๔
ไรอันเดินเข้ามา พร้อมกับถาดเครื่องดื่มอีกครั้ง
แอนนาบอกว่าเธอจัดเตรียมอาหารกลางวันให้ เรียบร้อย แล้ว ครับอาคิน แต่เธอฝากขอโทษผู้พันด้วยว่าไม่ได้เตรียม ของชอบ ของผู้พันเอาไว้ เพราะว่ามันฉุกลหุกเกินไป คุณอองตียาครับนี่คือเครื่องดื่มที่คุณโปรดปราน ไรอันพูดและจัดวางเครื่องดื่มลงอย่างคล่องแคล่ว
เอะ มิสเบ็ญจรงค์กลับแล้วเหรอครับ อ้าว ! อาคินหลังคอคุณเป็นอะไรน่ะ ตอนท้ายเขาถามอย่างสงสัย
ก็เพราะแม่นั่นนะซิ อองตียาพูดสะบัดค้อนควักไปทางประตูแม้ว่าระรินดาวจะออกไปเป็นครู่แล้ว ไปหาอะไรมาให้ฉันทำแผลให้อาคินหน่อยซิ
ไรอันยิ้มในหน้า พูดกับอาคินก่อนที่จะออกไปอีกครั้งว่า
หวังว่ามันคงคุ้มกับสิ่งที่คุณทำนะครับ
เมื่อสามเดือนก่อนผมไปที่ประเทศไทย ผู้พันฮัซซาร์เอ่ยขึ้นขณะที่มองอองตียากำลังใช้สำลีเช็ดแผลให้อาคิน ทุกคนในห้องอยู่ในท่าทีที่ผ่อนคลาย ไรอันนั่งอยู่ที่เก้าอี้ใกล้กับประตูที่สุด
คุณคงเดาได้นะอาคิน ว่าผมไปทำไม
ผมไม่สนใจ อาคินพูดเอื่อย ๆ
ผมตามรอย เบอร์ฮาน ไป
ชื่อของเบอร์ฮาน ไม่ได้ทำให้สีหน้าอาคินเปลี่ยนไป แต่อองตียาถึงกับหันขวับถามว่า
คุณได้ตัวเขาไหม?
ผู้พันฮัซซาร์ส่ายหน้า สายตาจับที่อาคินยังไม่ได้พูดอะไร อองตียาก็กระชากเสียงขึ้นว่า
ทำไมคุณไม่หาทางนำตัวเขากลับมา เขาเป็นฆาตกรนะ
เขาเพียงแต่ถูกกล่าวหา อองตียา อาคินขัดขึ้น
คุณอย่าแก้แทนเขาอาคิน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาคุณคงไม่ต้องออกจากตำแหน่งหัวหน้าราชองครักษ์หรอก
มันเกิดจากความบกพร่องของผม ผมต้องรับผิดชอบ
กับข้อหาพยายามลอบปลงพระชนม์นะเหรออาคิน มันมากเกินไปแล้ว นี่ถ้าหากองค์รัชทายาท ไม่พระราชทานอภัยโทษให้ ป่านนี้คุณโดนโทษประหารไปแล้ว แล้วดูซิ คุณยังต้องถูกยึดสมบัติไปอีกไม่น้อยเลย น้ำเสียงอองตียาทั้งโกรธทั้งเสียดาย
ผู้พันฮัซซาร์มองหน้าเธอแล้วยิ้มนิดๆ
แค่บ่อน้ำมันไม่กี่บ่อ เทียบกับความมั่งคั่งที่แทบจะกุมเศรษฐกิจของวาโซดิเนียไว้ทั้งประเทศ ก็แค่ขนทรายหนึ่งคันรถออกจากทะเลทรายสะฮาราเท่านั้น จริงไหม ? อาคิน
" ฟังเหมือนคุณจะอิจฉาเขานะ " อองตียาเยาะ
" แน่นอน " ผู้พันรับหน้าเฉย
" มิน่า ... ข้อหาลักพาตัวองค์รัชทายาทครั้งนี้ คุณถึงได้ยัดเยียดให้เขานัก "
ผู้พันฮัซซาร์ ไหวไหล่ ไม่สนใจน้ำเสียงแดกดันของอองตียา พูดกับอาคินต่อว่า
" ผมรู้มาว่าเบอร์ฮาน ถูกยิงที่ไหล่ ท้อง และต้นขาซ้าย แต่โชคดีที่ถูกช่วยไว้ได้ทัน แต่ผู้ชายอีกห้าคนถูกเชือดคอตายด้วยคมมีดของเขา ...เป็นคนที่ผมส่งออกไปทั้งหมด " น้ำเสียงตอนท้ายบอกถึงความโกรธไม่น้อยเมื่อสรุปไปเลยว่า คนของเขาถูกเบอร์ฮานสังหา ร
" ผมเสียใจ " อาคินพูดเสียงเรียบ " แต่คุณมั่นใจได้ยังไงว่า เป็นฝีมือของเบอร์ฮาน "
" ผมไม่เคยสงสัยในความสามารถของการใช้มีดของลูกน้องคุณ "
" แล้วความสามารถของการใช้ปืนของลูกน้องคุณ "
" เขาได้รับคำสั่งให้จับเป็น " ผู้พันฮัซซาร์พูดเสียงหนัก
" กับกระสุนสามนัดนะเหรอ ผู้พัน ผมไม่คิดหรอกนะว่าคนของผู้พันจะมือตกขนาดนั้น และต่อให้เบอร์ฮานเก่งแค่ไหน ก็ไม่ควรจะเชือดคอคนตายได้ทีเดียวห้าศพรวดอย่างนั้น "
ผู้พันฮัซซาร์มองหน้าอาคิน อย่างนับถือ แม้อาคินจะไม่อยู่ในวาโซดิเนียเกือบสองปี แต่เขาก็เกาะติดเรื่องนี้อยู่ดี โดยเฉพาะ เรื่องเกี่ยวกับเบอร์ฮาน
มันเป็นสิ่งที่ผมเองก็แปลกใจ ผู้พันฮัซซาร์ พูดออกมาอย่างเปิดเผย ฝีมือหมอเก่งทีเดียวล่ะ? แต่รู้ไหม? เรื่องของเขาถูกปิดเงียบเลยทีเดียว ผมหาข่าวไม่ได้แม้แต่นายตำรวจที่ทำคดี และหมอคนเก่งนั่นด้วย
ผมนึกว่าทางนี้จะ ขอความร่วมมือไป
ท่านผู้สำเร็จราชการต้องการให้สืบสวนในทางลับก่อน
ทำกันเอง?
