๑. ต้องจริงใจและซื่อสัตย์ อย่าโกหกให้พูดไปตามความเป็นจริง หากงานของเพื่อน
ไม่มีพล็อตเพียงพอ หรือตัวละครยังต้องเสริมบุคลิกให้มากขึ้นอีก ก็บอกเขาตรง ๆ เพราะมีแต่คนในกลุ่มเท่านั้นจะมีเวลาบอกกันได้
๒. อย่าเป็นคนหน้าบาง ในการเข้ากลุ่มวิจารณ์ครั้งแรกอาจเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ หากมีการวิพากษ์วิจารณ์ที่หนักหน่วงหรือไม่เห็นด้วยในงานเขียนของคุณ มันไม่ได้หมายความ
เขาไม่ชอบคุณ คุณเลวมาก คุณต้องแยกงานเขียนของคุณกับตัวคุณออกจากกันให้ได
้ อย่าใช้อารมณ์โต้ตอบกัน หรือเป็นคนขี้ใจน้อย ให้ด้าน ๆ หน่อย หากคำวิจารณ์ในตอนนั้น
คุณรับไม่ได้ ก็ให้ปล่อยไปซะ แล้วค่อยเก็บมันมาคิดทีหลัง
๓. พิจารณาคำแนะนำเหล่านั้นให้ละเอียดถี่ถ้วน ไม่จำเป็นว่าทุกคำแนะนำของกลุ่มจะใช้ได้ในงานเขียนของคุณและก็ไม่จำเป็นที่คุณจะต้อง
ทำตามคำแนะนำจากเพื่อนทุกอย่าง เก็บขอแนะนำไปไว้พิจารณาในเรื่องต่อไปของคุณก็ได้ หากคุณไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงมันในเรื่องนี้
๔. จงมีความกรุณาในหัวใจ เรื่องนี้สำคัญมาก การซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาไม่โกหก ไม่ได้หมายความคุณจะหยาบคายได้ จงปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนกันที่คุณอยากให้คนอื่นปฏิบัติต่อคุณ อย่าลืมว่าพวกคุณต่างเป็นผู้เริ่มเรื่องที่เขียนของพวกคุณ ก็ยังเป็นเพียงเด็กทารก มันยังไม่จบ มันยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ จงเลือกใช้คำวิจารณ์อย่างระมัดระวัง เหมือนกับที่คุณต้องการให้คนอื่นทำกับงานเขียนของคุณเช่นนั้นเหมือนกัน
๕. จงสนับสนุนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน นี่คือสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดอย่างหนึ่งของการมีกลุ่ม การมีกลุ่มที่เข้าใจว่า พวกคุณเองต่างพยายามทำดีที่สุด เพื่อจะให้เรื่องของพวกคุณได้รับการตีพิมพ์ จงสนับสนุนและให้กำลังใจกันเมื่อต้องเผชิญกับการถูกปฏิเสธ หรือต้องตกอยู่ในภาวะชะงักงันหรือเขียนไม่ออก
๖. จงเป็นมิตร การรู้จักซึ่งกันและกัน และกลายเป็นเพื่อนกัน เป็นสิ่งวิเศษสุด คุณไม่รู้หรอกว่า ธุรกิจในเรื่องนี้มันต้องแข่งขันกันแค่ไหน การมีเพื่อนก็เหมือนกับเราลดคู่แข่งลงไป
๗. ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อแต่ละคนส่งงานไปให้สมาชิกในกลุ่มอ่าน ทุกคนต่างอยากรู้ และรอคอยเสียงสะท้อนกลับมาทั้งนั้น จงทำการบ้านของคุณให้ดีและเหมาะสม เตรียมตัวจริง ๆ ในการอ่านงานของเพื่อนสมาชิก คุณเองก็ต้องคำวิจารณ์ที่มาพร้อมกับความตั้งใจจริง ๆ ไม่ใช่เหรอ |