ว่าด้วยเรื่องของหมะเมียะ(ล้วนๆ)
"หมะเมียเป๋นสาวแม่ก๊า คนพม่าเมืองมะละเหม่ง งามล้ำเหมือนเดือนส่องแสง คนมาแย่งลู่ฮักสาว
หมะเมียะบ่ยอมฮักไผ มอบใจฮื้อหนุ่มเชื้อเจ้า เป็นลกอุปราชท้าว... เชียงใหม่
แต่เมื่อเจ้าชายจบการศึกษา จำต้องลาจากหมะเมียะไป เหมือนโดนมีดสับฟันกลางหัวใจ ปล่อมเป๋นป้อจายหนีตามมา
เจ้าชายเป๋นราชบุตรแต่สุดที่ฮักเป๋นพม่า ผิดประเพณีสืบมาต้องร้างลาแยกทาง
โอ่โอ๊ ก็เมื่อวันนั้นวันที่ต้องส่งคืนบ้านนาง เจ้าชายก็จัดขบวนจ๊าง ไปส่งนางคืนทั้งน้ำตา
หมะเมียะตรอมใจ๋อาลัยขื่นขม ถวายบังคมทูลลา สยายผมลงเช้ดบาทบาทา จำต้องลาจากแล้วจ๊าดนี้
เจ้าชายก็ตรอมใจ๋ต๋าย หมะเมียะเลยไปบวชชี ความฮักมักเป๋นจะนี้ แลเฮย....
(เพลง หมะเมียะ ประพันธ์โดยคุณจรัล มโนเพชร)
วันนี้ผมเข้าร้านหนังสือแล้วได้หนังสือมาเล่มหนึ่ง (หลังจากที่เมียงๆมองๆอยู่นาน และชั่งใจกับนิตยสาร รีดเดอร์ ไดเจสต์) คือหนังสือเรื่องหมะเมียะ ซึ่งเป็นหนังสือบทละครเวที ที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี ความรัก: หมะเมียะ - เจ้าสุขเกษม ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2546
หมะเมียะเป็นตำนานที่แพร่หลายและเป็นทีรู้จักกันดีในหมู่คนท้องถิ่น(ที่ไม่ใช่คนท้องถิ่น ผมไม่แน่ใจว่ารู้รึเปล่า เพราะผมเป็นคนท้องถิ่น) ความรักอันรันทดนี้เคยได้รับการเสนอในรูปแบบของบทเพลงโฟร์คซองคำเมือง(เนื้อเพลงด้านบน) โดยคุณจรัล มโนเพชร และถูกนำไปทำเป็นละครทีวีโดยบริษัทดาราวีดีโอทางช่องเจ็ด (สิบกว่าปีแล้วล่ะ)
เรื่องราวของหมะเมียะนั้นถูกขนานนามให้เป็นโรมิโอกับจูเลียตแห่งล้านนาแต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้ที่มีความเห็นต่างไปว่า วามรักในชีวิตจริงของหมะเมียะกับเจ้าน้อยสุขเกษมนั้นเป็นยิ่งกว่านิยายที่ถูกแต่งขึ้นอย่างโรมิโอกับจูเลียตเสียอีก
เรื่องราวความรักของหมะเมียะถูกขุดขึ้นจากประวัติศาสตร์อันซ่อนเร้น(เว่อร์ไปไหม.... สมัยก่อนจะถามว่า สวิงสวายไปหรือเปล่า)โดยคุณปราณี ศิริธร ณ พัทลุง ซึ่งเป็นคนใต้ โดย คุณปราณีได้เสนอเรื่องราวของหมะเมียะไว้ในหนังสือ เพ็ชรล้านนา เล่ม 1, 2 (ใครรู้ว่าอยู่ไหนบอกทีเต๊อะ ใคร่ได้แน) ในรูปแบบของสารคดี ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นสารคดีที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะเมื่ออ่านแล้วสามารถเห็นภาพรักแท้ที่ก้าวข้ามอำนาจ การเมือง และเชื้อชาติที่หมะเมียะและเจ้าสุขเกษมมีต่อกันได้ชัดเจน
ความรักของคนทั้งคู่เริ่มต้นที่เมืองมะละเหม่งซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญของพม่าในสมัยก่อนเนื่องจากอังกฤษได้ยึดพม่าทางตอนใต้ได้ก่อน จึงได้สร้างเมืองนี้ขึ้น
