forwriter.com
นวนิยายรักโรแมนติก

 


ดั่งไฟพิศวาส

โดย ฟีลิปดา

 

เช้าวันรุ่งขึ้น กินรีไม่คิดจะรอราล์ฟ แต่ก็ไม่ สามารถจะทำได้เมื่อรู้จำนวนเงินที่จะต้องจ่าย ราล์ฟมารับเธอเอาเมื่อประมาณสิบเอ็ดโมง หญิงสาวทำไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้เขาเป็นคนจัดการทุกอย่างให้ โดยเฉพาะเรื่องเงิน

เมื่อราล์ฟจัดการทุกอย่างเรียบร้อยจนเข้าไปอยู่ในรถ กินรีไม่คิดสนใจขอบคุณราล์ฟ ที่ช่วยรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ สิ่งแรกที่กินรีทำก็คือ … . เอาบิลค่าใช้จ่ายที่ราล์ฟยัดมันลงไว้ในถุงยาขึ้นมาดู

“ทำไมคุณไม่ปล่อยให้ดิฉันเป็นลมอยู่ตรงนั้นซะเลยนะ อย่างน้อยตอนฟื้นขึ้นมาดิฉันจะได้คลานไปโรงพยาบาลที่ค่ารักษามันโหดน้อยกว่านี้หน่อย ”กินรีพูดออกมาเมื่อเห็นตัวเลขค่าใช้จ่าย

“ ผมตกใจ เลยไม่ทันคิด ” ราล์ฟบอกนึกขำน้ำเสียงแค้น ๆ ของเธอ

“แพงเป็นบ้า แค่เป็นหวัดเฉย ๆ ปาไปเป็นหมื่นสองหมื่น ”หญิงสาวบ่น

“ ไม่เห็นจะต้องคิดมาก เงินแค่นั้นเอง ” เขาบอกหน้ายังมองตรง ขับรถอย่างระวัง

“ สำหรับคุณมันอาจจะน้อย แต่มันมากสำหรับดิฉัน ” กินรีเผลอตวัดเสียงเข้าใส่

“ เอาไงดีละ ”ราล์ฟยิ้มขันพูดเหมือนหารือ

“ออกกันคนละครึ่งไหม โทษฐานที่ผมพาคุณเข้าโรงพยาบาลผิด หรือจะให้ผมจ่ายคนเดียวก็ได้นะ ”

“ ดิฉันไม่รับเงินใครฟรี ” เธอบอกอย่างถือตัว “ ใครบอกว่าผมจะให้ฟรีเล่า บอกแล้วไง ผมทำอะไรหวังผลตอบแทนเสมอ โดยเฉพาะผู้หญิงสวย ๆ แบบคุณ ”

กินรีเชิดหน้า มองเขาอย่างหมิ่น ๆ “ ฝันไปเถอะ ถ้าคิดจะได้อะไรนอกเหนือจากเงินที่คุณจ่ายแทนดิฉัน ”

“ แล้วคุณคิดว่า ผมต้องการอะไรอื่นจากคุณนอกจากเงินงั้นเหรอ ? ”

“ ดิฉันไม่ใช่เด็กไร้เดียงสานี่ ”

“ มิน่า ถึงได้คิดมากนัก คุณคิดว่าผมจะขอให้คุณนอนกับผมรึไง ? ” เขาพูดตรง ๆ ชำเลืองเห็นหน้ากินรีแดงกล่ำขึ้นมาทีเดียว

“ แต่มันน้อยไปหน่อยนะสำหรับผม ถ้าจะเปรียบกับที่เคยจ่าย แต่อย่างว่าละผู้หญิงผู้ชายไม่ใช่มีไว้เพื่อเซ็กส์อย่างเดียว คุณไม่คิดหรือว่าผมอาจจะต้องการเป็นเพื่อนกับคุณเฉย ๆ ก็ได้ ” ราล์ฟพูดอย่างสบายๆ

