forwriter.com
 
นวนิยายรักโรแมนติก

 


เล่ห์รัก ล่าหัวใจ

โดย หนึ่งลิปดา

นวนิยายชุด ตระกูลเบ็ญจรงค์

 

 

เขายังยืนอยู่ที่ประตู มองเธอนิ่ง วาทินีมองตอบเขาเฉย นึกสงสัยว่าจะยืนอยู่ที่ประตูนั่นนานไหม เขาก็ถามเหมือนรำคาญขึ้นว่า

“ จะให้ผมเข้าไปได้แล้วยัง? ”

วาทินี ลุกขึ้นยืน นึกแปลกใจ มีมารยาทดีเสียด้วย ไม่บุ่มบ่ามเข้ามา

“ เข้ามาสิ ” เธอบอก แล้วก็ต้องนึกชมเขานิดๆ เมื่อพลังพล เปิดประตูออกกว้าง ก่อนเดินเข้ามา เขาไม่ได้ปิดประตูให้มิดชิด จนทำให้ดูน่าเกลียดที่อยู่กันสองต่อสองกับเธอ แล้ววาทินีก็เดินไปหยิบเอาพวกใบปลิวต่างๆ ที่เธอโยนเสียเกลื่อนห้องมารวบรวมไว้ พอหันไปก็เห็นพลังพล ยืนจ้องชุดแต่งงานอยู่ ท่าทางเขาเงียบเสียเธอนึกแปลกใจหากไม่รู้ ถึงเบื้องหลังการแต่งงานครั้งนี้ เธอก็อาจจะนึกเห็นใจเขาบ้างอยู่เหมือนกัน แล้วเสียงเขาก็พูดลอยๆ โดยไม่หันมา

“ ถ้าน้องสาวคุณใส่ชุดนี้ ต้องสวยทีเดียว ”

วาทินีนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบรับสั้นๆ ว่า

“ ใช่ ”

“ เคยคุยให้ฟังว่า คุณออกแบบให้ ”

“ ยัยวิชก็ชอบมาก บอกว่าจะเก็บเอาไว้ให้ลูกให้หลานเลยทีเดียว ”

พลังพลยักไหล่ แค่นหัวเราะออกมา ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะเครื่องเป้ง ค้นหาอะไรกุกกัก อย่างไม่สนใจเธอ วาทินีก็เลยไม่สนใจ หันไปเก็บแผ่นใบปลิวที่เหลืออยู่พื้นต่อ แล้วก็นึกขึ้นได้ เธอถามเขาว่า

“ ยัยวิช เคยบอกบ้างไหมว่า อยากไปฮันนีมูนที่ไหน? ”

พลังพล หันมาขมวดคิ้วให้กับคำถามนั้น

“ ฉันกำลังคาดคะเนว่า ยัยวิชจะหนีไปอยู่ที่ไหนเท่านั้น และนี่มันมากเกินไป ” เธออธิบายพร้อมกับโบกกระดาษในมือ แต่สายตาของพลังพลจ้องนิ่งที่มือเธอ ก่อนจะตอบว่า

“ ไม่เคยคุยเรื่องฮันนีมูน ”

“ แล้วไม่ได้บอกเหรอว่าคุณจะพาไปลาสเวกัส ”

“ ไม่ ”

วาทินีมองเขาอย่างหมิ่น ๆ นายพลังพลไม่ได้สนใจอะไรที่จะแบ่งปันบอกเล่าในสิ่งที่เขาจะทำกับน้องสาวเธอเลยจริงๆ สงสัยถ้าถึงเวลาก็คงสั่งให้ยัยวิช จัดกระเป๋าเดินตามเขาต้อยๆ แน่ เจอฤทธิ์ยัยวิช แบบนี้ ก็สมน้ำหน้าแล้วล่ะ และมันอดไม่ได้ที่จะพูดกับเขาว่า

“ คุณพลาดไปนะ ความจริงถ้าบอกหน่อยก็ดี เผื่อยัยวิชจะได้ไม่หนี ขานั้นเขาอยากไปเห็นบ่อนคาสิโนระดับโลก และยิ่งบอกว่าที่ที่คุณอยากจะได้นั้น ก็จะเอาไปสร้างบ่อนเหมือนกัน ”

“ ไว้น้องสาวคุณกลับมาแล้วผมจะบอก ” เขาย้อนน้ำเสียงเรียบเฉย มองเธอนิ่ง สายตาของเขาทำให้วาทินีรู้สึกรำคาญใจ จนต้องถามว่า

