forwriter.com
 
นวนิยายโรแมนติก

 

บันทึกร้อยวันฉันจะเขียนนวนิยายให้จบ

 

 

วันที่ ๒


“ เมื่อคืนฉันฝันว่าได้กลับไปที่ ... เออ... เกาะเขียวอีกครั้ง ”

“ เมื่อคืนฉันฝันว่าได้กลับไปที่ ... เออ... เกาะเขียวอีกครั้ง ”

ฉันขึ้นต้นประโยคของวันนี้ โดยการเลียนแบบ หนังสือเรื่องรีเบกคา ของ ใครแต่งจำไม่ได้ และที่บ้านพักหลังนี้มันก็ไม่มีบรรยากาศสอดคล้องกับเรื่องนั้นหรอก แต่ไม่รู้สินะ ทำไมฉันนึกถึงประโยคเปิดเรื่องนี้ขึ้นมา

ฉันตื่นมาเช้านี้ด้วยความสดชื่น แม้จะมองออกไปด้านนอก

ฝนตก แฮะ

แต่ฉันไม่กังวลใจหรอก โปรแกรมวันนี้ของฉันคือจัดข้าวของที่ขนมาให้เป็นระเบียบ

ก็ไอ้เรื่องของที่ฉันขนมานี่แหละ ทำให้เกิดเรื่อง เมื่อคนที่ไปรับฉันพูดอย่างมะนาวไม่มีน้ำเลยว่า

“ จะขนมาอยู่เป็นปีเลยเหรอคุณ ”

หนอย กะอีคนเฝ้าบ้าน ดันมาพูดอย่างนี้กับฉัน

“ ถ้าพอใจฉันจะยึดเลย ”

นายนั่นมองหน้าฉัน ฉันเลยส่งสายตาประเภทว่า “ นายเป็นใคร ข้องใจเหรอ ” เข้าให้

เงียบ ไปเลย ! ดีสม เล่นกับใครไม่เล่น ไอ้เรื่องตีฝีปากใช้สายตาด่าคนนี่ ฉันไม่เป็นรองใครอยู่แล้ว

แต่ทว่า ... บ้าเอ้ย...

“ ขนเองแล้วกัน ”

นายนั่นพูด แล้วเดิน ไปที่เรือ เฉยเลย เฉยเลยจริง ๆ

ฉันก็อึ้งนะสิทีนี้ กระเป๋าเดินทางใบโต ๆ สี่ห้าใบ กับตระกร้าหวายที่บรรจุ ต้น
พูลด่าง อ่างแก้วใบเล็กที่มีกรวดสีสวยอยู่ ปลาทองสองตัวทีฉันเอาไว้ในถุงพลาสติก ส่วนตัวฉันเองก็สะพายกระเป๋าใบเขื่อง มือหนึ่งก็ถือโน๊ตบุ้คที่ยัยดาราพิสุทธิ์ให้ยืมมา

ท่าทางนายนั่นเอาจริงเสียงด้วยสิ

นี่เป็นพยานนะ ฉันแค่มองหน้าเฉย ๆ เอง ยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำเลย ( ฉันจะ
โทรบอกยัยดาราเพื่อนฉันแบบนี้ )

แต่ยังไงฉันก็ ฮึดสู้ เป็นเหมือนกันนะ

ไม่ช่วยก็อย่าช่วยสิ ทำเองก็ได้ ยังกะจะง้อนักนี่

กระเป๋าใบที่หนึ่ง ....จำไว้เลยนะ แก ( ฉันเอง ) จะทะเลาะกับใคร ก็จงให้เขาทำงานให้แกเสร็จก่อน เข้าใจไหม ?

ใบที่สอง .... ผู้ชายอะไร หล่อเสียเปล่าไม่เป็นสุภาพบุรุษเล้ย ช่างเถอะ ... ก็แค่คนเฝ้าบ้าน

ใบที่สาม ... คนอะไรใจดำ

ใบที่สี่... ไอ้บ้าเอ้ย ...

ใบที่ห้า .... โว้ย ! ฉันเกลียดแกเข้าไส้เลยว่ะ

เมื่อฉันขึ้นไปนั่งอยู่บนเรือเรียบร้อย นายนั่นก็โยนชูชีพสีเหลืองสดมาให้ฉัน

“ ใส่ซะ มีหมวกไหม เอาออกมาใส่ด้วย ”

ฉันเติมคำว่า มารยาททราม ลงในบัญชีหนังหมานายนี่ด้วย ก่อนจะใส่เสื้อชูชีพ เปิดกระเป๋าถือ หาหมวกแก๊ปมาใส่ ตามด้วยแว่นตากันแดด นั่งเฉย ๆ ไม่พูดอะไร เวลาฉันอารมณ์ไม่ดี ฉันไม่ชอบพูด เพราะรู้ตัวว่าควบคุมคำพูดตัวเองไม่ค่อยได้

