Fantasy Fiction : นวนิยายมหัศจรรย์
เป็นนวนิยายที่จินตนาการจากโลกที่คิดขึ้นเอง สิ่งทีมีอยู่และสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ หรือมนุษยชาติอื่น ๆ รวมทั้งสิ่งแวดล้อมรอบตัว จะไม่เป็นไปตามปกติ จะเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ อภินิหาร และปาฏิหาริย์ เปี่ยมไปด้วยความน่าพิศวง และความปรารถนาที่จะเอาชนะ จะเชื่อในกฎที่ตั้งสมมุติขึ้นมากกว่าเหตุผล และเวทมนตร์คาถาจะมาแทนที่ความสมเหตุสมผลของธรรมชาติ
ประเภทของนวนิยายแฟนตาซี
fairly tale : เป็นเรื่องที่เราคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก ประเภทเทพนิยายต่าง ๆ มีนางฟ้า พ่อมด แม่มด คำสาป เวทมนตร์ ต่าง ๆ เช่นซิลเดอเรลลา
อลิซในแดนมหัศจรรย์
high fantasy : เป็นเรื่องที่เกิดมานานและห่างไกลจากปัจจุบันมาก อาจจะใช้ช่วงเวลาหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก อาจเป็นเรื่องของตำนานวีรบุรุษผู้กล้าที่ท้าทายอำนาจของขุนนางผู้ปกครอง การต่อสู้จากการถูกบีบบังคับ หรือการต่อสู้ระหว่างความชั่วกับความดี เต็มไปด้วยปาฏิหาริย์ เวทมนตร์ และมนุษยชาติที่แตกต่างกันไป รวมทั้งพวกคนแคระ พวกเทวดาตัวน้อย เช่น เรื่องThe lord of the ring
adventure fantasy : การผจญภัยของฮีโร่ ที่ต้องผ่านความยากลำบาก โดยมีคณะผู้ติดตามที่สับสนปนเป อลหม่าน ฮีโร่จะมีลักษณะซื่อสัตย์กล้าหาญ ยอมพลีชีพเพื่อผู้ที่อ่อนแอกว่า
urban fantasy : เป็นเรื่องที่เกิดในปัจจุบัน อาจจะอยู่ในหมู่บ้าน ตามชนบท หรือในเมืองเล็ก ๆ แต่ยังมีเรื่องมหัศจรรย์ อันเกิดจากแรงอธิษฐาน การดลบันดาลให้เกิดขึ้นจากพระเจ้า
dark fantasy : เป็นเรื่องที่วนเวียนอยู่กับแก่นของประวัติศาสตร์ของความน่ากลัวและเรื่องแต่งสมัยกอธิครวมไปถึงเรื่องราวของสัตว์ประหลาดตัวโตดุร้ายและเรื่องผี ๆ คำถามบ่อยครั้งเกี่ยวกับการสิ้นสุดของความตาย คนและสัตว์แฟนตาซีจะชั่วร้ายจนถึงแก่น ความชั่วร้ายปรากฏตั้งแต่ต้น โดยปกติจะหลังจากการบอกย่อ ๆ ในตอนเปิดฉากอย่างเงียบ ๆ ความชั่วร้ายจะบังเกิดอย่างแรงกล้าขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อดำเนินเรื่องต่อไป บ่อยครั้งที่โครงเรื่องจะมีจุดสำคัญบนปัญหาที่ลึกลับของสิ่งที่ถูกทำให้ผิดพลาดจากบางคนเนื่องจากความเข้าใจผิด หรือจากคำแนะนำผิด ๆ และถูกค้นพบวิธีการที่สามารถทำให้ถูกต้องหรือสร้างความเคารพยำเกรงได้ในตอนหลัง
science fantasy : เป็นการผสมอย่างเป็นพิเศษที่มีทั้งเวทมนตร์และวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์อาจเป็นเครื่องมือที่กระตุ้นทำให้เกิดเวทมนตร์ หรือคนที่ได้ผ่านการทดลองทางฟิสิกส์ ก่อให้เกิดพลังจิตอย่างแก่กล้า จนเหมือนกับมีอำนาจก่อให้เกิดเวทมนตร์
( การแบ่งประเภทขึ้นอยู่กับความเห็นของแต่ละคนไม่มีกฎตายตัว )
การเขียนนวนิยายแฟนตาซี ต้องรู้อะไรเป็นพิเศษบ้าง ?
