forwriter.com
 
นวนิยายโรแมนติก

 

บันทึกร้อยวันฉันจะเขียนนวนิยายให้จบ

 

 

๙.

จุดเริ่มเรื่อง

เช้านี้อากาศสดใสมาก ฉันตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เพราะนอนไม่ค่อยหลับ เรื่องอย่างนี้ไม่เกิดกับฉันบ่อยนักหรอก แต่เป็นเพราะมีความกังวลใจ

ฉันดูอาทิตย์ขึ้นจนแสงจ้า แล้วก็เดินหงอยๆ จะกลับเข้าบ้าน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ อ้อมไปทางด้านข้างที่เป็นสนามหญ้า ฉันเดินไปสุดสนามหญ้าตรงที่มีเก้าอี้ไม้ยาวตั้งอยู่ใต้ต้นหา่งนกยูง ที่กำลังออกดอกแดงสะพรั่งเต็มต้น วิวตรงนี้มองเห็นหาดทรายได้อย่างชัดเจน และมีบันไดหินให้เดินลงไปที่ชายหาด แต่เมื่อเงยขึ้นด้านหน้า มันก็จะเป็นห้องเจ้าของบ้านพอดี และฉันก็สังเกตเห็นบันได เอ... จะเรียกบันไดอะไรดีล่ะ เหมือนบันไดลิงแต่ไม่ใช่เชือก มันเป็นเหล็ก แต่มันก็อยู่ตรงเทอเรสซึ่ง เจ้าของห้องสามารถปีนขึ้นลงทางด้านนี้ได้ก็แล้วกัน ฉันคิดว่านายโทนี่คงจะตื่นแล้วล่ะ เช้านี้ฉันมีเรื่องต้องคิด ก็เพราะความปากไว ของฉันที่พูดกับแม่นายโทนี่นั่นแหละ

เมื่อวานหลังจากที่คุยกับยัยดาราเสร็จ ฉันก็นั่งจ่อมคิดอะไรเรื่อยเปื่อย อยู่ที่โซฟานั้นแหละ รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเหมือนกัน จากคำเตือนของยัยดารา เลยแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย

เขากลับมาถึง เกือบห้าโมง ถามเลยล่ะว่า

“ ทำไมมืดจัง ”

“ ไฟดับ ”

เขาขมวดคิ้ว มองหน้าฉัน ก่อนจะเดินไปทางครัว หายเข้าไปในซอกหนึ่ง สักครู่ไฟก็สว่างพรึ่บขึ้นเลย

“ เบรคเกอร์มันตก คราวหน้าก็ไปดูที่แผงไฟด้วยแล้วกัน ”

ฉันพยักหน้า ไม่ตอบ แต่เมื่อเขาจะเดินเลยขึ้นไปชั้นบน ฉันเลยรีบพูดว่า

“ วันนี้ คุณแม่ของคุณแวะมา ”

เขาเดินย้อนกลับมานั่งตรงข้ามฉัน ถามว่า

“ มาทำอะไร ”

“ ก็คุยอะไรนิดหน่อย ”

“ คุยอะไร ”

ฉันชักอึดอัด แต่ก็ตัดสินใจพูดอย่างที่คุยให้ยัยดาราฟัง พร้อมกับตบท้ายว่า

“ ยัยดารามันว่า ฉันควรจะบอกคุณ ”

เขาจ้องหน้าฉันนิ่ง ก่อนจะพูดขรึมๆ ว่า

“ รู้ไหม นิสัยไม่ชอบให้คนท้าทายนี่ ฉันได้รับจากแม่ไม่ถึงครึ่ง ความจริงฉันรู้แล้วว่าแม่มาที่นี่ แต่หนังคนละม้วนกับเธอ เพราะ แม่โทรบอกว่า เธอชวนท่านกับอลิเซียให้มาพักด้วยตอนอังเคิลกลับ ก็คงในสองสามวันนี่แหละ ถึงตอนนั้น เธอก็ตัดสินใจเองแล้วกันว่า จะย้ายของขึ้นไปออยู่กับฉัน หรือจะแจ้นกลับบ้าน ” แล้วก็เขาลุกขึ้นยืน พูดอย่างเฉยเมยว่า “ แต่ก็อย่างที่บอกตั้งแต่วันแรก ... ฉันไม่ขับเรือไปส่ง ”

แล้วเขาเดินขึ้นห้องไป ปล่อยให้ฉันยืนอึ้งอยู่ตั้งนาน แม่เขาแสบจริงๆ นี่คงไม่เชื่อเรื่องที่ฉันกับเขาเป็นแฟนกัน ถึงได้หาเรื่องมาอยู่เสียที่นี่ บีบฉันชัดๆ ท่าทางเขาก็คงไม่ชอบใจเหมือนกัน แต่จะทำไงล่ะ? ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว แต่..

