forwriter.com

 
หากคุณคือมือใหม่ เวปนี้เหมาะสำหรับคุณมาก

 

สัมภาษณ์นักเขียนแรลลี 6 โดย ฟีลิปดา


คุณสายธาร เจ้าของผลงาน อ้อมกอดแห่งขุนเขา

 

.

ขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ สายธารมีชื่อจริงว่า จิรัญญ์นันท์ บัวจันทร์ เกิดวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519 ที่บ้านสวนริมลำธารในอำเภอหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ การศึกษา คณะวนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ปัจจุบันทำงานในกลุ่มวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จังหวัดอุบลราชธานี

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่ฟีลิปดามากๆ เลยค่ะที่เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของสายธารที่ทำให้เกิดนิยายเรื่องแรกในชีวิตขึ้นมาจนตอนนี้ชื่นชมดื่มด่ำกับความสำเร็จของอ้อมกอดแห่งขุนเขายังไม่เต็มอิ่มเลย ขอบคุณเพื่อนนักเขียนแรลลี่และนักอ่านทุกท่านที่เป็นเพื่อนร่วมเดินทางในถนนสายนี้แม้ว่าครั้งนี้จะไม่ใช่จุดเริ่มต้นของใครหลายๆ คน แต่ก็หวังว่าเราทุกคนจะอยู่ในเส้นทางนี้ด้วยกันเสมอ ให้กำลังใจกันตลอดไป

การเขียนนิยายคือความใฝ่ฝันแบบลมๆ แล้งๆ ของสายธารมาตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ๆ ตอนนั้นอินเตอร์เนทยังไม่แพร่หลายไม่มีนิยายออนไลน์เหมือนเช่นทุกวันนี้ เมื่อชีวิตได้ทำงานโดยมีอินเตอร์เนทเป็นเครื่องมือจึงทำให้สะดุดกับเวบของพี่ฟีลิปดาและเริ่มต้นเขียนในสิ่งที่ตัวเองคิดอยากจะเป็นและไม่อาจเป็น เขียนในสิ่งที่อยากพูดแต่ไม่อาจพูดให้ใครฟังได้ สุดท้าย เขียนในสิ่งที่ตัวเองผ่านประสบพบมาแล้วปรารถนาจะเล่าให้คนอื่นฟัง สิ่งเหล่านี้จะผ่านปลายปากกาของสายธารตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปค่ะ

1. อยากรู้ว่าชอบอ่านหนังสืออะไรคะ และมีหนังสือเล่มไหนเป็นแรงบันดาลใจให้อยากเขียนเองบ้าง

ชอบอ่านที่สุดคือหนังสือนวนิยายประเภทรักโรแมนติกซาบซึ้งกินใจอ่านแล้วจินตนาการว่าตัวเองเป็นนางเอกของเรื่องอะไรประมาณนั้นเลย รองลงมาจะเป็นหนังสือประเภทเกษตรกรรม และหลังๆ มานี่จะเริ่มอ่านหนังสือธรรมะเพื่อดึงแนวคิดที่พยายามไม่ยึดติดกับอะไรมากเกินไปมาใช้ จะได้เป็นคนที่มีความสุขตลอดเวลา น่าน... (สงสัยจะแก่แล้ว) ส่วนหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจให้อยากเขียนคือนวนิยายเรื่อง รักที่ริมทะเลเมฆ บทประพันธ์ของดวงตะวัน เพราะประทับใจในความรักของพระเอกที่มีต่อนางเอกยิ่งฉากที่ชอบมากคือพระเอกขับเฮลิคอปเตอร์ด้วยตัวเองเพื่อส่องไฟนำทางนางเอกที่กำลังขับรถยนต์จะกลับบ้าน น่ารักมาก เลยอยากมีตัวละครอย่าง เคช เคชรี กับ กีกี้ กิรันณา เป็นของตัวเองบ้าง

2.. ครอบครัวของคุณมีอิทธิพลต่อการเขียนของคุณไหม ? อย่างไร ?

ไม่มีอิทธิพลเลยค่ะ


3 . อะไรที่คุณเขียนเป็นครั้งแรก เคยให้เพื่อนๆ หรือครอบครัวอ่านไหม พวกเขาคิดว่าอย่างไร ?

