forwriter.com
 
เรื่องสั้นโรแมนติก

 

      รัก ... ถึงไม่แพ้ แต่ต้องทำรายงาน                      
                                โดย ฟีลิปดา

 

๙.

แต่ความสบายใจของหยาดรุ้ง อยู่ได้ไม่นาน เพราะในตอนบ่ายของวันพฤหัส ขณะที่เธอนั่งรอเรียนในคาบต่อไป ก็เห็นสมภพ เดินมากับมาริสา จากท่าทางของคนทั้งสอง ก็ดูสนิทสนมกันไม่น้อย เห็นมาริสาแล้วหยาดรุ้งก็ยิ้มคิดไปถึงเทียนวรรณ หากคู่นี้ชอบพอกัน ก็คงเหมือน นิรุจน์กับเทียนวรรณ แต่คงจะไม่เพราะเธอคิดว่า มาริสา ชอบปฐวี แล้วมาริสาก็เดินแยกตัวไป ขณะที่สมภพเดินตรงมาที่เธอ

“ มาทำอะไรอยู่นี่รุ้ง บอยเฟรนด์ไปไหน? ”

“ ก็เพิ่งควงคนอื่นต่อหน้าฉันอยู่นี่ไง ” หยาดรุ้งตอบยิ้มๆ

“ พูดเป็นเล่น รู้น่าว่าดีใจแค่ไหนที่กำจัดผมเสียได้ ”

“ อ๊ะ อย่ามาพูดอย่างนี้นะ นายเป็นคนบอกเลิกฉันก่อน ”

“ รุ้งก็กะทิ้งผมก่อน ”

ทั้งคู่หัวเราะขึ้นพร้อมกัน แล้วสมภพก็หยุดพูดว่า

“ เอะ ... นั่นนายวีนี่ ทำไมเดินผ่านไปเลยล่ะ คงไม่เข้าใจผิดผมกับรุ้งหรอกนะ ”

“ บ้า เขาจะมาเข้าใจผิดอะไร วิ่งตามแฟนนายอยู่ต่างหาก ” หยาดรุ้งเพยิดหน้า สมภพหันไป ก็เห็นปฐวี เดินไปทันกับมาริสาพอดี หันกลับมาก็เห็นแววตาหม่นลงของหยาดรุ้ง เลยแซวว่า

“ ไม่ต้องหึงหรอกน่ารุ้ง คู่นั้นไม่มีอะไรกันหรอก รับรองได้ ”

“ หึงบ้าอะไร เขาไม่ได้เป็นแฟนฉันสักหน่อย ”

“ อย่ามาปฏิเสธเสียให้ยาก ผมเห็นเขากับรุ้งอยู่ด้วยกันในห้องสมุดทุกวัน ”

“ ไม่เห็นจะมีอะไร ฉันก็แค่ติวภาษาอังกฤษให้เขาเท่านั้น ”

สมภพหัวเราะก้าก ขึ้นมา

“ มือตกนี่รุ้ง โกหกไม่แนบเนียนเลย พูดออกมาได้ ติวภาษาอักกฤษให้ นายปฐวีนั่นเขานักเรียนทุนเอเอฟเอส แถมยังเคยไปเรือเยาวชนด้วย ”

หยาดรุ้งกลืนน้ำลาย

“ รู้ได้ไง? ”

“ ทำไมจะไม่รู้ ตอนไปทุนเอเอฟเอสเขารุ่นเดียวกับมาริสา แต่ไปเรือนี่ก่อนผมรุ่นหนึ่ง ได้ข่าวว่าเขาเป็นคนกล่าวสปีดวันสุดท้ายด้วยนะ อย่ามาไก๋ทำหน้าไม่รู้เรื่องนะ ผมรู้อย่างรุ้งถ้าไม่ดังไม่คบเป็นแฟนหรอก แล้วขานี้เขา

ป๊อบออกในหมู่นักเรียนทุน ”

หยาดรุ้งฝืนคุยกับสมภพจน ได้เวลาเรียนจึงแยกย้ายกันไป แต่เธอเรียนไม่รู้เรื่องทั้งสองวิชาติดต่อกัน เพราะยังตัดสินใจไม่ตกว่า เย็นนี้จะไปตามนัดติวที่ห้องสมุดให้เขาเหมือนเดิมหรือเปล่า

แต่ในที่สุด หยาดรุ้งก็ไป สายประมาณสิบนาที ปฐวีนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“ คุยกับแฟนเพลินหรือไงรุ้ง สายไปตั้งสิบนาที ”

“ ใช่ ” หยาดรุ้งตอบรับ ไม่ได้สังเกตแววตาที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย

“ ถ้ารุ้งไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ ”

“ ช่างเถอะ วันสุดท้ายแล้ว ”

“ ทำไม คืนดีกับแฟน แล้วจะเขี่ยผมทิ้งเหรอ ”

หยาดรุ้งสะดุดใจคำพูดเขา แต่เหมือนเห็นใบหน้านั้นยังยิ้มละไมอยู่ ก็เลยทำเฉย เริ่มเข้าเรื่องที่เคยติวให้เขาฟังเหมือนอย่างที่เคย แต่ระหว่างที่รอให้เขาทำแบบฝึกหัดที่เธอเขียนคำถามให้เขาลองทำ ก็อดจะคิดไม่ได้ว่า

หากเป็นการเล่นละคร ปฐวี ตีบทแตกจริงๆ

หากไม่เพราะเกมพนัน เขามาทนติดอยู่กับเธอได้อย่างไร?

