเหมือนกัน ไม่มีเวลาไปดูแลหรอก ”

ศรุตมองหน้าเขา

“ แปลกนะ ตอนเด็กผมไม่ค่อยชอบพี่รบนักหรอก อิจฉาน่ะ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นญาติทางสายเลือดแท้ๆ แต่ท่านน้ากับหม่อมยายรักพี่รบมากกว่าผม หญิงศีตลา นั่นยิ่งแล้วใหญ่ อิจฉาพี่รบ ที่เป็นทั้งลูกป้าสรวงสุดา แล้วท่านน้าก็ใช้เวลากับพี่รบมากกว่าเขาเสียอีก ตอนท่านน้าจะสิ้น ท่านสั่งผมต่อหน้าคุณแม่เลย ถ้ามีปัญหาอะไรให้ไปหาพี่รบ ผมไม่เชื่อนักหรอก ก็แค่ลองดูเท่านั้น ไม่คิดว่าพี่รบจะช่วยง่าย ๆ แบบนี้ แต่ผมไม่เอาหรอกนะครับ ผมต้องการขายหุ้นให้พี่รบ ไม่ได้มาขอเงิน ” พูดเสร็จเขาก็ลุกขึ้น แต่โรมรันเหนี่ยวไหล่เอาไว้

“ อย่าเพิ่งใจร้อน พี่จะซื้อเอาไว้ก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องบริหารงานต่อให้พี่ ”

ศรุตส่ายหน้า

“ ผมทำไม่ได้หรอกที่รบ ผมไม่ชอบเจ๊งแน่ ”

โรมรันยิ้มพูดว่า

“ งั้นก็ให้ป้าศศิไปทำ ”

คราวนี้ศรุตถึงกับอึ้งแล้วก็หัวเราะแค่น ๆ

“ คุณแม่คงไม่เข้าไปทำหรอกครับ ”

“ ทำไม เมื่อก่อนท่านดูแลอยู่ไม่ใช่เหรอ ”

ศรุตถอนหายใจ

“ ก็ตั้งแต่เรื่องพินัยกรรมมาแล้ว คุณแม่โกรธท่านน้า ไม่ยอมยุ่งด้วยเลย ”

โรมรันเคาะนิ้วอย่างใช้ความคิดสักครู่ก็บอกว่า

“ เอางี้ บอกท่านไปตามความจริงทุกอย่างเลยนะ ว่ารุตขายหุ้นให้พี่แล้ว และพี่อยากให้ท่านเป็นคนบริหาร มีอำนาจเต็มที่ แต่ถ้าท่านไม่ยอม บอกไปเลยว่าพี่จะโอนหุ้นทั้งหมดให้คุณแม่พี่ เป็นคนดูแลเอง ”

คราวนี้ศรุตถึงกับตาเหลือก

“ ถ้ารู้ว่าให้น้าสรวงมาคุม คุณแม่กระอักเลือดแน่ ”

เรื่องการเป็นไม้เบื่อไม้เมาระหว่างแม่ของเขา กับคุณสรวงสุดา คุณแม่ของโรมรัน มันเกิดขึ้นตั้งแต่เขาเป็นเด็กแล้ว แต่โรมรันหัวเราะหึ ๆ ลุกขึ้น

“ บอกไปอย่างนี้ละ ทำก็ทำไม่ทำก็ไม่ทำ แล้วเรื่องหุ้นพี่จะให้คนติดต่อในวันสองวัน เห็นจะต้องไปแล้ว อ้อ ... มีอีกเรื่อง ฝากเตือนป้าศศิ ระวังจะถูกจับกลางบ่อนด้วยล่ะ ”

ศรุตมองตามหลังโรมรันไปแล้วก็ยิ้มขำ ขืนบอกแม่แบบนั้น เป็นต้องเจอคุณแม่กรีดแน่ แม่ไม่ชอบหน้าโรมรันเอามาก ๆ เพราะโรมรันอาจจะไม่ให้ความเคารพท่านเท่าที่ควร แต่จะไปโทษโรมรันก็ไม่ได้ เพราะที่เขาเห็นโรมรันก็เป็นอย่างนี้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นหม่อมยาย หรือน้าสรวงสุดา และมันเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาอิจฉาโรมรันจริง ๆ ที่กล้าจะทำอะไร ๆ ตามใจตัวเอง โดยไม่แคร์ใคร ไม่สิ จะว่าไม่แคร์ก็ไม่ได้ แคร์ แต่ในแบบที่เขาเห็นสมควรเท่านั้นเอง