“ ไอ้ที่คุณทำกับดิฉันเมื่อคืน มันเชื่อยากว่าคุณคิดอยากจะเป็นเพื่อนเฉย ๆ ” กินรีแค่นเสียงอย่างรู้ทัน

“ ก็เมื่อคืน คุณมันอวดดี แถมยังทำร้ายร่างกายผม ”ราล์ฟไม่ยอมจนมุม

“ ก็คุณพูดไม่ดี ” กินรีเสียงแข็งขึ้นมา

“ โธ่เอ้ย ! ก็แค่พูด ไม่ได้ทำจริง ๆ เสียหน่อย ใครจะไปทำอะไรคนเป็นลมหมดสติอย่างนั้น ”

“ ดิฉันคงเป็นพยานให้คุณได้หรอกเรื่องนี้ ” เธอเยาะ

“ ก็แล้วแต่จะคิด แต่พูดได้อย่างมั่นใจเลยละ ตั้งแต่เกิดมาถ้าลองผู้หญิงเซย์โนละก้อผมไม่แตะเลย ” ราล์ฟพูดอย่างหยิ่ง ๆ

“ แม๊ ! ตอนดิฉันเป็นลมคง บอกเสียงดังเลยละ ” กินรีย้อนอย่างหมั่นไส้

“ ให้ตายเลยคุณนี่ ” ราล์ฟชักยั๊วะ “ คุณไม่ใช่นางฟ้านางสวรรค์มาจากไหน พอที่จะมีข้อยกเว้นไม่ให้ผมอยากได้คุณ ก็คนเดินดินเหมือนกันนี่นา ยอมรับละว่าผู้หญิงบางคนผมต้องจ่ายเงินเพื่อนอนด้วย แต่บางคนก็ไม่ต้องจ่ายเพราะพอใจกันทั้งสองฝ่าย ผมไม่ใช่นักฉวยโอกาส จะได้บีบบังคับคุณด้วยเงินเล็กน้อยแค่นี้ คุณมีเมื่อไหร่ก็คืน ผมไม่วุ่นวายกับคุณหรอก ถ้าคุณไม่พูดว่าได้โปรดเถอะราล์ฟ … ได้โปรดเถอะราล์ฟ ” เขาเน้นเสียงเล็กแหลมเลียนเสียงเธอในตอนท้าย

เจอคนพูดตรง ๆ เข้าอย่างนี้กินรีเลยนิ่งเงียบ รู้จักกันไม่เท่าไหร่ทำไมถึงได้มาคุยเรื่องแบบนี้ได้นะ และที่แปลก เธอไม่ยักโกรธเขามากเท่าที่ควรที่พูดแบบนี้กับเธอ กินรีนึกอย่างโมโหตัวเอง

เมื่อกินรีนั่งเงียบ ราล์ฟเองก็นิ่งขรึมไปเหมือนกัน จนรถคลานเข้าไปจอดถึงที่จอดรถใต้ตึก กินรีก็ถอดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วเปิดประตูลง เดินตัวตรงไปที่ลิฟท์เสียดื้อ ๆ ไม่พูดสักคำ

ราล์ฟมองตามอย่างหมั่นไส้ เรารึอุตส่าห์ช่วยจะขอบคุณสักคำก็ไม่มี ..ได้ตัวเมื่อไหร่จะต้องดัดนิสัยเสียให้เข็ด

ชายหนุ่มเปิดประตูรถจะลงบ้าง แล้วก็ต้องจุ๊ปากอย่างเอือมระอา เมื่อเห็นถุงยายังวางอยู่ที่เบาะ

“ จริง ๆ น๊า ! ” ชายหนุ่มพูดอย่างเหลืออด คว้าถุงยา จัดการลอครถเป็นที่เรียบร้อยก็เดินไปสมทบกับกินรีที่รออยู่หน้าลิฟท์ ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกัน จนกระทั่งมาถึงหน้าห้องของกินรี เธอค้นกุกกักในกระเป๋า หยิบกุญแจสอดใส่รูประตูแล้วหันมาพูดกับราล์ฟว่า