หากไม่เป็นเพราะ เทียนวรรณพูดถึงการเห็นเงินเดิมพันในแก้วแชมเปญ และ รู้จากสมภพเรื่องเขาเป็นนักเรียนทุน เธอคงไม่คิดคลางแคลงใจอะไรเขาเลย

“ ท่าทางใจไม่อยู่กับตัวเลยนะ ถ้าไม่อยากติวก็เลิกเถอะ ”

“ นายนะแหละ ไม่อยากให้ติวก็เลิกเถอะ ”

“ ผมไม่เลิกหรอก หาโอกาสอยู่กับรุ้งสองต่อสองง่ายที่ไหน ”

เป็นคำพูดลดเลี้ยวอย่างมีนัยที่ตรงที่สุดที่ปฐวีกล้าพูดกับเธอ

“ จริงเร้อ ! ไหนดูเขียนอะไรเป็นนานสองนาน คำถามมีแค่สามข้อ ”

“ ขอดูด้วยน้ำเสียงแบบนี้ ไม่ให้ดู ”

“ งั้นฉันก็จะไม่ดูตลอดชีวิตเลย ”

ในน้ำเสียงนั้นมีความมุ่งมั่นบางอย่างจนปฐวีรู้สึกได้ แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่เขาตั้งใจจะบอกเธอจริงๆ และมันไม่เกี่ยวกับการพนันขันต่อใดๆ ที่เขาเล่นกับเพื่อนๆ ทั้งนั้น

เขายื่นกระดาษให้เธอเงียบๆ

หยาดรุ้งกวาดสายตาอ่านลายมือเส้นหนัก เหมือนคนเขียนตั้งใจเขียนยิ่งนักว่า

I LOVE YOU.

LOVE WHILE I WONDER WHY.

YOU WILL LOVE ME BACK ?

ผมรักคุณ

รักทั้งที่สงสัยตัวเอง ว่าทำไมถึงรัก

คุณจะรักตอบผมบ้างได้ไหม?

หยาดรุ้งเม้มปาก จุดนี้เองที่ทำให้เธอทนต่อไปไม่ไหว เธอนึกเกลียดที่เขามาล้อเลียนเธอเล่น เพียงเพื่อจะไม่ให้เขาสนุกกับหัวใจเธอเกินไป หญิงสาวเงยหน้าถามเหยียดๆ ว่า

“ อันนี้ใช่ไหม? ที่พนันกันเอาไว้ ”

ปฐวีถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก หยาดรุ้ง รู้เรื่องการพนันได้ยังไง?

“ ฉันต้องตอบว่าไงล่ะ? นายถึงจะชนะ ”

“ รุ้ง !”

“ ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันไม่ได้โกรธ แต่เงินเดิมพันต้องหารสองนะ ”

ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่า หยาดรุ้ง โกรธแค่ไหน แต่ปฐวีก็พยายามจะอธิบาย

“ รุ้งมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ ”

“ ไม่เป็นไร ฉันเอาส่วนเดียวก็ได้ที่เหลือยกให้ เพราะนายอดทนกว่าฉัน ไหนจะต้องมาติวหนังสือให้ฉัน ไหนจะต้องทนฟังฉันอธิบายภาษาอังกฤษโง่ๆ กับนักเรียนทุนเอเอฟเอส ทุนเรือเยาวชนอย่างนาย ”

ปฐวีพูดไม่ออกจริงๆ เป็นนานกว่าจะถามกลับไปว่า

“ ใครบอกรุ้ง? ”

“ ไม่มีใคร ฉันเห็นตั้งแต่วันที่ฉันไปเอารายงาน แล้วเจอเงินในแก้วเชมเปญของพวกนายแล้ว ” หยาดรุ้งโกหก

ปฐวีนิ่ง หรี่ตามองเธอ ก่อนจะถามว่า

“ ก็แสดงว่าที่ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์นี่คุณรู้เรื่องนี้มาตลอด ”

“ ใช่ ” หยาดรุ้งกระแทกเสียงตอบ

ปฐวีถึงกับขบกรามแน่น มองตอบเธอด้วยสายตาอย่างหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้น

“ ถ้าอย่างนั้น ก็แล้วกันไปเถอะรุ้ง ”

“ เดี๋ยว เอานี่ของนายคืนไปด้วย ” หยาดรุ้งยื่นกระดาษคืนให้เขา

“ เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกจากผู้ชายโง่ๆ คนหนึ่งที่โง่มารักคุณเถอะ ”

“ ฉันไม่ต้องการ! ”

“ ก็ทิ้งไป !”

หยาดรุ้งมองตามร่างที่ก้าวห่างเธอไป แล้วเม้มปากแน่น

รู้ทันแล้วมาทำโกรธ ทำยังกับเราเป็นฝ่ายผิดเสียอีก

หญิงสาวพลิกกระดาษในมือ แล้วเบ้ปากเมื่อเห็นอีกด้านมีเส้นลายมือหนักๆ เขียนเอาไว้ว่า

ผมรักรุ้ง

อย่ามาหลอกฉันเสียให้ยากเลยนายปฐวี...

*****

สิ่งที่หยาดรุ้งคิด มันกลายเป็นสิ่งที่ปฐวีก็คิดเหมือนกัน

เขาโดนเธอหลอก

มันก็กระจ่างออกมา เมื่อหยาดรุ้งเองก็บอกออกมาว่า เธอรู้เรื่องการพนันแล้ว

แถมยังตลบหลังเขาได้อย่างสวยงามด้วยสิ

ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

ไอ้เขาก็โง่ ทั้งๆ ที่เห็นเธอสดชื่นแค่ไหนตอนคุยกับแฟนของเธอ แต่เขาก็ยัง ไปรอเธอ

ไปสารภาพรักเธอจริงๆ

หยาดรุ้งคงโกรธตั้งแต่วันที่สาดน้ำใส่หน้าเขาแล้ว นิสัยของหยาดรุ้งไม่ยอมแพ้ง่ายอยู่แล้ว