เสียงอาคินติดจะเยาะ แต่ผู้พันฮัซซาร์ ไม่สนใจ
คุณก็รู้ว่า ผมเป็นคนยังไง เบอร์ฮานต้องถูกนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศให้ได้ พอๆ กับจะบอกข่าวเรื่อง องค์รัชทายาทถูกลอบปลงพระชนม์จากราชองครักษ์ไม่ได้เช่นกัน
อาคินมองผู้พันฮัซซาร์ด้วยสายตาล้ำลึก จริงอยู่ที่เขาและผู้พันจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันมา แต่การที่ต้องรับใช้เจ้านายต่างกัน มันทำให้ยากที่จะไว้วางใจกันได้ง่าย เขารู้ว่าผู้พันฮัซซาร์เป็นคนซื่อตรง และอาจจะได้คัดตัวเข้าหน่วยราชองครักษ์เช่นกัน แต่มันขัดกับราชประเพณี ราชองครักษ์จะต้องเป็นผู้ที่สืบสายเลือดมาจากต้นตระกูลที่พระราชาธิบดีพระราชทานการแต่งตั้งเท่านั้น ความเป็นมาของผู้พันฮัซซาร์นั้นมืดมน ข่าวว่าเขาคือเด็กกำพร้าที่รอดตายจากพายุทะเลทราย ผู้สำเร็จราชการซึ่งมียศเพียงพันตรีไปพบเขาเร่ร่อนอยู่ท่ามกลางพวกพ่อค้าอูฐ จึงนำมาอุปการะดุจลูกชาย ซึ่งตอนนี้เขาเปรียบเสมือนแขนขวาของผู้สำเร็จราชการไปเลยทีเดียว ดังนั้นผู้พันจึงทั้งรักและจงรักภักดีต่อผู้สำเร็จราชการนัก และหากเรื่ององค์รัชทายาทถูกลอบปลงพระชนม์ และตอนนี้ก็หายพระองค์ไป หากยังไม่สามารถหาความกระจ่างได้ ความอึมครึมในเรื่องนี้ก็ยากที่จะไม่จับจ้องไปที่ ผู้สำเร็จราชการ เพราะเป็นคนที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด ในการนี้
ทหารของผู้พันฮัซซาร์ เดินเข้ามายื่นโทรศัพท์ให้อย่างนอบน้อม
สายด่วนครับ
ผู้พันฮัซซาร์ รับมาฟังชั่วครู่ ใบหน้าเครียดขึ้น แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นเฉยชาเมื่อหันมาบอกอองตียาว่า
ท่านสั่งให้คุณกลับบ้านด่วน
ฉัน
เดี๋ยวนี้ ผู้พันเน้นเสียง พยักหน้าให้ลูกน้อง ซึ่งก็ตรงเข้ามาหาอองตียาทันที มันสร้างความฉุนโกรธให้กับเธอยิ่งนัก เพราะทุกคนจะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด โดยไม่สนใจกับความเป็นธิดาของ ผู้สำเร็จราชการเลย จริงอยู่ที่ทุกคนจะรู้ว่าท่านพ่อรักและตามใจเธอมาก แต่มันก็อยู่ในขอบเขตของความเป็นลูกผู้หญิง และผู้พันฮัซซซาร์คนสนิทของท่านพ่อคนนี้ ก็ช่างมีความคิดคร่ำครึในเรื่องสิทธิสตรีเพศเสียเหลือเกิน หญิงสาวอ้าปากจะโต้แย้ง แต่อาคินรีบพูดออกมาก่อนว่า
คุณกลับไปเถอะ เรียนท่านด้วยว่า เย็นนี้ผมจะไปรายงานตัวต่อท่าน
ท่าทางที่จะอาละวาดขึ้นมาของอองตียาจึงลดลงไปเพราะคำพูดนี้ แต่กระนั้นเธอก็ยังไปกระชากเสียงใส่ผู้พันฮัซซาร์ว่า
ฉันไม่ชอบที่คุณบังอาจมาสั่งฉัน
ผมแค่ทำตามคำสั่งท่านพ่อคุณ
สักวันฉันจะบอกให้ท่านสั่งคุณไปตาย อองตียาเสียงขุ่น ก่อนจะสะบัดหน้าออกจากห้อง โดยมีนายทหารของผู้พันตามไปติด ๆ
พ้นร่างของอองตียา ใบหน้าของผู้พันฮัซซาร์ก็เครียด จ้องอาคินเขม็ง พูดว่า
ฮอ เมื่อครู่ ขาดการติดต่อ
ท่าทางอาคินยังเรียบเฉย เมื่อย้อนว่า
ที่จุดไหน?