จุดเด่นในการที่ทำให้หนังสือแฟนตาซีแตกต่างจากหนังสืออื่น ๆ ที่เห็นได้ชัดมีอยู่ 3 อย่างคือ
- เรื่องเกี่ยวกับผู้วิเศษมีเวทมนตร์อภินิหาร และตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา
- โลกที่สอง หรือที่เรียกว่าโลกที่สร้างขึ้นใหม่จากจินตนาการ
- ผู้วิเศษ เทวดา ปิศาจ หรือมนุษยชาติ ทั้งคนและสัตว์ที่มีรูปร่างแปลก ๆ แตกต่างไปตามเผ่าพันธุ์ที่คิดขึ้นได้
ดังนั้นสิ่งที่นักเขียนควรจะรู้นอกจากวิธีการเขียนนวนิยายโดยทั่วไปแล้ว ยังต้อง
- รู้เกี่ยวกับการสร้างโลกที่สอง ( คลิก)
- เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี การดำเนินชีวิต ฯลฯของโลก ในยุคต่าง ๆ
- เรียนรู้ประวัติศาสตร์การปกครอง ชนชั้น ของคนในยุคต่าง ๆ ( โดยเฉพาะโลกยุคกลาง มักจะถูกนำมาเขียนถึงบ่อย ๆ )
- เรียนรู้ถึงเรื่องเวทมนตร์ การใช้เวทมนตร์ เครื่องมือในการทำให้เกิดเวทมนตร์ ผู้ใช้เวทมนตร์ และเรื่องราวเกี่ยวกับแม่มด มนตร์ดำ คำสาป ตามความเชื่อที่มียุคต่าง ๆ ซึ่งอาจจะหาอ่านได้หนังสือพวกเทพนิยายต่าง ๆ หรือพวกตำนานเรื่องราวเกี่ยวกับ Greek mythology, Egyptian mythology roman mythology, Norse and Germane mythology, Far eastern mythology ( คุณจะได้พบกับตำนานเทพเจ้า และความเชื่อต่าง ๆ รวมทั้งสัตว์ในเทพนิยายด้วย อ่านแล้วจะได้ไอเดียทั้งในการสร้างพล็อตและตัวละคร )
- เรียนรู้เกี่ยวกับตัวละครต่าง ๆ ที่มักจะมีในเรื่องของแฟนตาซีเท่านั้น ( ตัวละครคุณอาจจจะจินตนาการขึ้นมาเองก็ได้ แต่รู้เอาไว้ในสิ่งที่มีในความเชื่อของผู้คนก็จะดี ) เช่น คนแคระ , รุกขเทวดา , สัตว์ตามเทพนิยาย เช่นยูนิคอร์น , ปีกาซัส , ฟีนิกส์ , ผี ฯลฯ
องค์ประกอบของนวนิยายแฟนตาซี
Theme
High Fantacy โดยมากมักจะเป็นเรื่องของความดีเอาชนะความชั่ว , ความเสียสละ , ความกล้าหาญ , ความปรารถนา , การผจญภัย , การอดทนต่อความยากลำบาก หรือเป็นตำนานความกล้าหาญของวีรบุรุษหรืออัศวินนักรบโบราณ ฯลฯ
Dark fantasy จะเน้นความระทึกขวัญ หวาดผวา ฝันร้ายต่าง ๆ มักจะกล่าวถึงพวกแวมไพร์ หมาป่า ผีดูดเลือด ผีดิบ สัตว์ประหลาดตัวโตชั่วร้าย หรือพวกสัตว์์ร้าย ปีศาจคืนชีพต่าง ๆ
Real magic เน้นถึงแรงอธิษฐาน ความศรัทธา , ความปรารถนา ที่เป็นจริงได้ ( นึกถึงแรงอธิษฐานที่เป็นจริงในวันคริสมาสต์ คำอธิษฐานที่เป็นจริงของเด็ก ๆ )
Time travel การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ข้ามมิติ หรือ ไปยังโลกอื่น ๆ
Plot
