forwriter.com
Book in My life By Nightingale
 

                                                          

 

การกลับมาอีกครั้งของหนังสือในดวงใจ... สี่แผ่นดิน


เฮ้อ....เหนื่อย งานยุ่งหัวปั่น ปั่นหัวจนหัวจะเละอยู่แล้ว(ติดนิสัยขี้บ่นมาจากใครเนี่ยะ!!!)

คราวก่อน.....ถึงใครแล้วนะ ผมจำไม่ได้แล้วสิ เล่นจนลืมไปเลย แต่ไม่เป็นไรครับ คราวนี้มาใหม่ เอาหนังสือในดวงใจที่ขาดหายมาลงต่อ (ของผมเหลืออีกตั้งเก้าเล่มแน่ะ ยังไม่ได้แนะนำเลย)

เล่มที่ผมจะเล่าถึงในวันนี้นะครับ เป็นหนังสือที่ผมอ่านแล้วสนุกมากๆ เป็นเรื่องที่สองของม.ร.ว.คึกฤทธิ์ที่ผมอ่าน ต่อจากเรื่อง "มอม"

สี่แผ่นดิน เป็นหนึ่งในหนังสือ ๑ ใน ๑๐๐ หนังสือดีที่คนไทยควรอ่าน ดังนั้น คุณค่าของบทประพันธ์ และความงดงามทางด้านภาษาและความเป็นศิลป์ในงานเขียนจึงไม่ต้องวิจารณ์อีก

ดังนั้น วันนี้จะเล่าแค่ว่าทำไมผมถึงชอบหนังสือล่มนี้นักหนา จนยกให้เป็นหนังสือในดวงใจเล่มหนึ่ง....

สี่แผ่นดินฉบับที่ผมซื้อ สนพ.นานมีเป็นผู้จำหน่ายครับ โดยจัดจำหน่ายในราคา 695 บาท มีทฤษฎีข้อหนึ่งว่า สินค้าชนิดใดก็ตามลงท้ายด้วยเลข หมายถึงความคุ้มค่า อย่างพัดลมเบอร์ห้าก็หมายถึงประหยัดและคุ้มค่า หนังสือที่ลงท้ายด้วยเลขห้าเล่มนี้ก็คุ้มค่าจริงๆ ...อ้าว ไถลไปไกลเลย กลับมาก่อนครับ ผมยังไม่ได้เล่าตอนต้นเลย

แรกเริ่มเดิมทีผมไม่เคยคิดจะอ่าน และไม่เคยคิดจะข้องแวะกับหนังสือที่หนาขนาดแทนหมอนนอนได้อย่างหนังสือเรื่องสี่แผ่นดินเลย แต่วันนั้นเป็นวันเกิดแม่ครับ เลยคิดว่าจะหาอะไรมาเป็นของขวัญให้แม่เสียหน่อย ก็พอดีแม่ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก และช่วงนั้นแม่ก็ถามถึงหนังสือเรื่องสี่แผ่นดินพอดีว่าในห้องสมุดมีไหม ผมก็เลี่ยงๆตอบไปว่ามีมั่งไม่มีมั่ง ก็อย่างที่บอกแหละครับว่าผมไม่เคยสนใจหนังสือเล่มนี้มาก่อน แต่วันนั้น อะไรดลใจไม่ทราบ พอเข้าไปในศูนย์หนังสือก็สบสายตาปิ๊งปั๊งกับหนังสือเล่มนี้เข้า แล้วนึกว่าแม่อยากได้ บวกกับพอเหมาะพอเจาะกับวันเกิดแม่ ผมเลยควักเงินจ่าย แล้วหอบหนังสือเล่มนี้กลับมาบ้าน พร้อมๆกับหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่บางก่าขนาดอ่านชั่วโมงเดียวจบ

พอกลับมาถึงบ้าน ผมก็ยื่นหนังสือสี่แผ่นดินให้แม่ผม ผม่ดีใจมากๆ แม้จะไม่ออกอาการแต่ผมก็เดาออก เพราะแม่ทิ้งงานที่ทำอยู่ มาหยิบหนังสือสี่แผ่นดินเข้าไปอ่านในห้องนอนทันที ส่วนผม ก็ยังงนั่งอ่านหนังสือเล่มบางๆไป ดูโทรทัศน์ไปนั่นแหละครับ

แม่ผมใช้เวลาอ่านท้งสิ้นสองวัน จากนั้น แม่ก็จะเริ่มพรรณนาถึงความงดงามของเรื่องและภาษาของสี่แผ่นดินไม่หยุดปาก และแม่ก้คือแม่แหละครับ แม่ย่อมมีวิธีพูดที่ทำให้ผมอยากรู้อยากเห็นจนได้ว่า ไอ้ที่ว่าดีๆน่ะ มันดีอย่างไร

จากนั้น ผมก็เลยริบของขวัญที่ให้แม่คืนกลับมา(เอากะมันสิ ไอ้ลุกคนนี้) แล้วเอาไปบ่มบนห้องนอนสักสามวัน จากนั้นก็ลองฮึดสู้ ตั้งใจอ่านจริงๆจังๆเสียที

แต่เพียงอ่านบทแรกผ่านไปได้ อาการ "วางไม่ลง" ก็เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ผมตั้งหน้าตั้งตาตะลุยอ่านต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน อ่านทุกเวลาไม่ว่าจะเป็นลงมากินข้าว เข้าห้องน้ำ เรียกว่าแทบไม่ได้ทำอะไรเลย จะมีเว้นก็แต่ตอนอาบน้ำเท่านั้นที่ไม่ได้อ่าน

