ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่
 
  สวัสดีวันจันทร์ "ลงมือเขียนนวนิยายแต่ละเรื่องอย่างไร"  
 
 

ฟีลิปดา

19 ม.ค. 58
เวลา 10:19:39

พิมพ์
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน


สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๘ ค่ะ
วันนี้มาแลกเปลี่ยนกันเรื่อง
การลงมือเขียน นวนิยาย ของพวกเราแต่ละคนกันดีกว่า
วิธีการทำงานของแต่ละคน อาจจะเหมือนกัน อาจจะต่างกัน
แต่...ความสำเร็จคือเขียนได้จบ คือเครื่องบ่งบอกว่า
วิธีการทำงานนั้น เข้ากับตัวเราแล้วค่ะ

แต่บางคนอาจจะมีปัญหา
มันก็จบนา แต่มันไม่สนุก มันไม่ผ่าน มันไม่ดี มันไม่ๆๆๆๆๆ
อันนั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่ต้องมาแก้ไข ปรับปรุง
ใส่เนื้อ ใส่น้ำ ปรุงรส เรื่องของเรากันใหม่ได้ค่ะ
การรื้อนวนิยาย ไม่ยากเหมือนรื้อบ้านที่สร้างเสร็จแล้วหรอกค่ะ
มันง่ายกว่ากันเยอะ หากว่าจะไม่ขี้เกียจไม่เบื่อไปเสียก่อน

มาเริ่มที่มักจะมีคำถาม พล็อต หรือ ตัวละคร
สำหรับพี่ฟีแล้ว บางทีเรื่องที่คิดได้ ก็เริ่มจากพล็อตเหตุการณ์ค่ะ
แล้วก็ไปหาตัวละครมาใส่ ว่าคนแบบไหน เหมาะกับเหตุการณ์
ที่เรากำลังจะเล่า
แต่บางเรื่องก็จุดประกายจากบุคลิกของตัวละคร
ตัวละครแบบนี้ ต้องเจอกับอย่างนี้
แล้วจากนั้นมันก็จะประสมประสานกันไป
เพราะคนต้องอยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีคนก็ไม่มีเรื่องจะเล่า ฮ่าๆๆ
มีคนแล้วเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมกับเขา ก็ไม่สนุก ^--^
ดังนั้น อะไรก็ได้ ที่ทำให้คุณคิดเรื่องได้สนุกๆ ที่คุณชอบ
ใส่มันลงไป วางโครงเรื่องมันลงไป

แต่ละเรื่องที่เขียน บางทีคิดได้ ไม่เรียงกันตั้งแต่ต้นจนจบ
บางเรื่อง ได้เหตุการณ์เป็นหย่อมๆ
1...3... 8...12...14
ขาด 2 ก็ไปหา 2 เพื่อจะทำให้เกิดเหตุการณ์ไปถึง 3
ขาด 4 5 6 7 ก็ต้องไปหา ให้ได้ 8
แต่บางที หาแค่ 4 5 มันก็น่าจะถึง 8 ได้ เราก็ปรับ 8 เป็น 6

คิดจากหน้าไปหลัง จากหลังไปหน้า
หากใช้สูตรบังคับตัวเอง 120 หน้า
เขียนบทละ 6 หน้า ประมาณ 20 บท ก็จบ
ใน 6 หน้า จะเขียน 2 ซีน ก็ซีนละ 3 หน้า
ก็ว่ากันไป ...ยืดหยุ่น... ปรับเปลี่ยน
ไปตามความคิด ความเหมาะสม ในเรื่องของเรา
ไม่มีของตาย จนแก้ไขไม่ได้ ค่ะ ฮ่าๆๆๆ

บางทีพี่ฟีก็ชอบที่จะกำหนดเอาไว้ค่ะว่า เรื่องนี้จะเขียนกี่หน้า
จะเขียนกี่บท ก็แค่กำหนดเอาไว้ หากเขียนจริงแล้วไม่ถึง
หรือพอรีไรต์แล้วมันเกินมา ก็ตามนั้น
เพราะฉนันการที่กำหนดหน้า เอาไว้ก่อน พี่ฟีจึงกำหนดบทที่จะเขียนได้
ปกติก็จะเขียน 8-10 หน้าต่อบท บทละ 3 ซีนประมาณนั้น
เวลาหาเหตุการณ์มาใส่ ก็จะวางเป็นไว้เป็นช่องๆ ตามบทนั้นเลย