เทียนวรรณคงไม่รู้ จึงถูกหยาดรุ้งหลอกใช้มาบอกเรื่องหยาดรุ้งอยากให้ติวหลักเศรษฐ์ให้ มันแนบเนียนยิ่งนักเมื่อหยาดรุ้งเองก็ไปขอให้วิทยาช่วย เขาเองนี่แหละนอกจากจะเวียนโทรไปขอโทษเธอทั้งคืนแล้วในวันนั้น ยังเสนอหน้าไปติวแทนวิทยาด้วย ยังโง่ซ้ำอีกเมื่อยอมเป็นไอ้บื้อให้เธอติวภาษาอังกฤษให้เขา เธอวางแผนได้แน่นอนมาก คงจ้องให้เขาสารภาพรักเสียก่อน แล้วถือโอกาสปิดเกมส์ไปเสียเลย

อะไรก็ช่างเข้าทางให้เธอได้ชนะเขา

นี่คงกลับไปนั่งหัวเราะเยาะเล่าเรื่องเขาให้เทียนวรรณฟังสนุกไปเลยสิ

ไอ้กระดาษแผ่นนั้น จ้างเธอก็ไม่ทิ้งทั้งชีวิต

ในเมื่อมันเป็นหลักฐานอย่างดีไว้อวดใครๆ ว่า

นี่ไง มีไอ้หน้าโง่ คนหนึ่ง หลงรักเธอ

*****

แล้วคืนนั้นปฐวีก็บอกกับเพื่อนๆว่า

“ หยาดรุ้งไม่ไป ”

“ งั้นแกก็แพ้สิ ”

“ เออ ”

“ จ่ายมาไอ้วี ได้เงินใช้แล้วโว้ย ” วิทยาเร่งยิกหัวเราะชอบใจ แต่นิรุจน์บอกว่า

“ ตามกติกาต้องพ้นวันอาทิตย์ไปก่อน วันนี้พฤหัสเอง ยังมีเวลาอีก ไม่ลองอีกหน่อยเหรอวี ”

ปฐวีสั่นหน้า

“ พรุ่งนี้สอบเสร็จฉันจะกลับไปก่อนเพราะจะมีนักเรียนทุนไปแวะเที่ยวที่นั่นด้วย ”

“ งั้นฉันไปด้วย ไม่มีสอบแล้ว ” วิทยาประกาศ

“ ฉันด้วย ” ปราโมทย์บอก

“ เทียนมีสอบวันศุกร์ แล้วจะตามไปวันเสาร์แต่เช้า ” นิรุจน์บอก

:+:+:+:+:

 

๑๐.

 

ความเงียบของหยาดรุ้ง เป็นที่ผิดสังเกตุของเทียนวรรณ จนในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า

“ มีปัญหาอะไรเหรอรุ้ง ทำไมเงียบจัง ”

“ เอาไมค์ออกมาสิ ฉันจะร้องคาราโอเกะให้ฟัง ”

เทียนวรรณหัวเราะ กับคำตอบ

“ พูดอย่างนี้ค่อยยังชั่ว นึกว่ามีอะไรในใจ เห็นเงียบไปวันสองวันแล้ว ”

“ รู้อยู่เหรอ นึกว่ามัวแต่สวีทกับนายรุจน์ จนมองไม่เห็นเพื่อน ”

“ น้อยหน่อย ฉันสังเกตุอยู่นะ เพียงแต่ไม่พูดเท่านั้น อาทิตย์นี้ไม่กลับบ้านเหรอ? ”

หยาดรุ้งสั่นหน้า

“ พ่อกับแม่ ไปเที่ยวฮ่องกง ”

“ ทำไมรุ้งไม่ไปด้วย ”

“ เบื่อ เทียนจะไปไหนเหรอ ซื้อของมาเยอะแยะ ” หยาดรุ้งถามเปลี่ยนเรื่อง

“ จะไปเที่ยวบ้านสวนกัน ” เทียนวรรณตอบ นึกสงสัยว่าทำไมหยาดรุ้งไม่รู้

“ น่าสนุกนี่ ไม่เห็นชวนเลย ใครไปบ้างล่ะ? รุ้งไปด้วยคนสิ เบื่อไม่อยากอยู่หอ ”

หยาดรุ้งขอไปด้วยดื้อๆ ในตอนท้าย ซึ่งทำให้เทียนวรรณ ถึงกับมองพิจารณาเงียบ ๆ ก่อนจะพยักหน้า

“ รุ้งไปด้วยก็ดีสิ มีแต่พวกเรากันเองทั้งนั้น ”

“ บ้านใครเหรอ? วรรณเคยไปแล้วยัง? ”

เพราะหยาดรุ้งถามสองคำถามในครั้งเดียวกัน เทียนวรรณจึงเลือกที่จะตอบคำถามที่เธอรู้ว่า

“ ไม่เคยไป แต่รุจน์บอกว่าร่มรื่นมาก บ้านเป็นไม้สักทั้งหลังใหญ่มาก สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้า อยู่ติดแม่น้ำ ”

“ เหวอ ... เก่าขนาดนั้นมีผีหรือเปล่า? ” หยาดรุ้งถามหวาดๆ

“ ก็ต้องไปพิสูจน์กันละ เพราะจะค้างคืนด้วย ออกจากนี่ พรุ่งนี้เจ็ดโมงแล้วจะกลับกันตอนบ่ายวันอาทิตย์ ไง? รุ้งจะเปลี่ยนใจเหรอ ”

หยาดรุ้งนิ่ง ก่อนจะตอบว่า

“ ไม่รู้สิ แต่ถ้าเจอตอนเช้าแสดงว่าจะไปด้วย ”

