นักรบคู่แผ่นดิน
บทที่ ๗
เจตนารมณ์ฟ้า
ขณะที่พระยาจันทร์และพวกทั้งสามกำลังก้าวขึ้นม้าอยู่นั้น ขุนทวยเทพพลันพุ่งออกที่ข้างทางเข้าประชิดข้างตัวม้าของพระยาจันทร์ พระยาจันทร์หาล่วงรู้ถึงภยันตรายไม่ กลับเป็นม้าคู่ขาที่มีปฎิกริยาก่อน ม้ายกขาหน้าทั้งสองขึ้นด้วยความตื่นกลัว พระยาจันทร์ทรงตัวไม่มั่นคงพลัดตกจากหลังม้าในบัดดล เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกระทันหันเกินไป กระทั่งปืนสั้นพระยาจันทร์ก็ไม่สามารถที่จะชักออกมาได้ทัน
ส่วนพวกสามคนที่เหลือขณะกำลังเหลียวมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทัพใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีประชิดเข้าสู่ม้าคู่ขาของไอ้อ้วน จากนั้นปาดมีดสั้นใส่ช่วงตะโพกของม้า ม้าของไอ้อ้วนตกใจพุ่งทะยานไปเบื้องหน้า ทำให้ไอ้อ้วนไม่สามารถบังคับม้าให้หยุดได้ในบัดดล ขณะที่อีกสองคนที่เหลือต่างงงงวยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทัพพาลชักปืนสั้นกระบอกโปรดออกพร้อมกับยิงใส่หมื่นเมฆในระยะประชิด ไม่ต้องบอกก็ทราบผลได้ หมื่นเมฆเป็นเพียงแค่ชนชั้นมันสมอง หาใช่นักรบไม่ ดังนั้นไม่ทันมีปฏิกริยาใด ก็โดนลูกปืนของทัพเจาะเข้าที่ทัดดอกไม้ซ้ายทะลุไปทางขวาล้มลงจากม้า ตายในทันที
พันชิดพลันสติแจ่มใส่รู้ว่าต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากยมฑูตที่มาเยือนนี้ให้ได้ พลันชักปืนสั้นจอยิงทัพในระยะหนึ่งวา ทัพพลันขยับตัวเหมือนรู้ล่วงหน้า ขณะที่พันชิดยิงปืนออกไปนั้น ทัพก็กลิ้งตัวรอดท้องม้าของพันชิดไป เมื่อหมดกระสุนลูกแรกไป พันชิดไม่ทันบรรจุกระสุนใหม่ พลันคว้ากระบองจากข้างโกลนม้าออกมากระโดนลงจากม้ายืนประจันหน้ากับทัพแบบตัวต่อตัว ตอนนี้ในใจของพันชิดรู้ว่าต่อให้เรียกผู้คนมาก็ไม่ทันการณ์จำต้องจัดการทัพด้วยตัวเองเท่านั้น
ส่วนพระยาจันทร์เมื่อตกลงจากหลังม้าพลันกระโดดปราดขึ้นอย่างรวดเร็ว มือคว้าดาบที่เก็บไว้ข้างเอวอย่างอัตโนมัติ สายตาจับจ้องมองผู้ที่มาเยือนยามวิกาลผู้นี้อย่างปองร้าย
ขุนทวยเทพเห็นพะยาจันทร์จ้องมองตน จึงปลดผ้าปิดปากลง เมื่อพระยาจันทร์เห็นเป็นขุนทวยเทพพลันหน้าซีดเผือดลงทราบว่าเหตุการณ์ระเบิดในเมืองที่เกิดขึ้นคงเป็นฝีมือขุนทวยเทพแน่แท้ ป่ากพลันกล่าวว่า "ยังคงเป็นพี่เทพที่เก่งกาจกว่าข้าเสมอทุกคราไป"
ขุนทวยเทพแบะปาก กล่าวว่า "ต่อให้เอ็งวางแผนไว้เลอเลิศปานใด สวรรค์ก็คงไม่เห็นใจคนอย่างเอ็งดอกไอ้จันทร์"
พระยาจันทร์เงยหน้ามองดูจันทร์เต็มดวงซึ่งสกาวอยู่บนฟากฟ้า กล่าวด้วยอารมณ์ความรู้สึกว่า "พี่เทพ คืนนี้คงเป็นคืนตัดสินระหว่างพี่กับข้า ข้าหวังว่าพี่คงเก่งกาจกว่าคราก่อน มิเช่นนั้นพี่เทพคงต้องเป็นซากศพฝังสังขารอยู่ที่นี่เป็นแน่แท้"
ขุนทวยเทพ มองหน้าพระยาจันทร์ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง จากนั้นพลันกล่าว "ชะตาฟ้าลิขิต เอ็งก็รู้ถึงข้อนี้เป็นอย่างดี วันนี้ข้าขอทำตามเจตนารมณ์ของฟ้า ดูว่าฟ้าจะให้ข้าหรือเอ็งได้ไปนรกก่อนกัน"
