forwriter.com

 
หากคุณคือมือใหม่ เวปนี้เหมาะสำหรับคุณมาก

 

สัมภาษณ์นักเขียนแรลลี 6 โดย ฟีลิปดา


คุณ Buddy เจ้าของผลงาน ภพรัก

 

(ไม่มีรูปค่ะ)

 

 

 

สวัสดีค่ะ บัดดี้นะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ

 

1. อยากรู้ว่าชอบอ่านหนังสืออะไรคะ และมีหนังสือเล่มไหนเป็นแรงบันดาลใจให้อยากเขียนเองบ้าง

ชอบอ่านหนังสืออะไรเหรอ... มีตัวเลือกไหมค่ะพี่ฟี? ว้า...ไม่มี อืม...หนังสือเกือบทุกเล่มที่อ่านก็ชอบทั้งนั้นนะคะ คือไม่มีสเป็คน่ะค่ะ เวลาเลือกหนังสือก็จะดูว่ามันน่าสนใจไหม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยนะ บางทีหน้าปกแปลกดี บางเล่มคำโปรยแรงดี บางเล่มเป็นเรื่องที่กำลังสนใจอยู่ คือจะพูดไงดี มันแล้วแต่อารมณ์จริงๆ น่ะค่ะ ในตู้ที่บ้านก็เลยจะมีหนังสือหลายแนวมาก การอ่านหนังสือสำหรับบัดดี้ มันเป็นทั้งการผ่อนคลายและการเรียนรู้ เราอยากรู้ หรือสนใจอะไรก็อ่าน

แรงบันดาลใจไม่ได้เป็นหนังสือค่ะ แต่เป็นที่คั่นหนังสือที่แนบมากับบันทึกร้อยวันฯ ของพี่ฟี ลายเซ็นหลังที่คั่นหนังสือเป็นลายเซ็นนักเขียนคนแรกในชีวิตค่ะ ไม่เคยขอลายเซ็นนักเขียนหรือดารา เพราะไม่รู้จะเอาไปทำไม (ต่างคนต่างชอบนะคะ ใครชอบสะสมลายเซ็นนักเขียนหรือดาราก็เป็นรสนิยมส่วนตัวค่ะ ไม่ผิด ไม่แปลกอะไร) ลายเซ็นและข้อความที่พี่ฟีเขียนให้ ทำให้รู้สึกว่าอยากเขียนอะไรให้มันเป็นเรื่องเป็นราว เขียนให้จบแบบจบจริงๆ ไม่ใช่จบเพราะขี้เกียจเขียน ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่ฟี

 

2.. ครอบครัวของคุณมีอิทธิพลต่อการเขียนของคุณไหม ? อย่างไร ?

ครอบครัวไม่รู้ค่ะว่ากำลังเขียนนิยาย


3 . อะไรที่คุณเขียนเป็นครั้งแรก เคยให้เพื่อนๆ หรือครอบครัวอ่านไหม พวกเขาคิดว่าอย่างไร ?

เนื่องจากไม่เคยเขียนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็เลยไม่เคยให้ใครอ่าน ส่วนใหญ่จะเป็นบันทึกความรู้สึกที่ไม่ประจำวัน เวลาเกิดความรู้สึกอยากคุยกับตัวเองจะเขียนลงในสมุดเรื่อยเปื่อย ระบายอารมณ์พอแล้ว ก็ปิดเล่ม ปิดไฟ นอน... เอามาอ่านเองทีหลัง ก็ขำ ตอนนั้นคิดอะไรอยู่หว่า

 

4. ทางบ้านของคุณได้อ่านหนังสือที่คุณเขียนบ้างไหม และเคยมีส่วนร่วมในการออกความเห็นเกี่ยวกับโครงเรื่องไหม

อย่าเอ็ดไปค่ะ ไม่มีใครรู้เลยว่ากำลังเขียนอะไร เขานึกว่างานเยอะเลยหอบกลับมาทำบ้าน แม่หลงนึกว่าลูกสาวขยันทำงาน เอิ้ก ~

 

