แรดจริงๆเลยแมวฉัน และหนึ่งวันกับเจตภูติ... เจ้าหัวใจ
หลังจากไม่ได้โม้มาหนึ่งวัน และครึ่งคืน ก็อึดอัดใจเหลือหลาย พอได้กลับมาก็ดีใจ๊ ดีใจ แต่ก็ไม่วายมีคนค่อนจนได้ว่าเพราะผมพูดมากจนกระทู้เต็ม เชอะ...ใช่ซะที่ไหน(เอ...หรือใช่หว่า เอิ้กๆๆ) ผมไม่บอกหรอกนะครับว่าคุณลินมี่เป็นคนค่อนผมไว้ และผมจะไม่อาฆาตนะครับ แต่ความพยาบาทนั้นจะไม่ลืม เพราะฉะนั้นถ้าคุณลินมี่เผลอเมื่อไหร่ ผมก็จะจับกบยักษ์ไปปิ๊งกินเสียเลย
แล้วก็เพ้อเจ้อไปได้อีกหนึ่งย่อหน้า เก่งไหมครับ เรื่องโม้ๆเนี่ยะ อะไรที่ไร้สาระล่ะก็ บอกผมมาเถอะ ผมชอบและทำได้อยู่แล้ว
เริ่มเรื่องก่อนเลยดีกว่า วันนี้ผมเพิ่งตื่นครับ ตื่นเช้าเสียด้วย (ใกล้เที่ยง!) พอตื่นแล้วก็มึนๆงงๆเพราะเมื่อคืนอ่านหนังสือเล่มใหญ่มากๆ เลยนอนไปมึนไป คงเป็นเพราะสมองจัดระบบไม่ทัน พอเข้ามาเล่าโน่นเล่านี่ ความคิดมันก็เลยแตกซ่าน (ตรงข้ามกับ แตกฉาน) กระจัดกระจายไปจนรวมกันไม่ติด วันนี้ใครเข้ามาอ่านแล้วต้องพยายามทำความเข้าใจหน่อยล่ะว่า ผมต้องการเล่าเรื่องอะไรกันแน่
ตื่นมาปุ๊บ น้องแมวเหมียวหายไปหมดเลยทั้งสามตัว จำได้เลาๆว่า เมื่อคืนเอาน้องเหมียวเข้าไปนอนในห้องนอน ตัวที่เอาเข้าไปคือคุณนายนำลาภ แล้วก็เปิดประตูให้คุณนายเธอตอนเกือบแปดโมง ซึ่งถือว่าสายมากสำหรับแมว ดีนะ ที่คุณนายเธอเป็นแมวมีสกุลรุนชาติ ไม่ฉี่หรืออึทิ้งไว้ในห้องทั้งที่ผิดเวลา
เล่ามาถึงตรงนี้ผมก็รู้แล้วครับ ว่าจะเล่าอะไรให้ฟัง(อ่าน)ดี ผมเล่าเรื่องนาฬืกาดีกว่า
แล้วนาฬิกามันเกี่ยวอะไรกับแมวล่ะ(วะ!) คงมีคนอยากถามอย่างนี้ งั้นต้องอดใจอ่านกันต่อไปอีกนิด ว่าเกี่ยวอะไรกับแมวเหมียว
สัตว์ทั้งหลายทั่วโลกย่อมมีนาฬิกาชีวิตประจำตัว รวมไปถึงคนด้วย แต่ด้วยว่า คนเรามีความอุตสาหะแรงกล้าที่จะปรับเปลี่ยนนาฬิกาชีวิตเสียใหม่ นาฬิกาชีวิตเราเลยไม่เที่ยงตรง เลยต้องอาศัยนาฬิกาที่เป็นเรือนๆ บางบ้านก็มีหลายเรือน อย่างในห้องผมก็มีสามล่ะ ผิดกับสัตว์ เช่นไก่ที่พอเช้าก็รู้ว่าเช้า จะต้องขัน หมาที่รู้ว่าก็ต้องออกไปอึ และแมวที่รู้ว่า เวลานี้ควรตื่นนอน
แต่ไม่ใช่กับแมวบ้านผมครับ
แมวบ้านผมเป็นแมวแปลกประหลาด ดังที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้
น้องแมวตัวหนึ่งชื่อยิ่งรวยเป็นลูกของคุณนายนำลาภ คุณน้องแมวตัวนี้มีชีวิตไม่เหมือนพี่น้องแมวตัวอื่นนะครับ อย่างคุณนำลาภ กับคุณนำทรัพย์นั้น เช้าก็ออกไปเที่ยวเล่น จับนกจับจิ้งเหลนเข้าบ้านให้คุณแม่ผมได้บริหารหัวใจและกล่องเสียงเป็นประจำ พอตกค่ำ คุณนายและคุณหนูก็จะกลับบ้าน กินข้าว และอ้อนขอไปนอนห้องคน (คือคนจะนอนที่ไหนก็ช่าง แต่ฉันขอนอนในห้องเธอ จะมีอะไรไหม) และทุกคนก็จะใจอ่อนตามกันไป ให้มันเข้าไปในห้องนอนแต่โดยดี นี่คือลักษณะแมวที่บ้านผมสองตัวแรกครับ
