forwriter.com
 
เรื่องสั้นโรแมนติก

 

 

      รัก ... ถึงไม่แพ้ แต่ต้องทำรายงาน                      
                                โดย ฟีลิปดา

 

๑.


“ทำไมกะอีแค่จะลงชื่อให้ด้วยมันจะยากแค่ไหน?”

“เอะ! ก็บอกแล้วไงว่า ไม่รู้ อีกอย่างก็นึกว่าคุณไปลงชื่อกลุ่มอื่นแล้ว”

“ฉันจะไปลงชื่อที่กลุ่มไหนอีก ทุกทีก็อยู่กลุ่มนี้ตลอด ไม่รู้รึไง?”

“ก็ไม่รู้นะสิ เคยเห็นมารับผิดชอบ ช่วยงานเสียเมื่อไหร่”

หยาดรุ้งชะงัก น้อยคนหรอกที่จะกล้าพูดกับเธอตรงๆ อย่างนี้ จริงอยู่การรวมกลุ่มทำรายงาน กับเพื่อนๆ ถึงแม้เธอจะไม่เคยมาช่วย แต่เพื่อนก็จะคอยลงชื่อให้เธอเสมอ เธอเลือกเข้าในกลุ่มเด็กเรียน ที่ค่อนข้างเก็บตัว และไม่สุงสิงกับใคร แต่ก็พอจะมีน้ำใจช่วยเหลือ เอาชื่อเธอเข้าในกลุ่มให้เสมอ ซึ่งหยาดรุ้งก็มักจะตอบแทนเพื่อนๆ โดยการซื้อขนมหรือมีของฝากติดไม้ติดมือมาให้เสมอก่อนที่จะทิ้งเรื่องการทำรายงานให้เพื่อนๆ ทำกันเอง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ชื่อของเธอไม่มีในรายงาน เหตุก็เพราะปฐวี ซึ่งรับหน้าที่พิมพ์รายงาน ไม่เอาชื่อเธอลงไปด้วย และเมื่อเธอรู้ก็อดที่จะโมโหไม่ได้ แต่แทนที่เขาจะขอโทษกลับว่าย้อนว่าเธอไม่มีความรับผิดชอบเสียนี่

“ฉันเองก็ไม่เคยเห็นนายมาทำอะไรในกลุ่มเหมือนกัน”

“อ้าว ...ก็ผมรับผิดชอบเรื่องพิมพ์แล้วนี่ ”

“แต่ความรับผิดชอบของนายบกพร่อง เพราะไม่มีชื่อฉันในนั้น ไปขออาจารย์กลับมาแล้วใส่ชื่อฉันเข้าไปใหม่”

“ไม่ได้หรอก ผมใส่ชื่อคนอื่นเข้าไปครบแล้ว”

“อะไรนะ?” หยาดรุ้งตวาดถาม ทำเอาเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่พากันสะดุ้งเป็นแถว

“ผมใส่ชื่อมาริสา เข้าไปแล้วครบพอดี”

หยาดรุ้งจ้องหน้าเขาเน้นเสียงพูดว่า

“ถ้างั้นนายไปเอาชื่อนายออก”

“ถ้าอยากทำแบบนั้น ก็ไปขออาจารย์กลับมาทำเอง ถ้าไม่มีปัญญาทำก็ไม่ต้องทำ ”
ปฐวีย้อนทันที

“ช่างเถอะ รุ้ง วี เดี๋ยวเราไปเอาชื่อเราออกเอง” มาริสา ที่นั่งมองเพื่อนทะเลาะกันอยู่พูดขัดขึ้น

“ไม่ได้ ริสามีส่วนทำให้รายงานนั้นสำเร็จมากเสียกว่าบางคนเสียอีก ถ้าใครอยากให้มีชื่อในนั้นก็ให้ไปทำเอง ”

หยาดรุ้งโกรธเสียจนพูดไม่ออก มองหน้าคนทั้งคู่สลับกัน แล้วหันไปมองเพื่อนๆ ที่นั่งนิ่งกันอยู่ ก่อนจะหยิบกระเป๋าและกองหนังสือของตัวเองเดินออกจากกลุ่มไปทันที

:+:+:+:+:

๒.


“อ้าวรุ้งไม่ออกไปไหนเหรอ?”
เทียนวรรณทักขึ้น
เพราะโดยปกติทุกวันศุกร์หากหยาดรุ้งไม่ออกไปเทียวสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็มักจะกลับไปค้างที่บ้านมากกว่า อยู่ที่หอพักนี่

“ไม่ไปไหน จะทำรายงาน”

“ทำรายงาน?”เทียนวรรณถามยิ้มๆ นี่ก็อีกละ เธอไม่เคยเห็นหยาดรุ้งทำรายงานมาก่อน วิธีทำรายงานของหยาดรุ้งก็คือ หากเป็นรายงานกลุ่มเธอก็จะไปขอเข้าชื่อกับกลุ่มเพื่อนๆ หากเป็นรายงานเดี่ยว แน่นอน เธอจะจ้างคนทำให้ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาไม่เคยมีสักครั้งที่หยาดรุ้งจะทำรายงานเอง แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าหยาดรุ้งจะเรียนแย่มาก เพราะหยาดรุ้งก็เอาตัวรอดมาได้ตลอดทุกเทอมเหมือนกัน แม้บางครั้งมันออกจะคาบเส้นอยู่เหมือนกัน

“ทำไมต้องทำเองละ?”

“ก็เพิ่งรู้ว่าไม่มีชื่อฉันในรายงานที่ส่งอาจารย์ไปแล้วนะสิ เลยไปขออาจารย์ทำเดี่ยว”

หยาดรุ้งตอบเซ็งๆ

“เคยเห็นจ้างคนอื่นทำนี่”

“ติดต่อไม่ทัน จะส่งวันจันทร์นี้แล้ว”

เทียนวรรณเดินเข้าไปชะโงก แล้วหยิบกระดาษที่หยาดรุ้งเขียนเอาไว้ขึ้นมา

“ทำเรื่องนี้เองเหรอ เดี๋ยวช่วย เทอมที่แล้วก็ลง ทำเรื่องนี้เหมือนกัน”

“มีก๊อปปี้ไว้ไหม?” หยาดรุ้งถามอย่างยินดี

“รู้สึกจะให้ปฐวี เขาไปแล้วนะ เพื่อนของรุจน์น่ะจำได้ไหม?”