“ คุยอะไรกับคุณรบเหรอรุต ”

ม.ร.ว. ศีตลา ถามนั่งลงตรงหน้าเก้าอี้ที่โรมรันเพิ่งจะลุกไป

“ คู่ควงเราไปไหนแล้วละ? ”

“ ไม่ต้องยุ่ง เมื่อกี้คุยอะไรกับคุณรบ ” เธอถามย้ำ

ศรุตยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ

“ จะขายหุ้นที่รับจากมรดกท่านน้าให้พี่รบ ”

“ อะไรนะ? ”

ศรุตตอบซ้ำทำเอาม.ร.ว. ศีตลา ถึงกับขมวดคิ้ว

“ ขานั้นสนใจกับเขาด้วยเหรอ ? ”

“ ไม่สนหรอก แต่ก็รับจะซื้อไว้งั้นแหละ ”

“ คิดยังไงถึงขายให้คุณรบ ทำไมไม่ขายให้หญิง ”

“ จะเอาไปทำไม จะเจ๊งอยู่รอมร่อแล้ว ”

“ ไม่หรอก แค่ขาดเงินสดหมุนเวียนเท่านั้นเอง ประคองตัวอยู่สักสองสามปีก็รอด ” ม.ร.ว. ศีตลาพูดอย่างรู้สถานการณ์ดี แต่ศรุตส่ายหน้า

“ ก็รู้ ๆ กันอยู่ เงินมันรั่วไปทางไหน อีกอย่างหญิงก็ตึงอยู่ไม่ใช่เหรอช่วงนี้ ”

“ สนอะไร เครดิตหญิงยังเพียบ ”

ศรุตหัวเราะ แค่น ๆ

“ ยังไง ๆ มันก็จะเข้าอีหรอบเดิมนั่นแหละ ให้คุณแม่รู้ซะ เลยดีกว่าว่ามันไม่มีแล้ว เผื่อจะหยุดได้บ้าง อีกอย่าง พี่รบคิดได้มันเป็นบ้า ... ”

“ อะไร ”

“ จะให้คุณแม่เข้าไปบริหารเองนะสิ ”

“ ให้ป้าศศินะเหรอ เข้าไปทำ ”

“ ก็งั้น ถ้าคุณแม่ไม่ทำ ก็จะโอนหุ้นทั้งหมดให้น้าสรวงสุดาไปทำแทน ”

แต่ม.ร.ว. ศีตลา ไม่เห็นสนุกไปด้วย เธอกังวลใจด้วยซ้ำ

“ คิดได้ยังไง จะให้ผู้ใหญ่เขาทะเลาะกันอีกแล้ว ”

“ มีอารมณ์ขันหน่อยหญิง ถึงไม่มีเรื่องนี้ เขาก็ไม่ชอบหน้ากันอยู่นั่นแหละ ”

“ ก็เธอไม่ได้อยู่ตรงกลาง เหมือนฉันนี่ ” ม.ร.ว. ศีตลาพูดเซ็ง ๆ

ศรุตหัวเราะออกมา แล้วสายตาก็เบนไปยังหญิงสาวที่ก้าวฉับ ๆ เข้ามา

“ หญิง เห็นคุณโรมรันไหม ? ” ฟาริดาเอ่ยถาม ไม่แม้แต่จะมองมาทางเขา

“ เพิ่งเห็นออกไปตะกี้ ไม่สวนทางกันเหรอ ”

“ บ้าจัง ก็นัดกันไว้แล้วนี่ ทำไมไม่รอนะ ” น้ำเสียงเธอกระเง้ากระงอด

ม.ร.ว. ศีตลานิ่งขึง แต่แล้วก็หันไปพูดกับศรุตว่า

“ รุตรู้จักเพื่อนหญิงแล้วยัง ฟาริดา แต่เราเรียกกันว่าฟรีดา นี่ศรุตลูกพี่ลูกน้องของฉัน ”

