forwriter.com
Book in My life By Nightingale
 

                                                          

 

อีนังซัดดัมกับเด็กหญิงนางฟ้า

 


วันนี้อยากจะกล่าวถึงอะไรที่เครียดๆอย่างเรื่องภาวะโลกร้อน แต่ก็ทำไม่ลง เพราะตั้งใจไว้ว่าจะไม่เขียนอะไรที่เครียดมาก หรือคิดมากนัก ก็เลยได้แต่ละเอาไว้

วันนี้เลยต้องมาเขียนอะไรที่สบายๆหน่อย และอะไรเล่าจะได้สบายที่สุดเท่ากับการเล่านินทาแมวของตัวเอง

ผมเคยนำเสนอ(นินทา)แมวของผมไปแล้วถึงสองตัว(อีกตัวคือไอ้คุณทอง ตัวนั้นไม่ใช่แมวเลี้ยง ผมเลยไม่นับ) วันนี้ผมก็จะเล่าถึงคุณหนูตัวสุดท้ายในบ้าน...คุณหนูนำทรัพย์

คุณหนูนำทรัพย์เป็นแมวดำที่ดำเกือบสนิท คือ ตอนเด็กๆมันเป็นแมวดำครับ มีแต่ตรงช่วงท้องลากมาถึงอกจะมีขนสีขาวแซม แต่พอนานวันไป ยิ่งแก่ สีดำก็ยิ่งหลุด ทีนี้ขนของคุณหนูก็จะออกไปทางสีน้ำตาลหน่อยๆเวลาโดนแดด ดังนั้นคุณหนูนำทรัพย์จึงแตกต่างจากแมวตัวอื่นอยู่ไม่น้อย

คุณหนูนำทรัพย์เป็นแมวที่มีชื่อเรียกมากที่สุดในบ้านครับ ชื่อของมันมีตั้งแต่ นำทรัพย์ น้องทรัพย์ ทรัพย์ศรี ทรัพย์ซี่ ดัมมี่ อีดำ อีนังซัดดัม ก็สุดแต่ใครจะเรียกแหละครับ แต่ผมชอบเรียกมันว่าอีดำ กับอีนังซัดดัมมากที่สุด

เหตุที่ผมเรียกมันว่าอีนังซัดดัมนั้นก็มีเหตุอยู่หรอกครับ ใช่ว่าจะตั้งขึ้นมาลอยๆ หรือสักแต่ว่าเห็นขนมันสีดำเท่านั้น และเหตุที่ผมจะว่าต่อไปนี้ก็เป็นที่ยอมรับได้ เหตุที่ว่านั้นคือ อีดำ หรืออีนังซัดดัมเป็นแมวจอมเผด็จการครับ นิสัยของอีนังซัดดัมค่อนข้างจะแตกต่างจากคุณนายนำลาภ และคุณหนูยิ่งรวย เนื่องจากสองตัวนั้นเป็นแมวเปี่ยมไมตรีจิต มีมิตรภาพอันแน่นแฟ้นแก่บุคคลทั่วไปให้ได้พบเห็น แต่อีนังซัดดัมนี่แปลก คือเป็นแมวที่ไม่สุงสิงกับใคร ไม่สมาคมกับใคร ดีแต่จะอ้อนเจ้านายของมันเท่านั้น แม้แต่กับแมวตัวอื่นมันก็ไม่ละเว้น ยามใดก็ตามที่มันเห็นแมวตัวอื่นมาป้วนเปี้ยน มันก็จะกระโดดเข้าใส่อย่างแมวนักเลง และถ้าสู้ไม่ได้ก็จะวิ่งหนีโดยเอาหางมาอุดไว้ตรงรูทวาร แล้วพุ่งรวดเร็วราวกับจรวดเข้ามาในบ้าน หักวิถีโค้งขึ้นชั้นบนอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต้องมีสมาชิกในบ้านคนหนึ่งล่ะครับที่จะต้องขึ้นไปดูมัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นคุณพ่อผม

แต่นั่นยังไม่อาจทำให้ผมเรียกมันว่าอีนังซัดดัมได้เต็มที่ครับ ข้อเท็จจริงข้อนี้ต่างหากที่ทำให้ผมเรียกมันว่าอีนังซัดดัม