*****

ในตอนเช้าเมื่อนิรุจน์เห็นหยาดรุ้งลงมาพร้อมเทียนวรรณก็ถามว่า

“ ไหนนายวี บอกว่าไม่ไป ”

หยาดรุ้งฟังผ่านหูไม่คิดจะตอบคำถามนั้น เพราะไม่อยากเอ่ยปากถึงชื่อนั้น ประกอบนิรุจน์เองก็ไม่ได้สนใจเอาคำตอบด้วยพอขึ้นรถนั่งได้ที่ เธอก็พูดว่า

“ ตื่นแต่เช้า ฉันขอหลับนะ ”

หยาดรุ้ง นอนหลับตา แต่ไม่หลับจริงๆ ยินเสียงเทียนวรรณกับนิรุจน์คุยเล่นหยอกเย้ากันเบา ๆ แล้วรู้สึกเหงาขึ้นมา ทำไมตอนที่เธอมีแฟน ซึ่งรวมทั้งนิรุจน์นี่ด้วย เธอไม่เคยคุยเล่นกะหนุงกะหนิงกันสองต่อสอง เพราะมีแต่เพื่อนเฮฮาล้อมหน้าล้อมหลัง มันจึงเป็นเหมือนอวด และต้องทำตัวให้เด่นอยู่เสมอ หยาดรุ้งใจกว้าง หยาดรุ้งเฮไหนฮานั่น เที่ยวเกือบทุกคืน สนุกสนานสุดขีด จนตัวเองเบื่อเอง

แต่ช่วงเวลาสองอาทิตย์ที่เข้าห้องเรียน ได้อยู่ห้องสมุด ได้พูดคุยเล่นกับปฐวี มันเหมือนหยาดรุ้งได้รู้จักวิธีใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่ง

แต่ยังไงมันก็ยังพลาดจนได้

หยาดรุ้งเผลอถอนหายใจ เทียนวรรณจึงส่งเสียงถามมาว่า

“ หิวไหมรุ้ง ”

“ ถ้ารอได้ อีกสามสิบนาทีก็ถึงท่าเรือแล้ว ที่ตลาดมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวไก่อร่อย ” นิรุจน์บอก

“ ไม่ใช่ไก่พรมจรรย์ ฉันไม่กินนะ ” หยาดรุ้งพูดติดตลก แล้วกัดริมฝีปาก เพราะจำได้ว่านี่คือคำพูดของเขา แต่ก็ดีใจที่ได้ยินเสียงเทียนวรรณหัวเราะร่วน

หยาดรุ้งขยับตัวนั่งตรง เธอควรทำตัวให้สดชื่น ไม่ควรให้ความหมองเศร้าเล็ดลอดออกมาให้เพื่อนจับได้

ยังไง หยาดรุ้ง ก็ต้องเป็นหยาดรุ้ง คนเดิมนั่นแหละ มาเที่ยวทั้งทีก็ต้องให้มันสนุกเต็มที่สิ

วิทยามารอรับที่ตลาด พอเห็นหยาดรุ้งก็อุทานว่า

“ อ้าว ไหนนายวี บอกไม่มา ” แต่เขาก็ไม่สนใจเอาคำตอบเช่นกัน หันไปต่อว่านิรุจน์ว่าทำไมมาช้า แล้วก็ช่วยกันขนของลงเรือหางยาวลำหนึ่ง เสร็จแล้วก็ตะโกนบอกคนขับเรือว่า

“ ลุงรอเดี่ยวนะ ขอกินก๋วยเตี๋ยวก่อน ”

“ ต้องนั่งเรือไปด้วยเหรอ? ” หยาดรุ้งถาม

“ นั่งเอาบรรยากาศบ้านสวนน่ะรุ้ง ” วิทยาตอบ แล้วคุยต่อว่า “ มาหนนี้มีโปรแกรมทัวร์ สวนองุ่นด้วยนะ ”

“ แถวนี้มีสวนองุ่นด้วยเหรอ? ”

“ อ้าวไม่รู้เหรอ? ” วิทยาย้อนถามเสียนี่

“ จะไปรู้ได้ไง ไม่เคยมานี่ ” หยาดรุ้งย้อน

วิทยาสบตากับนิรุจน์ แล้วไม่พูดอะไร เมื่อกินเสร็จทั้งหมดก็ลงเรือหางยาว

“ แหม เอากล้องติดมาก็ดีสิ ” หยาดรุ้งบ่น.

ตอนแรกเรือก็แล่นอยู่ในแม่้น้ำกว้าง ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปเหมือนคลอง สองฝั่งมีบ้านอยู่เรียงรายมีต้นไม้ใหญ่ริมน้ำร่มครึ้ม หยาดรุ้งดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่ไม่เคยเห็น และเมื่อวิทยาสั่งให้เรื่อเข้าจอดที่ท่าน้ำ เธอก็ถึงกับบ่นอย่างเสียดายว่า

“ แหมกำลังเพลิน ถึงแล้วเหรอ? ”

“ ถึงแล้ว ”

หยาดรุ้งช่วยตัวเองขึ้นจากเรือโดยไม่สนใจกับมือที่วิทยายื่นให้ พอเห็นบริเวณโดยรอบก็อุทานออกมาว่า

“ ฮู้ว์ บ้านน่าอยู่จัง เจ้าของบ้านเขามีลูกชายไหมนี่ รุ้งจะจีบเอาเป็นแฟนเสียหน่อย ”

วิทยามองหน้าหยาดรุ้งยิ้ม แล้วก็บอกว่า

“ ลองถามนายวีดูสิเผื่อจะรู้ เดินมากับนายโมทย์โน่นแล้ว ”

“ จะถามอะไรวีเขาเหรอ? ” เทียนวรรณ ที่ขึ้นมาทีหลังถาม

“ รุ้งเขาอยากรู้ว่า เจ้าของสวนมีลูกชายไหม? จะได้จีบ ” วิทยาทวนให้แล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างอดไม่ได้ ส่วนนิรุจน์เพียงยิ้มนิดๆ