ฟาริดาชายตามามองเขา แล้วก็เห็นรอยยิ้มหมิ่น ๆ ของศรุต

“ หือ ... ชื่อเพราะนี่ครับ ฟรี ...ดา ถ้ามีนัดกับพี่รบละก้อ รีบวิ่งตามไปที่ท่าเรือ สิครับ มาดาม อาจจะทันก็ได้ ”

ฟาริดาตาขุ่น คอแข็ง สะบัดหน้าเดินออกไปทันที

“ ทำไมไปพูดกับเขาอย่างนั้น ” ม.ร.ว. ศีตลาหันมาใส่ทันที

“ ฉันพูดอะไร ? ”

“ ก็...ให้ตายสิรุตอย่ามาทำหน้าซื่อไม่รู้ตัวนะ ว่าพูดอะไรไม่เหมาะ ”

ศรุตยักไหล่ตอบสบาย ๆ ว่า

“ อาจจะไม่สุภาพหญิง แต่เชื่อเถอะ ว่ามันเหมาะ ”

ม.ร.ว. ศีตลา หรี่ตาถามว่า

“ รู้จักกันมาก่อนใช่ไหม ? ”

ศรุตไม่ตอบแต่ถามว่า

“ คุณแม่พักห้องไหน ”

“ จะไปคุยกับป้าศศิตอนนี้เลยเหรอ ? ” ม.ร.ว.ศีตลาย้อน

“ ก็งั้น กลับไปกรุงเทพฯเดี๋ยวไม่ได้คุย ”

ม.ร.ว. ศีตลาหัวเราะ

“ เออ ดีนะอยู่บ้านไม่ได้คุยกัน ต้องถ่อมาคุยกันที่นี่ มาไปด้วยกัน ป้าศศิพักอยู่ห้องเดียวกับหญิง ”

“ อ้าว งานนี้น้าสรวงไม่ได้มาด้วยเรอะ? ”

ศรุตถามอย่างแปลกใจ เพราะปกติทั้งคุณสรวงสุดา และม.ร.ว. ศีตลา จะเป็นเงาตามตัวกันเสมอ เป็นแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงที่สนิทเหมือนเพื่อนเสียมากกว่า

“ เปล่า น้าสรวงไม่ค่อยสบาย ”

“ มิน่า เลยส่งพี่รบมาคุมแทนละสิ ”

“ บ้า มาคุมที่ไหน นั่นอยู่ ๆ ก็โผล่มาเหมือนกัน ”

“ เอะ ... แปลก มาทำงานหรือเปล่า เมื่อคืนไปนอนรอที่ห้องทั้งคืนก็ไม่กลับ ”

ม.ร.ว.ศีตลาชะงักเท้า

“ ว่าไงนะ ไปนอนรอคุณรบทั้งคืนเหรอ ? ”

“ ก็งั้น ทำไม สงสัยอะไรเหรอ ” ศรุตย้อนถาม

“ ก็แสดงว่า เรามาตั้งเมื่อวานแล้วใช่ไหม ? ทำไมไม่เห็นตอนงานเลี้ยง ” ม.ร.ว. ศีตลาเลี่ยงถามไปทางอื่น

“ เซ็งน่าเบื่อ ไปนอนกินเหล้าห้องพี่รบสบายกว่า โชคดีนะที่ไปนอนรอที่นั่น ไม่งั้นมีหวังไม่ได้คุยหรอก ไม่รู้ไปไหนมาทั้งคืนโผล่มาตอนเช้า ก็จะกลับเลยทีเดียว ”

คำพูดของศรุตทำให้ ม.ร.ว.ศีตลา ต้องขมวดคิ้ว แล้วหันไปมองหน้าศรุต อย่างสงสัย

“ มีอะไร? ”

“ เปล่า ” ม.ร.ว.ศีตลา ปฏิเสธโดยอัตโนมัติ ทั้งที่ใจคิดว่า หากโรมรันไม่กลับมาทั้งคืน เขาไปไหน? แล้วที่เห็นฟาริดาออกมาจากห้องเขาเช้ามืดนี่ล่ะ? ท่าทีของศรุตกับฟาริดาเมื่อครู่ ก็ดูมีพิรุธ เป็นไปได้ยังไง? คู่นี้รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่? ม.ร.ว.ศีตลาชักสงสัย