ไดอารีค่ะ เขียนตั้งแต่จบมหาวิทยาลัยแล้วไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ตอนแรกจะเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านไปในแต่ละวัน ต่อมากลายเป็นบันทึกรักไปเสียงั้น คนที่ได้อ่านคือคนรักเวลาที่ทะเลาะกัน เขาคงคิดว่าบ้าหรือเปล่านี่เอามาให้อ่านทำไม

4. ทางบ้านของคุณได้อ่านหนังสือที่คุณเขียนบ้างไหม และเคยมีส่วนร่วมในการออกความเห็นเกี่ยวกับโครงเรื่องไหม

ไม่เคยอ่านเลยไม่มีส่วนในการออกความเห็นค่ะ

5. คุณมีวิธีเขียนนวนิยายเรื่อง อ้อมกอดแห่งขุนเขา อย่างไร ตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็น การคิดโครงเรื่อง ตัวละคร เหตุการณ์ ฯลฯ

ขอสารภาพเลยค่ะ ว่าตอนที่สมัครแข่งเขียนแรลลี่นั้นยังไม่มีโครงเรื่องที่ชัดเจนเลย มีแค่ตัวละครสามคนคือภูผา จารวีและก็คเชนทร์เท่านั้นเอง พอใกล้วันเริ่มต้นก็มานั่งสร้างคาแรกเตอร์ของทั้งสามคนที่มีอยู่ และสร้างฉากสถานที่ประกอบ ส่วนเหตุการณ์ต่างๆ เริ่มมาผูกเอาทีหลังค่ะ

6. ตัวละครในเรื่อง ได้รับอิทธิพล มาจากใครในชีวิตจริงหรือเปล่า?

แน่นอนค่ะ คนแรกเลย นางเอก บุคลิกความรู้สึกนึกคิดจะดึงออกมาจากผู้เขียน แต่รูปร่างหน้าตาไม่ใช่เลยเพราะว่าผู้เขียนไม่สวยเหมือนที่บรรยายในเรื่องและที่สำคัญผิวไม่ขาว ส่วนพระเอกนี่อยู่ในจินตนาการค่ะไม่มีในชีวิตจริง และพอเขียนไปได้เรื่อยๆ ก็จะแอบดึงตัวละครจากคนรอบข้างเข้ามา ทำให้ง่ายในการเขียนบรรยายลักษณะนิสัย

7. คุณชอบตอนไหนที่สุดในเรื่อง

ชอบตอนพระเอกไปตามหานางเอกที่พายเรือเล่นแล้วเรือเกิดไปติดตอ แล้วพระเอกถูกนางเอกหลอกให้ลงน้ำไปช่วย เพราะนี่เป็นจุดเริ่มที่ทำให้พระเอกกับนางเอกเริ่มสนิทกันมากขึ้น คนเขียนก็เขียนไปยิ้มไป

8. อะไรคือแรงบันดาลใจทำให้คุณอยากเขียนเรื่องนี้ และมีประเด็นอะไรที่คุณอยากนำเสนอกับคนอ่าน

เกิดจากผู้เขียนทำงานที่ใกล้ชิดและสัมผัสกับธรรมชาติแทบจะตลอดเวลาก็ว่าได้โดยเฉพาะช่วงที่จบใหม่ๆ ประกอบกับชอบแนวคิดการทำการเกษตรแบบพอเพียงมาก เลยอยากนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับสายงานที่เคยทำมาและวิถีชีวิตที่ตัวเองปรารถนาอยากจะมี คือการเป็นเจ้าของไร่นาสวนผสมที่ทำให้เจ้าของสามารถพึ่งพาตัวเองได้โดยไม่ต้องไปยึดติดกับกระแสเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงหรือแน่นอน ความฝันนั้นก็ผ่านปลายปากกาออกมาเป็นภูผา เจ้าของไร่ภูผา เสียเลย

9. อะไรคือปัญหาหนักที่สุด ที่ท้าทายคุณตอนที่คุณเขียนคืออะไร

ปัญหาจะมีสองส่วนคือส่วนแรกเรื่องราวของนิยายเองที่ไม่รู้ว่าจะดำเนินเรื่องยังไงให้ตื่นเต้นน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา ยาก ยากมากค่ะ บทสนทนากับกริยาอาการที่ตัวละครทำจะเขียนยังไงให้ลื่นไหลไม่สะดุด

ส่วนที่สองคือสิ่งแวดล้อมภายนอก งานประจำเริ่มเยอะมากขึ้นทั้งงานอบรมงานออกพื้นที่งานสำนักงานที่เร่งด่วน ขนาดนำนิยายไปเขียนระหว่างที่ไปอบรมยังกลัวไม่ทันเลย คิดในใจว่า โอ๊ย ! ตายแน่ ไม่จบแน่เลย ในช่วงห้าวันสุดท้ายนอนดึกแทบทุกคืน มีคืนหนึ่งไปงานเลี้ยงกับรุ่นพี่ๆ กลับมาปั่นนิยายต่อจนถึงตีสองจนโดนแซวว่า โห...นิยายสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ?