วิธีหาเหตุการณ์ มาใส่ในเรื่อง จะคิดหมดค่ะทั้ง
สถานที่ บุคลิกตัวละคร บรรยากาศ อารมณ์ตัวละครเป็นบวกเป็นลบ
เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจะเป็นบวกเป็นลบ
จะเป็นตอนผ่อนคลาย หรือจะเป็นตอนผลักดันให้เกิดจุดพีคสักอย่าง
ตอนคิด ก็พยายามจะครอบคลุม ทุกอย่างที่คิดได้
คิดให้มากเอาไว้ก่อน แต่ตอนจะเขียน เราก็สามารถตัดทอน
หรือบางทียังบวกเพิ่มได้ บางครั้งเวลาคิดใหม่
มันอาจจะถูกใจกว่าอันแรก

สำหรับพี่ฟีแล้ว ความคิดครั้งแรกไม่ใช่ความคิดที่ดีเสมอไป ในการเขียนนวนิยายค่ะ
ดังนั้น ขอให้เขียนให้จบครั้งแรกเถอะ พี่ฟีจะสนุกในการรีไรต์มากค่ะ ฮ่าๆๆๆ

อย่าทิ้งแรงกระตุ้นอยากเขียนของเราเอาไว้
แล้วไปทำอย่างอื่น ถ้าคิดได้ให้รีบเขียน เขียนให้มันสุดใจ
แล้วค่อยกลับไปยังงานเดิมที่ค้างเอาไว้

อ้าว แต่บางคนก็ คิดไปได้ใหม่เรื่อยๆ
จนไม่อาจจะกลับมาหาเรื่องเดิมได้ ฮ่าๆๆๆ
ไอเดียพุ่งพล่านซะเกิน
ก็กลับมาถามตัวเองแล้วกันว่า
ไอ้ที่คิดได้ใหม่ กระปริบกระปรอยนั่นน่ะ
เอามาใส่ในเรื่องเดิมที่มีอยู่แล้วได้ไหม
ใส่เข้าไปทำให้มันจบสักเรื่องก่อนไหม
จะได้ไม่ต้องไปเริ่มหัวข้อใหม่ แล้วไม่จบเสียที ^--^

ตอนนี้ใครสนใจที่จะลงแข่งเขียน ก็ลงชื่อได้แล้วนะคะ
ดูเหมือนพวกเราจะมาลงชื่อกันสิบกว่าคนแล้ว
พี่ฟีจะมาทยอยเก็บชื่อจนถึงวันที่ ๓๐ มกราคมนะคะ

เป็นกำลังใจให้ทุกคน
ฟีลิปดา
^--^
 


  คำตอบที่ 1  
 

copter

19 ม.ค. 58
เวลา 10:55:07
ขอยคุณค่าพี่ฟี มีประโยชน์มากๆๆ
กำลังทำไปด้วย อิอิ
 


  คำตอบที่ 2  
 

ไฟลั่มโบโบ้v2

19 ม.ค. 58
เวลา 15:57:05
มาแชร์บ้างครับ หลังจากอ่านที่พี่ฟีเขียนแล้วได้ไอเดียกลับไป

เรื่องสั้นไซไฟ ผมจะเริ่มจาก ไอเดีย/แนวคิด ที่ได้จากการอ่าน ฟัง นึกเอาแบบแว่บมาในความคิด ไอเดียหรือfact เช่น การค้นพบยีนส์ที่ทำให้มนุษย์ฉลาด ,การเดินทางข้ามเวลามีความเป็นไปได้มากขึ้น, มนุษย์ในยุคโบราณเคยอาศัยร่วมกับมนุษยืต่างดาวมาก่อน ประมาณนี้

ไอเดียเหล่านี้หาอ่านได้ ตามวารสารวิทยาศาสตร์ ข่าวสาร blog web ต่างประเทศ คอลัมน์ข่าววิทย์ในหนังสือพิมพ์