ถ้าเป็นโครงเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัย จะเริ่มที่
การอยู่ในถินเดิมของฮีโร่ ( ซึ่งในตอนแรกมักจะมีลักษณะอ่อนแอ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง หรือขาดความรับผิดชอบ)
มีอันจำเป็นต้องจากถิ่นเดิม ( ต้องการผจญภัย หรือต้องหลบหนีอะไรสักอย่าง )
พบผู้ช่วยที่แปลกแตกต่างออกไป ร่วมกันเดินทางไปในที่ทุรกันดารสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายสุด ๆ
เจอกับผู้วิเศษที่มักจะบอกว่า เขาคือผู้ที่ถูกเลือก (เพื่อปกป้องโลก หรือค้นพบสิ่งวิเศษที่ต้านทานอำนาจชั่วร้ายได้ )
ฝึกฝนทุกอย่างเพื่อความเป็นฮีโร่
นำตัวเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหญิงที่ถูกคนชั่วร้ายลักพาไป หรือ ช่วยผู้คนในเมืองให้หลุดพ้นจากอำนาจผู้ปกครองที่ชั่วร้ายเป็นปีศาจ
ได้รับความผิดหวังล้มเหลว อันเนื่องมาจากการถูกหลอกลวง ( ให้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ในถ้ำหรือที่คุมขังที่ใดที่หนึ่ง เกิดความผิดหวังและท้อแท้ หรือได้รับอันตรายจากการลุ่มหลงในเสน่ห์สตรีเพศของฝ่ายตรงข้าม )
เพื่อน หรือผู้ติดตามตกอยู่ในอันตรายหรือถูกฆ่าตาย หรือถูกทำให้ได้รับความอับอาย
ฮีโร่ฟื้นตัว ค้นพบพลังของตัวเอง
ต่อสู้กับคนชั่วร้าย ได้รับชัยชนะในที่สุด
ถ้าเป็นเรื่องระทึกขวัญก็มักจะเริ่มที่
- ตัวละครได้รับมรดกเป็นปราสาทเก่าแก่ที่ชนบท เขาเดินทางไปที่นั่น( คนเดียว หรือคณะเพื่อน)และได้พบกับเรื่องสยองขวัญ เช่นมนุษย์หมาป่า ผีดูดเลือด ( ถ้าไปคนเดียวมักจะติดเชื้อร้ายกลับเข้ามาในเมืองที่เขาอยู่เพื่อทำร้ายคนอื่น ๆ จนกระทั่งมีคนสามารถปราบเขาได้ แต่ถ้าไปกันหลายคน เพื่อน ๆ มักจะถูกฆ่าตายเหลือเพียงเขากับใครอีกคน ที่สามารถหาวิธีทำลายมนุษย์หมาป่า หรือผีดูดเลือดได้ )
- ตัวละครได้รับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่นคัมภีร์ปลุกวิญญาณ เขาไม่เชื่อถือในตอนแรก แต่ทนความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ จึงทำในสิ่งที่คัมภีร์นั้นบอก สิ่งชั่วร้ายก็กลับฟื้นมีชีวิต ( เช่นมัมมี่ ปีศาจร้าย สัตว์ในตำนาน ซึ่งตอนแรกอาจจะเป็นเพียงรูปปั้น) จากนั้นก็ตามมาด้วยความตาย เขาจึงต้องหาวิธีที่จะกำจัดมัน แต่ผู้ที่เขาจะไปขอความช่วยเหลือ เช่นนักโบราณคดี หรือศาสตราจารย์แก่ ๆ ทั้งหลายมักจะถูกปีศาจชิงฆ่าตัดหน้าเสียก่อน แต่ในที่สุดเขาก็หาวิธีกำจัดมันจนได้ ( เอากับเขาสิ )