5. คุณมีวิธีเขียนนวนิยายเรื่อง ภพรัก อย่างไร ตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็น การคิดโครงเรื่อง ตัวละคร เหตุการณ์ ฯลฯ

คิดโครงเรื่องภพรักมาได้ไงนะ ขอนึกก่อน...น่าจะได้พระเอกก่อนนะคะ อยากได้พระเอกหล่อขั้นเทพ เลยยกให้เป็นฑูตสวรรค์เสียเลย ซะงั้น แฮะ แฮะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ จำไม่ได้ว่าไอเดียฑูตสวรรค์นี่มันมาจากไหน แต่พอนึกว่าอยากได้ทูตสวรรค์มันก็เลยนึกถึงหนังฝรั่งเรื่อง City of Angles ที่นิโคลัส เคจเล่น แล้วก็เข้าไปหารายละเอียดของทูตสวรรค์จากในเน็ต เขาเป็นใคร มีลักษณะยังไง ก่อนจะปะๆ แต่งๆ จนออกมาเป็น “ ซัน ” พล็อตหลักตามมาพร้อมๆ กับพระเอกค่ะ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฑูตสวรรค์ดันเกิดไปหลงรักคนที่ตัวเองต้องดูแล แล้วทำไมต้องดูแลใกล้ชิดจนไปตกหลุมรักเขาเข้าเล่า มันก็เลยได้นางเอกโรคประสาทอย่าง “ ชาลิสา ” ออกมา แล้วก็ใส่เหตุการณ์ เรื่องราวต่างๆ เข้าไป เพื่อให้เห็นว่า ชาลิสา สมควรจะบ้าจริงๆ

 

6. ตัวละครในเรื่อง ได้รับอิทธิพล มาจากใครในชีวิตจริงหรือเปล่า?

ไม่มีเลยค่ะ บัดดี้ปกติค่ะ ไม่ได้บ้า ยังไม่เคยเจอฑูตสวรรค์ของตัวเองด้วยสิ บุคลิกทุกตัวสร้างจากจินตนาการ แล้วก็พยายามพาพวกเขามาเกี่ยวกัน จับแพะชนแกะ ว่างั้น

7. คุณชอบตอนไหนที่สุดในเรื่อง

ชอบทั้งเรื่อง J ตอบแบบนี้จะโดนโห่ไหมเนี่ย อ้าว...คุณครูอ้อมบอกว่าเราต้องภูมิใจในเรื่องของเราก่อน บัดดี้เป็นศิษย์ที่ดี เชื่อฟังครูบาอาจารย์

 

8. อะไรคือแรงบันดาลใจทำห้คุณอยากเขียนเรื่องนี้ และมีประเด็นอะไรที่คุณอยากนำเสนอกับคนอ่าน

ถึงจะเป็นเรื่องของเทพเทวดา แต่ไม่อยากให้มันออกแนวอภินิหาร ยิงแสงกันเฟี้ยวฟ้าว ก็เลยพยายามวางเรื่องบนหลักความจริง แทรกธรรมะ เข้าไปบ้างนิดหน่อย ตามระดับความรู้ที่มีอยู่น้อยนิด เป็นความเข้าใจ(ไปเอง)ว่า ความผิดปกติทางจิตก็เป็นกรรมที่แต่ละคนต้องตัดด้วยตัวเอง ตัดได้ก็เห็นธรรม ตัดไม่ได้ก็เวรกรรม ทุกอย่างอยู่ที่ใจ

 

9. อะไรคือปัญหาหนักที่สุด ที่ท้าทายคุณตอนที่คุณเขียนคืออะไร

จะแอบเขียนนิยายยังไง ไม่ให้ใครรู้ ถึงขนาดใส่พาสเวิร์ดในไฟล์เวิร์ดที่ใช้พิมพ์เลยนะคะ ฮ่าๆๆๆๆ ล้อเล่นค่ะ

จริงๆ เรื่องกรอบเวลาเป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุดนะคะ คงเหมือนกับคนอื่นๆ งานประจำก็ต้องทำ มีเวลาแค่ช่วงเย็นสำหรับการเขียน แต่ช่วงเวลางาน ใจก็คอยจะคิดถึงเรื่องนิยายอยู่เรื่อย มันก็เลยเป็นอีกหนึ่งความท้าทายว่าจะสามารถเขียนนิยายจบโดยยังไม่โดนไล่ออกเพราะอู้งานได้หรือเปล่า

 

10 . คุณคิดว่าเขียนฉากไหนยาก มีอะไรที่คุณหลีกเลี่ยงไม่อยากเขียนบ้างไหม ?