จากนั้นจะ"คิดตอบจบ"ครับ ต้องแบบหักมุมเท่านั้น (ซ่อนไม่ให้คนอ่านเดาได้) เพราะถ้าไม่หักมุมก็ไม่น่าสนใจครับ เรื่องแต่งต้องมีการทำให้คนอ่านแปลกใจเป็นช่วงๆ (เช่น แฮรี่พอตเตอร์ครับ หักมุมทุกบท มันจึงวางไม่ลง) แล้วค่อยคิดย้อนกลับไปที่ตอนเปิดเรื่อง

จากนั้นเอาตัวละครใส่ลงไป ใส่ธีมของเรื่อง และสิ่งที่จะให้คนอ่านว่า เราต้องการบอกอะไรเป็นความคิดรวบยอด เช่น ความตายเป็นสิ่งที่เราหนีไม่พ้น หรือ ถ้าล้มแล้วไม่พยายามลุกก็คือตาย หรือ ไม่มีใครรักเราเท่าตัวเราเองหรือพ่อแม่เรา หรือ บลาๆๆๆๆ

แล้วก็ วางโครงเรื่องครับ เป็นเหตุการณ์เป็นข้อๆ สั้นๆ จะเรียงตามลำดับ เช่น
1. ยานอวกาศตกมายังโลก มนุษย์ต่างดาวออกมาและตามหามนุษย์ที่มีโครโมโซมผิดปกติ
2. มนุษย์ต่างดาวไปที่ รพ. และเจอพระเอก พระเอกไปเฝ้าลูกที่ป่วย
3. บลาๆๆ

สุดท้าย ก็ลงมือเขียนตาม 1 2 3 ... ไปจนจบ ใส่รายละเอียด บรรยาย สนทนา เล่าเรื่อว จนไปถึงตอนจบซึ่งผมจะพาคนอ่านไปจนต้องประหลาดใจ คือจะมีบางอย่างที่ปิดเอาไว้ ให้คนอ่านsurprise รอเฉลยตอนจบ

ผมใช้วิธีนี้ครับ เขียนเรื่องสั้นไซไฟ เรื่องผี และนิยายที่เขียนจบลงนิตยสารฉบับหนึ่งไปสองเรื่อง

แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องมีอารมณ์ที่พลุ่งพล่านครับ คืออารมณ์มา ไอเดียมา ต้องรีบเขียนเลย เขียนทันที ทิ้งไว้ไฟมันจะมอดหายและแรงเฉื่อยจะมา จนกลายเป็น writer block ^_^
 


  คำตอบที่ 3  
 

tomandjerdy

19 ม.ค. 58
เวลา 20:30:06
ได้เซฟเก็บความรู้อีกแล้ว ขอบคุณค่ะคุณฟี
 


  คำตอบที่ 4  
 

สิริเลขา

19 ม.ค. 58
เวลา 20:43:42
มาเก็บข้อมูลค่ะ ส่วนวิธีการของตัวเองนั้นสะเปะสะปะ นึกอยากเขียนก็เขียน ไม่ค่อยมีการวางแผนเท่าไหร่ ต่อไปตั้งใจว่าจะทำให้เป็นระเบียบมากขึ้นให้ได้ค่ะ
 


  คำตอบที่ 5  
 

มะนอแน่

20 ม.ค. 58
เวลา 22:11:34
ขอบคุณค่ะพี่ฟี

กำลังวางแผนเรื่องที่จะเขียนเหมือนกันค่ะ เพราะที่ผ่านมานึกอยากจะเขียนก็เขียน แต่พอหยุดนิดหนึ่งก็จะลืม ตั้งใจไว้แล้วค่ะว่าจะวิวาห์กับคุณวินัยให้ได้ รอบนี้ขอจบสักทีเถอะเพี้ยงงงงงง
 


  คำตอบที่ 6  
 

แครอทสีส้ม

26 ม.ค. 58
เวลา 10:04:24
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆในการเขียนค่ะ
 


  คำตอบที่ 7  
 

คุณพีทคุง

31 ม.ค. 58
เวลา 23:14:06
(ย่องมาอ่าน)
 




  เชิญกรอกข้อความเพื่อตั้งคำถาม  
  กรุณา login เพื่อตอบคำถาม