ถ้าเป็นเรื่องอัศจรรย์ ตามแรงอธิษฐานจะเริ่มที่
- ตัวละครที่ศรัทธา หรือ ไม่ศรัทธาในเรื่องมหัศจรรย์ แต่เมื่อเขาได้รับความทุกข์ เช่นคนในครอบครัวจะตาย ทำให้เขาลองที่จะอธิษฐาน และก็ได้ตามนั้น
- แรงอธิษฐานของเด็ก ๆ ที่อยากได้ หรือไปสู่ในที่อื่น ๆ ได้รับการตอบรับจากผู้เป็นเจ้า
Character
ต้องขอบอกว่านอกจากเวทมนตร์แล้ว ก็เป็น ตัวละครนี่แหละที่เป็นสิ่งี้บ่งชี้ให้เห็นได้ดีที่สุดว่ามันมีความเป็นแฟนตาซีเพียงใด ในที่นี้เราจะไม่พูดถึงตัวละครธรรมดา ๆ ที่เหมือนคนปกติในนวนิยายแฟนตาซีธรรมดาๆ แต่จะกล่าวถึงตัวละครในนวนิยายแฟนตาซีชั้นสูง ซึ่งมักจะมีตัวละครที่แสดงบทบาทเป็น
- ฮีโร่ วีรสตรี เจ้าชาย เจ้าหญิง ขุนนาง กษัตริย์ ราชินี
- ที่ปรึกษา ผู้พิทักษ์ ( อยู่ในรูปผู้วิเศษ พระ พ่อมดดี เทวดา )
- ตัวร้าย
- ผู้ส่งสาร
- พันธมิตร
ซึ่งตัวละครเหล่านี้อาจจะอยู่ในรูปแบบของคนธรรมดา หรือ มนุษยชาติที่คล้ายคน หรือเป็นพวกสัตว์ในเทพนิทานต่าง ๆ หรือจะเป็นสิ่งที่เราจินตนาการขึ้นมาเองก็ได้ แต่อย่าลืมสิ่งสำคัญที่ว่า ไม่ว่าตัวละครจะออกมาในรูปแบบใดสิ่งที่มันทำ สิ่งที่มันคิด ย่อมวนเวียนอยู่กับแรงจูงใจ และเป้าหมาย เช่นเดียวกับตัวละครในนวนิยายประเภทอื่น ๆ
ข้อแนะนำในการสร้างตัวละครแปลก ๆ
- ออกแบบสถานที่ที่มนุษยชาตินั่นมีผลต่อการ ดำรงอยู่ พัฒนา เติบโต ลงรายละเอียดในสิ่งที่พวกนี้ต้องการ ต้องทำ รับรู้ ในสิ่งที่มีผลกระทบต่อเขา
- ทำความเข้าใจและเล่นกับตัวละครพวกนี้ให้สนุกคิด เอากลับหัวโยนไปโยนมาแล้ว คิดให้มันสุด ๆไปเลย มีอะไรอยู่ในหัวคุณใส่ลงไปให้หมด ( วาดรูปประกอบด้วยยิ่งดี )
- อย่าทำให้พวกตัวละครของคุณแข็งทื่อเป็นมนุษย์หินเสียหมด (ถ้าไม่มีเหตุผลจริงจังที่มันต้องเป็นอย่างนั้น )
- เตรียมในสิ่งที่เขาต้องกิน ดื่ม แต่งกาย หรือสิ่งที่จำเป็นอื่น ๆ ที่ต้องมีเพื่อการดำรงอยู่
- ลักษณะพิเศษของวัฒนธรรม พฤติกรรม หรือนิสัยติดตัวที่ต้องมีเพื่อเสริมจุดเด่นในตัวมันเอง
TOP
Setting
ในนวนิยายแฟนตาซี เรื่องสามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง
- โลกที่เป็นจริง ในปัจจุบัน หรือในอดีต( โดยมากจะใช้โลกยุคกลาง )
- โลกที่เสมือนโลกที่เป็นอยู่ ( โลกที่คล้ายคลึงโลกที่เป็นอยู่ ให้คนอ่านเกิดความคุ้นเคยและจินตนาการได้ง่าย )
- โลกที่แตกต่างกันไปสุด ๆ ( ดาวเคราะห์อื่น ใต้น้ำ ใต้พิภพ )
- สถานที่เล็กย่อยลงมา เช่น เมืองเล็ก ๆ หมู่บ้านในชนบท ปราสาทเก่าแก่