หยาดรุ้งเบ้ปาก

“ก็นายปฐวีนี่แหละ ที่ตัดชื่อฉันออกจากกลุ่ม แถมยังใส่ชื่อแฟนตัวเองเฉยเลย ทุเรศมาก”

“อะไร ปฐวี มีแฟนใหม่แล้วเหรอ ?” เทียนวรรณถามเสียงสนุก

“ก็ใจคอจะให้เขารักเดียวใจเดียวอยู่กับเธอรึไง? หวานปานจะหยดกับรุจน์ขนาดนั้น”

เทียนวรรณ หัวเราะร่วน กับเสียงประชดประชันของหยาดรุ้ง

“คิดยังไงว่า ปฐวีชอบฉัน”

“ก็นายนั่นเขารสนิยมเฉิ่ม ๆ นี่นา รู้จักไม่ใช่เหรอยัยมาริสาน่ะ”

“อา ... แล้วในที่สุด หยาดรุ้งผู้เลิศเลอก็พ่ายแพ้แก่สาวเฉิ่มอีกจนได้”

เทียนวรรณล้อเลียน แต่หยาดรุ้งฉุนจัด

“นี่!”

“พนันกับฉันไหมรุ้ง อย่างเธอนี่เป็นแฟนกับปฐวีไม่ได้หรอก”

หยาดรุ้ง มองหน้าเทียนวรรณอารมณ์เดือดดาลทำให้เธอเกือบจะโต้กลับรับพนัน แต่แล้วก็หัวเราะในลำคอ แค่นเสียงว่า

“ฉันยอมแพ้เธอ โทษนะฉันจะทำรายงานต่อ”

กระดาษในมือเทียนวรรณ ถูกกระชากกลับไป

“เฮ้! ฉันล้อเล่นนะรุ้ง”

แต่หยาดรุ้งก็เดินตึงเข้าห้องปิดประตูดังปัง

ได้ระบายใส่ประตูเสียบ้าง อารมณ์ของหยาดรุ้งก็ดีขึ้น

แต่ให้ตายสิ ... ช่วงนี้เป็นไงนะ ดวงเธอถึงได้แย่อย่างนี้ เมื่อตอนเย็นเธอก็ต้องโทรศัพท์ไปเลื่อนนัดกับสมภพที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนหนุ่มล่าสุด เก็บอาการไว้ไม่อยู่เมื่อเขาตอบกลับมาว่า

“ถ้ารุ้งไปปาร์ตี้คืนนี้ไม่ได้ ผมขออนุญาตควงคนอื่นนะ”

“ตามสบายเถอะ” เธอตอบไปอย่างนั้น จริงๆ แล้วก็ไม่ได้หวังอะไร เพราะรู้ว่ายังไงกับคนนี้ก็ไปไม่รอด เธอเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไม ผู้ชายที่เธอคบแต่ละคนจึงอยู่กันไม่ยืดเลย จะนานหน่อยก็นิรุจน์ แต่เอาเข้าจริง เขาก็ไม่ได้รักเธอ กลับไปรักเทียนวรรณเสียนี่

“เพราะจริงๆ แล้ว รุ้งก็ไม่ได้รักใครจริงจังนะสิ ” เทียนวรรณเคยวิเคราะห์ออกมาอย่างนี้ จะจริงไม่จริงหยาดรุ้งก็ไม่รู้หรอก แต่เทียนวรรณยังให้เหตุผลต่อว่า

“ดูคนที่รุ้งเลือกควงแต่ละคนสิ ต้องเป็น คนดังพอๆ กับรุ้งเท่านั้น ด้อยกว่ารุ้งเคยสนเสียที่ไหน แล้วอย่างนี้จะมาเรียกหา ความรัก ได้ยังไง ในเมื่อตัวเองก็ยังไม่มีให้ใคร”

ความรัก?

ใช่ว่าหยาดรุ้งจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร?

ใช่ว่าเธอจะรักไม่เป็น

ในเมื่อตอนนี้มันยังไม่ใช่ คนที่ใช่

เธอก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ นะสิ

:+:+:+:+:+:

๓.


“วี เทียนวรรณจะคุยด้วย”

นิรุจน์ ยื่นโทรศัพท์ในมือให้ปฐวี ที่นั่งจดจ่ออยู่หน้าจอทีวี ด้านหน้าของเพื่อนๆ ก็คือพวกกับแกล้มและกระป๋องเบียร์ เป็นการชุมนุมดูบอลศึกวันแดงเดือดด้วยกัน

“เรื่องอะไร?” เขาถาม เพราะไม่เคยคิดว่าเทียนวรรณจะมีอะไรจะคุยกับเขาดึกดื่นอย่างนี้ นิรุจน์เองก็ส่ายหน้าปฏิเสธเหมือนไม่รู้เช่นกัน

“มีอะไร เทียนวรรณ”

“ได้ข่าวว่าทะเลาะกับรุ้งเหรอ?” เสียงเทียนวรรณถามมา

“รายนั้นน่ะ ใครจะไปกล้าทะเลาะกับเขา” ปฐวีเผลอประชดไม่รู้ตัว

แต่เทียนวรรณก็ตอบกลับมาอย่างจริงจังว่า
“รุ้งเขาไม่ใช่คนไม่มีความรับผิดชอบหรอกนะ เพียงแต่อันไหนให้ใครทำแทนได้เขาก็จะปล่อยให้คนอื่นทำเรื่องรายงานรุ้งเขารู้กระชั้นชิดเกินไปเลยโมโห นี่ฉันก็ไปแหย่เลยโมโหฉันเข้าไปอีกคน ไม่ยอมให้ช่วยทำเลย ขานี้เวลาโกรธจัดจริงๆ เขาไม่โวยวายนะ งอนเงียบ ถ้าว่างวีไปช่วยหน่อยสิ พรุ่งนี้รุ้งคงอยู่ที่ห้องสมุดนั่นแหละ”

“ถ้าว่างจะไป”

“เอารายงานฉบับเดิมของฉันไปด้วยนะ”

“อย่ามาสั่ง ผมไม่ใช่แฟนคุณ”

