1.ตอนเด็กๆ คุณสนใจการอ่านและการเขียนไหม? แล้วคุณชอบอ่านอะไร?
มีหนังสือเป็นของตัวเองตั้งแต่เด็ก ๆ ค่ะ ชอบสะสมนิทานของสนพ.เม็ดทราย (ไม่แน่ใจนะเรื่องชื่อสนพ. ที่เป็นนิทานเล่มเล็ก ๆ บาง ๆ น่ะค่ะ) พอโตก็เริ่มอ่านการ์ตูน (manga) หลังจากนั้นก็เริ่มอ่านเรื่องสั้น แต่รู้สึกว่าไม่สะใจเลยอ่านเรื่องยาว และเขียนเองบ้างแต่ไม่จริงจังแค่ลองเขียนเล่น ๆ เป็นพวกเรื่องสั้น
สำหรับแนวที่ชอบอ่านก็จะมีพวกวรรณกรรมแปลค่ะ นิยายไทยก็อ่านอยู่พักหนึ่งค่ะ
2.เมื่อไหร่ที่คุณรู้ตัวว่าสนใจงานเขียน?
ตอนที่อยู่เฉย ๆ มันมีจินตนาการแว่บ ๆ ขึ้นในหัว เกี่ยวกับตัวละคร ฉาก แล้วก็สถานการณ์ต่าง ๆ มันป๊อปขึ้นมาโดยที่ไม่ได้คิด แล้วก็จะนั่ง ๆ คิดจินตนาการต่อ
ยอด ตอนแรกได้แค่คิด แต่ไม่เขียน พอไปทำบล็อคที่สนุกดอทคอมก็เริ่มรู้จักเพื่อน ๆ ที่ชอบเขียนเหมือนกัน เลยตัดสินใจเริ่มเขียนให้เป็นชิ้นเป็นอันค่ะ
3.ครอบครัวของคุณมีอิทธิพลต่อการเขียนของคุณไหม? อย่างไร?
ครอบครัวมีอิทธิพลมากค่ะ รอบบ้านจะมีแต่หนังสือเต็มไปหมด พ่อชอบซื้อหนังสือเกี่ยวกับศิลปะและดนตรี (พ่อเล่นกีตาร์) ส่วนแม่นิยมหนังสือขวัญเรือน บ้านและสวน และชีวจิต (แม่ยุ้ยไม่อ่านนิยายค่ะ น่าเสียดาย)
4.เกี่ยวกับงานเขียน อะไรที่คุณเขียนเป็นครั้งแรก เคยให้เพื่อนๆ หรือครอบครัวอ่านไหม พวกเขาคิดว่าอย่างไร?
เคยเขียนนิยายแนวไทย ๆ ให้เพื่อนอ่าน เพื่อนบอกว่าชอบ แต่ก็เลิกเขียนไปเพราะรู้สึกว่าไม่ใช่แนว เลยเปลี่ยนแนวมาเป็นอย่างที่เห็นในเรื่องสวนสวรรค์ ส่วนคนในครอบครัวไม่เคยมีใครเคยอ่านนิยายของยุ้ยเลยค่ะ
5.มีใครที่คอยกระตุ้นหรือคุณคิดว่ามีส่วนช่วยเหลือในการไล่ล่าความฝันของการเป็นนักเขียนไหม?
มีบ้างค่ะ ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนบางคนที่ช่วยอ่าน และเกือบร้อยเปอร์เซนต์ยุ้ยกระตุ้นตัวเองค่ะ ตั้งใจว่าต้องเขียนให้ได้ สิ่งที่คิดในหัวมันจะไม่มีทางเป็นจริงถ้าไม่เขียนมันออกมา จะบอกตัวเองแบบนี้ค่ะพ่อมีส่วนสนับสนุน โดยการให้ยุ้ยยืมโน้ตบุคได้ในระยะยาว
6.ทางบ้านของคุณได้อ่านหนังสือที่คุณเขียนบ้างไหม?และเคยมีส่วนร่วมในการออกความเห็นเกี่ยวกับโครงเรื่องไหม
พ่อกับแม่และน้องไม่เคยอ่านเรื่องของยุ้ย แต่เค้ารู้ว่าเราเขียนอยู่ รู้ว่าเราพยายามถึงไหนแล้ว จะเล่าให้ฟังตลอด
7.คุณมีวิธีเขียนนวนิยายเรื่องสวนสวรรค์ อย่างไร?การคิดโครงเรื่อง ตัวละคร เหตุการณ์ ฯลฯ
เริ่มแรกเลยนะคะ
.(นานมาก) คิดมานานแล้วว่าอยากเขียนนิยายแวมไพร์ ตั้งแต่ดูเรื่อง interview with vampire และหลังจากที่ได้อ่านเนื้อเพลง Iris ของ Goo Goo Dolls ก็เริ่มเขียนทันที แต่เป็นแค่พล็อตคร่าว ๆ อยู่ในไฟล์word
ทำไมต้องแวมไพร์? คำตอบนี้ง่ายมาก ยุ้ยบ้าเรื่องราวลึกลับค่ะ โดยเฉพาะแวมไพร์ ยุ้ยมีหนังแวมฯ เกือบทุกเรื่อง (ที่ชอบ) ยุ้ยเลือกให้พระเอก ทริสแทน เป็นแวมไพร์ เพื่อเสียสละทุกอย่างให้นางเอก ฟีบี้ ความต่างของตัวเอกจะช่วยสร้างความตึงเครียดให้กับเรื่อง (ส่วนใหญ่เป็นแบบนั้น)