พระยาจันทร์ไม่รอให้ขุนทวยเทพพูดจบ พลันหมุนย่อตัวลงกวาดดาบเสมอหัวเข่าใส่ขุนทวยเทพ ขุนทวยเทพพลันถอยหลังครึ่งก้าว จากนั้นคว้าดาบหยกมรกตออกจากฝัก วาดดาบจากบนลงล่างหมายฟันศีรษะของพระยาจันทร์ให้ผ่าสองซีก พระยาจันทร์แสดงถึงความเป็นยอดคนยอดฝีมือ เมื่อเห็นดังนั้นพลันกลิ้งตัวเข้าหาขุนทวยเทพพร้อมกับกวาดดาบเป็นกงล้อนรกหมายฟันขาขุนทวยเทพให้ขาดไป ขุนทวยเทพมองอย่างเหยียดหยาม จากนั้นกระโดดข้ามพระยาจันทร์ไป เมื่อเท้าแตะพื้นขุนทวยเทพพลันใช้ฝักดาบเป็นแกนกดลงที่พื้นจากนั้นลอยตัวกลับข้ามพระยาจันทร์ไปเปลี่ยนเป็นหัวอยู่ล่างเท้าอยู่บน พระยาจันทร์เมื่อหยุดกลิ้งตัว เมื่อจะกลับหน้ามาเผชิญหน้ากับขุนทวยเทพ พลันพบว่ามีพลังดาบกดทับลงมาจากเบื้องบน เมื่อเงยหน้าขึ้นไปนั้นก็เป็นเวลาพอดีกับที่ดาบหยกมรกตทิ่มแทงใส่หน้าผากพอดิบพอดี กระทั่งโอกาสร้องขอชีวิตยังไม่มี พระยาจันทร์พลันล้มลงขาดใจตายในทันที
ทางด้านของทัพกับพันชิดนั้น พันชิดได้เปรียบกว่าทัพที่เป็นอาวุธยาวกว่าในตอนแรก ตอนนี้อยู่ในสภาพประจันหน้ากัน ทัพพลันสาดประกายตาเจิดจ้าครอบคลุมใส่พันชิด
พันชิดพลันหัวเราะฮ่าฮ่าฮ่า กล่าวว่า "ตอนแรกยังนึกว่าเป็นคนดีมีฝีมือ ที่แท้ก็แค่เด็กคนหนึ่งเพียงแค่นั้นหรอกรึ"
ทัพพลันปลดไซ(อาวุธชนิดหนึ่ง มีสามง่ามใช้เป็นคู่)ออกมากระชับอยู่ในมือ กล่าวว่า "กระทั่งศัตรูเอ็งยังดูถูก ไม่ประเมินฝีมือให้ดี ต่อให้วันนี้เอ็งรอดจากเงื้อมมือข้าไปได้ วันหน้าก็ยังคงเป็นศพในสมรภูมิรบอยู่ดี มิสู้วันนี้มาตายด้วยน้ำมือข้าไม่ดีกว่ารึ"
พันชิดโมโหสุดเปรียบปาน ตวาดว่า "สามหาว" พร้อมกับสะบัดกระบองพุ่งทิ่มใส่ทัพด้วยความเร็วที่ยากจะมองออกได้ ทัพก็เป็นคนดีมีฝีมือ เมื่อจับทางพันชิดออกแล้วนั่นย่อมหมายถึงหาทางเอาชนะได้ด้วย เมื่อกระบองเกือบมาถึงตัว ทัพพลันก้าวเฉียงๆไปทางขวาด้วยความเร็วที่เร็วยิ่งกว่าพันชิด จากนั้นควงไซเป็นวงกลมหลายรอบ เพิ่มประสิทธิภาพในการทิ่มแทง เมื่อสะสมพลังเต็มที่ทัพพลันพุ่งไซทิ่งเข้าใส่ทรวงอกด้วยความรวดเร็วดุจดาวตก พันชิดไม่สามารถวกอาวุธกลับมาคุ้มครองตัวเองได้ทัน เพราะกระบองเหมาะสำหรับโจมตีไม่เหมาะสำหรับป้องกัน ได้แต่ลืมตามองดูอาวุธศัตรูทิ่มทะลุทรวงอกเข้ามา เมื่อไซจมเข้าทรวงอกไปได้ประมาณ หนึ่งนิ้ว ไม่ทันที่พันชิดจะอ้าปากร้อง ขุนทวยเทพก็ใช้ดาบมรกตตัดศีรษะของพันชิดลงมาก่อนตายในทันที
ไอ้อ้วนเหลียวมาเห็นว่าเหตุการณ์ยากแก้ไขขณะที่กำลังจะควบม้าหนีนั้น ทัพพลันชักปืนอีกกระบอกจากข้างเอวเหนี่ยวไกทันที กระสุนทะลุอกไอ้อ้วนตกจากหลังม้าขาดใจตายในบัดดล
เมื่อนั้นขุนทวยเทพกล่าวกับทัพด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า "เวลานี้ไม่ไปยังจะรอเวลาไหนรึ" กล่าวจบพุ่งหายไปในรัตติกาลก่อนที่ทัพจะพุ่งตัวตามจากไป
kawklai
© ลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย โดย kawklai
|
|