และฉันไม่ควรจะลดตัว ลงไปทะเลาะกับใครสักคนที่ไม่รู้จัก

“ ยัยดาจะคุยด้วย ” เขายื่นโทรศัพท์ให้ฉัน

โห ... รุ่นล่าสุดเลยแฮะ โทรศัพท์นายนี่

“ เป็นไง ยัยพัด เรียบร้อยดีไหม แกโชคดีเป็นบ้าเลยที่พี่ชายฉันไปรับ ไม่งั้นมีหวังจ๋อยอยู่ท่าเรือนั่นแหละ ลุงสมหมายที่เฝ้าบ้าน เพิ่งจะขอลากลับบ้านเพราะเมียป่วย ”

“ พี่ชายแกเหรอ ” ฉันกระซิบ

“ เออ... คนที่ห้า เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลไม่นึกว่าจะหลบไปพักที่เกาะเขียว แต่แกไม่ต้องกลัวว่าจะไปรบกวนสมาธิแกหรอกนะ เขาไม่ชอบสุงสิงกับใคร ต่างคนต่างอยู่ก็แล้วกันแค่นี้นะฉันมีประชุม ”

 

พี่ชายยัยดาราพิสุทธิ์ เหรอนี่ ซวยจริง ... ขั้วอำนาจเปลี่ยนซะแล้ว

จากที่คิดว่าเป็นคนเฝ้าบ้าน กลายมาเป็นพี่ชายเพื่อนเสียได้ เอายังไงละฉันทีนี้

แต่ยังไง ๆ ฉันก็คือผู้เจริญแล้ว ดังนั้น ตอนเอาโทรศัพท์ไปคืนให้เขา ฉันจึงต้องยิ้มพูดอย่างไพเราะว่า

“ ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเป็นพี่ชายของดารา ”

แต่คำตอบนี่สิ

“ ไม่เป็นไร ที่เคยเจอมาแย่กว่านี้ ”

“ ถ้างั้นเอาคำขอโทษคืน เพราะที่เจอมาไม่เคยแย่เท่านี้ ”

เวร ... ก็ฉันบอกแล้วไง เวลาโกรธฉันควบคุมคำพูดไม่ค่อยได้

คงวาดภาพออกนะว่า ตอนลงจากเรือฉันต้องทำยังไงกับกระเป๋าตัวเอง

แต่ฉันยังมารยาทดี กัดฟัน ขอบคุณค่ะ ตอนที่เขาชี้บอกว่าห้องพักฉันอยู่ตรงไหน และมุมไหนที่ฉันจะใช้เป็นที่ทำงานได้

( ทั้ง ๆ ที่ไม่ปริปากพูดกันตลอดสองชั่วโมงที่เขาขับเรือมายังเกาะเขียว ซึ่งผิดวิสัยในความเป็นคนช่างพูดของฉันมาก แต่ก็นั่นแหละ ฉันจะหวังอะไรกับผู้ชายหน้าเฉย ที่คิดว่าตัวเองจะพูดค่อนแคะได้เก่งกว่าฉันละ )

 

ฉันจัดเสื้อผ้าใส่ตู้เสร็จ ก็ชักหิว ยังเหลือกระเป๋าอีกสองใบ ที่ยังไม่ได้จัด แต่ส่วนมากมันก็เป็นหนังสือและของจุก ๆจิก ๆ ที่ฉันชอบวางเอาไว้ที่โต๊ะทำงานนั่นแหละ ทิ้งมันเอาไว้ก่อนก็ได้ ฉันไม่คิดจะเริ่มงานวันนี้

ไปหากาแฟกินสักแก้ว แล้วสำรวจบ้านหลังนี้ดีกว่า

ยัยดาราบอกว่ามีห้องสมุดด้วยนี่นา อยู่ตรงไหนนะ ?

ฉันลังเลว่าจะออกจากห้องทั้ง ๆ ที่ใส่ชุดคลุมหรือเปล่านะ เพราะปกติตอนอยู่ที่อพาร์ทเม้นของฉัน ฉันก็มักจะเดินวุ่นในห้องทั้ง ๆ ใส่เสื้อคลุมตัวเดียว นี่แหละ แต่มันอาจจะน่าเกลียด เพราะบ้านหลังนี้ ฉันไม่ได้อยู่คนเดียว

ใครจะไปไว้ใจใครได้

ต่อให้เป็นพี่ชายเพื่อนก็เถอะ

บ้านทั้งหลังเงียบมาก นายนั่น เอ้ยสุภาพหน่อย ... เขา อาจจะยังไม่ตื่น ฉันเดินไปที่ครัวทันสมัยเปิดโล่ง ใกล้ห้องนั่งเล่น