การเขียนถึงแวมไพร์จะให้เอาตัวเอกเป็นคนไทยก็ฟังดูบ้า ๆ (n_o) ก็เลยเป็นบ่อเกิดของการเขียนสำนวนแนวนิยายแปล ซึ่งสนุกมากในการคิดค้นประโยคแปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นในนิยายไทยทั่วไป บางส่วนอาจดัดแปลงมาจากฟิคชันที่เคยอ่านด้วยค่ะ
ตัวละครของยุ้ย ได้แรงบันดาลใจมากจากหนุ่มสาวชาวEmo ที่คลั่งไคล้และหลงไหลในความรัก ซึ่งจะง่ายต่อการเขียนเรื่องที่ยุ้ยวางเอาไว้
เรื่องราวว่าด้วยความรักที่หมกมุ่น หลงไหลและไร้เหตุผล (อาจฟังดูแย่ แต่ความรักคือเรื่องที่ดี และเป็นบ่อเกิดของเรื่องราวทุกอย่างในชีวิตมนุษย์ค่ะ)
ฉากในเรื่องอยู่ในซีแอตเติลเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งยุ้ยได้ไอเดียจากหนังเรื่อง Sleepless in Seattle เรื่องฝนที่ตกต่อเนื่องเก้าเดือนในหนึ่งปี รู้สึกว่า หนาว ๆ ดี เลยอยากได้ความรู้สึกแบบนั้นในเรื่องของเรา เพื่อจะได้สร้างความอบอุ่นด้วยสิ่งที่เราใส่ลงไป (^_^)
ส่วนเหตุการณ์ในเรื่องจะค่อย ๆ คิดค่ะ ไม่ได้fix เอาไว้ตั้งแต่แรก คิดไปก็จดเอาไว้ แล้วเอาทุกอย่างมาผูกต่อกัน เสร็จแล้วก็ค่อยใส่บทสนทนาลงไป สำหรับเรื่องสวนสวรรค์ยุ้ยเขียนตอนจบเอาไว้ตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยค่ะ (ย่อหน้าสุดท้าย) แบบว่าพิมพ์เอาไว้ก่อนเลย ซึ่งการเขียนตอนจบเอาไว้ก่อนนี่ ยุ้ยเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก
และอื่น ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ยุ้ยใส่ไว้ในห้องแรลลี่ค่ะ (นิด ๆ หน่อย ๆ เกี่ยวกับเอเดน)
8.ตัวละครในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นฟีบี้ หรือ ทริสแทน ได้รับอิทธิพล มาจากใครในชีวิตจริงหรือเปล่า?
ก่อนหน้านี้ยุ้ยเขียนเรื่องของฟีบี้กับทริสแทน แต่เป็นอีกTheme หนึ่งซึ่งฟีบี้นิสัยต่างจากนี้โดยสิ้นเชิง!!! แต่เขียนไม่ออกเมื่อได้ห้าสิบหน้า เพราะนางเอกเรียบร้อยน่ารักเป็นอะไรที่ไม่ถนัด เลยทิ้งฟีบี้คนนั้นไป แล้วเปลี่ยนให้นางเอกเป็นสาวอีโมซะเลย ฮ่า ๆๆ ซึ่งลุคของฟีบี้ให้ลองนึกถึงตัวการ์ตูน Emily the strange ผมม้าตาขวาง ชอบทำตัวแปลก ๆ อะไรทำนองนั้น
ส่วนทริสแทนนั้นคงเป็นหนุ่มที่ยุ้ยพบเป็นประจำในฝัน ฮา ๆ (^_^)
9.คุณชอบตอนไหนที่สุดในเรื่อง สวนสวรรค์
(จริง ๆ ก็ชอบหมดนะ แต่เค้าถามว่า ที่สุด นี่) นึกนานเลย
จำตอนไม่ได้นะคะ จำเนื้อเรื่องได้ รู้สึกจะเป็นตอนที่ฟีบี้อยู่ในโรงพยาบาล แล้วรู้ว่าชีวิตมนุษย์มันสั้น เลยขอให้ทริสแทนเปลี่ยนฟีบี้ให้เป็นแวมฯเหมือนกัน แต่ทริสปฏิเสธ เพราะว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดที่เขามีอยู่ คือชีวิตของเธอ อยากให้เธอให้เกียรติเขาโดยการมีชีวิตอยู่ และเขาพร้อมจะปกป้องเธอไปจนถึงที่สุด
ร้องไห้เลยตอนเขียน มันสะเทือนใจ และซาบซึ้งบ้านะ เขียนเองอินเอง!!