ที่อยากเลี่ยงไม่มีค่ะ อยากเขียนทุกอย่างเพราะไม่เคยเขียนสักอย่าง อยากเรียนรู้ตัวเองว่า เราเขียนฉากแบบไหนได้ดี ได้รื่น พอเขียนจบแล้วรู้ตัวเลยค่ะว่าเขียนบรรยายได้แย่มาก สงสัยตอนเด็กๆ อ่านเรื่องสั้นเยอะไปหน่อย เวลาถึงตอนบรรยาย มันจะฝืด ต้องอ่านทวนแล้วทวนอีก เติมโน่นนิดนี่หน่อย เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวแล้วปรุงเครื่องอยู่ได้ กินจนหมดชามยังไม่ได้รสดังใจเลย (ไปเรื่องก๋วยเตี๋ยวได้ไง?)

อีกส่วนที่รู้สึกว่าเขียนยาก แล้วก็ภูมิใจมากที่เขียนออกมาจนได้คือ บทเพลงของฑูตสวรรค์ค่ะ เคยเรียนแต่งกลอนตอนเด็ก ต้องงัดความรู้เก่าออกมาใช้ ซึ่งก็อาศัยลูกมั่วเสียส่วนใหญ่ ตอนเริ่มเขียนไม่รู้จะเขียนเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ จะเขียนเป็นกลอนเปล่าหรือเป็นกลอนแบบมีฉันทลักษณ์ดี ก็จับนั่นผสมนี่ เปิดดิกชั่นนารีด้วย พจนานุกรมด้วย ติดภาษาไทยก็ไปเขียนภาษาอังกฤษ ติดภาษาอังกฤษ ก็กลับมาเขียนไทย มั่วไปมาจนได้ออกมาจนจบเพลงจนได้

 

11. คุณเคยเกิดปัญหาการเขียนไม่ออก บ้างไหม ? ถ้ามีคุณจัดการกับมันอย่างไร ?

เขียนไม่ออกกับจบไม่ลงเหมือนกันหรือเปล่าหนอ คล้ายๆ เนอะ ปัญหาคือจบไม่ลง คือตอนเริ่มเขียน ได้พล็อตแล้วว่ามันจะเริ่มแบบนี้ และจบแบบนี้นะ นี่คือ “ จบบริบูรณ์ ” ในฝันของบัดดี้สำหรับเรื่องภพรัก เหมือนมีจุด start กับ stop แล้ว แต่เขียนไปเขียนมาเหมือนทางไปถึง “ จบบริบูรณ์ ” มันโดนบล็อก ไปไงต่อดีหว่า นั่งงง ไปไม่ถูกอยู่หลายวัน สิ่งที่ทำก็คือ กลับไปอ่านตั้งแต่แรกใหม่ ดูโครงเรื่องใหม่ ต้องเพิ่ม โยกย้าย เหตุการณ์ไหนบ้างให้มันเห็นเส้นทางที่จะไปถึง “ จบบริบูรณ์ ”

 

12. แล้วอย่างที่เขียนไปๆ ความคิดเกี่ยวกับเรืองอื่น เข้ามาแทรกแซงในเรืองที่เขียนอยู่ละคะ ?

