พิมพ์ดาว ขับรถช้าๆ เปิดไฟเลี้ยวกระพริบไว้ตลอดเวลา ผ่านมาสองสามซอยแล้ว
ที่เธอหักพวงมาลัยเข้า แล้วก็ต้องรีบเบนออกเมื่อคิดว่ามันไม่ใช่
เธอกำลังหาซอยที่เป็นทางลัดไปยังถนนที่จะตรงไปบ้านของเธอ
เวลาในตอนนี้ก็ไม่ดึกนัก แต่ก็โชคดีที่ไม่รถแล่นตามหลังเธอมามาก
ซึ่งถ้ามีมาก็มักจะวิ่งฉิวผ่านไปอย่างรวดเร็ว
พิมพ์ดาวขับรถได้ระดับที่เรียกว่ามือใหม่เลยทีเดียว
แม้ว่าจะเคยเฉี่ยวชนอยู่ถึงสองสามครั้ง และโชคดีที่เธอไม่ได้บาดเจ็บมากมายอะไร
แต่มันก็ไม่ได้เป็นประสบการณ์สะสม ให้เธอมั่นใจในการขับรถเพิ่มขึ้นเลย
เหตุหนึ่งอาจจะเป็นเพราะ เธอไม่ชอบการขับรถเลยก็ว่าได้
แต่เธอก็มีรถคันหนึ่งไว้ขับเพียงแค่ออกจากหมู่บ้าน
มาซื้อของที่ห้างตุนไว้เป็นอาทิตย์
ถ้าเป็นระยะทางไกลแล้วเธอมักจะเลือกใช้บริการของแท๊กซี่มากกว่า
ตามปกติในเวลาเช่นนี้ เธอควรจะ้นอนฟังเพลงโรแมนติกอยู่ในห้องนอนอัน
แสนสุขของตัวเองมากกว่าออกมางานเลี้ยงวันเกิดประมุขของครอบครัว
เบ็ญจรงค์ คือนายพิเศษ เบ็ญจรงค์ อันเป็นลุงแท้ๆ ของเธอ
ลุงพิเศษมีพี่น้องร่วมท้องเพียงคนเดียวคือแม่ของเธอ จึงรักและเอ็นดูเธอยิ่งนัก
ถึงแม้ว่าท่านจะมีลูกชายวัยไล่เลี่ยกันถึงห้าคน แต่ก็มีลูกสาวที่ห่างจากพี่ ๆ
เพียงคนเดียวคือระรินดาว
ชื่อพิมพ์ดาว ของเธอ ก็เป็นลุงพิเศษ ตั้งให้ คล้ายคลึงกับระรินดาว แต่พันเพลิง
เบ็ญจรงค์ ลูกชายคนโตของท่าน มักจะบ่นเมื่อเห็นหน้าเธออยู่บ่อยๆ ว่า
ไอ้ดาวๆ นี่ น่าเบื่อชะมัด ไม่มีชื่ออื่นจะตั้งกันแล้วรึไง?
ที่พันเพลิงบ่น ก็เพราะ นอกจากเขาจะมีน้องสาวชื่อระรินดาว
มีลูกพี่ลูกน้องคือเธอชื่อพิมพ์ดาวแล้ว ลูกสาวเจ้านายของเขายังชื่อแสนดาว
มิหนำซ้ำน้องสาวของเพื่อนพันเพลิงที่ถูกขอตัวไปช่วยงานในฝ่ายยังชื่อ
เปลวดาวอีกด้วย
ถ้าอยู่ในอารมณ์ไม่ดี เธอก็มักจะย้อนว่า
ก็ไปถามคุณพ่อพี่เพลิงเอาเองสิคะ
หากเขาไปซัดกลับ ก็จะพูดเพียงแค่ว่า
เราน่ะ มันยังไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้พวกสามดาวนั่น อย่าไปเลียนแบบเชียวนะ
เหลือต้นแบบดีๆ เอาไว้ให้เห็นในความเป็นผู้หญิงหน่อย
พิมพ์ดาว รู้ว่า เธอไม่มีวันเหมือน พี่ ๆ สามดาว ที่ทั้งเก่งและมั่นใจในตัวเองอย่างนั้นได้แน่
เพราะเธอไม่ใช่คนเก่ง ไม่เคยทำอะไรที่เรียกได้ว่า
มีความสำเร็จในชีวิตเลย
หลังจากที่ทำอะไรพลาดๆ แย่ ๆ มามากแล้ว ตอนนี้เธออยากเป็นนักเขียนที่สุด
การมาวันนี้ก็ทำให้เธอได้พบกับผู้หญิงที่ พลังพล
เบ็ญจรงค์ลูกชายคนที่สามของลุงพิเศษกำลังควงอยู่ด้วย
แต่เป็นการทำความรู้จักที่ทำให้เธออดจะยิ้มไม่ได้เมื่อเห็น
เพราะมันไม่ได้มีความชื่นชมยินดีอะไรเลยบนใบหน้าหล่อเหลาของพลังพลเลย
พิมพ์ดาวจับความรำคาญของเขาได้ด้วยซ้ำ