การที่จะเลือกให้เรื่องเกิดขึ้นที่ไหน กว้างใหญ่ หรือแตกต่างกันเพียงใด จะเชื่อมโยงไปที่พล็อตเรื่อง เพราะถ้าเลือกให้มีขนาดใหญ่เท่าใด รายละเอียดเกี่ยวกับ คนหรือสัตว์ หรือมนุษยชาติอื่น ๆรวมถึงสังคมและศาสนา ก็จะยิ่งมีความมากมายแตกต่างกันไปมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเลือกให้เป็นสถานที่เล็กกว่า พล็อตเรื่องหรือตัวละคร ก็ไม่จำเป็นจะต้องมีมากมายได้
สิ่งที่ควรเข้าใจในการสร้างฉากสถานที่ก็คือ อย่าโถมทุกอย่างลงไปมากเกินไป จงเลือกแต่สิ่งที่น่าสนใจและมีผลกระทบต่อเหตุการณ์ หรือทำให้พล็อตก้าวหน้าเท่านั้น
ข้อสังเกตในเขียนนวนิยายแฟนตาซี
การสร้างตัวละครเอก
ตัวละครเอกในตอนแรกมักจะเป็น ผู้สูญเสียไม่มีเป้าหมาย ขี้อาย ขี้ขลาด มีความละอายใจ ป่วย ขี้เกียจ หรืออะไรก็ได้ทำนองนั้น
การสร้างบางอย่างเพื่อสืบหา
เนื่องมาจากความหดหู่เหี่ยวแห้ง ผู้สูญเสียต้องถูกบอกเล่าอย่างทันทีทันใดในเรื่องโชคชะตาของโลกทั้งหมดหรือบางส่วนของโลกนี้ มันได้ตกอยู่ในอุ้งมือที่ไร้ความสามารถของเขา เพื่อรักษาโลกนี้ไว้ เขาต้องทำงานหนัก ในการฝึกฝนทักษะที่ลึกล้ำและอื่น ๆ มากมาย เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่รู้จัก
การสร้างกลุ่มที่สับสนวุ่นวาย
ผู้สูญเสีย หรือฮีโร่จะต้องมีกลุ่มที่ผสมปนเปกันไปจากคนที่แตกต่างกันโดยเฉพาะ เช่น คนแคระ เทวดาตัวเล็ก สมาชิกอื่น ๆ ฯลฯ แต่ละคนในกลุ่มจะต้องมีทักษะพิเศษอย่างหนึ่งเช่นการใช้ดาบ การใช้ห่วง ภาษาพิเศษ ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือส่วนหนึ่งในเรื่อง
การสร้างที่ปรึกษาที่ฉลาดแต่ไม่มีประโยชน์ที่จะนำทาง
มีคนนำทางที่ฉลาดให้ข้อแนะนำ ผู้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการสืบหา แต่ไม่เคยเปิดเผยให้เห็นอย่างเต็มที่ เขาปรากฏให้เห็นถึงความมีอำนาจอย่างยิ่งใหญ่ แต่จะไม่ใช้มันเมื่อพวกฮีโร่ตัองการเป็นอย่างมาก
การสร้างดินแดน
สิ่งแรกที่พวกที่มาอยู่ผสมปนเปกันนี้ต้องทำ คือการเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกลอันแปลกประหลาด ผ่านความแตกในเรื่องภูมิประเทศและภูมิอากาศ ดินแดนในแฟนตาซีทุกที่มีความเป็นไปได้จากทุก ๆ ภูมิอากาศและรูปแบบของผืนแผ่นดิน ภูเขา ทะเลทราย หนองบึง แม่น้ำน้ำแข็ง การจัดการอย่างสุ่มๆ ในการก้าวผ่านภูมิทัศน์ที่ตรงข้ามกันนี้ ต้องทำจากความรู้พื้นฐานของภูมิศาสตร์และนิเวศวิทยา
การสร้างศัตรู
ในทุก ๆ ดินแดนของแฟนตาซี ต้องมีศัตรูที่ชั่วร้าย และเกือบจะมีอำนาจทุกอย่าง