“ คุณเจอของที่หาแล้วเหรอ? ”

“ เจอแล้ว ”

“ ก็ดี ฉันยิ่งกลัวคุณจะหาว่า น้องสาวฉันขโมยของมีค่าของคุณไปอีก ”

“ ก็ไม่ได้มีค่ามากมายอะไร แค่แหวนปอกมีด วงหนึ่ง ”

น้ำเสียงและสายตาของเขาที่จ้องมายังมือเธอ ทำให้วาทินีสะดุด ยกมือตัวเองขึ้นมาดู หน้าร้อนนิดๆ เมื่อถาม

“ คุณหมายถึงแหวนวงนี้เหรอ? ”

พวงแก้มที่ระเรื่อขึ้นทำให้ พลังพลอดจะยิ้มนิดๆ ไม่ได้เมื่อพยักหน้าแทนคำตอบ

“ ฉันจะรู้ได้ไงว่าคุณพูดจริง ”

“ พลอยที่ฝังอยู่มีห้าเม็ด มีเม็ดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าทุกเม็ด ด้านในแหวนสลักตัวพีสองตัว ”

วาทินีก้มลงมองทันที มันตรงกับที่เขาพูด แต่เมื่อเธอจะรูดออกจากนิ้ว เพื่อดูอักษรสลัก มันก็คับแน่นติดที่ข้อนิ้ว หญิงสาวหมุนแหวนเสียจนเจ็บนิ้ว

บ้าเอ้ย ! อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้

“ ช้าๆ ก็ได้ ผมไม่รีบร้อน ” เขาพูดแล้วถือวิสาสะ จับมือเธอ นิ้วที่สวมแหวนเขาแดงอย่างเห็นได้ชัด พลังพลค่อยๆ หมุนแหวนจะถอดออก แต่มันก็ยังติดเหมือนเดิม ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก มองเธอด้วยสายตาอ่านไม่ออก ก่อนจะปุบปับ รูดแหวนพลอยที่นิ้วนางเธอออก มันเร็วเสียจนวาทินี มองเขาด้วยสายตาตลึงพรึงเพริด

“ มันเรื่องอะไร คุณมาถอดแหวนฉันออกทำไม เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ ”

“ เอาเป็นว่า คุณใสแหวนผมไปก่อนแล้วกัน ถ้าคุณถอดออกได้เมื่อไหร่ ค่อยมาแลกกับวงนี้ ”

“ ฉันไม่ได้อยากใส่แหวนคุณ ”

พลังพลมองหญิงสาวอย่างขัดใจแกมรำคาญนิดๆ ก็บอกไม่ถูกหรอกว่ามันเป็นเพราะอะไร เขาไม่ชอบท่าทางและคำพูดยามวาทินีลืมตัวเลย ดูเธอออกจะเก่งเกินตัว

“ ผมก็ไม่ได้อยากให้คุณใส่ แหวนนี้สำหรับคนที่จะมาเป็นเมียผมเท่านั้น ”

ฟังประโยคนี้ วาทินีแทบจะตัดนิ้วตัวเองทิ้ง

“ รอเดี๋ยวนะ สบู่อาจจะช่วยได้ ”

วาทินี ผลุนผลันเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดก๊อกน้ำกดสบู่เหลวตรงอ่างล้างหน้าทันที สบู่ทำให้นิ้วลื่นขึ้น แต่มันก็ยังติดอยู่ที่ข้อนิ้ว อารมณ์หงุดหงิดทำให้วาทินี รูดมันอย่างแรง แหวนหลุดจากนิ้ว กระเด็นไปกระทบผนัง ดังเกร้ง วาทินี มองหา แล้วก็เห็นมันพื้นกลิ้งไปทางท่อน้ำทิ้ง จังหวะจะบังเอิญแค่ไหนไม่ทราบ ที่ห้องน้ำนี้ ไม่มีรังผึ้ง วาทินีจึงได้แต่เบิกตามองมันตกลงไปในท่อได้อย่างพอดิบพอดี

“ บ้าเอ้ย !” เธอเผลอสบถออกมา แล้วจะทำยังไงดีละทีนี้ ท่าทางนายพลังพลนั่น ยิ่งจ้องจะเอาคืนอยู่ด้วย โอย... ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ด้วยนะ วาทินีสูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอด ก่อนจะก้าวไปยืนที่ประตูห้องน้ำ