เนื่องจากแมวในบ้านผมมีอยู่ด้วยกันสามตัว คือคุณนายนำลาภหนึ่ง คุณหนูยิ่งรวยหนึ่ง และคุณหนูนำทรัพย์อีกหนึ่ง รวมเป็นสามแมวสามสีที่มีสายเลือดเดียวกัน ...คือสายเลือดคุณนายนำลาภ ดังนั้น ควรที่จะรักกันให้มากๆใช่ไหมครับ แต่เปล่าเลย อีนังซัดดัมไม่เคยจะรักคุณหนูยิ่งรวยเลยสักนิด เพราะทันทีที่เกิดมา อีนังซัดดัมก็ออกลวดลาย แสดงบทผู้นำเผด็จการกับน้องสาว ด้วยการไม่ให้กินนมคุณนายนำลาภ และพอโตขึ้นมาหน่อย ก็ข่มขู่ด้วยการไม่ให้กินข้าวก่อน จนกระทั่งเข้าวัยสาวมันก็ถึงกับไล่กัดคุณหนูยิ่งเลยทีเดียว ความเจ้าอารมณ์และความร้ายกาจนี้เองที่ทำให้ผมเรียกมันว่า อีนังซัดดัม

แม้อีนังซัดดัมจะเป็นแมวที่มีความดุ และร้ายกาจอยู่ในตัว แต่มันก็น่าสงสารนะครับ แมวดำเป็นแมวที่ทุกคนมีอคติมากที่สุด และอีนังซัดดัมของผมก็ไม่อยู่ในกรณียกเว้นแต่อย่างใด

อีนังซัดดัมถูกประเคนลำแข้งมาหลายต่อหลายครั้งในชีวิต และเหตุการณ์แต่ละครั้งก็ทำให้มันบาดเจ็บมากมาย จนทุกวันนี้ เวลามันฉี่ ก็จะฉี่ออกมาเป็นเลือด เนื่องจากบอบช้ำภายในมามากนั่นเอง

ครั้งแรกสุดที่อีนังซัดดัมได้รับรสฝ่าเท้าก็เป็นครั้งที่มันออกไปเผชิญโลกกว้าง วันนั้นมันไปเที่ยวข้างบ้านครับ แล้วคนข้างบ้านผมเขาเป็นคนไม่ชอบสัตว์ตัวอื่นๆเลยนอกจากหมาดุๆของเขาตัวเดียว อีนังซัดดัมสมัยนั้นยังเป็นแมวใสซื่อก็เดินนวยนาดเข้าไปหาเขา ไม่ทันระวัง บวกกับความที่คนในบ้านขุนมันดีเกินไป ทำให้มันอ้วนและวิ่งหนีไม่ทัน พอฝ่าเท้ามฤตยูพุ่งควับเข้ามาก็ปะทะเข้ากับสีข้างมันจังๆ(ภาพเหตุการณ์จำลอง ผมคิดเอาเองนะ บรรยายซะเวอร์เชียว)

วันนั้นมันปีนหลังคามาอย่างทุลักทุเล จะร้องก็ไม่มีเสียงร้อง พอดีว่าผมเปิดประตูหลังบาน มันก็เดินกระเผลก กระเผลกมาหา แล้วก็ล้มลงนอนแบ๊บแทบเท้า ผมเห็นมันแล้วก็ตะโกนลั่นบ้านให้คุณแม่คุณพ่อมาดู ก็เป็นอันว่าวันนั้นอีนังซัดดัมไม่ได้กินข้าวเพราะจุกแน่นด้วยฝ่าเท้าของคนข้างบ้านนั่นเอง