น้ำในกระติกมีคนเสียบปลั๊กต้มเอาไว้แล้ว ฉันหยิบแก้ว มองหากาแฟ

“ อยู่ที่ตู้ซ้ายมือ ชงเผื่อด้วยนะ ”

ฉันหันกลับ แล้วแทบหยุดหายใจ มองเขาแล้วรีบเบนสายตาเปลี่ยนมาจับที่แก้วในมือทันที

หนึ่ง สอง สาม .... ผู้ชายอะไรวะ เซ็กซี่เป็นบ้า สี่ ห้า ... ใส่มาได้ยังไงกับเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขาสั้นแบบนั้น
หก ..
ต่อให้ผู้ชายด้วยกัน คงต้องกระโจนหาเขา แทนที่จะหาฉันแน่ เจ็ด ...แกเอาพี่ชายคนนี้ ไปซ่อนไว้ไหนวะนังดารา ทำไมฉันไม่เห็นมาก่อนฮึ แปด เก้า.. ไอ้เรื่องเมื่อวานลืมไปเลย ให้ตายฉันนับจะถึงสิบอยู่แล้ว ทำไมใจยังไม่หายสั่นนะ

“ โอ้ย ” ฉันอุทานลั่น

   “ เป็นอะไร ”

  “ กดน้ำร้อนลวกมือ ”

  “ ท่าทางไม่ใช่คนซุ่มซ่ามเลยนะ ”

  สิบ ...ทำไมปากเสียอย่างนี้นะ นายนี่ ฉันอาจจะกรีดกราดกับคนหล่อ ๆ นะ แต่ถ้าพูดจาไม่ดีฉันก็เปลี่ยนใจไปมาได้ง่าย ๆ ขอบอก เฮอะ ! ... แล้วยังมานั่งรอให้เราเสริฟอีกต่างหาก

  ฉันวางแก้วกาแฟปึงที่เคาน์เตอร์ตรงหน้า แต่เขาใช้ช้อนคนกาแฟเฉยเหมือนไม่รู้สึก

   “ ชื่ออะไรนะเรา ”

  “ พัดชา ”

  “ เป็นเพื่อนยัยดา มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ”

  “ ชั้นมัธยม ”

  “ มิน่า ... ” เขาจิบกาแฟ แล้วเบ้ปากเลื่อนมันออกห่าง

  สม ต่อให้เป็นทรีอินวัน ผสมให้มาอย่างเข้มข้นก็เถอะ ลองมาเจอน้ำเต็มแก้วแบบนี้ ก็จืดสนิท

  เริ่มอารมณ์ดีแล้วสิฉัน

   “ ไหน ๆ คิดจะอยู่ด้วยกัน มาทำความเข้าใจกันก่อนไหม ? ” เขาเอ่ย

  ฉันพยักหน้า นั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามกับเขา จิบกาแฟหอมกรุ่น

   “ ตอนแรกเห็นชื่อพัด นึกว่าเป็นเพื่อนผู้ชาย เลยออกไปรับ ตอนเห็นที่ท่าเรือกำลังงง เพราะไม่คิดว่าผู้หญิงที่ไหนเขาอยากจะมาอยู่เงียบ ๆ แบบนี้นอกจากคนอกหัก ”

  เริ่มละสิ ?

   “ ตอนขนกระเป๋าอยู่น่ะ ฉันโทรไปถามยัยดาเพื่อความแน่ใจ เลยไม่ได้ช่วย ”

   ฉันเชื่อนายก็บ้าแล้ว

   “ แต่ก็เก่งนะ ทำเองได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ผู้หญิงเจ้าสำออย ”

   แหงละ ... ฉันชกปากนายก็ยังได้เลยตอนนี้

   “ ปกติ ที่นี่ลุงสมหมายเขาจะเป็นคนดูแล แต่ตอนนี้ไม่อยู่ อยู่กับฉันสองคนกลัวไหม ? ”

ช่างถามออกมาตรง ๆ เลยนะคุณพี่

“ ยัยดารา บอกแล้ว ไม่ต้องกลัวคุณไม่ชอบสุงสิงกับคนอื่น ต่างคนต่างอยู่ ”

“ ดี ทำกับข้าวเป็นไหม ? ”

“ ไม่ ”

“ ไม่น่าถามเลยนะ ดูแต่กาแฟสำเร็จรูปสิ ยังชงไม่เป็นสับประรดเลย ”

“ ใครชงกาแฟเป็นสับประรดได้ ก็ออกงานวัดแล้ว ”

“ ไม่มีใครสอนเหรอ ว่าอย่ากวนผู้ชายที่ตัวโตกว่า ”