“ ถ้าตามมาเอาเงินละก้อ บอกตรง ๆ ดิฉันยังไม่มีให้ในตอนนี้ ”

ฟังน้ำเสียงราบเรียบเย็นชาของเธอแล้ว ราล์ฟได้แต่ข่มอารมณ์

“ ถ้าคุณไม่มีมารยาทพอที่จะขอบคุณผม ก็น่าจะเลี้ยงกาแฟผมสักถ้วยเป็นดอกเบี้ยก็ยังดี ”

กินรียอมให้เขาเข้ามาในห้องอย่างเสียไม่ได้ เธอโยนกระเป๋าไปไว้บนเตียงที่ยังยุ่งเหยิงเนื่องจากไม่ได้จัดเก็บตั้งแต่วันที่เธอตั้งใจจะออกไปหาหมอ แต่ต้องนอนซมที่โรงพยาบาลแทน หันมามองราล์ฟก็เห็นเขาช่วยเหลือตัวเองได้อย่างน่าหมั่นไส้ โดยการไปนั่งสบายที่โซฟาที่เธอจัดไว้เป็นมุมรับแขกเล็ก ๆ ชายหนุ่มถือวิสาสะ หยิบเอารีโมตที่เธอวางทิ้งไว้เปิดเครื่องเสียงเธอฟังเฉย

กินรีมองเขาแล้วถึงกับถอนใจเฮือก เดินไปเสียบปลั๊กกระติกต้มน้ำด้านในของมุมห้องที่จัดเป็นครัวเล็ก ๆ ของเธอ

“ ผมชอบเพลงนี้ Smoke gets in your eyes ”

เสียงราล์ฟแว่วมา

… มันเรื่องอะไร มาชอบเหมือนฉัน …กินรีคิด ขณะหยิบเอาของที่เธอซื้อมาจากมินิมาร์ทในวันฝนตกออกมา โชคดีที่เธอซื้อกาแฟสำเร็จรูปมาด้วย

ระหว่างรอน้ำเดือด กินรีจัดการเอาคัพโจ๊กที่เหลือกินวันก่อนใส่ถุงขยะ ล้างจานชามที่แช่ทิ้งไว้สองสามใบ จากนั้นก็ไปหยิบซองอาหารปลามาเทลงในอ่างแก้วใสใบเขื่องที่เธอเลี้ยงปลาเงินปลาทองเอาไว้ มันตั้งอยู่บนโต๊ะอาหารคู่กับกระถางเคลือบสีขาวที่ปลูกต้นพลูด่างเอาไว้ สบายใจที่เห็นมันยังแหวกว่ายน้ำได้อย่างปกติแม้ว่าจะไม่ได้ให้อาหารไปเสียสองสามวัน หันไปชำเลืองดูราล์ฟอีกครั้ง ก็เห็นเขานอนเอนตัวราบยาวไปตามโซฟา ใช้ฝ่ามือประสานไว้ที่ท้ายทอยตัวเองหลับตาเหมือนกันจะดื่มด่ำไปกับเสียงแซกโซโฟนที่บรรเลงเพลงโปรดของตัวเอง

เห็นท่าทางเขาแล้วกินรีก็นึกแปลก ๆ ในใจ เพราะที่เห็นเขาครั้งแรกก็คือตอนที่เขาโอ้โลมผู้หญิงคนหนึ่งอย่างหน้าไม่อายในลิฟท์ ครั้งที่สองเธอก็ตบหน้าเขา ครั้งที่สามเธอก็ถูกเขาจูบที่โรงพยาบาล แล้วตอนนี้สิ เขาเข้ามานอนอย่างสบายอารมณ์ในห้องของเธอ …. ในช่วงเวลาเพียงสามสี่วันเท่านั้น เขาก็รุกเข้ามาใกล้เธอ อย่างที่ไม่เคยมีเพื่อนชายคนใดทำได้มาก่อน แม้กระทั่งคนที่เคยเป็นคู่หมั้นของเธอก็ยังไม่เคยมีโอกาสอยู่ลำพังกับเธอสองต่อสองเช่นนี้