ตัวชั่วร้ายที่เต็มไปด้วยเล่ห์กระเทห์ คือคนที่พยายามทำลายล้างมันอย่างถึงที่สุด มันไม่ชัดเจนว่าตัวร้ายนี้จะได้รับผลประโยชน์อะไรจากการทำลายนี้ ตัวชั่วร้ายนี้มีกองทัพที่ยิ่งใหญ่มหึมา ที่ไม่เรียกร้องอาหาร ค่าตอบแทน หรือการจัดหาสิ่งอื่น ๆ และสามารถเดินทางเป็นพันไมล์และล้อมเมืองได้โดยปราศจากความต้องการในสิ่งบันเทิงใด ๆ เพราะเหตุนี้ี้ ศัตรูจึงมีคนรับใช้ที่สมบรูณ์แบบ
การสร้างความยาวให้กับเรื่องแฟนตาซี
สิ่งสำคัญเกี่ยวกับการบอกเล่าถึงความกล้าหาญในนวนิยายแฟนตาซีคือ คนอ่านต้องหมดแรงกว่าจะอ่านตอนจบ และรุ้สึกว่าเขาได้เอาชนะอุปสรรคมากมายตลอดทั้งเรื่อง เหมือนกับฮีโร่ที่ต้องเติมเต็มสิ่งค้นหา ดังนั้นหากต้องการให้หนังสือมีความยากลำบากต่อการอ่านเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้ทำอย่างนี้
- เล่าเรื่องในรายละเอียดที่ไม่น่าเชื่อถือ บรรยายถึงการเดินทางทุกวัน เขาเดินทางไกลเท่าไหร่ เขากินอะไร อากาศเป็นอย่างไร เขานอนที่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษ
- เติมทุกสถานการณ์ที่เกิดกระทันหันด้วยความยาวของการทบทวน ในทุกวินาทีของวิกฤตการณ์ฮีโร่ต้อง ทดสอบความรู้สึกของตนเองทุกนาทีของความรู้สึก การเข้าใจ ชื่อเสียง แม้ว่าเขาจะถูกทำลายด้วยไอพิษ หรืออื่น ๆ
- ไม่เคยใช้วิธีง่าย ๆ ในการออกไปจากวิกฤตการณ์ เป็นต้นว่า แม้พ่อมดจะให้อำนาจวิเศษแก่เขา เขาก็ไม่ใช้มันเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้
( อย่างว่าละ ถ้าเขาใช้ เรื่องมันคงจบลงง่าย ๆ )
ในเวลาเดียวกันคุณอาจจะทำวิธีนี้ถ้าอยากข้ามตอนที่ยุ่งยากไป แม้จะต้องการให้หนังสือมันยาว แต่ในบางส่วนมันก็ยากเกินกว่าจะเขียน การเดินเท้าเป็นพันไมล์นั้นยาว แต่เขียนได้ง่ายมาก
- การสู้รบ สำหรับบางคนนั้นยาก มันมีหลายอย่างที่ดำเนินไป คุณอาจจะต้องเรียนรู้กลยุทธ์ของกองทัพ เพื่อว่าคุณกำลังเขียนฉากการต่อสู้มันจะไม่้ยากเกินไปหากอยากจะข้ามตอนนี้โดย ทำให้ฮีโร่ได้รับบาดเจ็บและสติเลื่อนลอยไปสู่จิตใต้สำนึกจากนั้น ก็ให้ฮีโร่ก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในห้องที่โอ่โถงสบาย ผู้หญิงของเขานั่งอยู่ใกล้ ๆบอกเขาว่าการสู้รบได้จบลงแล้ว ทายดูสิ พวกเขาชนะ
การนำเข้าไปสู่กลียุคของการต่อสู้
แม้ว่าศัตรูจะมีอำนาจแห่งเวทมนตร์ จากเหตุผลบางอย่างเขาต้องพยายามเอาชนะคนดีด้วยแฟชั่นเก่าแก่ที่ดีเสมอคือ การต่อสู้กันด้วยมือ ไม่สำคัญว่าจะพ่อมด พระราชา พระราชินี ที่มีอำนาจวิเศษในมือ เขาจะจบมันลงด้วยการต่อสู้ไปรอบ ๆ ด้วยดาบเสมอ