บริเวณ ทุ่งหินแดง
คำว่าทุ่งหินแดง ทำให้แววตา อาคินเปลี่ยนไปเล็กน้อย
มีสัญญาณแจ้งเหตุก่อนขาดการติดต่อไหม?
ผู้พันฮัซซาร์สั่นหน้า
ไม่มี เจ้าหน้าที่สื่อสารเกรงว่า ... จะตก
เมื่อเอ่ยคำนี้ออกไป สายตาก็จ้องจับพิรุธของอาคินหากเฮลิคอปเตอร์เมื่อครู่นำบุคคลสำคัญไปด้วย อาคินลำบากแน่ แต่ท่าทางอาคินนั้นร้อนใจ แต่ไม่ถึงกับวิตกเพราะย้อนถามว่า
แล้วคุณได้รับคำสั่งให้ควบคุมตัวผม หรือ ไปตรวจค้นที่นั่น
ผู้พันไม่ตอบ แต่ย้อนว่า
แค่คุณบอกผมเท่านั้นว่า ใช่ การติดตามเพื่อค้นหาช่วยเหลือ จะอยู่ในระดับสูงสุดและเป็นความลับ
อาคินสบตาผู้พันฮัซซาร์อย่างไม่หวั่นพูดว่า
ผมบอกแล้วไงว่า ไม่รู้เรื่ององค์รัชทายาทจริง ๆ บนนั้นเป็นคนของผม จะขอบคุณหากคุณคิดจะช่วยติดตามอีกทาง
ผู้พันฮัซซาร์ มองหน้าเขา อย่างนับถือนิด ๆ แล้วก็พูดเป็นเชิงเยาะว่า
ไม่ว่ายังไง เราก็ต้องค้นหาอยู่แล้ว และผมก็หวังว่า การเดินทางไป คาเดียร่า ของมิสเบ็ญจรงค์จะราบรื่นขึ้นเพราะใบเบิกทางของผมนะ
ถ้าผมมีโอกาสได้เจอเธออีก จะแนะนำให้ขอบคุณ คุณ
ผู้พันฮัซซาร์ แค่นยิ้มกับคำพูดนี้ พยักหน้าให้ลุกน้องที่เหลือของตัวเองเดินออกไปโดยไม่กล่าวคำใด ๆ อีก
เมื่อพ้นร่างผู้พันฮัซซาร์ อาคินก็พยักหน้าให้ไรอัน
วิทยุตามจามาล ใช้รหัสเฉพาะถึงผู้โดยสาร บอกว่าผมจะออกไปค้นหา แล้วตรวจสอบทางฟันจาร์ด้วย ถึงไหนแล้ว
ไรอันลุกขึ้นเดินไปยัง ผนังด้านที่มีรูปปั้นนักรบโบราณ เพียงแตะ ที่ด้ามดาบ ผนังก็เลื่อนเปิดออก เขาเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็วเหมือนรู้ที่ทางดี
เมื่ออยู่คนเดียว สีหน้าเรียบเฉยของอาคิน มีแววเครียด แต่แล้วก็คลายลงเมื่อสายตากระทบกับตุ้มหูเพชร ชายหนุ่มหยิบมันขึ้นมา มองแสงวูบวาบในมือเล่น
น่าแปลก ที่เหมือนกับเธอถูกส่งเข้ามาขจัดความยุ่งยากให้กับเขา ความเฉียดฉิวของสถานการณ์เมื่อสองสามชั่วโมงมานี้ มันทำให้เขาเครียดอยู่เหมือนกัน ทุกอย่างแม้จะคลี่คลายไปได้ในตอนนี้ แต่เขาเชื่อว่า ความฉลาดของผู้พันฮัซซาร์ จะต้องรู้ภายในไม่ถึงสองชั่วโมงนี้แน่ และเชื่อว่าความเคลื่อนไหวของเขาต้องถูกจับตาในทุกด้าน
สีหน้าของไรอัน ยุ่งยากเมื่อเดินเข้ามา
มีอะไร ?
ด้านจามาลไม่มีปัญหา แต่ทางมิสเบ็ญจรงค์ ... เธอเจอก่อนถึงจุดหมายครับ
อาคินถอนหายใจยาว คลึงตุ้มหูรูปหยดน้ำในมือเล่นก่อนจะสั่งว่า
ให้กักตัวไว้ด้วย
...........