“ เรียบร้อย? ”

เธอมองหน้าเขาตรงๆตอบเขาเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยเสียเหลือเกินว่า

“ แหวนคุณน่ะ มันตกลงไปในท่อ ”

“ อะไรนะ? ”

พลังพลแทบจะชนเธอเมื่อก้าวสวนเข้าไปในห้องน้ำ

“ ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่มันหล่นลงไปในท่อ ” เธอบอกด้วยน้ำเสียไม่ดีนัก พลังพลกวาดสายตาไปที่ท่อน้ำทิ้ง แล้วหันมามองเธอ ใบหน้าเขาเรียบเฉย

“ คุณทำแหวนผมตกท่อ ดี ผมทำแหวนคุณตกโถบ้าง ”

วาทินียังตามคำพูดเขาไม่ทัน แต่แล้วก็ถึงกับตาโตอ้าปากค้างเมื่อเห็นพลังพลดีดแหวนของเธอในมือขึ้นแล้วกดชักโครกทันที

“ คุณทำบ้าอะไรของคุณ มีสิทธิ์อะไร ” วาทินีตวาด

“ ก็แหวนต่อแหวนยังไงล่ะ ”

“ ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่นี่คุณจงใจ ”

พลังพลยักไหล่

“ กะอีแค่ แหวนวงเดียว ไปเลือกใหม่สิ จะจ่ายให้ ”

วาทินี โกรธจนน้ำตาคลอ หากจะถามว่าแหวนนั้นมีค่าสำหรับเธอไหม? เธอตอบไม่ถูก แต่เคยชินที่ได้เห็นมันอยู่ที่นิ้วมาหลายปีมันเป็นความผูกพันธ์ที่แปลกๆ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ประเด็น เพราะไม่ว่าอย่างไร ผู้ชายคนนี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาแสดงอำนาจ หรือถือสิทธิ์ใดๆ มาทำกับเธออย่างนี้ หญิงสาวมองเขาด้วยสายตารังเกียจเน้นเสียงว่า

“ เลว ทำลายของรักคนอื่น แล้วคิดว่าจะซื้อทดแทนได้เหรอ? วิเศษมาจากไหน ”

พลังพลอึ้ง เพราะไม่คิดว่าเธอจะด่าเขาแรงอย่างนี้ เขาเจอผู้หญิงมาหลายแบบ รู้ทันแม้กระทั่งผู้หญิงที่ต่อต้านเขาเพื่อเรียกร้องความสนใจ เขาคิดว่าวาทินีจะอยู่ในข้อนี้ แต่ดูเหมือนเธอจะต่อต้านเขารุนแรงเกินไป แหวนตลกวงนี้คงจะมีความหมายต่อเธอมากจริงๆ

“ ไม่ได้คิดว่าตัวเองวิเศษ และไม่คิดจะทำลายของรักใคร ” เขาพูดเสียงเย็นชา คว้ามือเธอขึ้นมาเอาบางอย่างยัดลงไป เดินไปที่มุมท่อน้ำทิ้ง

วาทินีแบมือ แล้วต้องกลืนน้ำลาย แหวนพลอยของเธอ เขาไม่ได้โยนมันลงไปจริงๆ แค่ล้อเล่น แต่เธอกลับด่าเขาเสียจริงๆ จากใจเลย

ก็เห็นท่าทางอย่างนั้น ใครจะไปคิดว่าเขาล้อเล่นล่ะ?

หญิงสาวก้มสวมแหวนเงยขึ้นมา ก็พอดีกับที่พลังพลเดินมาพูดใส่หน้าเธอว่า

“ อย่าให้ใครมาใช้ห้องน้ำนี้ ต่อต้องให้ทุบบ้านทั้งหลัง เพื่อหาแหวน ผมก็จะทำ ”

วาทินี มองร่างผึ่งผายเดินตัวตรงไปที่ประตูแล้วเม้มปากแน่น เมื่อครู่เธอว่าจะขอโทษเขาอยู่นะ ที่เข้าใจผิดไป แต่ไอ้ท่าสั่งวางโตในบ้านเธอเองนี่สิ ทำให้แววตาวาทินีวะวับ ความรู้สึกบางอย่างที่อยากให้เขาลดกิริยานั้นลงบ้าง ทำให้เธอ เดินตามออกมาเรียกเขาเสียเต็มยศว่า