แต่แม้จะไม่ได้คำตอบ ม.ร.ว.สาวก็รู้สึกว่า บางสิ่งบางอย่างที่กดทับอยู่ที่หัวใจคลายไปทีเดียว

แล้วความกระจ่างชัดในเรื่องที่โรมรันหายไปไหนทั้งคืน ก็ชัดเจนขึ้น เมื่อทั้งคู่เข้าไปพบกับ คุณศศิวิมลที่ กำลังนั่งดูโทรทัศน์ในห้องอยู่

“ คุณแม่ดูข่าวอะไรครับ ”

“ ข่าวจับอาวุธสงคราม เกาะนี่มันอยู่ใกล้ ๆ เรารึเปล่าหญิง ”

“ ห่างออกไปไม่เท่าไหร่ค่ะ ” ม.ร.ว. ศีตลาตอบดูภาพข่าวที่ฉายให้เห็นหน่วยจู่โจมที่ปิดหน้าปิดตามิดเข้าไปทลายแหล่งเก็บซ่อนอาวุธ เธอมั่นใจว่าต้องมีโรมรันอยู่ด้วยแน่ๆ เพราะเกาะนี้โรมรันถึงกับเคยไปหาข้อมูลเอากับเธอถึงที่บริษัท และการที่เขามาอยู่ที่นี่ก่อนหน้าเธอจะมาเสียด้วยซ้ำก็บอกให้รู้ได้ว่าเขามาปฏิบัติภารกิจ ไม่ได้มาคุมเธออย่างที่เขาอ้าง และเมื่อเช้าเธอเห็นเขากระโดดลงจากเรือแสดงว่า เขาอาจจะเพิ่งกลับมาจากการปฏิบัติภารกิจก็ได้

ม.ร.ว.ศีตลากลืนน้ำลาย การที่เธอเห็นฟาริดาออกจากห้องเมื่อเช้า เป็นความเข้าใจผิดจริง ๆ ท่าทางโรมรันทั้งงงทั้งโกรธเชียวละที่เธอตบหน้าเขาเมื่อเช้า ขอให้เขาคิดว่าเป็นเพราะเขาผลักเธอล้มเสียเถอะ อย่ารู้เลยว่าเพราะอะไร เพราะเธอจะไม่ยอมให้เกิดความรู้สึกนั้นกับเธออีกเหมือนกัน

หญิงสาวลุกขึ้น เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า คว้าชุดว่ายน้ำออกมา หลบเข้ามุมเปลี่ยนเสื้อผ้า

“ จะไปไหนเหรอหญิง ” คุณศศิวิมลถาม

“ มีนัดที่สระน้ำกับมิสเตอร์ราล์ฟค่ะ ”

“ ระวังหน่อยนะ มิสเตอร์คนนี้ พี่รบไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขา ” ศรุตแซวขึ้นมา แต่คนตอบกลับเป็น คุณศศิวิมล

“ จะมาสะเออะยุ่งอะไรกับหลานฉัน ”

ม.ร.ว. ศีตลายิ้มแล้วยักไหล่ ให้กับศรุต

“ นายรุตเขามีอะไรจะคุยกับคุณป้าค่ะ ” เธอทิ้งท้ายบอกให้ก่อนจะออกจากห้อง วันนี้เธอนัดคุยเรื่องหุ้นกับราล์ฟที่สระน้ำ และก่อนที่เขาจะเดินทางกลับ เธอจะต้องให้เขารับปากตกลงเรื่องการขายโรงแรมวินเน่อร์ให้ได้ แม้จะเสียดายโรงแรมเพริ์ลแห่งนี้มากแค่ไหนก็ตาม

*****

“ มันเป็นยังไงเล่าให้แม่ฟังซิเรื่องนี้ ” คุณสรวงสุดาถามโยนหนังสือพิมพ์ให้ลูกชายที่นอนเอกเขนก อยู่ไม่ห่างเธอนักดู