ระรินดาวขับรถไปตามเส้นทางแคบ ๆ อย่างไม่มั่นใจนัก สองข้างทางเป็นไม้ยืนต้นสูงรกครึ้ม มีบ้านอยู่ประปราย ก่อนที่จะมายังถนนสายนี้ ระรินดาวขับอย่างสบาย เธอได้รับความสะดวกจากจดหมายของผู้พันฮัซซาร์ ในทุกด่านปราศจากการตรวจค้น แต่เธอคงจะไม่อยู่บนเส้นทางนี้ ถ้าหากถนนที่เธอใช้อยู่ก่อนหน้าจะไม่ถูกปิดเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกคว่ำขวางทางจราจร และเจ้าหน้าที่ที่อยู่ตรงนั้นแนะนำว่า เธอสามารถใช้ถนนนี้เพื่ออ้อมไปตัดเข้าไปยังถนนเส้นเดิมของเธอได้ในระยะเวลาไม่เกิน หนึ่งชั่วโมง
มีรถหลายคันวิ่งตามในตอนแรก ระรินดาวขับรถช้า เพราะมัวแต่สนใจกับทิวทัศน์ข้างทาง ที่เป็นตึกเก่าสร้างด้วยอิฐสีแดง มีหน้าต่างเจาะเป็นช่องเล็ก ๆ เหมือนรวงผึ้งเรียงเป็นแถวยาว เด็กๆ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสดใสวิ่งเล่นกันอยู่ มีผู้หญิงบางคนใส่เสื้อคลุมยาว มีผ้าคลุมปิดหน้า เห็นแต่ลูกตา ทุกบ้านจะมีธงชาติประดับปลิวไสว แต่เมื่อขับผ่านไปประมาณยี่สิบนาที ระรินดาวเหมือนกับตัวเอง หลงเข้ามาในอีกสถานที่หนึ่ง บ้านคนที่เห็นก็เป็นอิฐสีแดงเก่า ๆ ชักจะหดหายไป ยิ่งขับถนนก็ยิ่งเงียบ ต้นไม้ก็ดูจะร่มครึ้มมากขึ้นเรื่อยๆ ระรินดาวคิดว่าตัวเองจะหลงเลี้ยวรถผิดทางหรือเปล่า จึงชะลอจอดรถ เอาป้ายชื่อถนน มาเปรียบเทียบเข้ากับแผนที่ที่เธอมีอยู่ แล้วก็ใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นว่ามันเป็นทางอ้อม ย้อนเข้าไปสู่ถนนใหญ่จริง ๆ จึงขับต่อ ยังไง ๆ วันนี้เธอก็ต้องไปถึง คาเดียร่าให้ได้ แม้จะเสียฤกษ์ตั้งแต่เช้าแล้วก็ตาม
แล้วระรินดาว ก็สังเกตเห็นรถคันหนึ่งแล่นตามหลังเธอมา ไม่ว่าเธอจะขับช้าหรือเร็วแค่ไหน รถคันนั้นก็ยังรักษาระยะห่างได้อย่างน่าอัศจรรย์ ระรินดาวไม่สามารถเก็บความสงสัยไว้ได้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอในช่วงเวลาเพียงสองวันที่มาประเทศนี้ ทำให้ระรินดาวไม่ไว้ใจในสถานการณ์นัก จึงตัดสินใจจอดรถเข้าข้างทางอีกครั้ง เสียดายที่เธอไม่สารมารถพกปืนในเมืองนี้ได้ แต่ในกระเป๋าของเธอมีชุดมีดสั้นที่เหมือนกับเป็นของที่ระลึกซ่อนอยู่ หนึ่งในมันเป็นมีดที่เธอได้รับเป็นของขวัญจาก ชายชาววาสิโดเนีย มันคงจะทำให้เธออุ่นใจขึ้นถ้าได้นำมันมาไว้ใกล้ตัว
ระรินดาวลงมาเปิดท้ายรถ จึงเห็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาอยู่ในท้ายรถ เธอไม่สนใจกับตะกร้าอาหาร ที่เหมือนจะใส่สิ่งของสำหรับการไปปิคนิค เธอไม่สนใจกับกระเป๋าเดินทางของเธอที่ร่นมาอยู่ด้านหน้าจนชิดขอบประตู เพื่อจะแทนที่ด้วยกองผ้าสีดำขนาดใหญ่ ที่ดูเหมือนป้ายอะไรสักอย่างถูกจับยัดลงไปอย่างไร้ระเบียบ เธอรู้ว่าเธอไม่ใช่คนจับมันยัดลงไปแน่ รถของเธอถูกใครบางคนเอาของมาซุกซ่อนไว้ มันอาจจะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย หรืออาวุธร้ายแรงสักอย่าง
ข้อสันนิษฐานของเธอใกล้เคียงกับความจริง เพราะเพียงเธอเอาผ้านั้นออก ปลายกระบอกปืนก็จี้เข้าที่ทรวงอกเธอทันทีหญิงสาวยืนตัวแข็ง จ้องหน้าเขาเขม็ง เธอไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ แต่ ...