ไอ้เรื่องจะย้ายขึ้นไปอยู่กับเขานะเหรอ? บ้านะสิ !

ก่อนฉันจะเข้าห้องตอนหนึ่งทุ่ม ก็ยังไม่เห็นเขาลงมา ฉันตั้งใจจะกลับ จึงโทรไปหายัยดารา แต่สายไม่ว่าง แต่ไม่ถึงชั่วโมงยัยดาราก็โทรกลับมาหาฉันเอง

“ มีอะไร? ”

“ แม่เฮียแกจะมาพักอยู่ด้วย ”

“ ฉันว่าแล้ว แสบไหมล่ะ?แล้วไง ”

“ ฉันจะกลับ ”

“ ทำไม? ”

“ ฉันไม่อยากย้ายขึ้นไปอยู่กับเฮียของแก ”

ยัยดาราเงียบไปครู่แล้วก็พูดว่า

“ แกเข้าใจคำว่า สงครามตัวแทนไหมยัยพัด ”

“ อย่านอกเรื่อง ฉันรำคาญ หาใครมารับฉันหน่อยแล้วกัน เบื่อว่ะ ก็บอกแล้วว่าจะมาเขียนนิยายไม่อยากยุ่งกับใคร ”

“ ก็แกทำตัวเองให้ยุ่งเอง ใครให้แกไปพูดยังงั้นกับแม่เฮียเขาล่ะ ”

“ อ้าว ! ฉันก็พูดเข้าข้างแกนะ ”

“ ก็นี่แหละ แกก็น่าจะรู้นี่ แม่เฮียเขารังเกียจพวกฉัน ยิ่งรู้ว่าฉันอยู่เบื้องหลัง ก็ยิ่งอยากเอาชนะ ไม่ใช่เอาชนะแค่ฉันหรอกนะ โยงไปถึงป๋าโน่น เพราะเขาคิดว่า ป๋าอยู่เบื้องหลังไปอีก และทีนี้แกวาดภาพเอานะว่า หากป๋ารู้เรื่องนี้ จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงป๋าไม่สนหรอก ลงได้เสียหน้าแล้วละก็ รับรองทั้งฉันและแก อ่วม กระดิกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ”

“ ก็อย่าให้ป๋าแกรู้สิ ”

“ ก็ได้ แต่แกก็ภาวนาเอาเถอะว่า แม่เฮียเขาจะไม่โทรมาเยาะเย้ยป๋าฉัน ที่ไล่แกเปิดแน่บกลับมาน่ะ ”

ฉันพูดไม่ออก ความจริงมันไม่ควรจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ใครจะไปคิดว่า พวกผู้ใหญ่แก่ๆ กันแล้วจะเอาชนะคะคานกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างนี้

“ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันยัยพัด แกนอนคิดสักคืนค่อยบอกฉัน หากอยากกลับฉันจะให้คนไปรับไม่ว่าอะไรแกหรอกฉันเข้าใจเรื่องชื่อเสียงเกียรติยศศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงอย่างแก จะให้ไปอยู่กับหนุ่มโสดอย่างพี่ชายฉัน โดยที่คนเขาจะไม่ครหาได้ยังไง ”

“ หุบปากเถอะน่า ไม่ใช่เรื่องนั้น ” ฉันตวาดใส่

“ แล้วแกกลัวเรื่องอะไร รับรองเฮียฉันไปทำอะไรแกหรอกน่า ถ้าแกไม่ให้ท่าเขาก่อน ”

“ ดาราพิสุทธิ์ !” ฉันตะโกนเลยละ ได้ยินแต่เสียงมันหัวเราะชอบใจก่อนจะกดสายทิ้ง และไม่ยอมรับโทรศัพท์ฉันอีกเลยทั้งคืน

มีลมพัดมาเบาๆ แล้วดอกหางนกยูงสีแดงสดก็ตกลงที่ตักฉัน ฉันหยิบมันขึ้นมาดู เสียดายมันไม่ใช่ดอกไม้ที่มีกลีบมากพอที่ฉันจะเอามาเด็ดเสี่ยงทาย อยู่ ไม่อยู่ เหมือนในหนังที่นางเอกวัยรุ่นที่เด็ดกลีบถามว่า เขารัก เขาไม่รัก สลับไปมา

จริงๆแล้ว ในแต่ละวัน ไม่ว่าคนเราจะทำอะไร มันก็เป็นผลมาจากการตัดสินใจเลือกที่จะทำทั้งนั้น ทุกเรื่องต่างก็มีทางเลือกให้เราตัดสินใจ แต่เมื่อเรารู้ว่า ไม่ว่าจะเลือกทางใด ก็เป็นทางแย่กับเราทั้งนั้น เราก็มักจะคิดว่ามันไม่มีทางเลือก
แล้วฉันก็คิดไปถึง ภาพปกหนังสือ คู่มือการเขียนนิยายรักเล่มนั้น ฉันเหมือนจะนั่งอยู่เก้าอี้ยาวเหมือนเธอ เพียงแต่ต้นไม้ด้านหลังของเราไม่เหมือนกัน

หากสถานการณ์อย่างนี้ เป็นเพียงนวนิยาย เธอจะเขียนเรื่องของฉันอย่างไร?