แต่โชคร้ายและเคราะห์กรรมของอีนังซัดดัมยังไม่หมด ทั้งนี้ก็เพราะอีนังซัดดัมเป็นแมวดำนั่นเอง วันนั้น อีนังซัดดัมออกจากบ้านไปด้วยความระมัดระวัง มันออกไปตอนเช้าหลังจากที่ไล่วิวาทกับคุณหนูยิ่งรวยแล้ว แต่พอตอนย็นซึ่งถึงเวลากลับบ้าน มันก็ยังไม่ยอมกลับมา ทุกคนในบ้านก็เป็นห่วง ยิ่งได้ยินเสียงคนข้างบ้านปล่อยหมาที่ขังเอาไว้ออกมาไล่อะไรสักอย่างดังโครมครามแล้ว ยิ่งน่าห่วงใหญ่ คุณพ่อ คุณแม่ น้องสาว และผมต่างก็เรียกหามันให้ทั่ว แต่จนแล้วจนรอดเราก็ไม่เห็นมันแม้เงา คงได้แต่คิดว่ามันจะติดนิสัยแมวดัดจริตจากคุณหนูยิ่งไป

แต่เราคิดผิด เพราะอีกราวๆสองหรือสามวันต่อมาผมก็เจอมันไต่อยู่บนราวเหล็กเหนือประตูหน้าบ้าน มันนอนอยู่บนนั้นและร้องเรียกให้ผมพามันลงมา เนื่องจากมันลงมาเองไม่ได้ ผมก็พยายามต่อเก้าอี้ขึ้นไปเอามันลงมาจนสำเร็จ พออุ้มมันมาไว้ในอ้อมกอดเท่านั้นแหละ ผมจึงได้เห็นว่าที่ข้างลำตัวมันมีรอยเขี้ยวจมลึก บาดแผลฉกรรจ์นี้แห้งไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังน่ากลัวอันตรายอยู่ดี

และเมื่อพิสูจน์รอยเขี้ยวกันแล้ว ก็แน่ชัดเลยครับว่ามันเป็นรอยเขี้ยวหมา แล้วแถวนั้นมันไม่มีหมาที่ไหนหรอกครับ นอกจากหมาคนข้างบ้านเท่านั้น และผมเองก็ไม่คิดว่าอีนังซัดดัมจะโง่ขนาดที่ว่าจะเดินไปให้หมาที่ถูกล่ามไว้กัดเล่นหรอกนะครับ

อีดำถูกกัดจมเขี้ยวครั้งนั้นแล้วก็เข็ดไปอีกนานเลยครับ มันไม่ได้ออกจากบ้านนานเป็นเดือน และพอมันได้ออกจากบ้านอีกที มันก็จะไม่ออกไปไหนไกล แต่จะอยู่ใกล้ๆและกลับบ้านเร็วๆเสมอ ไม่มีใครคิดว่ามันจะโดนคนใจร้ายทำร้ายมันอีก

จนเมื่อย้ายบ้านมาใหม่ มันก็ยังหอบหิ้วอาการบาดเจ็บมาให้ผมเห็นจนได้ในวันหนึ่ง วันนั้นมันเดินกระเผลกเข้ามา และก็ทำหน้าตาน่าสงสารอีกครั้ง ผมแน่ใจครับว่า ถ้ามันไม่โดนฟาดก็คงไปรับประทานตีนใครมาอีกแล้ว แต่ทำไงได้ล่ะครับ เราไม่รู้ไม่เห็นจะจะคาตานี่นะ จะกล่าวโทษใครก็ไม่ได้ อีกอย่าง เราก็ไม่รู้ว่าแมวเราไปทำอะไรให้ใครเขาหงุดหงิดหรือเปล่า ก็เลยก้มหน้าก้มตารักษามันต่อไป

คิดๆดูก็น่าแปลกนะครับ แมวบ้านผมไม่มีตัวไหนจะโชคร้ายเท่าอีนังซัดดัมอีกแล้ว เพราะนิสัยมันแย่หรือเพราะมันเป็นแมวดำกันแน่นะ ทุกวันนี้ผมยังสงสัยอยู่เลยครับ

อีนังซัดดัมเกือบไม่ได้อยู่กับพวกผมแล้ว เพราะความที่มันเป็นแมวดำนี่แหละ

เคยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่บ้านผมประสบปัญหา ก็มีหมอดูเขามากทักว่า แมวดำน่ะเลี้ยงไว้ทำไม เอามันไปปล่อยทิ้งเสีย ตอนนั้นพากันเศร้ราไปตามๆกันเพราะไม่มีใครอยากจะทิ้งแมว น้องสาวผมยิ่งแล้วใหญ่ สั่งห้ามคุณแม่ไว้เด็ดขาดว่าห้ามเอาไปปล่อย โธ่! เราจะไม่เลี้ยงดูแมวตัวหนึ่งเพียงเพราะมันเป็นแมวดำแค่นั้นหรือครับ