ปราโมทย์เดินมาถึงก่อน พอเห็นหยาดรุ้งก็ทักว่า

“ อ้าว ! ไหนวีบอกว่าไม่มา หัวเราะอะไรไอ้วิทย์ดังไปถึงเรือนโน่น ”

“ ก็รุ้งเขามีเรื่องจะถามนายวี ”

“ ใครมีอะไรจะถามฉัน ” เสียงปฐวีถามมาก่อนตัว เขาชะงักนิดหนึงเมื่อเห็นหยาดรุ้ง

“ รุ้งเห็นบ้านแล้วเขาชอบเลยอยากรู้ว่า เจ้าของบ้านนี้มีลูกชายไหม จะจีบเอาเป็นแฟน ” วิทยา ทวนให้ฟังอีกครั้ง ปราโมทย์มองหยาดรุ้ง

“ อ้าว นี่ไม่รู้เหรอ ”

“ อย่างรุ้งไม่ใช่สเปคเขาหรอก อย่าเสียเวลาเลย ” ปฐวีพูดขรึมๆ แล้วถามว่า “ มีอะไรต้องขนไหม? ”

“ อยู่ในเรือ ”

ปฐวีไม่พูดอะไรต่อลงไปที่เรือ หยิบของแล้วโยนให้เพื่อนรับ

หยาดรุ้ง มองเขาไม่วางตา เธอน่าจะคิดได้ กลุ่มนี้เขาต้องมาเที่ยวด้วยกันอยู่แล้ว ไอ้ความคิดที่จะมาเที่ยวสนุกๆ สงบๆ เห็นจะหมดไปเพราะเจอเขานี่แหละ แต่มันเรื่องอะไรเธอจะหลบ ถ้าไงจะเอาเรื่องมันทั้งกลุ่มนี่แหละ โทษฐานสมรู้กันเอาเธอเป็นของพนัน

ปฐวีจัดแจงจ่ายค่าเรือขึ้นบันไดท่าเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นหยาดรุ้งยืนกอดอกมองอยู่ ส่วนคนอื่นทยอยกันเดินขึ้นไปแล้ว

“ พนันกับฉันไหม? ” เธอเอ่ยปาก

“ อะไร? ”

“ ฉันทำให้นายนั่นคุกเข่าสารภาพรักฉันได้ในหนึ่งอาทิตย์เลย ”

“ นายนั่นน่ะใคร? ”

“ ก็ลูกชายเจ้าของบ้านหลังนี้ที่นายบอกว่า ฉันไม่ใช่สเปคเขาไงล่ะ? ”

ปฐวี มองหน้าเธอโกรธๆ

“ อย่าอวดดีนักเลยรุ้ง มันไม่มีครั้งที่สองหรอก ”

เขาเดินอ้อมผ่านเธอเดินตามไปเสียเฉยๆ แต่หยาดรุ้งที่โกรธจนปรบมือแล้วตะโกนขึ้นว่า

“ เฮ้ ทุกคนหยุดก่อน ”

ทุกคนหยุดหันมามอง ก็เห็นหยาดรุ้ง เดินยิ้มเข้ามาหาอย่างช้าๆ

“ รุ้งมีเรื่องจะพนันด้วย ตอนแรกกะจะเล่นสองคนกับขาโน้น แต่เขาเซย์โน ” เธอเพยิดหน้าไปทางหน้าบึ้งๆของปฐวี

“ ถึงไม่มีแก้วแชมเปญมาวาง ก็คงไม่เป็นไร ใช่ไหม รุจน์ วิทย์ โมทย์ อ้อ ... เทียนงานนี้เธอจะเล่นด้วยก็ได้นะ ”

เพื่อนต่างมองหยาดรุ้ง กับ ปฐวีสลับกัน เห็นสีหน้าคนทั้งคู่แล้ว แล้ววิทยาก็ฝืนยิ้ม

“ เอาสิรุ้ง จะพนันเรื่องอะไร? ”

“ ก็แค่ฉันจะพนันว่า จะทำให้ลูกชายเจ้าของสวนนี้คุกเข่าสารภาพรักฉันได้ในหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น ”

“ ไม่ให้เล่น ” เสียงปฐวีสวนมา

“ อ๊ะ นายมาเกี่ยวอะไร ถ้าหมดตัวตอนเล่นเดิมพันเกี่ยวกับฉันแล้ว ก็ให้เงียบไปเลย อย่ายุ่ง ” หยาดรุ้งตวาดใส่ หันมามองคนอื่นๆ

“ ว่าไง ใครจะพนันกับฉัน ” เมื่อเห็นเพื่อนยังอ้ำอึ้งอยู่ก็พูดต่อว่า “ เป็นลูกผู้ชายกล้าๆ หน่อย ตอนเล่นเอาฉันเป็นเหยื่อมันก็สนุกดีไม่ใช่เหรอ? ”

“ รุ้งใจเย็นน่า มันเรื่องอะไรถึงได้โมโหอย่างนี้ ” เทียนวรรณถาม มองหน้าแต่ละคนไปมา

หยาดรุ้งยักไหล่ เธอไม่คุยเรื่องเดิมพันให้เทียนวรรณฟัง เพราะรู้ว่าเพื่อนไม่ชอบ และอาจจะไปต่อว่านิรุจน์ได้ เธอไม่ต้องการให้คนคู่นี้ทะเลาะกันเพราะเธอ

“ ก็ไม่มีอะไร ฉันจะกลับล่ะ? อยู่ต่อคงไม่สนุก ”

“ งั้นเทียนกลับด้วย ”