กินรีปฏิเสธว่า เธอไม่ได้หวั่นไหวไปกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาของเขา เพราะที่ผ่านมาเธอก็เจอะเจอมาไม่น้อย และเธอก็รับรู้โดยสัญชาตญาณได้ว่า ความสนใจที่ราล์ฟมีต่อเธอนั้นมันส่อไปในทางใด แต่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดหรือบีบบังคับแต่อย่างไร มันเหมือนกับว่าเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าต้องได้อย่างที่เขาต้องการ

กินรีคิดอยากจะลองดีในเรื่องนี้เหมือนกันเพราะเธอเองก็เป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมากคน

หนี่ง ความกังวลต่อเรื่องนี้ก็มีเพียงความรู้สึกที่เหมือนมีพลังดึงดูดบางอย่างที่มองไม่เห็นระหว่างเขาและเธอ ซึ่งสิ่งนี้มันทำให้เธอใจสั่นทุกครั้งที่ถูกเขาแตะต้อง นั่นเป็นสาเหตุที่เธอปัดป้องทุกครั้งที่เขาสัมผัสเธอ… ราล์ฟเป็นสุภาพบุรุษพอควร แต่เมื่อเธอไปล่วงละเมิดก้าวร้าวเขา เขาก็ตอบโต้มาอย่างที่เขาพอใจ ไม่ว่าจะเป็นทางวาจาหรือการกระทำ โดยไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร สัญชาตญาณเตือนให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เล่น ๆ แต่หัวใจของกินรีสั่งตัวเองให้กล้า ๆ หน่อยอะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด

หญิงสาวเตรียมถ้วยกาแฟเมื่อได้ยินเสียงน้ำใกล้เดือด

“ น้ำตาลกี่ก้อนคะ ” เธอถามเขาเสียงดัง

“ หนึ่ง ครีมไม่ต้อง ” ราล์ฟบอกสูตร สายตาเพ่งไปที่ภาพ ๆหนึ่ง

เมื่อกินรีถือถ้วยกาแฟเดินเข้ามา ราล์ฟก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง หญิงสาววางถ้วยกาแฟไว้ที่โต๊ะกลางรับแขก นั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามกับเขา

“ นั่นภาพอะไร ”เขาถามก่อนจะหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาถือไว้เฉย ๆ

กินรีหันไปยังภาพนางกินรีที่ยืนทำท่าเหมือนกับจะโผบินขึ้นสู่ท้องฟ้า มันเป็นภาพจิ๊กซอว์ที่เธอต่อเล่นแก้เหงา เธอใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะเสร็จแม้ว่าจะมีเพียงห้าร้อยชิ้น และเมื่อต่อเสร็จเธอก็ใส่กรอบแขวนไว้ดูเล่นเท่านั้น

“ นั่นเป็นภาพนางกินรี หรือกินนร ตัวละครใน

วรรณคดี ”

“เป็นความหมายของชื่อคุณ ใช่ไหม ? ดูดีมาก ” เขาถามมองภาพแล้วอมยิ้มนิด ๆ

กินรีไม่ตอบ และไม่ชอบใจด้วย ...ก็ภาพนั้นนางกินรีใส่เสื้อผ้าเสียเมื่อไหร่เล่า

“ คุณจะว่ายังไงคะ ถ้าดิฉันจะขอผ่อน ” เธอพูดขึ้นอย่างเป็นการเป็นงาน

ราล์ฟละสายตาจากภาพนั้น หันมาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“ ดิฉันหมายถึง เงินที่คุณกรุณาจ่ายให้ก่อนที่โรงพยาบาล ”กินรีบอกน้ำเสียงไม่ดีนัก เธอไม่คุ้นกับการเป็นลูกหนี้ หรือ เป็นหนี้บุญคุณกับใคร