ฉันจะไม่ทำร้ายเธอ ถ้าเพียงแต่เธอจะให้โดยสารไปด้วย สักระยะหนึ่ง
น้ำเสียงคนพูดแม้จะแฝงไว้ด้วยความขึงขัง แต่มันก็ฟังอ่อนล้า เธอสบสายตาเขา แล้วก็กวาดสายตาเร็ว ๆ ไปทั่วร่างที่นอนตะแคงพับเข่าเพื่อให้พอดีกับความยาวของรถ เขากำลังบาดเจ็บและเจ็บหนักเสียด้วย แต่ปืนในมือมันไม่ดูอ่อนล้าเลยสักนิด
ถ้าคุณวางปืนลง ดิฉันยินดีที่จะให้คุณไปนั่งสบายที่ข้างหน้า
รอยยิ้มนิด ๆ ผุดขึ้นที่ใบหน้าอันซีดเซียวนั้น
เธอไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าจะให้ปลอดภัยทั้งเธอและฉันแล้วละก้อ ไม่เกินสิบนาทีเธอจะขับรถผ่านบ้านหลังหนึ่งมีกระถางต้นไม้สีแดงวางอยู่ข้างหน้า ขับต่ออีกหน่อยเธอจะพบกับคนๆหนึ่ง หากเขาโบกมือให้จอด ก็จอดเลยนะ ไม่ต้องตกใจ ไม่มีอันตราย
แล้วคุณจะรู้ได้ยังไง ถ้าฉันไม่ขับไปยังเส้นทางที่คุณบอก
เขายิ้มเพลีย ๆ กับคำถามนี้
เสียงปืนที่ถล่มรถคันนี้ จะทำให้ฉันรู้ว่าเธอเปลี่ยนเส้นทาง
ระรินดาวเม้มปาก ถอยห่าง ปิดฝากระโปรงท้ายอย่างแรง
เหมือนกันมาก แต่ก็ไม่ใช่ ชายชาววาโซดิเนียที่เธอเคยรักษาให้ที่เมืองไทยแววตาดูจะกร้านกว่านี้
สัญชาตญาณ ทำให้ระรินดาวรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในเรื่องอันตรายสักอย่าง
และผู้ชายคนนี้มาอยู่ที่ท้ายรถเธอได้ ต้องเป็นฝีมือของ อาคิน แน่ ๆ
บ้าเอ๊ย ! ช่างหาเรื่องให้เข้ามายุ่งนัก ยิ่งเป็นคนอยากรู้อยากเห็นเสียด้วยสิเรา
ผ่านบ้านที่มีกระถางต้นไม้สีแดงสักหน่อย ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งโบกมือให้เธอจอดรถจริง ๆ หล่อนเคาะประตูให้ระรินดาวเปิด และก็เป็นอีกครั้งที่ ระรินดาว อยากจะกรีดเสียงออกมาด้วยความเจ็บใจ เมื่อหล่อนเปิดประตูรถเข้ามานั่ง มีดคมแหลมก็จ่อที่คอเธอทันที และไม่รู้ว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่นั่งบนหลังม้าโผล่พรวดออกมาจากทางไหน จำนวนห้าหกคน แต่ละคนถืออาวุธครบมือปลายกระบอกปืนพุ่งมาทางรถเธอ
ขับตรงไป
ระรินดาว เหยียบคันเร่งจนมิด เธอไม่กลัวแล้ว แต่เธอโกรธ
เลี้ยวซ้ายข้างหน้า อย่าขับเร็วนัก ถ้าพวกนั้นไม่ทัน เขาจะหยุดรถเธอด้วยกระสุนปืน และฉันก็ไม่แคร์ด้วย ในเมื่อชีวิตเธอมันไม่ได้อยู่ในสัญญา
ระรินดาวผ่อนความเร็ว โกรธไปก็มีแต่จะเสียหน้า สู้เฉยเสียดีกว่า ตราบใดที่มันยังไม่ถึงจุดคับขัน เธอก็ไม่ควรจะแสดงความรู้สึกให้ใครจับได้
จะไปอีกไกลไหม ? ฉันกลัวจะถึงคาเดียร่าไม่ทันนัด
อีกประมาณยี่สิบนาที ถ้าเธอใช้เวลาแต่งตัวให้น้อยลงคงทันนัด
ฉันต้องการสร้างความประทับใจ เมื่อแรกเห็น
โง่ ... ที่ประเทศนี้ ผู้ชายเขาไม่ให้ความสนใจกับหน้าตาหรอก เขาเพียงแต่หวังว่าเธอจะเป็นแม่พันธ์ที่ดีแค่ไหนเท่านั้น
แฟน เธอเป็นอย่างนั้นเหรอ ?