คิดว่าไม่มีนะคะ อาจจะเพราะว่ามีจุดเริ่มและจุดจบที่คิดไว้คร่าวๆ แล้วว่าจะเอาไง แล้วก็ปรับไป เปลี่ยนมาในส่วนเนื้อข้างในเพื่อให้ไปถึงจุดจบ ก็มีความคิดที่อยากเขียนเรื่องอื่นขึ้นมาเหมือนกัน แต่มันคนละแนว แบบขาว ดำ กับเรื่องนี้เลย เรื่องอื่นที่คิดจะเขียนก็เลยค่อนข้างจะมีที่ทางของมันเอง ไม่ก้าวก่ายกัน

13. ช่วยเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับการเขียนของคุณในแต่ะละวัน ตอนเขียนคุณใช้อะไรเพื่อสร้างอารมณ์ไหม อย่างฟังเพลง หรืออื่นๆ ไปด้วย ?

เลิกงานกลับบ้านเปิดคอมฯ มีไอเดียว่าจะเขียนอะไรต่อก็เขียนเลย ถ้าไม่มีก็อ่านแล้วก็แก้โน่นนี่ไปตามเรื่อง ตอนที่รู้สึกตันๆ ก็อ่านแก้ อ่านแก้ ไป ไม่ได้ใช้อะไรเพื่อสร้างอารมณ์ค่ะ เพราะไม่ได้เขียนตามอารมณ์ (นี่...คมมั๊ย) ช่วงสามเดือน นอนดึกทุกวัน ตาดำเป็นหลินหุ่ยเลย ตอนนี้ก็ยังดำอยู่ คือพอเวลาเริ่มเขียนแล้วมันเพลิน ลืมเวลาอยู่บ่อยๆ แม่ด่าประจำค่ะ “ มีเวลาไม่หลับไม่นอน @ ? &%($#@Z*)! ... ”

 

14. ตอนเขียนหนังสือ คุณมีคนอ่านที่อยู่ในใจคุณไหม คุณอยากเขียนให้คนแบบไหนอ่าน ?

อืม...จะน่าเกลียดไหมถ้าตอบว่าไม่มี ไม่ได้คาดหวังไว้เลยน่ะค่ะ ไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมาย เราเขียนสิ่งที่อยากเขียน แล้วก็ภาวนาว่าคนที่อ่าน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เขาจะชอบ

 

15. คุณมีวิธีการหาข้อมูลในการเขียนอย่างไร?ใช้อินเตอร์เน็ทในการหาข้อมูลบ่อยไหม มันมีประโยชน์ต่อคุณหรือเปล่า ? และมีวิธีการจัดการกับข้อมูลนั้นอย่างไร ?

อินเตอร์เน็ตมีประโยชน์มากค่ะ เข้าไปเสิร์ช เจออะไรก็เซฟเก็บไว้ บางทีก็ทำชอตโน้ตเฉพาะจุดที่สนใจ อย่างโรคประสาทซึมเศร้าก็หาข้อมูลเอาจากเน็ตเหมือนกัน แล้วก็เอาไปสร้างเป็นภูมิหลังของชาลิสาว่าเธอควรจะเจอะเจออะไรมาบ้าง

 

16 .คุณมีเวลาอ่านงานเขียนของคนอื่นไหม คุณมีนักเขียนที่ชอบเป็นพิเศษหรือเปล่า ?

ก็มีอ่านบ้างค่ะ ความจริงเพิ่งเริ่มอ่านนิยายไม่นานก่อนเริ่มเขียนนะคะ นักเขียนหลายคนที่รู้จักชื่อมานาน แต่ไม่เคยอ่านเรื่องที่เขาเขียน เพราะแต่ก่อนมักจะอ่านเรื่องแปล เรื่องสั้นเสียส่วนใหญ่ มีที่ชอบเป็นพิเศษไหม ชอบ พล นิกร กิมหงวน ของ ป.อินทรปาลิต ค่ะ ขำดี ว่าจะเก็บตังค์หาซื้อครบชุดมาเก็บไว้ให้ลูกหลานอ่าน

 

17. ในช่วงหลังๆ จะเห็นว่ามีการจัดทีมนักเขียนมาเขียนด้วยกัน ถ้าสมมติว่า คุณมีโอกาสคุณอยากร่วมทำงานเขียนกับนักเขียนท่านใด และเพราะอะไระ? (เลือกได้ทั้งในและต่างประเทศเลยค่ะ)