“ อย่าตลกน่าเทียน นี่เป็นโปรแกรมของเธออยู่แล้ว คิดว่าฉันมาส่งแล้วกัน ”

หยาดรุ้งเดินไปดึงเป้ของตัวเองจากวิทยาที่ช่วยถือให้ ถามเหมือนไม่มีอะไรว่า

“ ต้องรอเรือที่ท่า ใช่ไหม? ”

ไม่รอคำตอบ จากใคร หยาดรุ้งก็เดินกลับไปที่ท่าน้ำ

 

“ นี่มันเรื่องอะไร? ” เทียนวรรณถามมองหน้าทุกคน แล้วไปหยุดที่ปฐวี

“ ก็รู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เรื่องเดิมพัน ” เขาย้อนถาม

“ ก็ได้ยินกรอกหูพร้อมทุกคนเมื่อกี้นี้ละ? แต่ไม่รู้ว่าอยู่ดีๆ รุ้งเขาวีนขึ้นมาได้ยังไง? ยังพูดเล่นคุยสนุกอยู่เลยตอนมา เอะ...เดี๋ยว หมายถึงเดิมพันเมื่อครู่ หรือเดิมพันในแก้วแชมเปญ ”

เมื่อทุกคนเงียบ เทียนวรรณถึงกับพูดออกมาอย่างโมโหว่า

“ นี่เดิมพันเรื่องรุ้งกันจริงๆ หรือ? ”

“ นายวี ก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก ” นิรุจน์ตอบแทนทุกคน

“ รู้ไหม? ตอนเทียนบอกรุ้งเรื่องเห็นเงินในแก้มแชมเปญ เขายังบอกว่ารุ้งคิดมากไปเลย ”

“ เดี๋ยว เทียนบอกรุ้งเรื่องเห็นเงิน ไม่ใช่รุ้งเห็นเองเหรอ ” ปฐวีถาม

เทียนวรรณสั่นหน้า

“ รุ้งเขาไม่รู้เรื่อง เป็นเทียนคุยกับเขาเมื่อสองวันก่อน เพราะสงสัยที่เห็นวีทำตัวสนิทสนมกับเขาผิดสังเกตุ กลัวจะเล่นกันเหมือนตอนเทียน รุ้งก็บอกว่าไม่ใช่ เพราะวีเป็นแฟนกับมาริสาอยู่แล้ว คงไม่มาล้อเขาเล่นหรอก ”

“ เพิ่งคุยกันเมื่อสองวันนี่เองเหรอ? ” ปฐวีถามย้ำ

“ ก็ใช่นะสิ ”

“ แล้วใครชวนเขามาที่นี่ ”

“ รุ้งเห็นเทียนซื้อของเยอะแยะ เลยถามว่าจะไปไหน พอบอกว่าจะมาเที่ยวบ้านสวน เขาก็เลยขอมาด้วยเท่านั้นไม่ได้ชวน ”

เสียงเรือหางยาวแว่วมา

“ ฉันว่ารุ้งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นบ้านแก ” นิรุจน์รีบเสริม

เท่านั้นละ ปฐวีรีบวิ่งปราดไปที่ท่าน้ำทันที

“ นี่บ้านวีเหรอ? ”

“ เทียนไม่รู้เหรอ? ”

“ ก็เพิ่งมาครั้งแรกจะรู้ได้ยังไง? ”

“ สงสัยต่อไปต้องได้มาบ่อยๆ แล้ว ไปขึ้นเรือนเถอะ ”

“ เทียนจะกลับเป็นเพื่อนรุ้ง ”

“ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวรุ้งก็ขึ้นมา นายวีไปง้อแล้ว ” นิรุจน์บอกยิ้มๆ

เทียนวรรณเชื่อที่เขาพูด เพราะดูเหมือนวิทยา กับปราโมทย์ ก็พากันถือของเดินไปที่เรือนกันแล้ว

:+:+:+:+:+

๑๑.

“ รุ้งเดี๋ยวก่อน ”

ปฐวีคว้าแขนหยาดรุ้งเอาไว้พอดีกับที่เธอจะก้าวลงเรือ

“ มันเรื่องอะไรของนาย ” หยาดรุ้งสะบัดแขน

แต่ปฐวีไม่สนตะโกนบอกคนขับเรือว่า

“ ลุงสายออกเรือเลย ไม่ไปแล้ว ”

“ เดี๋ยว ” หยาดรุ้งร้องห้าม แต่คนขับเลือกที่จะเชื่อปฐวีที่คุ้นเคยมากกว่า เพราะขับเรือออกไปอย่างไม่สนใจหนุ่มสาวที่ยื้อยุดฉุดกันเลย

หยาดรุ้งโมโห เลยหันมาผลักหน้าอกปฐวีเข้าให้ ทำเอาเขาเสียหลักหงายหลังตกลงไปในน้ำ แต่เพราะมือที่ยังจับหยาดรุ้งไม่ปล่อย จึงพลอยดึงเธอตกลงไปด้วยกัน

น้ำแค่อก แต่เพราะตกลงไปอย่างไม่รู้ตัว ก็เล่นเอาหยาดรุ้ง สำลักน้ำไอหูตาแดง

“ รุ้งเป็นไงบ้าง? ”

หยาดรุ้งปัดมือไม่ให้เขาเข้าใกล้ เดินไปด้านข้างของท่าน้ำ ทางที่เธอคิดว่ามีบันไดไต่ขึ้นไป

แต่ปฐวีก็ยึดตัวไว้ก่อน

“ อย่าเพิ่งขึ้นไป คุยกันก่อน ”

“ จะบ้าเหรอ? ”

“ ขนาดอยู่ในน้ำ ยังไม่อารมณ์เย็นลงเลยน่ะ ”