“ ผมไม่ว่าไงหรอก ตราบใดที่คุณอนุญาตให้ผมเข้ามาดื่มกาแฟในห้องคุณได้จนกว่าจะหมดหนี้ ”

ราล์ฟยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่มเมื่อกล่าวจบ

“ ดิฉันคงเปลืองแน่ ๆ ” กินรีประชด

“ นานขนาดนั้น ? ” เขาเลิกคิ้วยิ้ม ๆ

กินรีนิ่ง กัดริมฝีปากตัวเองอย่างลืมตัวไม่สนใจท่าทางยั่วเย้าของเขา ถ้าจะหาใช้เขาโดยลำพังตัวเองละก้อ คงต้องเป็นสามหรือสี่เดือน เพราะเธอสามารถหารายได้เพิ่มขึ้นตอนปิดเทอม แต่ถ้าไม่อยากให้มันยืดเยื้อ เธอก็สามารถเอ่ยปากขอเอากับมารดาได้ แต่กินรีเลือกที่จะไม่ยอม ไหน ๆ เธอก็สามารถอยู่ตามลำพังได้เป็นปีแล้ว เรื่องอะไรจะไปยอมแพ้มารดาง่าย ๆ

“ ดิฉันคำนวณคร่าว ๆ แล้วว่าน่าจะเป็นสามหรือสี่งวดนะถึงจะหมดหนี้กับคุณ ” กินรีตอบหลังจากพิจารณาดีแล้วว่าจะพึ่งตนเองดีกว่าเอ่ยปากขอมารดา

“ ความจริงผมมีข้อเสนอบางอย่างให้คุณนะ ถ้าคุณสนใจผมว่าจะ ….”

“ ดิฉันไม่สน ” กินรีตวัดฉับ หน้าบึ้งตาขุ่นขึ้นทันที

“ ผมยังพูดไม่จบ ” เสียงราล์ฟชักยัวะเดาได้ว่า หญิงสาวคิดอย่างไรกับสิ่งที่เขากำลังจะเสนอ

“ผมก็แค่จะเสนองานให้คุณเท่านั้นมาหน้าบึ้งใส่ผมทำไม ”เขาว่าเอาตรง ๆ

“ก็ดิฉันไม่สบายจะให้หน้ายิ้มแฉ่ง อยู่ได้ยังไง ”

เธอแก้ตัว “ถ้าคุณดื่มกาแฟหมดแ ล ้วดิฉันจะนอนพัก ”

“คุณสนใจเรื่องสอนหนังสือไหม ” เขาถามไม่สนใจการไล่ทางอ้อมของเธอ

“ ดิฉันสอนพิเศษเด็กอยู่แล้วทุกเย็นหลังเลิกเรียน คุณมีลูกจะให้ดิฉันสอนเรอะ ”

กินรีถามหน้าเฉย ราล์ฟเขม้นมองหน้าเธออย่างเหลืออด

“ ผมยังไม่ได้แต่งงาน และยังไม่มีลูก ไม่คิดจะมีด้วย ”

“ อ้อ ..” กินรีพยักหน้ากวน ๆ

“ผมจะให้สอนภาษาไทยให้ผม สนใจไหม ? ”

“ คุณพูดไทยได้ออกชัดแจ๋ว ” กินรีแย้ง

“ แต่ผมอ่าน และเขียนไม่ได้ ”

กินรีมองเขาอย่างระแวง ถามว่า

“ ใครสอนให้คุณพูดภาษาไทยคะ ”