และยิ่งอ่านมากเข้า มากเข้า ก็ทให้รู้ว่าที่แม่พูดมานั้นไม่ได้เกินจริงไปสักนิดเดียว เพราะเวลาที่ผมอ่าน ผมสามารถหัวเราะ และน้ำตาไหลไปพร้อมๆกับชะตากรรมของแม่พลอยที่เปลี่ยนแปลงไปตามวงจรชีวิตมนุษย์

สุดท้ายพอผมอ่านจบ หนังสือเล่มนี้ก็ไม่เคยจากหายไปจากหัวใจ แล้วต้องหยิบขึ้นมาอ่านซ้ำอีกประมาณสองรอบ และประปรอยอ่านเป็นบทๆไปแล้วแต่อารมณ์อีกนับไม่ถ้วน

นี่แหละครับ เรื่องราวของหนังสือในดวงใจของผม ความเป็นมาว่า มาอยู่ในดวงใจของผมได้อย่างไร

แล้วเดี๋ยว จะมาเล่าเรื่องข้างในต่อ แต่ตอนนี้ ขอตัวไปกินข้าวก่อนนะครับ เหอ เหอ

เดี๋ยวมา เดี๋ยวมา

มัวแต่เถลไถลอยู่เลยกลับมาช้าไปหน่อย โทษทีคร้าบบบบบ

เมื่อกี้เล่าถึงไหนแล้วนะ

อ้อ...ว่าด้วยหนังสือเรื่องสี่แผ่นดิน

สี่แผ่นดิน ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเป็นช่วงชีวิตที่ดำเนินมาสี่ยุค สี่สมัย โดยเริ่มตั้งแต่รัชกาลที่ห้ามาจนถึงรัชกาลที่แปด ซึ่งแต่ละสมัย แต่ละแผ่นดินก็จะมีเรื่องราวต่างๆที่สอนให้แม่พลอยรู้จักชีวิตมากขึ้น แต่อย่างหนึ่งที่ผมชอบมากๆตอนอ่านคือ ผู้เขียนมีลุกเล่นในการโยงเอาเหตุการณ์ในแต่ละช่วงสมัยมาสอดประสานเข้ากับเหตุการณ์ชีวิตของแม่พลอยราวกับว่าเป็นกระจกสะท้อนของกันและกัน เช่น การสวรรคตของพระเจ้าแผ่นดิน และการตายของญาติพี่น้องอันเป็นที่รักของแม่พลอย เมื่อลองพิจารณาดูแล้ว ก็จะเห็นได้ตามนี้

แผ่นดินที่หนึ่ง ตอนที่รัชกาลที่ห้าทรงสิ้น แม่พลอยก็เสียเจ้าคุณพ่อไปด้วย

แผ่นดินที่สอง สมัยรัชกาลที่หก ผุ้เขียนก็ใช้ความเชื่อโยงอย่างเดิม สะท้อนระหว่างรัชกาลที่หก กับ คุรเปรม

แผ่นดินที่สาม สมัยรัชกาลที่เจ็ดซึ่งเกิดวิกฤตทางการเมือง พระเจ้าอยู่หัวทรงมอบอำนาจให้แก่ประชาชนแล้วไปอยู่ต่างประเทศ ลูกชายแม่พลอยที่ชื่ออ้นก็มีอันต้องถุกจับเข้าคุกเข้าตะรางเพราะคดีทางการเมือง

และสมัยสุดท้าย เมื่อลูกชายแม่พลอยอีกคนที่ชื่ออ๊อดตาย เพียงไม่กี่วัน(ในนิยาย) รัชกาลที่แปดก็ทรงสวรรคตอีก

นี่คือการเชื่อมโยงเล็กๆน้อยๆที่ผมอ่านแล้วรู้สึกว่า ละเอียดดี เพราะถ้าไม่มีการคิดคำนึงไว้ล่วงหน้ามาก่อน ก็เป็นการบังเอิญอย่างสุดๆจนหาที่จะบังเอิญไม่ได้อีกแล้ว

สี่แผ่นดิน แม้จะไม่ใช่เรื่องประวัติศาสตร์เต็มร้อย แต่ก็มีภาพเหตุการณ์ในอดีตให้ผู้อ่านได้เห็นชัดเจน แต่ความชัดเจนของนัยยะที่แฝงไว้ก็ไม่อาจสู้ รสของความเป็นนิยายได้เลย

ดังนั้น เมื่อตัดประเด็นทางการเมืองใดๆที่มีต่อผู้เขียนแล้ว และเหลือแต่ความเป็นนิยายเพียงอย่างเดียว สี่แผ่นดินก็นับว่าเป็นหนังสือวรรณกรรมของไทยที่ควรแก่การยกย่องไว้จริงๆ

เล่าจบแล้วครับ ผมค้างเรื่องไหนไว้อีกนะ แล้วค่อยมาเล่าต่อวันหน้าแล้วกัน

http://forwriter.com/mysite/forwriter.com/webboard/question.asp?QID=1603

:ไนติงเกล:

 

ก่อนหน้า                  ต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                                             

อ่านหนังสือต่างประเทศ
Free E-book
โดยฟีลิปดา
หนังสือของฟีลิปดา

 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์
 

 
ดั่งไฟรัก
 


๕๐๕ แคนโต้แห่งความรัก