หุบปาก
ระรินดาวยิ้ม เด็กสาวคนนี้น่าทึ่ง เจ้าหล่อนตอบรับการสนทนาเหมือนคุยกับเพื่อนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง และที่เยี่ยมที่สุดก็คือ มีดที่จ่อเธออยู่มันไม่กระดิกหรือสั่นไปทิศทางไหนเลย มือหล่อนมั่นคงมาก
ถ้าเธอเอามีดลง จะทำให้ฉันสบายใจขึ้น ระรินดาวบอก
ฉันเลือกเอาความสบายใจของฉันมากกว่า จอดที่พุ่มไม้นั่น ระรินดาวทำตามสั่ง
เปิดท้ายด้วย
แสดงว่าคนพวกนี้รู้ดีว่ามีอะไรอยู่ในรถเธอ จบ ๆ ไปซะ เธอจะได้ไปตามทางของเธอเสียที
เมื่อเธอเปิดท้ายรถ ชายสองคนก็มาขนาบข้าง เขาดึงเอาผ้าสีดำโยนทิ้ง ร่างของชายหนุ่มในชุดสีดำที่เธอเห็นเมื่อยี่สิบนาทีที่แล้ว นอนนิ่งเงียบหมดสติ
เสียงพูดและร้องเรียกอย่างโกลาหลเกิดขึ้น เมื่อชายในชุดสีดำถูกอุ้มออกมาอย่างทุลักทุเล ผ้าสีดำที่ถูกโยนทิ้งเมื่อครู่ ถูกนำมาพับซ้อนปูรับร่างที่บาดเจ็บทันที
รถที่ระรินดาวจำได้ว่า แล่นตามเธอมา ตรงมาจอดไม่ห่างแล้ว ชายร่างเล็กคนหนึ่ง ก็ลงมาเขา แหวกคนอื่น ๆ เข้าไปยังคนเจ็บอย่างรวดเร็ว ระรินดาวเป็นเขาแตะตามร่างกายร่างที่ไร้สตินั้น แล้วก็พูดเป็นภาษาที่เธอไม่เข้าใจให้ทุกคนฟัง
ความตระหนกตกใจเกิดขึ้นกับทุกคน
แต่ดูเหมือนเด็กสาวนั่นจะไม่อนาทรร้อนใจ ไปกับใคร ๆ
ระรินดาวก็ทนที่จะเฉยต่อไปอีกไม่ได้ เธอแทรกเข้าไปคุกเข่าตรวจชีพจร มันเต้นอ่อนเต็มทน หญิงสาวแกะกระดุมเสื้อเขาออกอย่างรวดเร็ว ผ้าพันแผลสีขาวที่พันรอบตัวเขามีเลือดสีแดงซึมออกมาเต็มไปหมด
ฉันเป็นหมอ ระรินดาวพูดกับชายร่างเล็ก
ฉันต้องการสถานที่สะอาด ๆ เพื่อตรวจดูแผลของเขาอีกครั้ง
ชายร่างเล็กนั้นชะงัก กวาดสายตามองเธอ แล้วก็พยักหน้า ตะโกนพูดกับเด็กสาวที่จี้เธอเข้ามา โต้เถียงกันอยู่สองสามประโยค เด็กสาวก็กระโดดขึ้นหลังม้าควบออกไป
ที่พักอยู่ไม่ไกล หลังเนินเขา เขาหันมาพูดกับเธอด้วยภาษาอังกฤษอย่างชัดเจน และแค่พยักหน้า ชายที่เหลือก็มาอุ้มร่างคนเจ็บขึ้นรถ
คุณไปกับผม เขาดึงแขนระรินดาวไปที่รถ
ถ้าไม่มีอารมณ์ขันมากไปกว่านี้ ระรินดาวคิดว่าเธอต้องตบหน้าเขาแน่ เมื่อขึ้นรถแล้วยังบังอาจ เอาปืนมาจ่อที่เอวเธอไว้
บ้านหลังเล็ก เหมือนเป็นบ้านพักตากอากาศ มันอยู่ในหุบเขาถ้าไม่สังเกตก็คงไม่เห็น ภายในมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน แต่ระรินดาวไม่มีเวลาจะเอาใจใส่ เมื่อร่างคนเจ็บถูกอุ้มเข้าไปในห้องที่มีอุปการณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เด็กสาวที่ล่วงหน้ามาก่อนคงจะจัดเตรียมเอาไว้
ถอดเสื้อเขาออก ต้มน้ำ หาผ้าสะอาด ๆ เตรียมไว้ด้วย ฉันจะเปิดแผล ระรินดาวสั่ง และดูเหมือนจะไม่ทันใจ เธอคว้าเอามิดที่เหน็บที่เอวของเด็กสาวออกมา ตัดผ้าที่พันแผลเอาไว้อย่างชำนาญ ไม่สนใจที่แม่สาวนั่นถึงกับอ้าปากค้าง ที่ถูกแย่งมีดไป และเมื่อระรินดาวเปิดแผลเสร็จ หล่อนก็คว้าหมับที่ข้อมือเธอทันที
เอามีดฉันคืนมา
ระรินดาวบิดข้อมือเพียงนิดเดียว ก็หลุดแค่พริบตาก็บิดมืออีกฝ่ายไขว่หลัง มีดจ่อเข้าที่ลำคอทันที
ฉันจะใช้มีดเล่มนี้ จนกว่าจะมีคนหาให้ฉันใหม่ เข้าใจไหม ?
แค่จบประโยค ระรินดาวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาจริง ๆ เมื่อชายฉกรรจ์ทั้งสี่ห้าคนที่ยืนอยู่รอบ ๆ ต่างยื่นมีดที่เหน็บเอวยื่นให้เธอทันที แต่เธอเลือกที่จะรับจากชายร่างเล็ก โดยยังไม่ปล่อยเด็กสาว
ฉันต้องการที่จะดูบาดแผลของเขา ถ้าเธออยากจะแก้มือ ให้เก็บไว้ทีหลัง ตกลงไหม?