แต่คุณหนูยิ่งรวยนี้ผิดกับแม่และพี่ คุณหนูยิ่งรวยนี่ถือว่าเป็นแมวสังคมจัด หรือถ้ามองในแง่ไม่ดีไม่งามก็ถือได้ว่า คุณหนูยิ่งรวยเป็นแมวใจแตก และชอบหนีเทียวตอนกลางคืน
วิธีการของคุณหนูยิ่งรวยจะเป็นอย่างนี้
ตื่นเช้า ไปเที่ยวไกลๆและไม่กลับบ้านจนกว่าจะถึงเย็น พอตกเย็นคุณหนูเธอก็จะเข้าบ้านด้วยท่าทีเรียบร้อย และนอนยังที่ประจำคือหลังตู้ด้วยท่าทีคล้ายแมวหลับลึก ทั้งนี้เพื่อให้ทุกคนในบ้านตายใจ จากนั้น พอราวๆเที่ยงคืน คุณหนูเธอก็จะเริ่มย่องไปหลังบ้าน และสลัดคราบน้องแมวแสนเรียบร้อยออก มุดช่องว่างของบ้านซึ่งอยู่ตรงหลังคา ออกไปสู่โลกกว้างยามราตรี ตอนนี้เอง คุณหนูยิ่งรวยก็กลายเป็นแมวแรดไปในพริบตา
พอหลอกคนได้สำเร็จ คุณหนูเธอก็จะแรดๆๆไปทั่ว และกลับมาอีกทีในตอนเช้า เสนอหน้ามาเยาะเย้ยให้ทุกคนในบ้านหมั่นไส้เป็นที่สุด
ผมก็เลยว่าคุณหนูยิ่งรวยนั้นแปลกแมว มีนาฬิกาชีวิตที่ผิดแมวทั่วไป นั่นแสดงถึงอัจฉริยภาพของคุณหนูว่าคุณหนูยิ่งรวยมีความอุตสาหะที่จะเปลี่ยนแปลงนาฬิกาชีวิตตนเองได้ และคุณหนูก็ไม่ได้ซื่อบื้อเหมือนแมวตัวไหนๆ เป็นการประกาศศักดาที่น่าเกรงขามยิ่งนัก
ดังนั้น กลศึกระหว่างคนกับแมวจึงต้องพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และน่ากริ่งเกรงว่า อีกไม่นานมันจะกลายเป็นสงครามแห่งมวลมนุษยชาติ
เล่ามาซะดี จบลงอย่างโอเว่อร์ ทอร์คคิ้งไปหน่อย ไม่เป็นไรเนาะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
มาเล่าถึงหนังสือดีกว่า เอาเล่มที่ผมอ่านจบเมื่อคืนนั่นแหละ หนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า เจตภูติเจ้าหัวใจ ผู้เขียน แรเงา เป็นหนังสือนิยายเล่มโตที่ผมใช้เวลาอ่านถึงสี่ชั่วโมง นานมากๆ นิยายเรื่องนี้กล่าวถึงเจตภูติ หรือกายทิพย์ในตัวมนุษย์ โดยนำเจตภูตินั้นมาก่อเรื่องราวให้น่าติดตามแทบลืมหายใจ และด้วยภาษากับเรื่องราวที่รวดเร็ว ต่อเนื่อง ทำให้อ่านได้ไหลรื่นดี ไม่มีติดขัด สามารถอ่านได้อย่างสนุกสนาน แต่ควรต้องมีเวลามากพอ เพื่อไม่ให้ขาดตอน
เจตภูติ เจ้าหัวใจ ตามที่ผมอ่านนั้น ผมสามารถแบ่งได้เป็น สองส่วนด้วยกัน คือส่วนรุ่นพ่อ และรุ่นลูก ซึ่งสองส่วนนี้มีความสัมพันธ์กัน แต่ในความเห็นผม ผมว่าถ้าคนเขียนขมวดส่วนหนึ่งกับส่วนสองเข้าด้วยกัน เนื้อหาก็จะเข้มข้นขึ้น และหนังสือก็จะบางลง ทำให้คนอ่านอื่นๆมีกำลังใจในการอ่านมากขึ้น
แต่ถึงหนังสือเล่มนี้จะไม่เป็นอย่างที่ผมคิด ผมก็ยังเห็นว่าเป็นหนังสือที่อ่านได้สนถกอีกเล่มหนึ่ง ถ้าใครมีโอกาสก็ลองอ่านดูนะครับ สนุกดี และเผื่อจะได้พล๊อตใหม่ๆเอาไว้เขียนนิยายของคุณอีกด้วย
ขนาดผมอ่าน ผมยังได้พล๊อตอย่างน้อยหนึ่งพล๊อตเลย ดีออก