10.อะไรคือแรงบันดาลใจให้คุณเขียนเรื่องนี้
เนื้อเพลง IRIS ของ GOO GOO DOLLS ลองหามาฟังนะคะ เก่าประมาณปี 1998 Ost. City of Angel ค่ะ
11.อะไรคือปัญหาหนักที่สุด ที่ท้าทายคุณตอนที่คุณเขียน
ความเหนื่อยค่ะ งานประจำอาจไม่มีผลในการคิดพล็อตหรือแรงใจ แต่มันตัดกำลังกายยุ้ยไปหมดเลยยยยยยยย เวลายุ้ยเหนื่อยแล้วจะเขียนต่อไม่ได้ หัวไม่แล่น พอคิดไม่ออกแล้วอยากร้องไห้ บางวันเปิดคอมแล้วเอานิ้วแตะ ๆ คีย์บอร์ด แต่หัวตื้อ ก็หงุดหงิดทันที แต่ก็รีแลกซ์โดยการดูหนัง (แผ่น) ฟังเพลง หรือไม่ก็ดื่มกาแฟเย้นนน เย็น และกินโปเต้!!!
12.คุณคิดอย่างไรกับการมีเลิฟซีนในหนังสือ คุณคิดว่าเลิฟซีนเขียนยากง่ายต่างจากซีนอืนๆไหม มีอะไรที่คุณหลีกเลี่ยงไม่อยากเขียนบ้างไหม?
คิดยังไง? มันเรื่องธรรมดานะ แต่ก็รู้สึกลำบากใจทุกครั้งหลังเขียนเสร็จ พยายามอย่างยิ่งที่จะเน้นถึงความรักมากกว่าความใคร่ ไม่เคยคิดไว้ก่อนว่าต้องมี แต่อารมณ์เขียนมักจะพาไปทุกที ฮ่าๆๆ พยายามเขียนให้สุภาพค่ะ และพยายามสื่อมาในรูปของความรักมากกว่า ส่วนเรื่องที่อยากหลีกเลี่ยง หรือเรื่องที่ไม่อยากเขียนถึงยังไม่เคยมี
13.คุณเคยเกิดปัญหาการเขียนไม่ออก บ้างไหม? ถ้ามีคุณจัดการกับมันอย่างไร?
หาไอเดียใหม่ ๆ จากการดูหนังฟังเพลง หรือไม่ก็นอน หลับไปแล้วตื่นจะสดชื่นและอะไร ๆ จะดีขึ้น
14.แล้วอย่างที่เขียนไปๆ ความคิดเกี่ยวกับเรืองอื่น เข้ามาแทรกแซงในเรืองที่เขียนอยู่ละคะ?
จะพยายามเขียนหรือนึกพล็อตตอนอารมณ์ปกติค่ะ ถ้าเครียดนี่หยุดเลย เดี๋ยวเรื่องเราเละหมด เวลาคิดพล็อตส่วนใหญ่เป็นตอนเช้า นั่งรถมาทำงาน หรือตอนก่อนนอน (คิดตอนก่อนนอนจะทำให้หลับฝัน แล้วก็จะได้รายละเอียดเยอะขึ้น เป็นวิธีที่แปลกมากแต่ยุ้ยทำ!!!)
15.ช่วยเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับการเขียนของคุณในแต่ะละวัน ตอนเขียนคุณใช้อะไรเพื่อสร้างอารมณ์ไหม อย่างฟังเพลง หรืออื่นๆ ไปด้วย?