การต้องเสียสละตัวละครให้ล้มตาย
- ผู้สูญเสียหรือฮีโร่ต้องบรรลุเป้าหมาย ได้รับอำนาจ ค้นพบความลับของตัวหนังสือ หรืออะไรก็ตามในเวลาสุดท้ายเท่าที่เป็นไปได้เท่านั้น เมื่อดูเหมือนทุกอย่างสูญเสียไปหมด การทำเช่นนี้จำเป็นในการทำให้เขาตกต่ำสุด ๆ และก็ซ้ำเติมเขาให้ตกอยู่ในสถานการณ์ มีความเป็นตายเท่ากัน หรืออะไรอื่น ๆ ที่สร้างความลุ่มหลงให้เกิดกับเขา เพื่อผู้คนที่ร่วมทางกับเขา มาตายท่ามกลางความเจ็บปวดและความอัปยศเสีย ก่อนที่ฮีโร่จะรวบรวมความเก่งกล้าของตนกลับมาอีกครั้ง
ในโลกแฟนตาซีมักจะมีช่องว่างที่อธิบายไม่ได้ในเทคโนโลยี่ของพวกเขาเสมอ พวกเขาถูกปกครองโดยสภานักปราชญ์ที่น่าเคารพ ผู้ซึ่งคอยพิทักษ์ความรู้ที่สะสมมาเป็นพันปี และไม่เคยรับรู้สิ่งประดิษฐ์อื่น ๆ ที่อาจจะช่วยต่อสู้กับศัตรู เช่น ปืน . 44 แมกนั่ม
โลกแฟนตาซีมากมายมีเครื่องมือในการทำงานอย่างดี เช่นการใช้วาทะคำพูด และความสามารถในการทำหน้าไม้ หนังสติ๊ค และความลับในการประดิษฐ์อย่างประณีตของประตูกล
เวทมนตร์
เมื่อพ่อมดผู้วิเศษเป่าเวทมนตร์ไปยังกันและกัน แสงไฟของพ่อมดดีจะเป็นสีฟ้า แต่ของพ่อมดร้ายจะเป็นสีเขียวหรือแดง
ที่อยู่อาศัย
มีที่อยู่ 3 ประเภทในโลกแฟนตาซี ถ้ำ กระท่อม และปราสาท
ถ้ำ เป็นเหมือนเพื่อนสนิทของนักเขียนแฟนตาซี มันเป็นหลบซ่อนอาวุธ ศูนย์รวมของความรอบรู้ ที่ซ่อนของสัตว์์ร้าย การบรรยายภายในถ้ำมักจะมีไม่แตกต่างกันเท่าใด ในฮอลลีวู้ดทุกถ้ำจะมีพื้นเรียบ ถ้ำมีประโยชน์หากคุณคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร ก็สร้างถ้ำที่เป็นอุปสรรคที่เหมือนไม่มีวันทะลุผ่าน และเป็นเรื่องง่ายในการแก้ไขในอุปสรรคนี้โดยให้คณะติดตามอยู่ใต้ดิน โผล่ออกมาจากท่อหลังจากที่ต้องเดินในความมืดวันแล้ววันเล่า พวกเขาพบตัวเองอย่างอัศจรรย์ในอีกด้านหนึ่งของภูเขาหรืออะไรก็ได้
กระท่อม ถูกเป็นภูมิทัศน์ที่อยู่ห่างไกลเสมอ ไม่ว่าใครที่อยู่ในกระท่อมจะเรียบง่ายและดี
ปราสาท ถูกตัดด้วยหินเสมอ ไม่ว่ามันจะหมายถึงอะไร ห้องในปราสาทมักจะออกแบบเป็นอย่างดี
ป้อมปราการของศัตรู
- ฮีโร่ต้องบุกป้อมปราการของศัตรูในที่สุด นี่ไม่ใช่สิ่งพิเศษที่ยากจะทำ เวรยามของป้อมปราการไม่เคยว่องไว และฮีโร่จะเข้าไปใกล้ถึงยี่สิบฟุตของทหารรักษาการณ์โดยปราศจากการต่อต้าน