“อะไรครับคุณแม่ ”

“ ก็เรื่องหญิงกับนายราฟาเอลนี่ยังไง ”

คุณสรวงสุดา ชี้ที่รูปภาพให้ดู มันก็เป็นรูปที่ทั้งคู่อยู่ในชุดว่ายน้ำ ที่สระน้ำ พร้อม กับข้อความซุบซิบ ที่โรมรันขี้เกียจจะอ่าน เพียงแต่มองภาพนั้นเขม็ง และรู้สึกไม่ชอบเอามาก ๆ

“ก็คุณหญิงเขาพยายามเอาใจนายนี่ เพื่อโรงแรมวินเน่อร์ที่ต้องการกันนะสิ ”

“เดี๋ยวก็เป็นข่าวนายโรเจอร์ เดี๋ยวก็เป็นข่าวกับนายนี่ ชักจะเอาใหญ่แล้วหญิงนี่ ทำไมรบไม่อยู่ที่นั่นก่อน จะได้คอยปราม ๆ ไว้หน่อย ”

“ ไม่รู้ครับ งานผมเสร็จ ผมก็กลับ จะให้ไปเฝ้าเขาอยู่ทำไม ? ”

โรมรันพูดแล้วก็หัวเราะหึ จะล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม การกินอาหารเที่ยงอยากถูกปาก และอยู่ภายในศาลากลางสระ ที่มีลมธรรมชาติพัดเอื่อยเฉื่อยอย่างนี้ ทำให้เขาอย่างจะหลับให้สนิทสักงีบ หลังจากที่ ปฏิบัติภารกิจที่เฝ้าติดตามมาร่วมครึ่งปีสำเร็จลง

“ ก็น่าจะเป็นหูเป็นตาแทนแม่บ้าง ”

“ป้าศศิวิมลก็อยู่ นายรุตก็อยู่ ไม่มีอะไรต้องวิตกหรอก ถ้าคุณหญิงเขาไม่อยากเป็นข่าว เขาคงไม่ทำ นี่แสดงว่าเขาต้องการให้เป็นอย่างนี้ ใครจะไปห้ามเขาได้ละครับ ”

คุณสรวงสุดามองหน้าลูกชาย กับน้ำเสียงกึ่งประชดอย่างนี้ โรมรัน กับคุณหญิงศีตลา มีเรื่องทะเลาะอะไรกันอีกหรือเปล่านะ ตอนแรกเธอไม่รู้หรอกว่า โรมรันไปที่เกาะนั่น แต่เป็น ม.ร.ว.ศีตลา โทรมาคุยให้ฟังว่าเจอกับโรมรัน น้ำเสียงลูกเลี้ยงสาวก็ฟังสนุกสนาน สดชื่นไม่มีวี่แวว ว่าจะมีอะไรผิดใจกัน เธอเข้าใจว่าโรมรันอาจตามไป เพราะคิดว่าเธออยู่ที่นั่น แต่จู่ ๆ เมื่อคืนโรมรันก็ขับรถเข้ามาในบ้านท่าทางเหนื่อยอ่อนเพลิย เขาตื่นเสียสายก่อนจะมานั่งทานอาหารเที่ยงกับท่านที่ศาลานี้ ซักถามจึงได้รู้ว่าเขาไปปฏิบัติภารกิจที่นั่น อยู่ก่อนหน้าที่ ม.ร.ว.ศีตลาจะไปเป็นอาทิตย์แล้ว

ส่วนโรมรันแม้จะนอนเงียบเหมือนไม่สนใจ แต่ความจริงเขากำลังคิดถึงเรื่อง คุณหญิงตบหน้าเขาในวันนั้น ทำเอาเขา งง และหงุดหงิดใจเอามาก ๆ ความตั้งใจที่จะพักอยู่ที่นั่นต่อหมดไป จึงผลุนผลันกลับมาทันที ความจริงเขาไม่ใช่คนแบบนี้ แต่ ม.ร.ว.ศีตลา ทำให้เขาขาดสติได้บ่อยครั้งเหมือนกัน