หล่อนพยักหน้าง่าย ๆ แม้แววตาจะมีรอยขึ้งโกรธ
ระรินดาวตรวจดูบาดแผลที่ระบม มีหนอง มันอาจจะติดเชื้อไปแล้ว หญิงสาวตรวจซี่โครงหักไปหลายซี่ แต่สิ่งที่เธอกังวลก็คือ บางซี่มันแทงทะลุอวัยวะภายในซึ่งอาจทำให้เลือดครั่งได้ เขาต้องเป็นคนที่แข็งแรงและอดทนมากทีเดียวจึงอยู่ได้นานถึงขนาดนี้
ควรส่งเขาไปโรงพยาบาล เขาต้องได้รับการผ่าตัดด่วน
ชายร่างเล็ก มีสีหน้ากังวล เขาพูดกับชายที่เหลือ ซึ่งแต่ละคนต่างมีสีหน้าตระหนกเมื่อรับรู้ แล้วต่างก็ถกเถียงกัน
ระรินดาวเริ่มทำความสะอาดบาดแผลให้คนเจ็บ หูก็พยายามจับใจความว่าจะมีคำไหนให้เธอเข้าใจได้บ้าง มันรัวเร็วเสียจนมีอยู่คำเดียวที่เธอเข้าใจ คือคำว่า ... อาคิน
แสดงว่าผู้ชายคนนี้ต้องมีความสำคัญมากทีเดียว อาจจะเป็นคนที่ผู้พันฮัซซาร์เข้าใจว่า อาคิน ลักพาตัว และที่แน่ ๆ เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นต้องเป็นเป้าล่อให้ผู้พันฮัซซาร์สนใจ ป่านนี้ผู้พันฮัซซาร์จะไหวตัวทันแล้วยังนะว่า จริง ๆ แล้ว คนที่เขากำลังค้นหา ถูกนำมาใส่ไว้ที่ท้ายรถเธอ โดยมีจดหมายของเขาเป็นใบเปิดทางเสียด้วยสิ
แล้วให้ตาย ... ทำไมเธอต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนะ
ระรินดาวลอบถอนใจ พอดีกับที่สายตาเบนไปสบกับคนเจ็บที่ไม่รู้ว่า ฟื้นตัว ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
ยังไม่ไปเหรอ ? เขาถาม
ระรินดาวยิ้ม ตอบว่า
อีกครึ่งชั่วโมง
เธอถอยออกมา เมื่อเห็นชายร่างเล็กนั้นแทบจะผวาไปหาคนเจ็บ สำหรับเด็กสาวคนนั้น ระรินดาวเห็นหล่อนเดินออกไปด้านนอก ระรินดาวเดินตามออกมา
ฉันอยากเข้าห้องน้ำ เธอพูด
หล่อนหันมามองอย่างไม่เป็นมิตร แต่ก็ชี้ทางให้
ทันสมัยและหรูอย่างไม่น่าเชื่อว่า จะมีห้องน้ำแบบนี้ในป่าทึบ เพราะเครื่องสุขภัณฑ์ทุกอย่างประทับตราถึงยี่ห้อดังทีเดียว
พอออกจากห้องน้ำ ก็เห็นชายร่างเล็กนั่งอยู่ทีโซฟา
ผมชื่อ ฟันจาร์ เขาแนะนำตัวเอง
สตาร์ค่ะ เธอแปลชื่อจากดาวให้เลย
ต้องทำการผ่าตัดที่นี่ ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ
ไม่ปลอดภัย ระรินดาวบอก
เขานิ่งไปครู่ แล้วก็พูดว่า
เราจะเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างตามที่คุณต้องการ
ฉันขอย้ำว่า ไม่ปลอดภัย
ใบหน้าเขาเองก็มีความกังวล ชายคนหนึ่งโผล่หน้าออกจากห้องเรียกชื่อเขา ฟันจาร์รีบเดินเข้าไปทันที
แล้วเสียงหึ่ง ๆ ของใบพัดเครื่องบินดังขึ้น ระรินดาวมองทะลุหน้าต่างออกไป ก็เห็น เครื่องบินเล็กลำหนึ่ง กำลังลงจอด สักครู่ร่างสูงใหญ่คุ้นตา ก็ลงจากเครื่อง เขาวิ่งเข้ามาในบ้านพยักหน้าให้กับเด็กสาวที่นั่งนิ่งอยู่โซฟา ไม่มองมาทางเธอด้วยซ้ำ เดินตรงไปเข้าไปยังห้องคนเจ็บอยู่ทันที
ระรินดาวนั่งลงที่โซฟา หน้าเตาผิง ปกติในหน้าหนาวสมัยที่เรียนอยู่ที่เยอรมัน เธอเองก็ชอบที่จะได้นั่งเหยียดยาว อ่านหนังสือหน้าเตาผิงมันให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่นสบาย แต่ที่ประเทศนี้ มันคงอยู่ในระหว่างหน้าร้อน อากาศอบอ้าว แถมสถานการณ์ก็ยังไม่เป็นปกติด้วย
และให้ตายสิ เธอมานั่งอยู่นี่ทำไม ในเมื่อเธอไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนี้เสียหน่อย เธอควรจะไปเสียที
ระรินดาวลุกขึ้น แล้วเด็กสาวที่นั่งนิ่งอยู่ที่โซฟาก็ลุกขึ้น และเมื่อระรินดาวเดินไปที่ประตู เจ้าหล่อนก็ยืนขวางไว้
ฉันจะกลับ จะออกไปด้วยกันไหม ? ระรินดาวชวนเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
เธอยังไม่ได้รับอนุญาตให้ไป
ระรินดาวยิ้ม กะจะเดินชนไปเลย ไม่ได้กลัวสักนิดกับมีดในมือหล่อน
มิส เสียงร้องเรียกของฟันจาร์ ดังขึ้นท่าทางเขาตระหนกไม่น้อย
ระรินดาวหันกลับ ก้าวเร็ว ๆ เข้าไปในห้อง ทุกคนเปิดทางให้เธอทันที คนเจ็บสลบไสล นอนหายใจรวยริน หญิงสาวส่ายหน้าเมื่อตรวจชีพจร พูดว่า
เขาต้องได้รับการผ่าตัดด่วน ไม่งั้นอาจไม่รอด
มีโรงพยาบาลเล็กๆ ไม่ห่างจากที่นี่
ก็พาเขาไปสิ จะเสียเวลาอยู่ทำไม ระรินดาวตวาดใส่
ดวงตาคมเข้ม จ้องเธออยู่ครู่ ก่อนจะเดินไปเอาปืนสั้นที่เหน็บอยู่ที่สะโพกชายคนหนึ่งยืนให้เธอถามว่า
คุณยิงปืนได้เก่ง พอๆ กับจูบไหม?