- แม้ว่าป้อมปราการจะจัดเวรยามอย่างเข้มแข็ง แต่ก็มียามเพียงเล็กน้อยที่ประตูทิ้งขยะเสมอ เมื่อภายในปราสาทของศัตรูมีเพียงคนรู้งู ๆ ปลา ๆ เดินไปทั่ว ฮีโร่จึงเล็ดรอดเข้าไปสู่ห้องส่วนตัวของศัตรูได้ง่ายปราศจากการค้นพบแต่อย่างใด
- จำไว้ว่า ช่องโหว่ของความเคราะห์ร้ายของศัตรูจะมาจากความเชื่อมั่นในตนเองมากเกินไปเสมอ
นี่แทบจะเรียกได้ว่า กฎแห่งฮีโร่
- ฮีโร่จะพ่ายแพ้ในทุกการต่อสู้ แต่ชนะสงคราม
- จะมีเพียงฝนที่ตกลงมาเท่านั้นเมื่อฮีโร่ของเราเหนื่อยและหิวโหย
- ฮีโร่จะมีเพียงม้าเท่านั้นถ้าหากเขากำลังจะปีนภูเขา และเป็นที่ซึ่งเขาไม่สามารถจะขี่ม้าได้ในทุกวิธีเสียด้วย
- ศัตรูจะถูกฆ่าตายด้วยอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย แต่ฮีโร่จะรอดชีวิตจากทุกอย่าง
- เวทมนตร์(ถ้าหาได้ )จะถูกใช้อย่างฉลาดและได้ผลจากฮีโร่แต่จะเสียเปล่าถ้าศัตรูเป็นคนใช้
- ความมีอคติเกี่ยวกับเชื้อชาติจะถูกละเลยจากฮีโร่ แต่จะเป็นปัจจัยในการสร้างหายนะของศัตรู
- ศัตรูสามารถคาดเดาได้ว่าฮีโร่จะทำอะไร แต่จะไม่มีอำนาจพอที่จะหยุดยั้งเขา ฮีโร่จะทำลายแผนของศัตรูผ่านความโชคดีอย่างบังเอิญ
- ฮีโร่จะอยู่รอดเป็นอาทิตย์โดยปราศจากความรู้สึกตามการเรียกร้องของธรรมชาติ เว้นแต่เขาจะอยู่ในกรุห้องขัง
- ฮีโร่ควรจะถูกจับได้ และศัตรูก็จะย่ามใจบอกถึงแผนการทั้งหมดของเขา
- ฮีโร่ควรจะถูกจับ และถูกกักขังไว้ในห้องแคบ ๆ พร้อมกองฟางเล็ก ๆ ไม่มีหน้าต่าง และถูกให้เพียงขนมปังและน้ำไม่สม่ำเสมอแต่พวกเขาจะมีความสามารถในการบอกวันเวลาที่ผ่านไป
- ดาบวิเศษจะไม่เปล่งรัศมียกเว้นตอนฮีโร่ตกอยู่ในที่ไม่มีแหล่งของแสงใด ๆ หรือตกอยู่ในความมึด และพวกเขาจำเป็นต้องถูกจับได้เพื่อให้โครงเรื่องเดินหน้าตามระเบียบ
- ฮีโร่ จะยืนอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง หลังจากที่ส่งเสียงดังเมื่อพยายามที่จะรักษาความเงียบ แต่ศัตรูจะไม่ และทำเสียงดังอย่างมาก เพื่อให้ ฮีโร่หลบซ่อนอย่างรวดเร็ว การส่งเสียงจะมาจากฝ่ายศัตรู
- อย่างน้อยที่สุดในฮีโร่จะได้สิ่งที่ดีที่เป็นอันดับสอง สิ่งดีที่สุดเพียงอันเดียวจะเป็นของศัตรู แต่กระนั้นพวกเขาจะต้องถูกปราบให้พ่ายแพ้โดยฮีโร่ที่จุดไคล์แมกซ์
- แม้ฮีโร่จะซื่อบื้อขนาดไหน เขาก็มีความเสียสละ และกล้าหาญ และประสพชัยชนะในที่สุด
เทคนิคการตั้งชื่อแบบแฟนตาซี
ไอเดียชื่อแฟนตาซี 1
ไอเดียชื่อแฟนตาซี 2
ไอเดียชื่อแฟนตาซี 3
สัตว์ในเทพนิยายหรือตำนาน
สร้างพืชพันธุ์แฟนตาซี
เทคนิคการสร้างโลกแฟนตาซี
ชื่อตัวละครหญิงในแฟนตาซี
ชื่อตัวละครชายในแฟนตาซี