“ คุณพลังพล เบ็ญจรงค์ ”

เขาหยุดที่หน้าประตูห้อง ยังไม่หันกลับมา วาทินีก็พูดน้ำเสียงเป็นการเป็นงานขึ้นว่า

“ ถ้ามันสำคัญกับคุณถึงเพียงนั้น ก็เอาอย่างนี้แล้วกัน ”

พลังพลหันกลับมามองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย แล้วเขาก็เห็นรอยยิ้มเหยียดประดับที่ริมฝีปากน่าจูบ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าคำถามที่ทำให้เขาถึงกับงันไปเลย

“ เรามาแต่งงานกันไหม? ”

วาทินีถามพร้อมกับเลิกคิ้วสูงมองเขาอย่างท้าทาย แล้วเธอก็เดินเข้าหายิ้มอย่างที่ชายหนุ่มต้องอึ้งตะลึงไปอีก

“ ในเมื่อฉันจะเป็นภรรยาคุณ คงไม่เป็นไรนะหากฉันจะทำแหวนวงนั้นของคุณตกท่อ แต่ถ้าคุณไม่ตกลงก็ เชิญไปรื้อหาเอาเอง ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะทุบทั้งบ้านหรือเปล่า เบ็ญจรงค์คอนสตรัคชั่นคงซ่อมได้อยู่แล้ว จริงไหม? ”

มันเป็นการยั่วท้าทายกันอย่างชัดๆ เมื่อหญิงสาวจงใจเดินเฉียดเขาออกไป พลังพลยอมรับกับตัวเองเลยว่า ผู้หญิงคนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่เขาก็ไม่คิดจะให้เธอลอยนวลหลังจากทิ้งคำพูดอย่างนี้ให้กับเขา มันเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างที่เขาเองก็ไม่คิดว่าจะทำได้เหมือนธรรมชาติอย่างนี้ เมื่อเดินตามแค่ก้าวก็สอดมือเข้าที่เอว ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนอย่างง่ายดายและเหมาะเจาะ

วาทินีสะดุ้ง เพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้า ยังไม่ทันที่เธอจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไร เขาก็พูดขึ้นว่า

“ ผมจะพิจารณาข้อเสนอของคุณอีกครั้ง เมื่อเสร็จเรื่องน้องสาวคุณ และถ้าอยากจะใส่แหวนตลกนี่ต่อไปให้ทำอย่างนี้ ”

คำว่าอย่างนี้ของเขา ก็คือการที่พลังพลหมุนแหวนที่นิ้วของเธอ เอาส่วนที่เป็นหัวแหวนลงไปด้านในอุ้งมือ

“ ถ้าไอ้หัวแหวนตลกนั่น โผล่มากให้เห็นเมื่อไหร่ ผมจะโยนมันทิ้งทันที เข้าใจนะ ”

“ นี่มันจะ ... ”

“ ชู้วว์ ” พลังพลเลื่อนมือมาปิดปากเธอไว้ มองเข้าไปในดวงตาเธอเหมือนจะสะกด เมื่อพูดเสียงทุ้มนุ่มอย่างจงใจเป็นพิเศษว่า

“ ผมไม่ใช่คนเรื่องมากหรอกนะ แต่พยายามเอาใจผู้ชายที่คุณอยากได้เป็นสามีหน่อยสิครับ วาทินี ”

น้ำเสียง หน่อยสิครับวาทินี เหมือนจะพุ่งปราดเข้าไปกลางใจ จนทำให้ลมหายใจขาดห้วง วาทินีปัดมือเขาออก

“ บ้า !”

เธอตวาดคำเดียว แล้วก็กระแทกเท้าออกไป

พลังพลไหวไหล่ มองตามแผ่นหลังของเธอไป แล้วก็ส่ายหน้านิดๆ เขาไม่ได้พูดเล่นที่บอกว่า แหวนวงนั้นมีไว้สำหรับคนที่จะมาเป็นภรรยาของเขา เพราะผู้ชายในตระกูลเบ็ญจรงค์ จะมีแหวนประจำตัวอย่างนี้ทุกคน จะแตกต่างกันตรงสีของพลอย หรือ คริสตัล ที่ใช้ตกแต่งแหวนเท่านั้น