“ ก็ฉันควรลงมาอยู่ในนี้หรือเปล่า? ”

“ ก็รุ้งเป็นคนผลักผม ”

หยาดรุ้งแค่นหัวเราะ

“ โอเค ฉันผิด ฉันขอโทษ ปล่อยฉันได้แล้วยัง หรือจะต้องให้กราบเสียก่อน ”

“ อย่าประชดนักสิ ผมรู้หรอกว่าผมเป็นคนผิดน่ะ ”

หยาดรุ้งเม้มปากเมินหน้า

“ แค่อยากถามว่ารุ้งมาทำไมที่นี่ ”

“ ฉันจะไปไหนมาไหนเกี่ยวอะไรด้วย แต่ถ้ารู้ว่านายมาเหมือนกันฉันก็คงไม่มาหรอก ”

“ รังเกียจผม ”

“ แน่นอน ”

ปฐวียิ้มโผตัวแซงหน้า ไปที่ท่า ใช้มือค้ำตัวเองโหนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็คุกเข่าหันมาบอกหยาดรุ้งว่า

“ มาทางนี้รุ้งผมช่วย ด้านข้างไม่มีบันไดหรอก รีบกลับไม่ใช่เหรอ ”

เพราะคำว่า รีบกลับไม่ใช่เหรอ นี่แหละที่ทำให้หยาดรุ้งน้อยใจขึ้นมา ว่าเขาก็คงไม่อยากให้เธออยู่เหมือนกัน เผลอ ยอมให้เขาช่วยเธอดึงเธอขึ้นไป เมื่อขึ้นท่าได้หยาดรุ้งจะลุกขึ้นยืน ก็ถูกปฐวีกดไหล่ไว้ ทั้งคู่จึงอยู่ในท่าที่คุกเข่าหันหน้าเข้าหากัน

“ จะเปลี่ยนใจอยู่ต่อไหม ถ้าผมรับพนัน? ”

หยาดรุ้งสั่นหน้า

“ ฉันไม่อยู่ทะเลาะกับนายให้เพื่อนๆ วงแตกหรอก ”

ปฐวียิ้ม

“ เถอะน่า ... อยู่ต่อเถอะ ถ้ารุ้งกลับเทียนก็บอกว่าจะกลับด้วย ไอ้รุจน์โกรธผมตายเท่านั้น เดี๋ยวเย็นๆ เพื่อนก็จะตามมาสมทบอีกตั้งสิบ น่าสนุกออก ”

หยาดรุ้งยังเงียบ ปฐวีก็เลยพูดต่อว่า

“ ผมขอโทษ ที่พูดไม่ดีกับรุ้ง ความจริงตอนแรกที่เห็นดีใจจนหัวใจสั่นเพราะ ไม่คิดว่ารุ้งจะมา แต่พอบอกว่าจะจีบลูกชายเจ้าของบ้านเลยโกรธ นึกว่าจะมาเยาะเย้ยที่หักอกผมได้ ”

สายตาที่มองมาอย่างเปิดเผยความรู้สึกของเขาหรอกทำให้ หยาดรุ้งหลบตา พูดเมินๆว่า

“ ฉันจะมาเยาะเย้ยอะไร อีกอย่างนายก็ไม่ได้อกหัก เพราะไม่ได้รักฉันจริงๆ แค่เล่นพนันเท่านั้น ”

“ ความจริงเรื่องพนันผมไม่ได้อยากเล่น แต่ที่พนันกันมันก็แค่ ...ให้ผมชวนรุ้งมาเที่ยวบ้านสวนเท่านั้นเอง ”

“ อะไร แค่มาเที่ยวที่นี่เองเหรอ? ” เธอถามอย่างไม่เชื่อ

ปฐวีพยักหน้า พูดอย่างจริงจังว่า

“ และแค่การชวนมาเที่ยวบ้านสวน ถ้าผมชวนเฉย ๆ หากรุ้งว่างคงตอบรับอยู่แล้ว คนอย่างผมคงไม่จำเป็นลงทุนถึงกับแกล้งบอกรักรุ้งหรอกจริงไหม? ”

หยาดรุ้งยังมองหน้าเขางง ๆ แต่ปฐวีสรุปเฉยว่า

“ เป็นอันว่ารุ้งเข้าใจเรื่องการพนันกับเพื่อนๆ แล้วนะ คราวนี้มาถึงเรื่องที่รุ้งท้าพนันผม ”

หยาดรุ้งสั่นหน้า

“ ช่างเถอะ โมโหเลยพูดไปอย่างนั้นเอง ”

“ ไม่ได้ ผมรับคำท้าแล้ว รุ้งต้องเล่น เอาอะไรเป็นเดิมพันดี ”

“ ก็บอกแล้วไงว่าไม่เล่น ”

“ ทำรายงานเทอมหน้าให้ทั้งเทอมดีไหม?แต่ ... ” ปฐวียิ้มมองเธออย่างมาดหมายสักอย่าง ก่อนจะพูดว่า

“ ผมพนันข้างรุ้งนะว่ารุ้งทำได้ ”

หยาดรุ้งชะงัก

“ ขืนพนันแบบนี้นายแพ้ฉันแน่ ฉันจะไปทำได้ยังไงไม่ได้รู้จักมักจี่กันเสียหน่อย ”

“ ก็ไม่แน่ ... แต่รุ้งต้องสู้ให้สมศักดิ์ศรีหน่อยนะ ห้ามแกล้งแพ้เด็ดขาด ”

หยาดรุ้งนิ่งคิด บางเสี้ยวของความรู้สึกเธอเคยคิดว่า เขาอาจจะรักเธอจริงๆ แต่เมื่อเป็นอย่างนี้ เธอก็ยักไหล่ ข่มความรู้สึกของตัวเอง ประชดเขาว่า