“ วันนี้หญิงน่าจะกลับได้แล้วนะ เย็นนี้จะต้องไปงานเลี้ยงประมูลเพชรอยู่ด้วย ”

เสียงมารดาเหมือนกังวลใจ ความผูกพันธ์ รักใคร่ระหว่างแม่ของเขา และ ม.ร.ว.ศีตลา มีมากเหลือจน โรมรันอดจะคิดไปถึง อัปสรศิริน้องสาวของเขาไม่ได้ แม่ของเขาลืมไปหรือยังไงนะว่า ท่านยังมีลูกสาวอีกคน เขารู้ว่าแม่ไม่ถึงกับทอดทิ้งอัปสรศิริเสียทีเดียว ในวันเกิด วันสำคัญ น้องสาวของเขาจะเอาการ์ดหรือของขวัญมาอวดเสมอว่า

“ คุณแม่ส่งมาให้ฟ้าค่ะ พี่รบ ”

แม้มารดาจะทำตัวห่างเหิน แต่โรมรันก็รู้ว่าอัปสรศิริ รักแม่มาก จนในบางครั้งเมื่อเห็นแม่แสดงความรัก ม.ร.ว.ศีตลา มันทำให้เขาอดน้อยใจแทนน้องสาวไม่ได้ อัปสรศิริอ่อนกว่าม.ร.ว.ศีตลาแค่สามปีแต่ต้องอยู่เหมือนเด็กกำพร้า กับคุณรัตนาแม้จะไม่ค่อยชอบหน้าเขานัก แต่กับ อัปสรศิริ เธอก็ดูแลในแบบของเธอเอง ไม่ต่างจากที่ดูแลกินรี แม้จะดูไม่รักใคร่ห่วงใยกันเหมือนแม่ของเขาแสดงต่อคุณหญิงศีตลา แต่ก็ไม่อาจจะพูดได้เต็มปากว่าคุณรัตนาบกพร่อง หากมันจะชดเชยกันได้บ้างก็ตรงที่เขาพยายามเน้นให้เห็นว่า อัปสรศิริ มีเขา และกินรีนี่แหละ และเขาพยายามเสมอที่จะทำทุกอย่างให้น้องสาว เพื่อชดเชยกับสิ่งที่เธอขาดไป คิดถึงน้องสาว เรื่องของกินรีก็แว่บเข้ามาในใจ เขาไม่เจอกินรีเกือบสองเดือนแล้ว แต่ก็รู้ว่าล่าสุดกินรีเดินทางไปต่างประเทศพร้อมกับคุณรัตนา ยังไม่รู้ว่ากลับมาแล้วหรือยัง มันก็ทำให้เขาหายห่วงขึ้น แม้จะไม่มากนัก แล้วชายหนุ่มก็ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนางชมนาดมารายงานมารดาเขาว่า

“ คุณหญิงโทรมาค่ะ ให้นายธรรมไปรับด้วย ที่นี่ค่ะ ” นางยื่นกระดาษที่จดมายื่นให้คุณสรวงสุดา

“ ไปรับที่ไหนกัน ทำไมไม่ให้ไปรับที่สนามบิน ”

เมื่ออ่านแล้ว คุณสรวงสุดา ก็ส่งผ่านมาให้โรมรัน

“ รู้จักไหมรบ? ไปรับหญิงให้แม่ที ”

โรมรันเอามาอ่านแล้วขบกรามแน่น

คุณหญิงไปทำบ้าอะไร ที่ห้องพักนายราล์ฟนั่น

  :+:+:+:+:

 

ไปพูดคุยเกี่ยวกับนวนิยายเรื่องนี้กับฟีลิปดาที่นี่ค่ะ คลิก

 

นวนิยาย ดั่งไฟรัก มีในรูปแบบ พอคเก็ตบุ้ค ราคา 265 บาท

สนใจ คลิก

 

 

นวนิยาย ดั่งไฟรัก เสร็จสมบรูณ์ ในรูปแบบ E-book แล้ว
สนใจ
คลิก


© ลิขสิทธิ์ตามกฏหมายโดย ฟีลิปดา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง
 

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์
 

 

2009 free writing

 



๕๐๕ แคนโต้แห่งความรัก

 

 

 

  http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.