จนแล้วจนรอด เราก็ต้องเลี้ยงมันต่อไป ถึงมันจะเป็นแมวดำจอมป่วนที่สร้างเรื่องกลุ้มใจให้ทุกคนปวดหัวเป็นประจำ(เช่นฉี่รดหมอน ทำของแตก) แต่ถึงอย่างไร มันก็เป็นแมวตัวหนึ่งที่เกิดในบ้าน มีมือของคนสี่คนคอยประคับประหงมมันมาตั้งแต่เล็กนะครับ จะทิ้งไปได้ไงล่ะ จริงไหม

ก็ต้องอยู่ไปด้วยกัน จนมันแก่ตายไปเองนั่นแหละครับ

หมดเรื่องแมวดำแล้ว มาพูดถึงเรื่องของหนังสือดีกว่า หนังสือที่ผมจะเล่าถึงในวันนี้คือหนังสือเรื่องเด็กหญิงนางฟ้า ผลงานของคุณดวงตะวันในนามปากกา ดาราราย เป็นวรรณกรรมเยาวชนยอดเยี่ยมรางวัล นายอินทร์อะวอร์ดประจำปี 2544 เชียวนะครับ จะพลาดได้ไง

เรื่องของเด็กหญิงนางฟ้าเป็นเรื่องที่อ่านง่ายและสนุก พร้อมๆกับให้แง่คิดที่แตกต่างไปจากนิทานหรือวรรณกรรมเรื่องอื่นๆ ตรงที่ว่า นิทานเรื่องอื่นๆอาจจะมีนางฟ้า และบอกว่าถ้าเด็กๆทำตัวเป็นเด็กดี นางฟ้าก็จะให้พร ให้เด็กคนนั้นโชคดี แต่เรื่องนี้ผิดกัน ตรงที่ว่า นางฟ้าเป็นได้แค่กำลังใจ เด็กๆจะได้ดีได้ ก็ต่อเมื่อทำตัวเองให้เป็นคนดี

ตัวละครนำในเรื่องนี้คือเด็กชายเดี่ยวผู้ยากจนและเด็กหญิงนางฟ้าที่บังเอิญตกลงมาจากสวรรค์ การเจอกันของหนึ่งคนหนึ่งนางฟ้าทำให้เกิดมิตรภาพและความเข้าใจชีวิตมากขึ้น เดี่ยวผู้ที่อยากได้มือวิเศษเพื่อจะได้ช่วยแม่ร้อยมาลัยขาย ก็ได้รู้ว่าทุกคนมีมือที่วิเศษ มีหัวใจที่วิเศษโดยไม่ต้องขอจากนางฟ้า เพียงแค่ลงมือทำ ทำด้วยความตั้งใจดี แค่นี้ก็มีมือและหัวใจที่วิเศษแล้ว ส่วนนางฟ้าเองก็ได้เรียนรู้เช่นกันว่าหน้าที่ของนางฟ้าคืออะไร หน้าที่ของนางฟ้าไม่ใช่การช่วยเหลือใครด้วยอำนาจมนต์วิเศษ แต่เป็นอำนาจของกำลังใจ คนเราเมื่อท้อแท้แล้ว ขอแค่มีกำลังใจ ก็จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคด้วยเรี่ยวแรงนั้น และไปสู่ฝันได้ในที่สุด

เรื่องราวและมิตรภาพอันงดงามนี้อยู่ในหนังสือ เด็กหญิงนางฟ้านี่แหละครับ เป็นหนัวงสือที่ดีมากเลย ผมรับรอง


http://forwriter.com/mysite/forwriter.com/webboard/question.asp?QID=1138

:ไนติงเกล:

ก่อนหน้า                  ต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                                             

อ่านหนังสือต่างประเทศ
Free E-book
โดยฟีลิปดา
หนังสือของฟีลิปดา

 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์
 

 
ดั่งไฟรัก
 


๕๐๕ แคนโต้แห่งความรัก