ยุ้ยจะเปิด Window Media Player ควบคู่กับ MSword ตลอดค่ะ ฟังเพลงไปเขียนไป น่าแปลกที่ยุ้ยแทบจะไม่อ่านหนังสือคนอื่นระหว่างที่เขียนเลย มันจะทำให้สับสนค่ะ สับสนธีมเรื่อง สับสนอารมณ์ของตัวละคร เพราะอ่าน ๆ ไปมันเริ่มมาตีกันกับเรื่องที่เราพยายามเขียนอยู่ สมองยุ้ยแปลก ๆ แยกแยะไม่ค่อยเป็น -*-
ยุ้ยเขียนได้เนื้องานส่วนใหญ่ในคืนวันเสาร์ค่ะ มีหลายครั้งที่เพลินขนาดรู้ตัวอีกทีก็เจ็ดโมงเช้า ตอนเพื่อนโทรมาปลุก ถามว่าจะไปชอปปิงกันไหม ซึ่งตอนนั้นยุ้ยก็ง่วงขึ้นมาทันที
16.ตอนเขียนหนังสือ คุณมีคนอ่านที่อยู่ในใจคุณไหม คุณอยากเขียนให้คนแบบไหนอ่าน?
เขียนเรื่องเด็กสิบเจ็ดให้ผู้ใหญ่อ่านนี่แปลกไหม? ยุ้ยอยากให้คนโต ๆ หน่อยได้อ่าน อย่างพวกวัยรุ่นตอนปลาย อะไรทำนองนั้น
จริง ๆ แล้วทุกคนอ่านก็ได้ค่ะ ถ้าคุณศรัทธาในรัก แนะนำ
สวนสวรรค์
17.คุณใช้อินเตอร์เน็ทในการหาข้อมูลบ่อยไหม มันมีประโยชน์ต่อคุณหรือเปล่า? คุณมีวิธีหาและจัดการกับข้อมูลนั้นอย่างไร?
ใช้ประจำค่ะ (ถ้าว่าง) ทั้งข้อมูล ทั้งรูปภาพ การได้ดูภาพต่าง ๆ ก็ช่วยสร้างบรรยากาศ และทำให้เกิดแรงบันดาลใจได้ดีเหมือนกัน พอได้ข้อมูลมาก็จะทำโฟลเดอร์materials เก็บไว้
18 มีนักเขียนคนไหนที่คุณประทับใจมากเป็นพิเศษจริงๆ เมื่อคุณอ่านงานเขียนของเธอหรือเขาไหม?
สเตเฟนี เมเยอร์ กับนิโคลัส สปาร์คค่ะ
19.อะไรที่คุณอยากจะให้คำแนะนำ คนที่ปรารถนาอยากจะเป็นนักเขียนที่เขียนได้จบเรื่องบ้าง
สนุกกับมันค่ะ อย่าคิดว่ามันน่าเหนื่อย เขียนสิ่งที่ชอบจริง ๆ ก่อน แน่นอนว่าทุกคนต้องมีจินตนาการล้ำเลิศ มีพล็อตเรื่องที่อยากจะเขียนมาก ๆ ลองเอาอันนั้นมาเขียนก่อน แล้วจะสนุกกับมัน ยุ้ยบ้าแวมฯ ยุ้ยก็จะเขียนเรื่องแวมฯ แล้วยุ้ยก็อยากเห็นตัวละครของยุ้ยมีชีวิตจริง ยุ้ยก็เลยต้องเขียนต่อ เขียนให้เหมือนกับเรื่องราวของพวกเขาและเธอคือชีวิตจริง ๆ นี่แหละ และยุ้ยต้องการให้พวกเขาดำเนินชีวิตต่อไป ยุ้ยเลยสนุกที่ได้ต่อบทสนทนา ต่อเติมฉากและเหตุการณ์ มันเหมือนเราเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้นด้วย สนุกจะตาย ลองสิคะ คิดว่าตัวละครที่เราสร้างขึ้นคือเพื่อนเรา และเรากำลังเฝ้าดูว่าเขาทำอะไรอยู่
20. ช่วยเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่จะเขียนต่อไปด้วย
สวนสวรรค์ภาคสองค่ะ ชื่ออย่างไม่เป็นทางการคือ Night Window ซึ่งเป็นภาคต่อที่ยุ้ยอยากให้สมบูรณ์แบบในแนวเลิฟแฟนตาซี ตอนนี้กำลังอยู่ในธีมของฉากแอคชั่นค่ะ ยุ้ยคาดว่าจะต้องเขียนจบลงที่ภาคสาม และอาจมีเรื่องคู่ขนานอีกเรื่องสองเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวละครบางตัวที่โผล่ในสวนสวรรค์
จากที่เป็นแค่ สวนสวรรค์ โปรเจคเล็ก ๆ กลายเป็นซีรีส์เลย
เพราะว่าพอเขียนจบ ยุ้ยกลับคิดถึงทริสแทนกับฟีบี้มาก เลยไม่อยากให้พวกเขาจบแค่สวนสวรรค์ ตอนนี้ยุ้ยกำลังสนุกกับการเขียนภาคสองค่ะ การใส่ฉากต่อสู้ทำให้เรื่องตื่นเต้นยิ่งขึ้น!!! คงมีโอกาสเอามาลงให้อ่านกันต่อค่ะ