เมื่อคู่ควงของเขาที่เป็นสาวรุ่นคอยเกาะแขนเขาไม่ห่าง เสียงพูดจ๋อยๆ
ของเจ้าหล่อนยิ่งเพิ่มแววเอือมระอาในสายตาของเขา และเมื่อถูกแนะนำให้รู้จัก
พลังพลก็ถือโอกาส คว้าข้อมือเธอฉับมายัดใส่มือสาวใกล้ตัวเขา
นี่พิมพ์ดาว น้องสาวผม คุยกันไปก่อนนะ
แล้วเขาก็เดินลิ่วๆ หยิบแก้ววิสกี้ที่พนักงานถือผ่านมา ถึงสองแก้ว
ไปเข้ากลุ่มคนหนุ่ม ๆ ในงานเสียเฉยๆ
งานเลี้ยงนี้ขาดลูกชายของลุงไปถึงสามคน พันเพลิงและพายุ ติดราชการด่วน
ส่วนพสุธานั้น เขาไม่ได้อยู่เมืองไทย
ระรินดาวหลังจากเข้ามาทักทายเธอแล้วก็สนุกกับเพื่อนๆ จะมีก็แต่คุณมณีกานต์
ผู้เป็นภรรยาคนใหม่ของลุงพิเศษนี่แหละเข้ามาดูแลเธอเป็นอย่างดี
แฟนพี่พลแน่เหรอคะ คุณกานต์
เธอเรียกคุณมณีกานต์ เหมือนกับพี่ ๆ เรียก คุณมณีกานต์ยักไหล่
ก็ไม่รู้เขาสินะ ท่าทางก็ไม่ได้รักใคร่อะไรนักหนา
แต่ได้ข่าวว่าไปเทียวไล้เที่ยวขื่อถึงบ้านเขาเป็นเดือน
แต่ตอนจะกลับ พงษ์พันธ์ ผู้เป็นลูกชายคนเล็กของตระกูล เดินออกมาส่งเธอ
เมื่อถามคำถามเดียวกัน เขาก็ยิ้มพูดว่า
ก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่หรอกว่าพี่พล เขาจะทำอะไร แต่เท่าที่รู้
พี่พลกำลังหาที่ดินที่เป็นเกาะสักแห่ง และผู้หญิงคนนี้มี
พิมพ์ดาว นึกสงสารผู้หญิงคนนี้ หากพลังพลไม่ใช่ญาติเธอก็คงเกลียดผู้ชายแบบนี้แน่
แต่นั่นแหละเรื่องของพลังพลอาจจะเป็นพล็อตที่ทำให้เธอเขียนนวนิยายก็ได้
พระเอกอยากได้ที่ของนางเอกจึงขอแต่งงานโดยไม่ได้รัก
แต่ในที่สุดก็อาจจะหลงรักนางเอกในตอนหลังก็ได้
พิมพ์ดาวคงจะคิดต่อไปถึงตอนที่นางเอกท้องแล้วหนีพระเอกไปแน่ ถ้าหากจู่ๆ
ไม่มีรถมอเตอร์ไซด์พรวดออกมาจากซอย อารามตกใจ
เธอจึงหักพวงมาลัยเบนหนีจนรถเกินเข้าไปอีกเลนและเบรคเอาดื้อๆ
และเธอเองยังคุมสติไม่ได้ เมื่อมีแสงไฟจากรถที่ส่องเข้าตาพร้อมเสียงแตรดังลั่น
เธอมือไม้อ่อนไปหมดเบิ่งตาดูรถคันนั้นเข้ามาใกล้ แล้วมันก็เบี่ยงหลบออก
มีเสียงเบรคล้อรถคันนั้นแฉลบครูดไปตามฟุตบาท
แล้วเสียงดังสะนั่นจากการปะทะอย่างแรงก็เกิดขึ้น
พิมพ์ดาวสูดลมหายใจลึก พยามคุมสติให้มั่น รถคันนั้นไม่ได้วิ่งมาชนรถเธอ
มันเบนออกไปด้วยความเร็ว เมื่อตั้งสติได้เธอก็รีบเคลื่อนรถของตัวเองเข้าข้างทาง
เปิดประตูลงมาเธอก็ได้เห็นสภาพของรถที่หักหลบเธอด้วยความเร็ว
จนเสียหลักชนเข้ากับเสาไฟฟ้า ห่างจากเธอประมาณสามสิบเมตร หน้ารถพังยับเยิน
พิมพ์ดาวสาวเท้าเข้าไปด้วยความรวดเร็ว
ภาวนาในใจอย่าให้คนในรถเป็นอะไรมากมายเลย
พิมพ์ดาวเปิดลอคประตูไม่ได้ ส่องเข้าไปก็เห็นมีเพียงผู้ชายคนเดียวเท่านั้น
ใบหน้าเขาฟุบอยู่ที่พวงมาลัย เธอเคาะกระจกอย่างแรง ร่างนั้นก็ยังนิ่ง
เธอสอดส่ายตาไปรอบ กำลังตัดสินใจหาอะไรมาทุบกระจก
หันกลับมาก็เห็นใบหน้านั้นขยับเงยขึ้น เขาแหงนหน้าพิงเบาะ