เทียนวรรณหัวเราะ
“อย่างวีนี่ต้องเจอกับรุ้ง ถึงจะสนุก ท้าเขาอยู่เหมือนกันนะ แน่จริงให้จีบวีเป็นแฟน แต่ประกาศยอมแพ้โกรธหนีเข้าห้องไปเลย”

“ไม่เข็ดเรอะ ไอ้เรื่องท้าพนันนี่ รึได้แฟนถูกใจเลยชอบ”

เทียนวรรณตอบเสียงสะบัดก่อนวางหูว่า
“ไม่พูดด้วยแล้ว”

ปฐวียิ้มขำ แต่เมื่อสบตามองมาอย่างสงสัยของนิรุจน์ก็เลยบอกว่า

“เทียนเขาโทรมาถาม เรื่องทะเลาะกันกับรุ้ง”
“อย่างนายนะเหรอ กล้าทะเลาะกับรุ้ง” นิรุจน์ถามอย่างแปลกใจ ซึ่งคำถามนี้มันสร้างความสงสัยให้กับเพื่อนอีกสอง ที่หันมองหน้าเอย่างสงสัยไม่แพ้กัน

“ก็ไม่มีอะไร แค่ไม่ได้ใส่ชื่อเขาลงในรายงาน เขาเลยวีนใส่ ไล่ให้ฉันไปเอาชื่อฉันออกแล้วเอาของตัวเองใส่ ฉันเลยบอกว่า อยากทำอย่างนั้นก็ให้ไปขออาจารย์กลับมาทำเองสิ รุ้งก็เลยโกรธ”

ปฐวีเล่าอย่างสรุปสั้นที่สุด เพื่อนมองหน้าเขาอย่างไม่เชื่อ

แล้ววิทยาก็หัวเราะก้ากขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมึนๆ อยู่หรือเปล่าถึงได้ลุกขึ้นไม่พูดพล่ามทำเพลง ไปหยิบแก้วเชมเปญมาวางกลางวง ใส่เงินลงไป

“หมั่นไส้ยัยรุ้งนักจีบเลย ใครจะพนันกับฉัน”

“เฮ้ย! ฉันไม่เล่น” ปฐวีรีบส่งเสียงห้าม แต่ปราโมทย์ก็คงนึกสนุก หย่อนเงินลงไปอีก

“กล้าๆ หน่อยไอ้วี ไอ้รุจน์ลงเงิน แต่ไม่ต้องตัดแต้มมีแฟนแล้วแค่เป็นกรรมการก็พอ”

นิรุจน์ ยิ้มนิดๆ ก่อนจะควักกระเป๋าทั้งใบวางลงไป เล่นเอาเพื่อนตาค้าง

“ไม่ต้องมามอง ทีตอนฉันกับเทียนพวกแกทำเอาฉันเสียหนักแล้วนี่ ถึงทีเอาคืนบ้างละ? ลงมาไอ้วี”

เขาไม่อยากเล่น แต่รู้ว่าเพื่อนๆ คงหาเรื่องพูดให้มันหนักไปกว่านี้แน่ หากโชคดี อาจจะไม่ใช่เขาก็ได้ที่เป็นคนเล่นเกมส์นี้ จึงต้องใส่เงินลงไป แต่ก็ไม่วายจะถามออกมาให้ชัดเจนว่า

“เดี๋ยววางกติกาก่อน เอาแค่ไหน?”

“รุจน์ ว่ามา แกเป็นกรรมการ”

นิรุจน์นิ่งคิดไปนิดหนึ่งแล้วบอกว่า

“พวกเรามีโปรแกรมจะไปเที่ยวบ้านสวนไอ้วีหลังสอบมิดเทอมอยู่แล้ว ก็เอาแค่ให้รุ้งไปเที่ยวบ้านสวนให้ได้ก็แล้วกันอีกสองอาทิตย์ ไหวไหม?”

“ตกลงตามนี้” วิทยาตอบแทนทุกคนแล้วหยิบสำรับไพ่ขึ้นมา

“เดี๋ยว เรื่องนี้ต้องเหยียบ อย่าให้เทียนรู้เด็ดขาด” นิรุจน์สำทับ ทำเอาเพื่อนหัวเราะอย่างอดไม่ได้

ตอนพนันกันให้นิรุจน์จีบเทียนวรรณ เทียนวรรณรู้เข้าโกรธมาก ไม่พูดกับนิรุจน์อยู่พักใหญ่

ปฐวีนึกว่าเขาจะรอด ตอนตัดไพ่เอาแต้มเพราะ วิทยากับปราโมทย์ ได้แต้มสามสี่ตามลำดับ แต่พอหงายของตัวเองขึ้น ดันขึ้นเอโพแดงอันเป็นแต้มต่ำสุด วิทยาถึงกับหัวเราะร่วนแซวว่า

“ลางดีนี่หว่าไอ้วี หัวใจสีแดงเสียด้วย ระวังอาถรรพ์เหมือนไอ้รุจน์นะ”

เขาไม่เชื่อในอาถรรพ์ หรือดวง แต่ก็คิดว่าตัวเองแพ้แน่ เพราะเขาไม่คิดอยากจะเล่นอยู่แล้ว และที่สำคัญคนหัวสูงอย่างหยาดรุ้งนะเหรอจะมาสนใจเขา มันก็พอๆ กับที่เขาไม่เคยคิดที่จะจีบผู้หญิงแบบนี้ มาก่อนเหมือนกัน ติดจะหมั่นไส้เสียด้วยซ้ำ

แต่ก็นั่นแหละ มันก็ไม่ใช่วิสัยของเขาเหมือนกันที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ ไม่ว่าแรงจูงใจจะเกิดจากอะไร อย่างน้อยก็ต้องลองก่อนล่ะ?

ก็แค่ชวนไปเที่ยวบ้านสวนมันจะยากแค่ไหนเชียว หมดท่า ก็ชวนกันตรงๆ ก็ได้นี่หว่า ไม่ได้ทำนอกกติกาเสียหน่อย

:+:+:+:+:

 

๔.


