นักรบคู่แผ่นดิน
บทที่ ๕
มิตรเก่าในต่างแดน
ทัพและขุนทวยเทพหลังจากออกจากร้านอาหารแล้วจึงปรึกษากันว่าจะเปลี่ยนแผนการ โดยจะเปลี่ยนเป็นลอบสังหารพระยาจันทร์แทนปฏิบัติการเดิม เพราะเห็นว่า พระยาจันทร์เป็นนกสองหัว (คนที่ไม่มีความจริงใจ ทำตัวเข้ากับสองทัพที่ทำสงครามกัน) ไม่ควรปล่อยเอาไว้ มิเช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อแผ่นดินอโยธยา
ตกเย็นขณะที่ทัพและขุนทวยเทพลอบออกนอกเมืองนั้น ได้เห็นว่าพระยาจันทร์ระดมทหารหลายร้อยนายค้นหาตัวของตนและลูก จึงเชื่อว่าพระยาจันทร์เริ่มปฏิบัติการล่าสังหารเขาแล้ว ขุนทวยเทพขณะจะออกนอกเมืองนั้น นายด่านที่ตรวจสอบคนเข้าเมืองพลันตวาดใส่สองพ่อลูก กล่าวว่า "ไอ้ทั้งสอง เอ็งจะออกเมืองไปยังที่ใด เวลามืดค่ำเช่นนี้"
ทัพไม่ตอบคำ นั่นหมายความว่าเขาให้ขุนทวยเทพเป็นคนตัดสินใจในเหตุการณ์ครั้งนี้ ขุนทวยเทพกัดฟันกรอด คิดว่าหากแม้นถูกจับได้ที่นี่ แม้นว่าเก่งเทียมฟ้าก็อย่าหวังว่าจะรอดชีวิตไปจากเมืองตากได้ คิดส่วนคิด ปากกล่าวว่า "ข้าสองคนจะออกไปเก็บสมุนไพรสักหน่อย" กล่าวจบพลันเงยหน้ามอง ในการมองครั้งนี้ ทำให้นายทหารคนนั้นถึงกับสะดุ้ง ฉุดลากขุนทวยเทพออกไปคุยกันสองต่อสอง ปล่อยให้ทัพยืนงงงวยอยู่กับที่
นายด่านกล่าวเสียงสั่นเครือว่า "พี่เทพ นี่ท่านยังมีชีวิตอยู่อีกหรือขอรับ กระผมพอได้ข่าวว่าพี่เทพเป็นกบฏ ก็คิดในใจว่าพี่เทพคงไม่รอดแน่แล้ว"
ขุนทวยเทพยิ้มพลางกล่าวว่า "ข้าไม่ตายง่ายๆหรอกไอ้ราม (ต่อมาได้เป็นพระรามเดโช คุมเมืองฝ่ายเหนือในเขตแดนตอนเหนือ) ว่าแต่เอ็งเหอะ เหตุอันใดจึงมาอยู่ ณ ที่นี้รึ"
รามฝืนยิ้มพลางกล่าวว่า "โธ่พี่ เมื่อสมัยข้าอยู่ที่พระนคร ก็ได้พี่คอยช่วยเหลือจุเจือ เมื่อขาดพี่ไปข้าก็ได้แต่กลับมาถิ่นฐานเดิม ดีที่ข้ายังเคยเป็นทหารเก่ามาก่อน พอมาที่นี่ ก็เลยได้สังกัดนายตรวจที่ด่านเข้าเมืองนี่แหละ"
ขุนทวยเทพ รีบกล่าวว่า "ถือว่าเอ็งได้ดิบได้ดีก็แล้วกัน แต่ข้าเสียดายฝีมือการพุ่งรบของเอ็งว่ะ"
รามรีบกล่าวว่า "พี่เทพพูดเยี่ยงนี้ใช่หมายความว่า พี่มีงานให้ข้าทำหรือ"
ขุนทวยเทพจึงบอกเล่าเรื่องของพระยาจันทร์รวมทั้งการยกทัพมาเมืองอโยธยาขอพม่าให้กับรามได้ทราบ รามพอฟังแล้วถึงกับหน้าซีดเผือก เพราะทราบว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จริงๆ ตนเองซึ่งเป็นนายด่านคงโดนประณามว่าเป็นคนขายชาติด้วยเป็นแน่แท้ ดังนั้นจึงตัดสินใจกล่าวกับขุนทวยเทพว่า "พี่เทพ ข้าขอกล่าวตรงๆ หากพี่มีงานให้ข้าทำ ถือว่าข้าโชคดีมากแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ ข้าไม่ต้องการถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติ"
ขุนทวยเทพโอบไหล่ของราม กล่าวว่า "จิตใจของคนเราให้ดูที่อุดมการณ์ หากแม้นคนมีอุดมการณ์ที่ดียังกลัวว่าฟ้าจะไรปราณีรึ จงเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองคิดว่าถูก อย่ายอมให้สิ่งเล็กๆน้อยๆมาเปลี่ยนอุดมการณ์ที่ดีของเราได้ วันนี้ถือว่าเราสองคนมีดวงรวมกัน หลังจากที่ข้าออกนอกเมืองไปแล้ว จะลอบเข้ามาสังหารพระยาจันทร์ เอ็งมีความเห็นอย่างไร"
รามยิ้มอย่างมั่นใจ แล้วกล่าวว่า "ดำเนินกลยุทธ์ ต้องมีทั้งนอกและใน ในเมื่อพี่เทพดำเนินแผนการด้านในแล้ว ให้ข้าดำเนินแผนการด้านนอกเป็นอย่างไร"
ขุนทวยเทพ กล่าวอย่างมึนงงสงสัยว่า "แผนการด้านนอกคืออย่างไร แล้วเอ็งคนเดียวจะปฏิบัติงานได้รึ"
รามกล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า "พี่เทพอย่าลืมว่าข้ายังมีพวกพ้องเดิมที่เคยรวมรบกับพี่เทพอยู่ อย่างไรทุกคนก็อยากร่วมรบกับพี่เทพอีกครั้ง" จากนั้นกล่าวบอกแผนการคร่าวๆว่าตนจะสร้างความวุ่นวายให้ในขณะที่ขุนทวยเทพลงมือปฏิบัติการเพื่อดึงดูดความสนใจกับทหารที่เฝ้าเวรยามในขณะนั้น
หลังจากนัดแนะเวลาลงมือและเวลานัดพบหลังจากปฏิบัติภาระกิจแล้วทั้งสามก็แยกย้ายกันออกไปเตรียมตัวเพื่อปฏิบัติการในตอนค่ำ ก่อนหน้านี้ใครจะรู้ว่าเหตุการณ์จะลงเอยด้วยการลอบสังหารพระยาจันทร์เช่นนี้
kawklai
© ลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย โดย kawklai
|
|