“ คุณแม่ผมเอง … ท่านเป็นคนไทย ” ราล์ฟตอบอย่างภาคภูมิ

คราวนี้กินรีมองเขาอย่างสำรวจ เหมือนจะค้นหาความเป็นไทยจากใบหน้าอันหล่อเหลานั้น น่าแปลก พอ

รู้ว่าเขามีสายเลือดไทยครึ่งหนึ่ง เธอก็รู้สึกวางใจเขาขึ้น

“ คุณสอนผมวันละสองชั่วโมง ครบหนึ่งเดือนเป็นกันว่าหมดหนี้กัน ตกลงไหม ”ราล์ฟยื่นข้อเสนอ

“ แค่สอนหนังสือคุณอย่างเดียว วันละสองชั่วโมงนี่นะ ? ” กินรีย้ำเพื่อความแน่ใจ

“ ก็แค่นั้นซิ รึว่าคุณอยากให้มีอะไรมากไปกว่านี้เหรอ ? ” เขาย้อนหน้าตาย

กินรีส่ายหน้า โต้ตอบเขาไม่ทัน

“ ผมมีข้อแม้อยู่บ้างเหมือนกัน ” เขามองหน้าเธอก่อนจะพูดต่อว่า “ต้องเป็นการสอนที่ติดต่อกันไปจนครบสามสิบวัน ถ้าคุณขาดวันไหน ก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ”

“ ถ้าเผื่อดิฉันไม่สบายหรือมีธุระ ”

“ ถ้าคุณไม่สบายจริง ๆ ก็ชดเชยวันที่หยุดให้

ผม แต่ถ้าจะติดธุระก็ต้องแล้วแต่เหตุผลอันสมควร ประเภทมีนัดกับแฟนแล้วมาอ้างว่าติดธุระ ต้องถูกปรับ ”

กินรีมองเขาอย่างใช้ความคิด มันต้องมีอะไรแอบแฝงมากไปกว่าการสอนหนังสือแน่ ๆ แต่เธอก็เชื่อมั่นว่าจะรับมือได้

“ ถ้าหากคุณเป็นฝ่ายไม่ว่างเสียเองละ ”

“ ผมยอมยกผลประโยชน์ให้คุณ ”

“ แล้วเวลาที่สอน ”

ราล์ฟทำท่าคิด “ มันน่า

จะเป็นช่วงเย็นนะ หลังจากผมเลิกงานแล้ว ทุ่มหนึ่งไปถึง

สามทุ่มเป็นไง คงไม่ดึกไปสำหรับคุณนะ ? ” เขาทำเสียง

ล้อในตอนท้าย

กินรีนิ่งคิด ถ้าสอนในช่วงค่ำ เธอก็มีเวลาทั้งวันในการทำงานอย่างอื่นเพื่อเป็นการหารายได้เพิ่ม หญิงสาวพยักหน้ารับ

“ สถานที่ละคะ ”

“ ที่ห้องผม ชั้นยี่สิบสาม ” เขาบอกแล้วคอยดูปฏิกิริยาของเธอ เห็นกินรีมีสีหน้าไม่ไว้วางใจ

“ ทำไมละ ? ” เขาทำหน้าซื่อ “ หรือจะใช้ห้องคุณก็ได้ แต่ผมว่าห้องผมน่าจะสะดวกกว่า ถ้าคุณไม่กลัวผมนะ “

กินรีมองหน้าเขาเดือด ๆ กับน้ำเสียงเยาะ ๆ มีนัยตอนท้ายของเขา

“ จะให้พูดตรง ๆ ไหมละ ”น้ำเสียงเธอเคร่งเครียด “ ดิฉันว่าดิฉันควรจะกลัวคุณนะ คุณลองไปยืนดูตัวเองที่กระจกโน่นซิ ” เธอชี้ไปที่กระจกโต๊ะแต่งหน้าใกล้เตียงนอน พูดต่อว่า