“ มันอยู่ที่เทคนิค ไม่ใช่ขนาด ”

ไม่อยากเชื่อ นายนี่จะยิ้ม เพราะคำพูดฉัน เขามองฉันขึ้นลงพูดลากเสียงว่า “ ง้าน ... เรอะ ? ”

ยี้ ... นายบ้านี่คิดไปถึงไหน

   “ เธอทำความสะอาดบ้านแล้วกัน ”

  “ แล้วคุณละ ”

  เขาขมวดคิ้ว มองหน้าฉัน

   “ ฉันเป็นเจ้าของบ้าน ”

  คำตอบนี้แทบจะเป็นบทสรุป   ของการวางโต ของผู้ชายคนนี้

“ ไม่แฟร์ เลย ”

“ ทำไงได้ละ ฉันเป็นเจ้าของบ้าน ถ้าไม่พอใจก็กลับไปสิ ”

คราวนี้ฉันมองหน้าเขาตรง ๆ เลยละ

“ เป็นพี่ยัยดาราจริง ๆ หรือเปล่านี่ หรือเป็นเด็กที่ป๋าเก็บมาเลี้ยง นิสัยถึงได้ต่างจากพี่น้องคนอื่น ๆ ที่ฉันเคยรู้จัก ”

เขามองหน้าฉันนิ่งนานทีเดียวละ สงสัยจะโกรธด้วยแฮะ แต่ฉันไม่สนหรอก

ก็ท่าทางนายมัน ใจดำ ผ่าเหล่าผ่ากอจริง ๆ นี่นา

“ ขับเรือเป็นไหม ? ” เขาถาม

ฉันงงนะที่จู่ ๆ เขาก็ถามไปคนละเรื่องเลย แทนที่จะตอบโต้คำพูดฉัน

“ ไม่ ”

“ วันหลังจะสอนให้ เผื่อทนไม่ไหวจะได้ขับกลับเอง ฉันไม่ไปส่งหรอก ”

อ้อ ... คำตอบอยู่ตรงนี้เอง เล่นกับฉันสิ

“ ไม่ต้องหรอก ไม่อยากขับเป็น ”

“ ทำไม ”

ฉันมองหน้าเขาตรง ๆ เป็นไงเป็นกันสิ พี่เพื่อน ก็พี่เพื่อนเถอะวะ

“ จะอยู่ที่นี่นาน ๆ จนบางคนกระอักเลือดไปเลยนะสิ ”
เขามองเขม็งเลยละ

“ ยัยดาอุตส่าห์เตือนฉันแล้วนะว่า อย่าถือ เพื่อนบ้า ๆ บอๆ คนนี้ของมัน แต่ฉันก็เจอคนท้าไม่ได้เสียด้วยสิ ก็เอา... ดูใครมันจะทนกว่ากัน ”

ฉันอยากจะคิดว่า ฉันเป็นฝ่ายชนะ ในยกแรก เพราะเขาเป็นฝ่ายเดินหนีฉันไปก่อน

แต่กฎข้อหนึ่งของการทะเลาะก็คือ คุณจะชนะ ถ้าทำให้อีกฝ่ายหัวเสียได้มากกว่า

 

ถ้าฉันแต่งนวนิยายแฟนตาซี อย่างน้อยนายนี่ต้องเป็นมังกร เป็นทรราช เป็นคนเถื่อน เป็นเบ๊ เป็นกิ้งกือ เป็นหนอน เป็นปีศาจ เป็น... เป็น ... เป็น ....แล้วก็ต้องถูกยิงตาย ไม่ถูกเชือดคอดีกว่า รึว่าจะต้องกระโดดตึกตาย เพราะอกหัก ถูกประหารชีวิตโดยการเอาผลไม้ขว้าง ฉันไม่ชอบผู้ชายที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิง เขาเป็นพี่แกได้ไงวะยัยดารา แล้วอย่างนี้มันจะต่างคนต่างอยู่ได้เหรอ ..เกลียด ... เกลียด ... เกลียด ... เกลียด ... เกลียด ...เข้าไส้เลย ... จะเขียนอะไรต่อไปละทีนี้

 

นี่ ... ฉันไม่ได้หัวเสียนะ ตอนนี้ ฉันกำลังฝึกเขียนอย่างที่เขาเรียกว่า free writing อยู่ต่างหาก

คิดอะไรได้ก็เขียนลงไป ไม่ต้องปรุงแต่ง

 


ฟีลิปดา

 

©  ลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย โดย ฟีลิปดา
ติดต่อ  philipda@forwriter.com

 

 


 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง
 

 

ดั่งไฟรัก

 

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์
 

 


2009 free writing
 

 

 

http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.