วันรุ่งขึ้น ปฐวีปรากฏตัวที่ห้องสมุด เขาสอดส่ายสายตาทั่วห้อง เพราะเป็นวันเสาร์ยังไม่ถึงสิบโมงจึงมีนักศึกษาไม่มากนัก เขาจึงเห็นหยาดรุ้งได้ง่าย แม้เธอนั่งอยู่ที่มุมเกือบสุดห้อง ข้างหน้าเธอมีหนังสือกองโต

แม้เทียนวรรณ จะไม่ โทรหาเขาเมื่อคืน เขาก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน ที่ใส่ชื่อมาริสา ลงไปแทนหยาดรุ้ง แต่มันก็เป็นเพราะความเข้าใจผิดของเขาจริงๆ เพราะไม่เคยเห็นหยาดรุ้งเข้ากลุ่มหรือมาเรียนวิชานี้เลยสักครั้ง เห็นเพื่อนอยู่แค่ไหนเขาก็ลงชื่อแค่นั้น จะเพิ่งมารู้เอาทีหลังว่า เพื่อนๆ ในกลุ่ม เห็นมาริสาเป็นแฟนของเขาและนึกว่ามาช่วยอีกแรง เลยเฉยๆ บวกกับนึกว่าเขารู้อยู่แล้วว่าหยาดรุ้งอยู่ในกลุ่มจึงไม่ได้บอกย้ำ

ตอนที่หยาดรุ้งต่อว่าเขา ด้วยถ้อยคำวางอำนาจมันทำให้เขาอารมณ์เสียเลยตอกกลับไปอย่างนั้นเอง ก็คิดอยู่เหมือนกัน ถ้าหยาดรุ้งใจถึงพอไปขออาจารย์กลับมาแก้ชื่อใหม่ เขาก็ไม่คิดจะโกรธหรอก แต่ปรากฏว่าหยาดรุ้งก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น ก็คงมีสติสำนึกอยู่หรอกว่าตัวเองไม่ได้ช่วยงานอะไรจริงๆ

แต่คำพูดของเทียนวรรณก็มาย้ำให้เขาไม่สบายใจ

ยังไม่ได้นับรวมเรื่องพนันกับเพื่อนๆ นั่นด้วย ที่ทำเอาเขานึกเซ็ง

แต่เขาไม่เคยคิดจะเห็นภาพหยาดรุ้งอย่างนี้ ท่าทางเธอเหมือนคนคงแก่เรียน เพราะเธออ่านอย่างตั้งใจ พร้อมกับจดลงในกระดาษลงไปด้วย แม้เขาจะเดินเข้าใกล้ ก็ไม่มีทีท่าว่า หยาดรุ้งจะรู้ตัว

“เทียนเขาบอกให้เอารายงานเก่ามาให้”

เขาหย่อนมันลงที่หน้าเธอ

“ไม่จำเป็น” หยาดรุ้งตอบโดยไม่เงยหน้า หยิบมันไปวางไว้ข้างๆ อย่างไม่สนใจ

ปฐวีมองอย่างหมั่นไส้นิดๆ เขาไม่ชอบผู้หญิงแบบหยาดรุ้ง เอาแต่ใจ วางอำนาจ คิดว่าผู้ชายต้องสยบแทบเท้าเธอ

“เทียนเขาบอกให้ผมมาช่วยทำรายงานด้วย”

หยาดรุ้งเงยหน้า ยิ้มที่มุมปาก พูดเยาะๆว่า

“ถ้าจะรับคำสั่งเทียนถึงขนาดนั้น ฉันเองคงปฏิเสธไม่ได้ด้วยสินะ”

ถ้อยคำกินนัย ทำให้ปฐวีถึงกับหน้าแดง จริงล่ะ? ในหมู่เพื่อนชายทุกคนก็รู้ว่าเขาชอบเทียนวรรณ แต่เมื่อนิรุจน์กับเทียนวรรณรักกัน เขาก็ไม่ได้คิดอะไรอีกนอกจากความเป็นเพื่อน แต่เขาก็ไม่ชอบที่หยาดรุ้งจะมาเยาะเขาในเรื่องนี้

“อย่าพาลรุ้ง ที่ต้องช่วยก็เพราะผมเป็นคนทำให้คุณมานั่งอยู่ตรงนี้เหมือนกัน”

“ฉันไม่สนใจ อย่ามายุ่งกับฉัน จะไปไหนก็ไป” หยาดรุ้งพูดไม่ไว้หน้าแต่ปฐวี ยักไหล่

“พนันกันไหมละ? ผมจะนั่งอยู่ตรงนี้ จนคุณเป็นฝ่ายลุกไปเอง”

หยาดรุ้งตาลุกวาวมองหน้าเขา แล้วก็เม้มปากปากสะกดอารมณ์ ก้มลงทำงานของตัวเองต่อไป อย่างไม่สนใจ ทั้งๆที่เริ่มจะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้ว ตอนเธอคบกับนิรุจน์ ก็เห็น ปฐวีเป็นคนเฉยๆ ไม่ค่อยพูดแต่ก็สุภาพ อารมณ์ดี แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้เป็นแบบนี้นะ คนเรารู้จักหน้า ไม่รู้จักใจจริงๆ

เห็นอย่างได้ชัดว่า เธอ โกรธ เพียงแต่เขาไม่คิดว่าจะเก็บอารมณ์ไว้ได้เท่านั้น จากที่เขาเคยเห็นหยาดรุ้ง วีน เก่ง ไม่พอใจอะไรมักจะโวยวาย และพูดออกมาตรงๆ อย่างไม่เกรงใจเพราะเอาแต่ใจตัวเอง ก็ดู จะทนไปได้สักกี่น้ำ

“ความจริง น่าจะไปขอรายงานกลับมาลบชื่อผมออกนะ ง่ายกว่ามาทำเองใหม่เป็นกอง”

เงียบ!

“เอ ... รึไม่กล้า”

เงียบ!

“ไม่เหมือนหยาดรุ้งที่ผมเคยรู้จักเลยนะ ”

เงียบ!

ปฐวียิ้มนิดๆ เมื่อพูดว่า

“เอะ... แปลกไม่ยักรู้ว่าคุณนัดแฟนเอาไว้ที่นี่ ”

หยาดรุ้งเงยหน้า หันไปทางเข้า แล้วก็ได้ยินเสียงปฐวีหัวเราะเบาๆ

“ทำไมหลอกง่ายนักล่ะ?”