ระรินดาว เม้มปากแน่น พยายามอดกลั้นโทสะ แต่สายตาเธอคงฟ้อง ยังไม่ทันได้หลุดวาจา อาคินก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า
ผมต้องการความช่วยเหลือจริงๆ สักนัดแบบ ...ปืนลั่น
น้ำเสียงจริงจังของเขาสะกดอารมณ์ที่พลุ่งขึ้นมาของระรินดาวได้ หญิงสาวรับปืนจากเขา ถามว่า
ทำไม?
สำหรับคนเจ็บไปโรงพยาบาล...อีกคน
ระรินดาว ชำเลืองไปยังร่างที่อยู่บนเตียง มีปัญหาอะไรล่ะ? ถึงต้องการเพิ่มคนเจ็บไปโรงพยาบาลอีกคน
จะให้ฉันยิงใคร?
ผมเอง
ระรินดาวมองหน้าเขา แล้วก้มมองปืนในมือ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า
ฉันยิงไม่เก่งนัก แต่ยินดีที่ได้ช่วยเรื่องนี้ จะให้ยิงตรงไหน?
ไหล่ซ้ายเป็นไง?
ในห้องนี้เหรอ?
อาคินพยักหน้ายิ้มๆ มองหญิงสาวที่ถอยหลังห่างจากเขาไปประมาณสองเมตร ไม่อยากเชื่อว่า เขาจะไว้ใจเธอถึงเพียงนี้
ยิงเสร็จ สัญญาได้ไหม? ว่าจะให้ฉันเดินทางไปคาเดียร่าเสียที
คำพูดของเธอทำเอาอาคิน รู้สึกละอายใจวูบ ไม่ว่าเขาจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงยังไง แต่เรื่องอย่างนี้มันก็ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนไหนไม่ใช่เหรอ เธอเป็นคนต่างชาติเสียด้วยซ้ำ แต่เขาจะปล่อยเธอไปได้ยังไง สิ่งที่เธอรู้มันเป็นอันตรายกับเธอมากกว่าการอยู่กับเขาเสียอีก
คุณได้ไปคาเดียร่าแน่ เขารับคำหนักแน่น
ระรินดาวยิ้มนิดๆ มองเขาอย่างเชื่อใจ อย่างหนึ่งที่เธอมั่นใจ ผู้ชายลักษณะนี้ ไม่ผิดคำพูด แม้จะสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นแค่ไหน แต่ระรินดาวก็ไม่คิดจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงด้วย หญิงสาวมองรอบ ๆ ไปยังทุกคนในห้องต่างจ้องมาที่เธอ และอาคิน เป็นตาเดียว
ทำไมคุณไม่ให้คนของคุณยิงเอง
อาคิน สั่นหน้า
ทำไม่ได้ พวกเขา ...
ปัง !
อาคินเซไปสองสามก้าวรู้สึกแปลบเข้าที่ไหล่ขวา แต่สายตาเขายังจับอยู่ที่เธอ
โทษทีนะ ปืนมันลั่นจริงๆ พลาดไปนิด คุณบอกไหล่ซ้ายใช่ไหม?
ระรินดาวพูดหน้าเฉยยื่นปืนคืนให้เขา จะเดินออกจากห้อง แล้วก็ชะงักเมื่อฟันจาร์ เดินมาขวางเธอเอาไว้ หญิงสาวหันกลับเลิกคิ้วมองอาคิน
เราจะไปคาเดียร่าด้วยกัน และอย่าหาว่าผมผิดคำพูดเลยนะ เพราะคุณ ...จงใจยิงไหล่ขวาผม
พูดจบอาคินก็พยักหน้า ระรินดาวมองเขาอย่างไม่เชื่อที่ได้ยิน แต่แค่อ้าปากจะค้าน ก็มีมือมาตะปบที่ปากกลิ่นฉุนแรงทำให้หญิงสาวตาลายสติดับวูบทันที
อาคินมองไปยังร่างที่อ่อนระทวยของเธอ ไม่สนใจกับเลือดที่ไหลซึมออกมาจากไหล่ พูดเสียงเฉียบรวดเร็วว่า
บอกไรอัน เราจะไปถึงโรงพยาบาลภายในสามสิบนาที คาริดาจัดการเรื่องรถ ส่งมิสเบ็ญจรงค์ไปให้โทโท่ดูแล เคลียร์ที่นี่
:+:+:+:+:+:
พูดคุยเกี่ยวกับนวนิยายเรื่องนี้ ได้ที่นี่ http://phiilipda.com/forum/viewtopic.php?f=15&t=20
หรือที่ี่บล็อกนี้ http://tantrawee.exteen.com/20080425/entry