10 . คุณคิดว่าเขียนฉากไหนยาก มีอะไรที่คุณหลีกเลี่ยงไม่อยากเขียนบ้างไหม ?

ฉากบู๊ค่ะ เพราะไม่เคยประสบเหตุการณ์ด้วยตัวเองเพียงแค่ได้ยินคนอื่นเล่าให้ฟัง ยากตรงที่ว่าต้องเขียนยังไงให้คนอ่านรู้สึกตื่นเต้นเหมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ เขียนฉากนี้นานพอดูค่ะ

11. คุณเคยเกิดปัญหาการเขียนไม่ออก บ้างไหม ? ถ้ามีคุณจัดการกับมันอย่างไร ?

บ่อยมากค่ะที่เขียนไม่ออก ต้องใช้วิธีคุยกับคนที่อ่านนิยายของเราว่า เอ...เราจะสร้างเหตุการณ์แบบนี้ต้องทำยังไงน้า? เขาก็จะพูดๆ ออกมาทีเล่นทีจริงบ้าง เราก็จับประเด็นที่น่าสนใจและเป็นไปได้มาเขียน

12. แล้วอย่างที่เขียนไปๆ ความคิดเกี่ยวกับเรืองอื่น เข้ามาแทรกแซงในเรืองที่เขียนอยู่ละคะ ?

สำหรับสายธารแล้วเมื่อเริ่มต้นจับปากกานั่งเขียนนิยายก็เหมือนกับตกอยู่ในโลกของนิยายทันที แต่เมื่อมีสิ่งเร้าภายนอกเข้ามารบกวนจึงจะหลุดออกมาจากโลกนั้น เพราะว่าจิตใจเราตั้งมั่นกับสิ่งที่เรารักจึงไม่ค่อยมีเรื่องอื่นเข้ามาแทรกเวลาเขียนเท่าไหร่ค่ะ

13. ช่วยเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับการเขียนของคุณในแต่ะละวัน ตอนเขียนคุณใช้อะไรเพื่อสร้างอารมณ์ไหม อย่างฟังเพลง หรืออื่นๆ ไปด้วย ?

การเขียนเรื่องอ้อมกอดฯ นี้ผู้เขียนจะมีสมุดติดตัวไว้หนึ่งเล่มกับปากกาว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบขึ้นมาเขียนๆๆ ถ้าฉากไหนสะดุดเกี่ยวกับสำนวนหรือภาษาก็จะข้ามไปเขียนฉากอื่นก่อน จากนั้นค่อยนำมาปะติดปะต่อหรือขัดเกลาอีกครั้ง แต่จะไม่ใช้อะไรสร้างอารมณ์นอกจากความเงียบ เสียงเพลงนี่จะฟังเมื่อเวลาที่พิมพ์แต่ถ้าเวลาเขียนจะไม่ฟังเลย

14. ตอนเขียนหนังสือ คุณมีคนอ่านที่อยู่ในใจคุณไหม คุณอยากเขียนให้คนแบบไหนอ่าน ?

ความจริงแล้วอยากให้ทุกคนอ่านแต่คงเป็นไปไม่ได้หรอกนะคะ เพราะแนวที่เราเขียนอาจไม่ใช่แนวที่ทุกคนชื่นชอบ ฉะนั้นคนจะอ่านนิยายของสายธารก็จะเป็นคนที่รักธรรมชาติ ชอบความรักที่อบอุ่นหวานละมุนไม่ร้อนแรงหวือหวามากเกินไปนัก

15. คุณมีวิธีการหาข้อมูลในการเขียนอย่างไร?ใช้อินเตอร์เน็ทในการหาข้อมูลบ่อยไหม มันมีประโยชน์ต่อคุณหรือเปล่า ? และมีวิธีการจัดการกับข้อมูลนั้นอย่างไร ?

อินเตอร์เนทนี่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ส่วนใหญ่จะเป็นการค้นหาชื่อของตัวละครและหารูปภาพที่จะนำมาประกอบในการบรรยายฉากและออกแบบปก โดยรูปภาพจะบันทึกไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ส่วนข้อมูลจากการพูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์ก็จะจำนำมาใช้บ้าง

16 .คุณมีเวลาอ่านงานเขียนของคนอื่นไหม คุณมีนักเขียนที่ชอบเป็นพิเศษหรือเปล่า ?