หยาดรุ้งหันมามองหน้าเขา ถามแดกดันว่า

“ไม่มีอะไรทำเหรอ ถึงได้มากวนประสาทคนอยู่ได้”

“ก็ตั้งใจจะมาช่วยทำรายงาน ก็อยากไม่ให้ความร่วมมือเองนี่”

“ฉันไม่ชอบคนไม่จริงใจกับฉัน”

ปฐวีหัวเราะเบาๆ
“ผมแค่มาช่วยทำรายงาน ไม่ได้มาขอเป็นแฟน ไม่จำเป็นต้องพิจารณาเรื่องจริงใจไม่จริงใจเป็นเหตุผล ในการปฏิเสธด้วยหรอก”

หยาดรุ้งอึ้ง พูดไม่ออก ปฐวีสวนกลับตรงเกินไป เพราะเจ็บใจในคำพูดของเขาทำให้เธอต้องลุกขึ้น

“โอเค ฉันยอมแพ้ ฉันลุกก่อน”

ปฐวีฉวยข้อมือที่จะหยิบกระเป๋าเอาไว้ก่อน

“ยอมแพ้ง่ายเกินไปก็ไม่สนุกสิรุ้ง หงุดหงิดอะไรถึงได้โกรธนักหนา ทะเลาะกับแฟนมารึไง?”

หยาดรุ้งใช้มืออีกข้างทุบมือเขาที่จับเธอไว้

“ปล่อยฉัน”

แต่ปฐวีแค่มองหน้าเธอนิ่งๆ ก่อนจะพูดว่า

“โอเค ผมขอโทษ สารภาพก็ได้ ผมตั้งใจมาช่วยจริงๆ อ้างชื่อเทียนเขาไปงั้นแหละ ไม่อยากเสียหน้ามาง้อคุณ พอใจไหม?”

“ไม่”

“ตอบเร็วเกินไป แสดงว่าโกหก”

“นี่!”
“อย่าเสียงดังรุ้ง มาริสาเดินมาโน่นแล้ว ผมนัดให้มาช่วยคุณ ทำหน้าดีๆ หน่อย ไม่อยากให้เพื่อนรู้ว่าเรายังทะเลาะกันอยู่ ขาโน้นเขาอ่อนไหว ไม่สบายใจที่ทำให้คุณยุ่งยาก”

“ฉันไม่สน”

“อย่าเอาแต่ใจตัวเองนักสิ”

“ก็ถ้านายอยากเอาใจแฟนนายก็ทำไปสิ อย่ามาเกณฑ์ให้ฉันเอาใจด้วย”

ปฐวีแค่ขมวดคิ้วกับคำพูดนี้ของเธอ ยังไม่พูดอะไร มาริสาก็มายืนมองมือที่ยึดหยาดรุ้งไว้ของเขา ถามยิ้มๆ ว่า

“ดีกันแล้วเหรอ?”

ปฐวีปล่อยมือ หยาดรุ้ง

“วีมาถึงก่อนช่วยอะไรไปแค่ไหนแล้ว”

“กำลังจะเริ่ม”

มาริสานั่งลงข้างๆ ปฐวี เอื้อมมือมาหยิบกระดาษที่หน้าหยาดรุ้งไปดู

“รุ้งทำสารบัญใหม่เลยหรือ ดัดแปลงเอาจากอันเดิมไหม จะได้เร็วขึ้น ”

“ไม่ จะเอาแบบนี้” หยาดรุ้งตอบพยายามปรับน้ำเสียงของตัวเองให้ราบเรียบ

“โอเค แบบนี้ก็ได้ หัวข้อที่กาเครื่องหมายถูกเอาไว้ แสดงว่าหาข้อมูลได้แล้วใช่ไหม?”

หยาดรุ้งพยักหน้า พูดต่อว่า

“ความจริงใกล้จะเสร็จแล้ว ไม่ต้องมาช่วยก็ได้”

มาริสาหน้าเสียหันมามองปฐวี

“รุ้งเขาเพิ่งบอกเมื่อครู่ ว่าเป็นความผิดของผม อนุญาตให้ผมช่วยคนเดียว คนอื่นห้ามเกี่ยว”

“อ้าว ถ้างั้นเรื่องนัดคืนนี้ ...”

ทั้งน้ำเสียงและใบหน้าของมาริสาแสดงความผิดหวังอย่างเปิดเผย

“นัดก็เป็นนัดสิ ผมชวนคุณจริงๆ ไม่ได้ติดสินบนให้มาช่วยรุ้งเขาเสียหน่อย ไว้ทุ่มหนึ่งผมไปรับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

ใบหน้าของมาริสาสดชื่นขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดแข็งขันของปฐวี เสียงของเธอสดใสเมื่อถามหยาดรุ้งอีกว่า

“แน่ใจนะรุ้ง ว่าจะให้วีช่วยคนเดียว ”

“เก่งออกอย่างนี้ ไม่ต้องห่วงเขาหรอก ริสาไปเถอะ ”
ปฐวีตอบแทนเฉยและเมื่อมาริสาเดินห่างไปหน่อย ปฐวี ก็พูดขรึมขึ้นว่า

“ไม่ทะเลาะแล้วนะรุ้ง รีบทำเถอะจะได้รีบเสร็จ ผมมีนัด”

“ถ้ารีบก็ไปเสียสิ ฉันไม่ได้ขอร้องให้ช่วย”

ปฐวีหัวเราะหึ ก่อนจะพูดว่า

“เอาแบบเชยๆ เลยนะรุ้ง เพราะใจมันสั่ง อย่ามาห้ามเสียให้ยาก ไม่ต้องพูดแล้วนะไม่งั้นผมจะคิดว่า คุณหึงผมกับมาริสาทั้งที่ไม่มีอะไรสักนิด ไหนหัวข้ออะไรที่ยังไม่ได้หา”

ใจหยาดรุ้งอยากจะลุกปึงไปเลย แต่เธอก็รู้ดีว่า การทำรายงานคนเดียวมันเป็นเรื่องแย่และหนักสักแค่ไหน ในเมื่อ เขายืนยันโดยที่เธอไม่ได้ขอร้อง ก็ไม่จำเป็นที่เธอจะถือทิฐิในเรื่องที่เธอได้ผลประโยชน์ ไอ้เรื่องจะชอบไม่ชอบเอาไว้รายงานเสร็จก่อนเถอะ