หมะเมียะเป็นคนสวยชาวเมืองนี้ มีอาชีพขายบุหรี่ ในขณะที่เจ้าสุขเกษมเป็นเจ้าชายแห่งเวียงพิงค์ ความรักของทั้งคู่ก่อตัวเมื่อเจ้าสุขเกษมถูกส่งไปเรียนที่ประเทศพม่า และได้ขยายตัวขึ้นจนไม่อาจจะหยุดยั้งได้
ในที่สุดก็ถึงวันที่เจ้าชายเชียงใหม่ต้องกลับบ้านเมือง เจ้าสุขเกามให้หมะเมียะปลอมตัวเป็นชายรับใช้ร่วมเดินทางไปยังเชียงใหม่และเอาไปเก็บไว้ในตำหนักโดยไม่ให้ใครรู้ แต่ความลับหรือจะมีในโลก เมื่อเจ้าชายถุกจับหมั้นกับเจ้าหญิงอีกองค์ทำให้เรื่องของหมะเมียะแดงขึ้นและนั่นสร้างความไม่พอใจให้แก่ราชวงค์อย่างมาก
การประชุมด่วนระหว่างฝั่งไทยกับฝ่ายเจ้าหัวเมืองเหนือเกิดขึ้นปย่างเคร่งเครียบดและหลายครั้ง เพื่อตกลงว่าจะทำอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ ในกรณีที่อังกฤษยึดเมืองพม่าไว้เป็นเมืองขึ้นและมีท่าทีว่าจะเอาเมืองเหนือไปเป็นของพม่าด้วยทำให้ความรักของเจ้าชายเชียงใหม่กับหญิงชาวพม่าเกิดอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงโดยที่ทั้งสองคนไม่ได้คาดคิดเลย
ในที่สุดก็ตกลงได้ว่า หมะเมียะควรถูกส่งกลับ
หมะเมียะถูกส่งตัวกลับและได้รับสัญยาจากเจ้าสุขเกษมว่าหากสถานการณ์คลี่คลายแล้วก็จะรับตัวหมะเมียะมาอยู่ด้วย แต่สถานารณ์บ้านเมืองไม่สามารถคลี่คลายได้อย่างใจคน ในที่สุด เจ้าสุขเกษมก็ต้องแต่งการกับเจ้าหญิงบัวชุม(เจ้าหญิงอีกองค์ที่ไม่ใช่องค์เมื่อกี้นะ) และเมื่อหมะเมียะมาหา ก็ไม่อาจรักษาสัญญาที่มีให้กับหมะเมียะได้ สุดท้ายความรักก็จบลงที่การพลัดพราก เจ้าสุขเกษมกลายเป็นคนติดสุราและจากโลกไปเมื่ออายุ 33 ปี ส่วนหมะเมียะก็กลับไปเมืองพม่า และขอบวชชีตลอดชีวิต
นี่คือเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นจริง
ผมเองได้รับรู้เรื่องราวของหมะเมียะมาตั้งแต่เด็กๆครับ คุณแม่เป้นคนเล่าให้ฟัง และอีกหลายต่อหลายครั้งที่ผมได้ยิน จนกระทั่งมันก่อเกิดกลายเป็นแรงฮึดอย่างหนึ่งในใจว่า
วันหนึ่ง ผมจะเขียนเรื่องของหมะเมียะออกมา
แต่ช้าก่อน วันหนึ่งนั้นวันไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้ผมยังเขียนไม่ได้ครับ เพราะข้อมูลยังไม่พร้อม อาจจะอีกสิบปี ยี่สิบปี
เพราะไม่ว่าจะช้าจะเร็ว เรื่องของหมะเมียะก็ยังคงเป็นอมตะสืบไป
...แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ถูกพลัดพรากจากกันจนชั่วชีวิต มันเป็นเช้าของเดือนเมษายน พ.ศ.2446...
...ประชาชนชาวเชียงใหม่ไม่มีโอกาสได้ประสบพบเห็นความรักต่างแดนอันลงเอยด้วยความโศกสลดรันทดใจมาก่อน
และไม่มีโอกาสจะพบเห็นอีกแล้วในประวัติศาสตร์ของเวียงพิงค์...(ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง)
http://forwriter.com/mysite/forwriter.com/webboard/question.asp?QID=1159
:ไนติงเกล:
ก่อนหน้า ต่อไป
|
|