ตั้งแต่เขียนแรลลี่ไม่ค่อยมีเวลาอ่านนิยายของใครเลยด้วยเหตุผลเรื่องงานอย่างที่กล่าวมาข้างต้น แต่นักเขียนที่ชอบมากเลยคือ ทมยันตี ปิยะพร ศักดิ์เกษม และดวงตะวัน

17. ในช่วงหลังๆ จะเห็นว่ามีการจัดทีมนักเขียนมาเขียนด้วยกัน ถ้าสมมติว่า คุณมีโอกาสคุณอยากร่วมทำงานเขียนกับนักเขียนท่านใด และเพราะอะไร? (เลือกได้ทั้งในและต่างประเทศเลยค่ะ)

ต้องคนนี้เลยค่ะ ดวงตะวัน เพราะว่าเขาเป็นนักเขียนที่เขียนเรื่องราวค่อนข้างจะอิงธรรมชาติและภาษาสำนวนน่ารัก

18. คุณคิดอย่างไรกับการใช้พวกสัญลักษณ์อีโมกันในหนังสือ

การใส่สัญลักษณ์อีโมในหนังสือต้องดูว่าเป็นหนังสือประเภทไหน แบบสนุกสนานหรือว่าเป็นแบบพิธีถ้าเป็นแบบแรกใส่อีโมเข้าไปก็คงไม่แปลก แต่ถ้าเป็นหนังสือที่เป็นทางการหรือภาษาสละสลวยแสดงให้เห็นภาพในตัวของมันเองแล้วก็ไม่ต้องใส่อีโมเข้าไปอีกให้สำนวนในหนังสือดูด้อยค่าลงไป

19. อะไรที่คุณอยากจะให้คำแนะนำ คนที่ปรารถนาอยากจะเป็นนักเขียนที่เขียนได้จบเรื่องบ้าง

ต้องมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าค่ะ เพราะทุกคนที่เขียนนิยายมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความฝันที่อยากเป็นนักเขียน และเมื่อมีความฝันแล้วก็ต้องมุ่งมั่นและไม่ท้อถอย ให้นึกถึงนักเขียนดังๆ ที่เขาเขียนหนังสือจนประสบความสำเร็จเอาไว้เป็นแบบอย่าง การเขียนหนังสือได้อาจไม่ใช่พรสวรรค์อย่างเดียวบางคนอาจใช้พรแสวงล้วนๆ ก็เป็นได้นะคะ

20. ช่วยเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่จะเขียนต่อไปด้วยค่ะ

อืม...เรื่องที่กำลังเขียนอยู่ตอนนี้ในห้องมาสเตอร์พีซคือเรื่อง ดวงใจเทวินทร์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอุปสรรคของความรักที่ทำให้นางเอกเข้าใจพระเอกผิดคิดว่าเป็นคนหลอกลวง กลับกลอก เมื่อกลับมาพบกันอีกครั้งพระเอกจึงต้องแสดงให้นางเอกเห็นว่าความรักของเขายังมั่นคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลงท่ามกลางตัวแปรต่างๆ ที่เข้ามาสั่นไหวหัวใจของทั้งสองคนให้เข้าใจผิดกันอยู่ร่ำไป

ส่วนอีกเรื่องที่คิดไว้คือ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของคนที่มีสองบุคลิก กลางวันเฉยชา เยือกเย็น แต่เมื่อสิ้นแสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์ความมืดครอบคลุมกลับกลายเป็นคนโมโหร้าย เจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเอง และ...เพลบอยอย่างร้ายกาจ ต้นเหตุเกิดจากอะไรและใครทำให้เกิด...

เรื่องที่สองนี่ตั้งใจจะเขียนในแรลลี่ครั้งที่ 7 ค่ะ อย่าลืมมาติดตามและให้กำลังใจกันนะคะ

:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:

 

ติดตามงานเขียนเรื่อง อ้อมกอดแห่งขุนเขา

ได้่ที่กระดานแรลลี ห้องหมายเลข 2 ค่ะ

 

อ่านสัมภาษณ์นักเขียนแรลลีท่านอื่นๆ

 

 

ห้องมือใหม่
ห้องสร้างนักเขียน
การเขียนนวนิยายต่าง ๆ
Idea bank
ฝึกเขียนเรื่อง

ร้านหนังสือ

 

 
ฟรี E-book
 
 



 

  http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.