ปฐวีใช้มือนวดที่ต้นคอตัวเองเบาๆ ชำเลืองไปทางหยาดรุ้งก็เห็นก้มหน้าก้มตาจดยิกๆ อยู่เช่นเดิม

กว่าสามชั่วโมงเข้าไปแล้ว ที่เขาและหยาดรุ้งต่างนิ่งเงียบทำงานของตัวเองไปเหมือนไม่ได้ทำเรื่องเดียวกัน หัวข้อไหนที่ใครจะหาก็วงกลมเอาไว้เป็นอันรู้กัน มีบ้างที่เธอกับเขาหยิบหนังสือเล่มเดียวกัน แต่หยาดรุ้งก็จะรีบปล่อย ไปหยิบเล่มอื่นโดยเร็ว มีอีกอย่างที่น่าทึ่งเพราะขณะที่นั่งอ่านหนังสือ จดข้อความต่างๆ ลงไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เขาไม่ได้เอ่ยปากพูดกับเธอสักคำ หยาดรุ้งก็แน่มากไม่เอ่ยปากอะไรสักคำเหมือนกัน จนปฐวีนึกขำ แล้วก็กลายเป็นว่าเขาเป็นฝ่ายลอบมองเธอบ่อยๆ หากเป็นเพื่อนหญิงคนอื่น เขาคงลงความเห็นพฤติกรรมอย่างนี้ว่า เป็นอาการ งอนเงียบ แต่สำหรับหยาดรุ้ง คงโกรธ ... ไม่ใช่งอน
อารมณ์ขันทำให้ปฐวีต้องยิ้มออกมาและทำในสิ่งที่เขาเองไม่คิดจะทำมาก่อน เมื่อเขียนโน้ตแกล้งแหย่ไปถามว่า

หิวไหม?

หยาดรุ้งไม่เงยหน้าแต่เขียนตอบมาสั้นๆว่า

ไม่

เขาส่งกลับไปใหม่

ผมหิว

หยาดรุ้งตอบกลับมาว่า

เชิญ!

ปฐวีลุกขึ้นยืน

“ผมไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า จะลงไปหาอะไรกินแล้วจะรีบขึ้นมา”

เมื่อกะว่า ปฐวีเดินพ้นไปแล้ว หยาดรุ้งก็วางปากกา ปิดปากหาว ใจอยากจะลุกขึ้นบิดตัวเสียด้วยซ้ำ เพราะ เธอเองก็ล้าเหมือนกันกับการนั่งอ่านนั่งจดอยู่ร่วมสามสี่ชั่วโมง แต่เพราะอยากเอาชนะหรอกจึงทนอยู่ได้ หยาดรุ้งคว้ามากระเป๋ามาค้นหาลูกอมที่คิดว่าน่าจะมีติดอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีเหลือสักเม็ด ถึงจะบอกเขาว่าไม่หิว แต่เมื่อเช้าเธอก็ดื่มแค่กาแฟถ้วยเดียว อาจเป็นเพราะความเครียดเรื่องรายงานก็ได้ที่ทำให้ท้องเธอมันไม่อุทธรณ์ในเรื่องนี้

หากเรื่องที่เธอทำสามารถส่งเป็นภาษาอังกฤษได้ก็ดีสินะ จะได้ไปหาตัดต่อเอาจากอินเตอร์เน็ต ส่งให้เสร็จๆ ไป แต่เรื่องที่เธอทำมันดันหาข้อมูลเป็นภาษาไทยไม่ได้เสียด้วยสิ จึงต้องมานั่งเหนื่อยอยู่อย่างนี้ หยาดรุ้งหยิบกระดาษที่ปฐวีเขียนขึ้นมาดู ลายมือเขาเส้นหนักและเขียนหวัดได้สวยกว่าเธอ เมื่อเอามารวบรวมเข้าด้วยกันก็เหลืออยู่อีกไม่กี่หัวข้อก็หมด ซึ่งก็ไม่น่าจะเกินห้าโมงเย็นก็คงเสร็จ

ก็คงไปทันนัดหรอกนะ

หยาดรุ้งก้มหน้า อ่านหนังสือต่อ ความจริงเธอเองก็มีนัด แม้จะเบื่อไม่อยากไป แต่คืนนี้เป็นวันเกิดสมภพ คงมองไม่ดีแน่หากเธอไม่ไปปรากฏตัวที่งานปาร์ตี้ แต่หลังจากงานคืนนี้ หยาดรุ้งตั้งใจจะบอกเลิกกับเขาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเสียที

ไม่ถึงสามสิบนาทีปฐวีก็กลับมา เขายังเห็นหยาดรุ้งก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่เหมือนเดิม และเมื่อเขาหย่อนลูกอมลงหนังสือที่เธออ่าน หยาดรุ้งก็เงยหน้า

“เทียนฝากมาให้”

“เทียนเหรอ?” เธอเลิกคิ้ว “ทำไมโกหกเก่งจัง”

ปฐวียักไหล่ นั่งลงที่เดิม

“โกหกเพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่เชื่อ อีกอย่างบอกว่าเป็นของผม เดี๋ยวก็จะพาลไม่กินอีก”

“ฉันไม่เรื่องมากอย่างนั้นหรอกปฐวี” เธอเรียกเขาเสียเต็มยศ แกะลูกอมใส่ปาก แล้วก้มหน้าเงียบ

ปฐวีไม่คิดว่า หยาดรุ้งจะสมาธิดีถึงเพียงนั้น เพราะเธอช่างเงียบได้จริงๆ และหัวข้อที่เธอทำก็เสร็จก่อนเขา

“จะไปห้องน้ำ” หยาดรุ้งบอกก่อนจะคว้ากระเป๋าลุกออกไป

สักครู่ มือถือที่หยาดรุ้งลืมวางไว้บนโต๊ะก็สั่น แสดงว่ามีสายเข้า ปฐวีมองจนมันเงียบไป แต่สักครู่ก็สั่นขึ้นมาอีก ชายหนุ่มตัดสินใจหยิบขึ้นมารับสาย

“รุ้งอย่าลืมนัดคืนนี้นะ ผมมีเรื่องจะพูดด้วย”

“รุ้งไปเข้าห้องน้ำ ลืมโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะ”