ท่าทีไม่ได้ยินเสียงเธอเคาะกระจกรถเลย เป็นครู่เขาก็เปิดประตูลงมา
เธอขับรถภาษาบ้าอะไรของเธอ
เป็นประโยคแรกที่พิมพ์ดาวได้ยินจากร่างสูงใหญ่บึกบึนที่ยืนอย่างไม่มั่นคงนัก
แล้วคำว่า
ซวยระยำ ! ก็ตามออกจากปากเมื่อเขาเห็นตอนหน้ารถที่พังยับเยิน
ใบหน้าขมึงถึงของเขาดูน่ากลัวในแสงไฟสลัวเช่นนี้
หน้าผากเขาคงแตกหรือไม่ก็ที่หัว เพราะพิมพ์ดาวเห็นเลือดไหลซึมออกมาเป็นทาง
จนหญิงสาวตกใจ
มันน่าจะเป็นรถเธอมากว่าของฉัน ที่ยับเยินแบบนี้
ทำไมคนที่มีสติดีกว่าถึงต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบด้วยนะ
เขาพูดเป็นนัยอย่างฉุนเฉียวใส่หน้าเธอ
พิมพ์ดาวยืดตัวตรง แม้จะใส่รองเท้าส้นสูงถึงสี่นิ้ว เธอก็สูงแค่ไหล่เขาเท่านั้น
เธอไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนไทย แต่พูดภาษาไทยได้ชัดเจนเหลือเกิน
หญิงสาวถอยห่างจากร่างสูงใหญ่ที่ข่มเธอทางสรีระ พยามพูดอย่างใจเย็นว่า
ก็แล้วทำไมคนที่มีสติดีกว่า ถึงได้ห่วงรถของเขามากกว่าอาการบาดเจ็บของตัวเองนักละ
ก็เพราะเขาเกรงว่า จะหารถไปโรงพยาบาลเองไม่ได้นะสิ เขาศอกกลับเสียงขุ่น
ฉันยินดีที่จะขับรถพาคุณไปโรงพยาบาล พร้อมกับชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น
พิมพ์ดาวปรายตามองรถของเขา ดูรุ่นมันแล้ว หลายล้านแน่
ไอ้เรื่องค่าเสียหายไม่ต้องหรอกแม่คุณ ฉันจะคิดว่าเป็นคราวซวยของฉันเอง
เขาบอกอย่างไม่ยี่หระ แล้วไอ้เรื่องไปโรงพยาบาลนั่น
ฉันจะไปกับเธอแต่ฉันต้องเป็นคนขับ ไม่ใช่เธอ
แต่คุณกำลังบาดเจ็บนะ เธอท้วง
แต่ฉันมั่นใจตัวเองมากกว่าฝีมือการขับรถของเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะรอยเลือดที่เปรอะ จนเห็นได้ชัดจากเสื้อสีขาวของเขา
ลำพังไอ้ท่าทางยโสโอหังของเขา พิมพ์ดาวก็คงไม่ยอมหรอก
แต่เธออยากให้เรื่องจบโดยเร็วจึงพยักหน้า
ก็ได้
ชายหนุ่มก้มลงไปคว้าเสื้อนอกที่ที่เบาะด้านหน้ามาพาดบ่า
จัดการลอครถตัวเองอย่างเคยชิน
ถึงแม้มันจะยับเยินแค่ไหนแต่ข้าวของข้างในคงล่อตาล่อใจมิจฉาชีพได้อยู่หรอก
พิมพ์ดาวเดินคู่กับเขาไปยังรถเธอที่จอดอยู่ แล้วจู่ ๆ ร่างสูงใหญ่ที่เดินคู่มากับเธอดีๆ
ก็ทำท่าจะทรุดฮวบลงไป หากหญิงสาวไม่คอยสังเกตอยู่แล้ว เขาคงทรุดกับพื้นแน่
เพราะแม้เธอจะเข้าไปประคองทันเขาก็ยังเซไปเหมือนกัน
โธ่เอ้ย ! ทำอวดเก่ง
เสียงเยาะ ๆ ของหญิงสาวเป็นเสียงที่เขาได้ยินก่อน
ที่จะได้ยินเสียงเหมือนระเบิดดังขึ้น แล้วชายหนุ่มก็หมดสติในอ้อมแขนเธอ
พิมพ์ดาวไม่ได้ตกใจที่เขาหมดสติไป
แต่ตาเธอเบิกโพลงกับรถของเขาที่ระเบิดขึ้นมาเสียเฉยๆ
ความแรงของมันทำให้ชิ้นส่วนปลิวว่อน ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
เธอรีบพาเขาขึ้นรถ และขับออกไปอย่างรวดเร็ว