ฉันจะได้เล่นบทบาท เป็นอะไร นางเอก นางรอง นางร้าย ...

ฉันต้องทำอะไรบ้างในเรื่อง ...

เฮ้อ จะบ้า ... ฉันสั่นหัวมันเรื่องอะไรที่จะให้คนอื่นมาเขียนเรื่องของตัวเราเอง

ฉันควรจะเขียนเรื่องของฉันเอาสิ นี่ชีวิตฉันนี่นา แล้วจะเริ่มยังไงล่ะ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการตัดสินใจแล้วนี่ จะอยู่ต่อ หรือ จะกลับ

หากจะกลับ ฉันเองก็ต้องรู้สึกเสียหน้า ยัยดาราด้วย แต่ฉันเป็นคนไม่เคยกลัวการเสียหน้า เมื่อคิดว่ามันจะเป็นผลร้ายกับตัวเองเสียมากกว่า แต่อะไรล่ะ? คือสิ่งร้ายๆ จะเกิดกับฉัน

หากจะอยู่ต่อ มันก็ยืนยันความตั้งใจในครั้งแรกของฉัน ที่จะต้องเขียนนิยายให้จบในร้อยวันให้ได้ หรือว่านี่คือ อุปสรรคทดสอบ? แต่ฉันกลัวอะไรล่ะ? มันคิดไม่ตก กึ่งกล้ากึ่งอยากลอง

แล้วในที่สุด ฉันก็ใช้วิธีง่ายๆ วัดดวงเอาว่า ฉันจะหลับตา และนับหนึ่งถึงห้าสิบอย่างช้าๆ สม่ำเสมอ หากมีดอกหางนกยูงตกใส่ฉันอีก ฉันจะอยู่ต่อ

ฉันนับถึง สี่สิบสาม ก็เหมือนถูกบางอย่างตกใส่ พร้อมกับเสียงพูดว่า

“ มานั่งหลับอะไรตรงนี้ ”

ฉันลืมตา นายโทนี่ยืนอยู่ห่างไปไม่กี่ก้าว ในมือของเขายังมีดอกหางนกยูงเหลืออยู่ ฉันเบนสายตามามองดอกที่ตักฉัน เมื่อครู่ไม่มีลม

ดอกนี้ไม่ได้ร่วงจากต้น แต่เขาปาใส่ตักฉัน ฉันอยากกลั้นใจกับคำตอบที่ได้จากการวัดดวงครั้งนี้ ทำไมมันไม่เป็นเรื่องของธรรมชาติบริสุทธิ์เพียวๆ บ้างนะ ฉันมองหน้าเขา ก่อนพูดว่า

“ ไว้แม่คุณมา ฉันจะย้ายขึ้นไปอยู่ห้องคุณ ”

“ ยัยดาวสั่ง? ”

“ เปล่า ฉันเสี่ยงทายเอาน่ะ ”

เขาขมวดคิ้วมองฉันงงๆ แล้วก็พยักหน้า ไม่พูดอะไร เดินลงบันไดหินลงตรงชายหาดไปเสียเฉยๆ

ส่วนฉันก็ลุกขึ้น เดินเข้าบ้าน

เมื่อตัดสินใจอะไรไปแล้ว ก็ต้องทำอย่างที่เลือก และทำมันอย่างดีที่สุดด้วย

.........

๑๐.๒๔ น. เป็นเวลาในคอมพิวเตอร์ ฉันนั่งแช่อยู่หน้าจอตั้งนาน คิดอะไรไม่ออก เพื่อไม่ให้ตัวเองเกิดเสียเวลา รอให้คิดอะไรออก จึงหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมา อ่าน

ก่อนจะอื่นควรจะทำความเข้าใจกับเรื่องที่คุณจะเขียน

เข้าใจในสิ่งที่คุณจะเล่า เขียนออกมาสักสองสามประโยค เช่น

ฉันกำลังจะเขียนเรื่องความรักของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งใครๆ ก็พยายามหาคู่ให้กับเธอ

ฉันกำลังจะเขียนเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นโรคเอดส์ และเธอกำลังจะมีตาย

ฉันกำลังจะเขียนเรื่องผู้ชายที่หลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ไม่กล้าบอก

ฉันกำลังจะเขียนเรื่องนักธุรกิจคนหนึ่งที่ร่ำรวยมหาศาล แต่เขาไม่มีทายาท

เอะ ... ไม่ยากนี่นา ฉันไม่คิดจะเสียเวลาอ่านต่อ เพราะชักจะคิดถึงเรื่องที่เคยคิดอยากเขียน