สายทางโน้นเงียบไปก่อนจะพูดว่า

“บอกรุ้งด้วยว่า ผมจะโทรมาใหม่”

คงไว้ใจกันน่าดู ไม่สนใจถามเลยว่า ใครรับสายแทน

เมื่อหยาดรุ้งกลบมา ปฐวีก็บอก ว่า

“เมื่อกี้แฟนคุณโทรมา”

นึกว่าเธอจะรีบโทรกลับไป แต่หยาดรุ้งกลับย้อนถามเขาว่า

“ของคุณเสร็จแล้วยัง”

“ไม่เกินสิบห้านาที”

หยาดรุ้งจัดเรียงกระดาษและหัวข้ออีกครั้งให้เรียบร้อยระหว่างรอเขา ก็เหลือแต่การพิมพ์เท่านั้น เธอรู้ว่าจ้างคนพิมพ์ได้ แต่เพราะไม่เคยทำเองมาก่อน หยาดรุ้งจึงรู้สึกยุ่งยากไม่น้อย

เมื่อปฐวียื่นส่วนสุดท้ายให้เธอจึงถามอย่างไม่เต็มเสียงนักว่า

“ปกติส่งพิมพ์ที่ไหน?”

ปฐวียิ้มขำ

“ให้ตาย! ไม่เคยทำอะไรเองจริงๆ เหรอรุ้ง ถ้าผมไม่มาจะทำไงนี่”

“ฉันคงชักตายอยู่ตรงนี้ละมัง?” เธอประชดใส่ ลุกขึ้นหยิบข้าวของ เดินลิ่วไปไม่รอเลย

ปฐวีรีบจึงรีบลุกเดินตาม ไปทันที่หน้าประตูห้องสมุดพอดี เขาจับที่ศอกเธอบอกว่า

“เดี๋ยวพาไป”

เมื่อทั้งคู่มาถึงที่จอดรถของหยาดรุ้ง ปฐวีก็บอกว่า

“เอากุญแจรถมา ผมขับเอง ขืนบอกทางเดี๋ยวไม่เข้าใจ เป็นเรื่องอีก"

หญิงสาวมองหน้าเพยิดหน้าไปที่รถของเขา

“แล้วคันโน้น”

“เดี๋ยวผมกลับมาเอาเอง”

:+:+:+:+:+:

๕.


“ไปไหนมาแต่เช้า”

“ออกไปใส่บาตร”

“หา! ” เทียนวรรณตาลุก

“ซื้อน้ำเต้าฮู้กับปาท่องโก๋มาฝากด้วย ”

หยาดรุ้งยกถุงให้เพื่อนดูแล้วเดินเลยไปวางที่โต๊ะ

“ผีเข้าเหรอ?”

“จะบ้าเหรอเทียนวรรณ” หยาดรุ้งใส่ฉุนๆ “กะอีแค่คนไปใส่บาตรทำเป็นงงไปได้ ไปอาบน้ำแปรงฟันไป๊!”

เทียนวรรณมองหยาดรุ้งอย่างเป็นของแปลกเชียวล่ะ เมื่อคืนนี้เธอรู้ว่าหยาดรุ้งไปงานเลี้ยงวันเกิดแฟน และกลับมาเกือบจะตีหนึ่ง ก็นึกว่าหยาดรุ้งจะนอนจนตะวันสายโด่งเหมือนเดิม แต่ปรากฏว่า ตื่นหายไปตั้งแต่เช้า แถมกลับมาบอกว่าไปใส่บาตรเสียนี่ จะไม่ให้เธอสงสัยได้ยังไง

“มีอะไรไม่สบายใจ เรื่องรายงานเหรอ? ”

“เปล่า เรื่องรายงานจ้างคนพิมพ์อยู่พรุ่งนี้ไปรับได้”

“งั้นอะไร?”

หยาดรุ้งขมวดคิ้ว ดูเหมือนเทียนวรรณจะไม่ขยับแน่ ถ้าเธอไม่บอกให้หายสงสัย

“แค่เซ็ง เลิกกันกับสมภพแล้ว คุยกันเมื่อคืน”

“อ้าว!” เทียนวรรณพูดไม่ออก ทำหน้าเหรอ หยาดรุ้งเลยอดหัวเราะไม่ได้

“ไม่ต้องห่วงฉันไม่เป็นไรหรอก แต่เสียหน้านิดหน่อย เพราะตั้งใจจะบอกเลิกเขาเหมือนกัน แต่ขานั้นดันบอกก่อน เลยไปใส่บาตรเอาฤกษ์เสียหน่อย อ้อ ... แล้วไม่ต้องห่วงหรอกนะว่าฉันจะแย่งรุจน์คืน เพราะตั้งใจจะตั้งใจเรียนแล้วตอนนี้”

“จะทำได้เร้อ?” เทียนวรรณทำเสียงไม่เชื่อถือ

“ทำไมจะไม่ได้ เมื่อคืนก็เชคตารางสอบเก็บคะแนนแล้ว” หยาดรุ้งพูดจริงจัง

แต่เทียนวรรณยิ้มยั่วลากเสียงพูดว่า

“เปล้า! ฉันหมายถึงเรื่องแย่งรุจน์คืนน่ะ”

หยาดรุ้งหยิบปาท๋องโก๋ปาเพื่อน

“ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เทียนวรรณ”

