ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่
 
  สวัสดีวันจันทร์ "ทำให้เรื่องแย่ๆ แผ่ไปในนวนิยาย"  
 
 

ฟีลิปดา

22 มิ.ย. 58
เวลา 10:05:43

พิมพ์
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน

สวัสดีวันจันทร์ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๘
ผ่านมาจนถึงวันนี้ พี่ฟีจึงคิดได้ว่า ตัวเองลืม!
ลืมชวนพวกเราเขียน 100 หน้าใน 45 วัน ฮ่าๆๆ
แถมยังลืมที่จะชวนพวกเรา รีไรต์เรื่องที่เขียนจบแล้ว
เรื่องทีเขียนไม่จบ เรื่องแต่ละเรื่องที่ยังไม่เสร็จนั่นแหละ ^--^
โครงการเขียนทั้งปีของเรา เลยขาดช่วงไปเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นเพราะพี่ฟียุ่งแต่งานตัวเอง
มีทริปไปเที่ยวช่วงนั้นด้วย เลยลืมค่ะ ต้องขอโทษทุกๆ คนด้วย
แต่เมื่อผ่านไป ก็ให้มันผ่านไปเนอะ ฮ่าๆๆๆ
เพราะแม้พี่ฟีจะไม่ชวน พวกเราก็คงจะทำกันเองเป็นอยู่แล้ว
สิ่งใดที่ทำออกมาจากความมุ่งมั่นภายในของตัวเอง
มักจะสำเร็จกว่าทำเพราะมีสิ่งกระตุ้นจากภายนอกค่ะ ^--^

มาพูดถึงเรื่องแย่ๆ ในนวนิยาย ความจริงพี่ฟีหมายถึง conflict
การแผ่ขยายปัญหา ให้กับตัวละคร เพื่อสร้างพล็อตค่ะ

ในชีวิตจริงบางคนเวลามีปัญหาเกิดขึ้น ก็มักจะคิดว่ามันแย่
แล้วจิตก็มโนไปเรื่อย แล้วความแย่ๆ ต่างๆ
ก็จะตามมาได้หลายอย่าง หลายระดับหลายเรื่อง
แต่พอจะหาปัญหามาให้ตัวละคร ก็กลับคิดไม่ออกเสียนี่ ฮ่าๆๆ

บางคนเขียนไปแล้ว ก็มักจะคิดว่า เรื่องของตัวเองไม่มีอะไร
มันราบเรียบไป มันเบาโหวงไป มันหาอะไรมาเป็น ปมปัญหาไม่ได้ ฮ่าๆๆ

มาทบทวนกันเสียหน่อยค่ะว่า
ปัญาหา มี 2 อย่างคือ ภายนอก กับภายใน
ภายนอก คือเหตุการณ์ที่เราเห็นว่ามันเกิดขึ้น ฮ่าๆๆ
ภายใน คือ ความว้าวุ่นใจ การตัดสินใจ ความฟุ้งซ่าน ความคิด ทางเลือก ฯลฯ ของตัวละคร
(ถ้าเขียนนวนิยายรัก ให้ตระหนักในจุดนี้มากๆ ค่ะ )

ปัญหาภายนอก
- บ้านไฟไหม้
ปัญหาภายใน
- จะยอมแต่งงานกับคนรวยเพื่อช่วยครอบครัว หรือจะยอมทนอยู่อย่างจนๆ ด้วยศักดิ์ศรี
แต่ทว่า พ่อแม่ล่ะ ท่านแก่เฒ่าแล้วนา จะอกตัญญูเกินไปเปล่า
(ยกตัวอย่างง๊ายง่าย ฮ่าๆๆ)
แล้วการตัดสินที่จะทำอะไรออกมา ก็สร้างปัญหาต่อไป (ให้คิดเอง)
ปัญหาเล็กหรือใหญ่ มันอยู่ที่วิธีคิดของตัวละครนะคะ
เลือกมาเถอะว่ามันจะเป็นอะไรก็ได้
ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร
มันขัดขวางไม่ให้ตัวละครไปถึงเป้าหมายที่มุ่งหวัง
เลือกมาเถอะน่า! ความสมจริงอยู่ที่เราแสดงให้คนอ่านเห็นว่า
มันสร้างความจะเป็นจะตายทุรนทุรายให้กับตัวละครมากแค่ไหน
ต่อให้เราบอกว่านี่เป็นปัญหาใหญ่นะ
แต่ถ้าตัวละครไม่ได้เดือดร้อนไปกับมัน จนต้องหาทางออก
มันก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ


ปัญหานี่ก็ดูว่า จะเกิดกับคู่กรณีไหนบ้าง
คน-คน / คน-ธรรมชาติ / คน- เครื่องจักร / คน-พระเจ้า ความเชื่อ สังคม / คน-ฯลฯ
(ไปทบทวนเพิ่มเติมได้ที่ 100 คำถามสร้างนักเขียนนะคะ ^--^)

ยังมีอีก...ปัญหาเท่าไหร่ถึงจะพอ
โอ...อันนี้ก็แล้วแต่จะคิดได้นะคะ เรื่องของใครก็เรื่องของมันค่ะ ^--^
แต่มาคิดเล่นๆ แบบ ใช้กฏ 3 ใน 4 นะคะ
(ฮ่าๆๆๆ ใครจะตั้งเท่าไหร่ก็ตั้งไปนะคะ ไม่มีถูกผิด)
กฏ 3 ใน 4 จะเอาไปใช้ในปัญหาใหญ่ๆ
หรือเล่นแกล้งเป็นเรื่องขลุกขลักให้กับตัวละครก็ได้

ปัญหาใหญ่ในเรื่องที่เป็นประเด็น
ให้ตัวละครใช้ความพยายาม 3 ครั้ง
แล้วครั้งที่ 4 จึงแก้เรื่องนั้นได้ แต่ๆๆๆ
ทำให้มันไปสร้างปัญหาอันใหม่ต่อไปนะคะ
เป็นลูกโซ่ไปเรื่อย จนกว่า เรื่องของเราจะจบ

สำหรับเป็นซีนเล็กๆ ในระหว่างทาง ใส่ความขลุกขลักเข้าไป
เพื่อที่จะทำให้เรื่องของเราดูเหมือนมีชีวิตอยู่เสมอ
(หรือช่วยเสริมให้คนอ่าน รู้จัก เข้าถึงตัวละครมากขึ้น)
ก็ให้มีอะไรขลุกขลักสัก 3 อย่าง มีอะไรให้ลุ้นเล็กๆ น้อยๆ
ประมาณ จะต้องไปนำเสนองานครั้งแรก อ้าว...
1 นาฬิกาไม่ปลุก สายๆๆๆ
2. แม่โทรมาฟ้อง พ่อไม่กลับบ้าน จะไม่คุยด้วยก็ไม่ได้
3. อ๊าก ก๊อปปี้ไฟล์งานผิด ต้องกลับไปเอาทำนองนั้น ฮ่าๆๆๆ
แล้วทุกอย่างก็ผ่านไปได้ ก็ไม่ได้มากมายอะไรทำนองนั้น
เพราะเรามุ่งแค่ให้มันขลุกขลัก ไม่ได้ให้ส่งผลในเรื่องอะไรมากมาย
(ถ้าหวังผลต่อเนื่อง ก็ว่ากันไปได้ค่ะ ^--^)

กระบวนการเขียนของแต่ละคน ก็แล้วแต่วิธีคิด
บางคนอาจจะต้องให้แน่น ต้องพร้อมแล้วลงมือเขียน
บางคนอาจจะคิดว่า เขียนแย่ๆ ในตอนแรกก็ได้
แต่เวลารีไรต์ต้องทำแบบ เยี่ยมๆ ปนเหี้ยม กับต้นฉบับตัวเอง

แต่ไม่ว่าจะเขียนแบบไหน เขียนได้ดีเลิศลอยเพียงใด
แต่ถ้าเขียนไม่จบ ก็ไม่อาจจะเป็นหนังสือได้ค่ะ!

ขอให้ทุกเรื่องที่เขียนค้างคากันเอาไว้
เอามาเขียนให้จบกันทุกคนนะคะ
(นี่เป็นการย้ำให้ตัวเองเหมือนกันค่ะ)

เป็นกำลังใจค่ะ
ฟีลิปดา
^--^
 


  คำตอบที่ 1  
 

copter

22 มิ.ย. 58
เวลา 10:11:24
ตั้งใจจะรีไรต์เรื่องที่เขียนจบ ส่งสนพ.
ตั้งใจจะเขียนนิยายไปเรื่อยๆ
ตั้งใจจะอ่านหนังสือให้มากขึ้น ข้อนี้เริ่มทำได้
ตั้งใจจะขยัน
สู้ๆ ค่ะ ฮี่ๆ
 


  คำตอบที่ 2  
 

tomandjerdy

22 มิ.ย. 58
เวลา 10:56:51
ข้อคิด-ของดี มีให้เซฟเก็บทุกวันจันทร์ ขอบคุณค่ะคุณฟี ^^
 




  เชิญกรอกข้อความเพื่อตั้งคำถาม  
  กรุณา login เพื่อตอบคำถาม