“ เอาสิ ถ้านายอยากเล่น มารยาหญิงมีเท่าไหร่ฉันจะขุดมาใช้ให้นายนั่นรักฉันหัวปักหัวปำไปเลย ”

พูดแล้วเธอก็ขยับตัวจะลุกขึ้น แต่ปฐวีกดไหล่เธอไว้อีกครั้ง

“ เดี๋ยว ยังมีอีกเรื่อง ”

“ อะไรอีกเล่า แดดร้อนแล้วนะเดี๋ยวผิวฉันเสียหมด ”

“ ที่ห้องสมุด ผมบอกรักรุ้งแล้ว รุ้งยังไม่ได้ตอบผมเลย ว่าคิดยังไง? ” เสียงเขาจริงจังเสียจน หยาดรุ้งอยากกรีด นายคนนี้บอกรักเธอ ขณะที่ท้าให้เธอไปจีบผู้ชายคนอื่นอยู่

“ สนุกเหรอปฐวี ที่ถามฉันขณะชวนฉันเล่นเดิมพันอยู่อย่างนี้ ”

“ ก็ผมแยกออก อันไหนพนัน อันไหนเอาจริง และผมก็รักรุ้งจริงๆ ไม่เชื่อผมเหรอ? ”

หยาดรุ้ง นิ่งพูดไม่ออก เพราะไม่คิดว่า ปฐวีจะบอกรักเอาดื้อๆ อย่างนี้

“ รุ้งยังไม่อยากตอบผมตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ” เขาทอดเสียงอ่อน จ้องลึกเข้าไปในตาเธอ “ แต่อยากให้รุ้งเชื่อว่าผมรักรุ้งจริงๆ ตอนที่ห้องสมุดก็ใช่ คุกเข่าบอกรักรุ้งตอนนี้ก็ใช่ พรุ่งนี้ก็ใช่ วันต่อๆ ไปก็ใช่ รุ้งอาจจะไม่เชื่อผม ความจริงผมเองยังงงตัวเองเลยว่า รักรุ้งได้ยังไง ทั้งที่รุ้งสวยก็ไม่สวย เจ้าอารมณ์ แสนงอน ปากร้าย แถมยัง …”

“ พอ! ” หยาดรุ้งตวาด กึ่งฉุนกึ่งขัน

ปฐวีหัวเราะ ลุกขึ้น ดึงตัวเธอขึ้นมาด้วย

“ เอ้า ! หายโกรธแล้วไปได้ ”

*****

ปฐวีก็พาเธอเดินไปยังเรือนไม้หลังใหญ่ที่ร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ หยาดรุ้งมองเห็นเพื่อนๆ พากันนั่งอยู่ที่ชานกว้างร่มรื่น มีสตรีวัยกลางคนเดินลงบันไดเตี้ยๆ มา เมื่อเสวนทางกับเธอและปฐวี ก็พูดว่า

“ อ้าว ไปตกน้ำมาเหรอลูก ถึงมะล่อกมะแล่กอย่างนี้ ”

“ คุณแม่ผม ” ปฐวีแนะนำ

หยาดรุ้งพนมมือไหว้

“ ตามสบายนะหนู เดี๋ยวแม่จะออกไปวัดหน่อย อ้อ ...วี บอกพ่อด้วยนะว่าซองเงินแม่วางไว้ที่ห้องนั่นแหละ ให้ตามเอาไปให้ที่วัดด้วย ”

“ ครับ ”

หยาดรุ้งยืนนิ่งไม่เดินตามเขา จนปฐวีต้องหันกลับมา ก็เห็นหยาดรุ้งหรี่ตามองเขาอยู่

“ เป็นไร? ”

“ นี่บ้านนายใช่ไหม? ”

ปฐวีสั่นหน้า แววตายิ้มแต่เสียงตอบธรรมดามาก

“ เปล่า ... ของพ่อแม่ผม ”

หยาดรุ้งเหวี่ยงเป้ปึ้กเข้าที่อกเขา ปฐวีหัวเราะร่า

“ แพ้แล้วอย่าพาลสิ อย่าลืมนะ ผมคุกเข่าสารภาพรักรุ้งแล้ว ”

“ ฉันไม่สน ” เธอสะบัดหน้าตอบ

“ ถ้าเบี้ยวล่ะน่าดู ”

หยาดรุ้งหันกลับมามองหน้าเขายิ้มนิดๆ เมื่อพูดหวานเป็นพิเศษว่า

“ รุุ้งไม่เบี้ยวหรอกค่ะ รับรองเทอมหน้า รุ้งได้ทำรายงานให้วี...ได้พิสูจน์รักแน่ๆี ”

ปฐวีกลืนน้ำลายเหนียวฝืดคอกับคำพูดนั้น นิ่งมองตามหลังหยาดรุ้งที่เดินเข้าไปหาเพื่อนๆ

ความหมายมันกลับกันแน่ๆ เขารู้สึกได้

พิสูจน์รัก?

ทำไมต้องพิสูจน์แบบนี้ด้วยนะ

ก็ชายหญิงมีสิทธิ์เท่าเทียมกันไม่ใช่เหรอ?

แต่ให้ตาย ! เวลารัก ทำไมผู้ชาย ถึงยอมทำรายงานให้ผู้หญิงด้วยนะ

แล้วเอาเข้าจริง เขาแพ้ หรือชนะ พนันกันแน่นี่?

:+:+:+:+:

จบ

 

 

ฟีลิปดา
๒๙ มีนาคม ๒๕๔๙

©ลิขสิทธิ์ตามกฏหมายโดยฟีลิปดา

philipda@forwriter.com

 

 


 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์

 

2009 free writing

 

ดั่งไฟรัก
 


๕๐๕ แคนโต้แห่งความรัก
 

 

 

    http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.