แต่เทียนวรรณก็ไม่วายจะส่งเสียงหัวเราะชอบใจก่อนจะเดินเลี่ยงไปห้องน้ำ

หยาดรุ้งหยิบแก้วเซรามิคมาเทน้ำเต้าฮู้ใส่ หยิบถุงปาท่องโก๋แล้วเดินไปนั่งที่โซฟา เปิดโทรทัศน์ดูข่าว แต่เมื่อคิดได้ ก็เลยเดินเข้าห้องไปหยิบกระดาษที่เขียนรายชื่อวิชาที่จะสอบเก็บคะแนนมานั่งดู มีสองสามวิชาที่หยาดรุ้งคิดว่าตัวเองยังอ่อน แต่คงหาเพื่อนช่วยติวให้ ได้ เพราะมีหลายคนก็ต้องสอบเหมือนกันการติวจึงไม่เป็นการรบกวนเพราะมันก็เหมือนกับการทบทวนไปในตัว แต่ไอ้วิชา หลักเศรษฐศาสตร์จุลภาค นี่สิ เป็นเรื่องที่เธอหนักใจ เพราะเคยลงตอนอยู่ปีสองแต่ได้เอฟ จึงทิ้งเอาไว้ เพิ่งมาลงใหม่ในเทอมนี้เองเพราะมันเป็นวิชาบังคับ แต่เพื่อนๆ ก็ผ่านกันหมดแล้ว หากจะไปขอให้ใครติวให้ มันก็เท่ากับว่าเธอไปรบกวนเวลาคนอื่น ที่ช่วงนี้ต้องอ่านหนังสือสอบเช่นกัน หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็คงไปขอให้คนติวให้ง่ายๆ แต่ตั้งแต่เจอเรื่องรายงานที่ถูกด่ากรายๆ ว่าไม่มีความรับผิดชอบ ก็เลยทำให้เธอชักแหยง ไม่กล้าไหว้วานใครง่ายๆ อีก

“มันก็ไม่น่าจะยาก แต่ทำไมฉันบื้ออย่างนี้นะ”

หยาดรุ้งด่าตัวเอง ก็พอดีกับเทียนวรรณเดินออกมา

“อะไรอีกล่ะรุ้ง หน้ายุ่งเชียว”

“ก็ไอ้หลักเศรษฐ์ฯ นี่สิ ยังไม่ผ่านเลย ไม่รู้จะหาใครติวให้ สอบศุกร์หน้านี้แล้ว แถมพุธพฤหัสรุ้งก็มีวิชาสอบอีกตั้งสองวิชา ชักเซ็งแล้วสิ”

หยาดรุ้งพูดแล้วก็กระแทกทิ้งตัวไปเอนไปด้านหลัง หลับตาถอนใจแรง

“ก็หาแฟนเรียนเศรษฐศาสตร์ติวให้สิ”

“เดี๋ยวโดนยัยวรรณ คนยิ่งกลุ้มๆ อยู่” หยาดรุ้งพูดทั้งที่ยังหลับตา

“เอ ... ทำไมหงุดหงิดง่ายจังนะ เอางี้ให้วิทยาหรือปฐวี เขาติวให้ก็ได้นี่ อยู่เศรษฐศาสตร์ทั้งคู่”

หยาดรุ้งขยับตัวนั่งตรง

“เออ จริงสิ”

“แต่ถ้าจะให้ฉันแนะนำ ก็เลือกปฐวีดีกว่า เมื่อวานก็ไปช่วยทำรายงานไม่ใช่เหรอ”

“ฮือม์ บอกอยู่ว่าเทียนสั่ง ทำงานดีชะมัด” หยาดรุ้งพูดยิ้มๆ เป็นนัย
เรื่องที่ปฐวีชอบเทียนวรรณไม่ใช่ความลับอะไร

“บ้า ... อย่างนายวีเหรอจะรับคำสั่งฉัน แค่เตือนว่าอย่าลืมเอารายงานเก่าไปด้วยนะ ยังสวนมาเลยว่า อย่ามาสั่ง ผมไม่ใช่แฟนคุณ”

“แต่ยังไง ก็เพราะเทียนนั่นแหละ นายนั่นเขาถึงได้ไปช่วยฉัน”

เทียนวรรณส่ายหน้าไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่พูดอะไร และเมื่อเห็นหยาดรุ้งเอนตัวนอนราบก็เลยถามว่า

“แล้วไม่ออกไปไหนเหรอวันนี้”

“ไม่จะนอนพัก เธอล่ะ?”

“เก้าโมงรุจน์จะมารับไปห้องสมุด”

“สวีทจัง ” หยาดรุ้งพูด แล้วปิดปากหาว

“ถ้าเจอปฐวี จะให้บอกไหม? เรื่องติวนี่”

“ไม่ต้องเดี๋ยวคุยเอง เทียนมีเบอร์โทรไหม? เขียนให้หน่อย บ่ายๆ จะโทรไป”

หยาดรุ้งบอกแล้วหลับตา เทียนวรรณจึงหันไปหยิบรีโมททีวีเปลี่ยนช่อง ดูรอเวลานิรุจน์มารับเท่านั้น

 

เอาเข้าจริงๆ ตอนบ่ายที่หยาดรุ้งตื่นขึ้นมา แม้จะเห็นเบอร์โทรที่เทียนวรรณเขียนทิ้งไว้ให้ แต่เธอก็บอกไม่ถูกทำไมไม่อยากโทรไป หรือเพราะกลัวกับความฝันของตัวเองตอนหลับเมื่อครู่ก็ไม่รู้

เธอโทรไปแต่ปฐวีตอบแบบหยิ่งกลับมาว่า ผมไม่ว่าง ในฝันรู้สึกตัวเองเสียหน้า ยิ่งกว่าแฟนบอกเลิกเสียอีก ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมรู้สึกอย่างนี้
ก็แค่ผู้ชาย ปากจัด คนหนึ่ง ...
หยาดรุ้งก็เลยผัดผ่อนตัวเองออกไป จนสองทุ่ม เทียนวรรณกลับมาถาม ว่าโทรคุยกับปฐวีหรือยัง จึงโกหกว่าลืม และเมื่อตอนสามทุ่มเธอโทรไป เสียงตอบกลับมาหวานใสเลยว่า
“สวัสดีค่ะ”
หยาดรุ้งคิดว่าตัวเองกดเบอร์ผิด เลยวางสายไม่พูด แต่เมื่อมาเชคดูอีกครั้ง มันก็ตรงกับที่เทียนวรรณเขียนไว้ให้ หากเทียนวรรณไม่ได้จดให้ผิด นายนั่นก็อยู่กับแฟนคงเป็นมาริสาเพราะเสียงชักจะคุ้นขึ้นมา เธอเลยตัดสินใจไม่โทรไปอีก

:+:+:+:+:+:

 

ฟีลิปดา
๒๙ มีนาคม ๒๕๔๙

©ลิขสิทธิ์ตามกฏหมายโดยฟีลิปดา

philipda@forwriter.com

 


 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์

 

2009 free writing

 

ดั่งไฟรัก
 


๕๐๕ แคนโต้แห่งความรัก
 

 

 

    http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.