J.K. Rowling อยู่ชมรมคนรักแฮรี่ค่ะ

 

18. คุณคิดอย่างไรกับการใช้พวกสัญลักษณ์อีโมกันในหนังสือ

ถ้าอยู่ในหนังสือจะไม่ค่อยชอบนักค่ะ ไม่ต้องมาแสดงสีหน้าได้ไหม เล่าไปเรื่อยๆ เถอะ ขอฉันจินตนาการเอง ฮาๆๆๆ ไม่ได้ต่อต้านนะคะ แต่เนื่องจากตัวเองไม่ค่อยใช้สัญลักษณ์พวกนี้ ใช้เป็นแต่ :P หรือ :) หรือ :( โบราณมากเลยใช่ม้า ^ ^ อันนี้ก็เพิ่งมารู้จักที่นี่นะเนี่ย บางสัญลักษณ์ยังดูไม่เป็นเลยค่ะว่าหมายถึงอะไร เลยออกจะรำคาญนิดๆ เวลาต้องผจญกับพวกอีโมทั้งหลาย

 

19. อะไรที่คุณอยากจะให้คำแนะนำ คนที่ปรารถนาอยากจะเป็นนักเขียนที่เขียนได้จบเรื่องบ้าง

เริ่มเขียนสิคะ ลงแรลลี่เจ็ดเลย สัญญาว่าจะไปช่วยกดดัน เอ้ย ! ไปให้กำลังใจให้เขียนให้จบ

 

20. ช่วยเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่จะเขียนต่อไปด้วยค่ะ

ความจริงหลังจากเริ่มภพรักไปสักเดือน เดือนครึ่ง ก็เริ่มเขียนอีกเรื่องไปแล้วน่ะคะ ตอนนี้จบแล้วแต่กำลังคิดอยู่ว่าจะเอามาลงให้เพื่อนช่วยติชมดีไหม อีกเรื่องที่กำลังเขียนอยู่ รู้สึกว่าอยากขยายวงศัพท์ของตัวเองค่ะ บวกกับอยากเขียนอะไรที่มันไกลตัวมากๆ ดูสิว่าจะจินตนาการไปถึงหรือเปล่า ยังตั้งชื่อเรื่องไม่ได้เลยค่ะ (เอาอีกแล้วคับท่าน ภพรัก จบแบบชื่อขอยืมคนอื่นมา นี่เอาอีกแล้ว) เพิ่งเขียนไปได้ตอนสองตอน ยังไม่เห็นโครงเรื่องชัดเจนเลย แต่คร่าวๆ เป็นเรื่องความรักระหว่าง “ อัคนิรุทร ” ราชาแห่งปาล ผู้ที่ใครก็กล่าวขานถึงความเหี้ยมโหด กับ “ สีตรธร ” เจ้าหญิงแห่งเขมรัฐ หญิงสาวที่ทำทุกทางเพื่อให้หลุดพ้นจากการตกเป็น “ เครื่องมือทางการเมือง ” ระหว่างสองแคว้น คร่าวจริงๆ งานนี้ไม่มีเสื้อเหลืองเสื้อแดงนะคะ ต้องบอกว่าเขียนได้ฝืดมากถึงมากที่สุด ตอนแรกจะเอาไปลงแรลลี่เจ็ด แต่ดูอาการแล้ว ไม่รอดชัวร์ เลยส่งเข้ามาสเตอร์พีซ ไปแล้ว

 

สุดท้ายขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจเหลือเฟือจากทุกท่านในฟอร์นะคะ จะเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากเขียนด้วยเหมือนกันค่ะ

 

:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:

 

ติดตามงานเขียนเรื่อง ภพรัก

ได้่ที่กระดานแรลลี ห้องหมายเลข 6 ค่ะ

 

อ่านสัมภาษณ์นักเขียนแรลลีท่านอื่น ๆ

 

.

ห้องมือใหม่
ห้องสร้างนักเขียน
การเขียนนวนิยายต่าง ๆ
Idea bank
ฝึกเขียนเรื่อง

ร้านหนังสือ

 

 
ฟรี E-book
 
 



 

  http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.