“ คุณจะให้ดิฉันไว้ใจผู้ชายหล่อ ๆ แบบคุณ ที่ใช้เวลาเพียงสามวัน ก็ได้กอดดิฉัน จูบดิฉัน เข้ามานอนสบายบนโซฟาในห้อง ดื่มกาแฟที่ดิฉันชงให้ แถมยังวางแผนให้ดิฉันผูกติดกับคุณวันละสองชั่วโมงอยู่เป็นเดือน และ …ให้ตายสิ ! ดิฉันเพิ่งบอกให้คุณไปยื่นอยู่ใกล้เตียงนอนของดิฉันแล้วด้วย ”

น้ำเสียงตอนท้ายเหมือนเพิ่งนึกได้ของเธอทำให้ราล์ฟอดหัวเราะไม่ได้ เสียงหัวเราะของเขาทำให้กินรีฝืนทำหน้าบึ้งต่อไม่สำเร็จต้องปล่อยเสียงหัวเราะออกมาตามเขา เพราะอดนึกขำคำพูดตัวเองไม่ได้เหมือนกัน

“ ความจริงคุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาด และมีอารมณ์ขันนะกินรี ” ราล์ฟพูดสายตาที่มองเธอมีแววพึงพอใจ

“ ดิฉันรู้ค่ะ ว่าตัวเองเป็นคนยังไง ” เธอเชิดหน้า “ว่าแต่คุณจะให้ดิฉันเริ่มงานเมื่อไหร่ ”

“ แล้วแต่คุณสะดวก ” ราล์ฟบอกแล้วยืนขึ้น

“เห็นทีผมจะต้องไปเสียที คุณจะได้พักผ่อน เป็นอันว่าเราเข้าใจเรื่องที่ตกลงกันแล้วนะ ”

ราล์ฟย้ำตอนท้ายอย่างมีความหมาย กินรีมองหน้าเขาสิ่งที่พูดกันไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่เข้าใจโดยไม่ต้องพูดนี่สิมันมากมาย แต่กินรีก็พร้อมที่จะลอง เมื่อพยักหน้าให้เขาเงียบ ๆ

“ อย่าลืมกินยาละ ”

ราล์ฟเตือนตอนท้าย ก่อนจะเดินไปที่ประตู เปิดออกไป พร้อมกับการลอคประตูห้องให้อย่างเรียบร้อย

เมื่อราล์ฟออกไปแล้ว กินรีก็ลุกขึ้นหยิบถ้วยกาแฟไปล้าง แล้วเดินมาหยิบถุงยาเทออก มีซองพลาสติกใส่ยาอยู่สามสี่ซอง เธออ่านแล้วก็กินตามที่คำแนะนำเขียนไว้ จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้า เช็ดตัวให้ตัวเอง แล้วใส่ชุดกระโปรงหลวม ๆ ขึ้นเตียงนอนหลับตา หญิงสาวพยายามปัดความคิดทุกอย่างออกไป เธอต้องพักผ่อนเพื่อจะได้หายเร็ว ๆ เธอจะสอบแล้วไม่ควรจะคิดเรื่องอะไรอีกนอกจากการเรียน ด้วยฤทธิ์ยาทำให้เธอเคลิ้มหลับได้ง่าย แต่ก็ไม่วายจะเห็นใบหน้าคมเข้มของราล์ฟ ลอยวนเวียนเต็มไปหมด

คุยกับฟีลิปดาถึงเรื่องดั่งไฟพิศวาสที่นี่

นวนิยายเรื่อง ดั่งไฟพิศวาส ในรุปแบบ พอคเก็ตบุ้ค พิมพ์ครั้งที่ 2ราคา 159 บาทมาแล้วค่ะ

ลิก

 

นวนิยาย ดั่งไฟพิศวาส ในรูปแบบ E-book
สนใจ
คลิ


© ลิขสิทธิ์ตามกฏหมายโดย ฟีลิปดา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง
 

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์
 

 

2009 free writing

 



๕๐๕ แคนโต้แห่งความรัก

 

 

 

  http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.