ฉันเริ่มเขียนเรื่องคร่าวๆ ที่มีอยู่ในหัว

ไอเดียเรื่อง ...( ยังไม่ได้ตั้งชื่อ)

ฉันจะเขียนเรื่องความรักอันลึกซึ้งของหญิงชายคู่หนึ่งที่ต้องถูกทดสอบทั้งอุปสรรคภายนอกและภายในจิตใจตัวเอง

สำหรับคนที่ไม่เคยคิด หรือ เคยฝึกฝนสร้างเรื่องสร้างราวอะไรมาก่อน ให้เริ่มที่จุดง่ายๆ ด้วยคำถามนี้ว่า

“ พระเอก/นางเอก จะเอาชนะ อุปสรรค/คนร้าย เพื่อไปถึงจุดหมายได้หรือไม่ ”

จากนั้นก็ใส่ลงไปง่ายๆ ว่า พระเอกนางเอกมีจุดหมายอะไร

อุปสรรค ของพวกเขาคืออะไร?

เขาชนะหรือแพ้

ถ้านวนิยายรัก ตอบแค่ปัญหาง่ายๆ ข้างต้นก็ดีสิ เพราะยังไงๆ พระเอกนางเอกก็ต้องชนะใสๆ อยู่แล้ว จะว่าไปนวนิยายรักนี่ ก็ไม่มีลับลมคมในเลยนะ คนอ่านเดาตอนจบได้เสมอ แต่นี่ล่ะมันคือแอกลักษณ์ ^--^

พวกเขา ตกหลุมรักกันอย่างไร

พวกเขาเข้าไปสู่ปัญหาอย่างไร

พวกเขาแก้ปัญหาอย่างไร

จะทำอย่างไรให้คนอ่านรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกอันลึกซึ้งของพวกเขา

คนเรา ก็อยากอ่านอยากรู้เรื่องของคนนี่แหละ เขาอยากรู้ว่า พัฒนาการต่างๆ ของตัวละครจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างไร จดจ่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวละครต่อไป และใช่อย่างที่พวกเขาคิดกันไหม?

การถ่ายทอดอามมรณ์ความรู้สึกของตัวละคร ทำให้คนอ่านอยากจะหวนกลับมาอ่าน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ตัวละครและอารมณ์ความรู้สึก จึงเป็นสิ่งที่ทำให้นวนิยายรักแต่ละเรื่องมีความแตกต่างกันไป

- - - - - - - - - - - - -

แต่มันตลกนะ ...

ฉันคิดอยากจะเขียนเรื่องความรักอันลึกซึ้ง ทั้งที่ความจริงฉันก็ยังไม่ค่อยจะแน่ใจว่า ฉันจะทำได้ไหม?

เพราะฉันไม่เคยมีความรักอันลึกซึ้งกับใคร จะว่าเคยรักใคร ก็มีบ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะลึกซึ้งตรงไหน แค่เขาไม่สนฉัน ฉันก็ไม่สนเขาเท่านั้นเอง (ประเภท ไม่รัก ไม่ง้อว่ะ ^--^ ) ในเรื่องหัวใจ และความรัก มันเป็นสิ่งผิวเผินสำหรับฉันมาก

แต่ในนวนิยายของฉัน ฉันจะทำให้ คนสองคนจะรักกันมากถึงเพียงนั้นได้อย่างไร? จะทำยังไงให้คนอ่านรู้สึกและรับรู้ถึงสิ่งนี้ด้วย

นี่คือโจทย์ที่ฉันต้องตีให้แตกล่ะ?

บางทีการเขียนนวนิยายรักนี่มันก็ยากกว่า ที่คิดนะ !

:+:+:+;+:+:

๑.  หานิยามของความรัก (เผื่อจะได้ไอเดียดีๆ เอามาเป็นความคิดในเรื่อง หรือ เป็นทัศนของตัวละครเกี่ยวกับเรื่องความรัก)

๒.  เปิดดูรูปดาราเพื่อคัดเอามาเป็นตัวละครในเรื่อง

๓.  สร้างเรื่องราวของตัวละคร เข้าใจเขาให้มากขึ้น

๔. ชื่อ ตัวละคร

๕. ไม่มีความรักอันลึกซึ้ง แล้วจะเขียนได้ยังไงนี่ฮึ ยัยพัด ...

๖. รู้งี้อกหัก มาบ้างก็ดีหรอก ^--^

 

 


ฟีลิปดา

 

©  ลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย โดย ฟีลิปดา
ติดต่อ  philipda@forwriter.com

 

 


 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง
 

 

ดั่งไฟรัก

 

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์
 

 


2009 free writing
 

 

 

http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.