หากจะมีใครมองว่าเขาแต่งงานกับวิชชุลดา เพราะต้องการที่ดิน นั่นก็ใช่ แต่เขาก็ตรงไปตรงมาและพร้อมจะให้เกียรติผู้มาเป็นภรรยา เขารู้ว่าเขามีความจริงใจต่อเธอ เพราะเขามอบแหวนประจำตัวเขาให้กับเธอไปแล้ว โชคดีที่เธอไม่ได้ติดตัวไปด้วย ไม่อย่างนั้น พลังพลคิดว่า หากไม่เจอเป็นศพ ก็อย่าหมายว่าเขาจะไม่ตามล่า วิชชุลดา จนสุดหล้าฟ้าเขียว

แต่แล้วก็ดูสิ อยู่ต่อหน้าชัดๆ แม่พี่สาวยังมาทำตกท่อ ได้นี่ มันน่าหักคอจริงๆ จะขอโทษสักคำ ยังไม่พูด แล้วยังมายั่วเย้ายอกย้อนเขาเรื่องแต่งงานอีก ให้จบเรื่องที่ดิน กับเรื่องคาราคาซังของน้องสาวเธอเสียก่อนเถอะ สวยแน่ จะให้ด่าฟรีๆ ได้ยังไงว่า เลว แล้วไอ้แหวนทุเรศๆ นั่นใส่เข้าไปได้ยังไง รู้ว่าจะถูกด่าอย่างนี้ ทิ้งเสียจริงๆ ก็ดี

 

 

แม้จะอยู่ในห้องตัวเองแล้ว แต่วาทินี ไม่ได้สงบใจสักนิด เหตุการณ์ที่เกิดเมื่อครู่ มันทำเอาเธอหัวเสียไปเลย เธอนึกว่าจะเป็นต่อเขาแล้วเชียวนะ แต่นายพลังพลนี่แน่มาก ศอกกลับเธอเสียทำอะไรไม่ถูก จนพลาดเสียท่าเข้าไปได้

จงใจหว่านเสน่ห์ชัดๆ นายคนนี้จงใจทำอย่างนี้กับเธอ นายนั่นเห็นเธอเป็นยังไง ถึงได้ดึงไปกอดเอาง่ายๆ อย่างนั้น

บ้าเอ้ย ! เธอน่าจะตบสักฉาด วาทินีคิด แต่แล้วก็ต้องสั่นหน้า เธอไม่ชอบการใช้กำลัง เธอเป็นคนสุขุมรอบคอบ เพราะยังไงเธอก็เอาชนะเขาเรื่องนี้ไม่ได้ ดีไม่ดีการใช้กำลังอาจจะไปกระตุ้นเลือดบ้าเขาเข้าให้อีก หากจะเล่นเกมส์กับเขา เธอต้องใจเย็นๆ มันต้องมีวิธี เอาชนะเขาได้สิน่า

และที่สำคัญ เธอไม่ควรจะไปรู้ร้อนรู้หนาวกับการได้อยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายอย่างนั้น ใครๆ ก็ว่าเธอเย็นชา แม้แต่ระบิล ก็ยังเอ่ยปากอย่างนี้

มันต้องมีวิธีสิน่า เธอไม่ยอมหรอก

แล้วเสียงประตูที่เคาะรัวดังพร้อมกับเสียงเรียกชื่อ ทำให้ วาทินีสะดุ้ง สลัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองออก ลุกไปเปิดโดยเร็ว อนงค์สาวใช้ รายงานเสียงตื่นว่า

“ รถคุณผู้ชายชนกับสิบล้อค่ะ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลจังหวัด ”

“ อะไรนะ? ”

“คุณพลังพลรออยู่ข้างล่างแล้วค่ะ”

วาทินี ไม่แม้แต่จะหวีผม หรือเปลี่ยนเสื้อที่ยับย่นนั่นใหม่ เธอวิ่งลงบันไดทันที

 

 

 

- - - - - -

 

เรื่องนี้ยังเขียนไม่จบนะคะ ^--^

ไปคุยกับฟีลิปดาเกี่ยวกับนวนิยายเรื่องนี้ ที่นี่ค่ะ คลิก

 

 

 

 

 


โดย หนึ่งลิปดา


© ลิขสิทธิ์ตามกฏหมายโดย หนึ่งลิปดา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง
 

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์
 

 

ดั่งไฟรัก
 

 

2009 free writing

 



๕๐๕ แคนโต้แห่งความรัก

 

 

 

  http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.