ฟีลิปดา
13 ต.ค. 57
เวลา 10:40:26
พิมพ์
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน |
สวัสดีวันจันทร์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๗ ค่ะ
อีกสองสามวัน งานมหกรรมหนังสือก็จะเริ่มแล้วค่ะ
งานนี้ ก็จะมีเพื่อนของเราไปแจกลายเซ็นด้วยนะคะ
ก็มี ลุงทอม ที่เขียนแรลลีกับพวกเราจบทุกรอบ
และทุกเรื่องของลุงทอม ก็ได้ตีพิมพ์ค่ะ ตอนนี้กำลังทยอยๆ ออกมา
วันที่ ๑๙ ตุลาคมนี้ก็ไปเจอ ลุงทอม หรือ ทอม สิริ ได้ที่บูธกรีนมายด์ค่ะ
ส่วนเพื่อนเราอีกคน สายธาร ซึ่งตอนนี้ใช้นามปากกา รัณณา
ก็จะไปแจกลายเซ็นที่บูธแจ่มใสค่ะ วันที่ ๑๘ ตุลาคม (คงจำไม่ผิดนะ ^--^)
ก็ไปให้กำลังใจกันนะคะ
จากนั้นก็ไปเลือกซื้อหนังสือ ที่ใครมีรายการเอาไว้แล้ว ก็สบายล่ะ
แต่ถ้าใคร กะจะไปเดินดูๆ ก่อน ถูกใจค่อยซื้อ
อันคำว่า ถูกใจ นี่ ดูตรงไหนกัน เพราะการจะไปยืนอ่านเสียให้ถูกใจ
บางทีมันก็อาจจะนานไปสำหรับการไปงานหนังสืออย่างนี้
ชื่อเรื่อง...นี่ต้องเรียกร้องให้สนใจ
ปกหนังสือ... นี่ก็เชิญชวนให้หยิบขึ้นมาดู
คนแต่ง นามปากกา... นี่ก็อาจจะไม่สำคัญ (ถ้าเราไม่ติดนามปากกาเกินไป)
แต่ที่สำคัญขาดไม่ได้ และอาจจะเป็นตัวชี้ขาดว่า จะซื้อไม่ซื้อ
คือ...คำโปรยปกหลัง สำคัญเนอะอันนี้
ทำยังไงจะเขียนคำโปรยปกหลัง ให้เชิญชวนอยากซื้อ
และไม่เป็นการหลอกคนอ่านด้วย ฮ่าๆๆๆ
สำหรับนักเขียนที่ส่ง สำนักพิมพ์ อาจจะไม่มีปัญหาอันนี้มากเท่าไหร่
เพราะมีคนช่วยคิดช่วยทำช่วยเขียน
แต่สำหรับนักเขียนที่พิมพ์เองขายเอง ทำเองหมดนี่
โห...บางทีมันก็อึ้งๆ คิดไม่ออกเอาเหมือนกัน ( พี่ฟีเองแหละ ^--^ )
คำโปรยปกนี่บางคนก็บอกคล้ายๆ เรื่องย่อ
แต่ความแตกต่างมันมีคือ โปรยปกสั้นกว่า
และไม่ได้บอกทั้งหมด ไม่สปอยล์เรื่องว่างั้นเถอะ
จะดึงเฉพาะจุดที่เรียกร้องความสนใจขึ้นมา
ก็ไปอ่านเจอคำแนะนำหลากหลาย
เอามารวมๆ กัน แล้วเขียนออกมา เป็นต้นว่า
แนะนำพล็อตว่าเป็นในแนวไหน
ใช้คำที่ให้เห็นภาพ ให้คนอ่านพอจะรู้ว่าเป็นแนวไหน
กล่าวถึงตัวละครในเรื่อง ชื่อพระเอกนางเอก บวกกับสถานการณ์ของพวกเขา
เช่น เสนอความขัดแย้งภายในใจของตัวละคร หรือความเชื่อ เป้าหมาย
บ่งบอกถึงสิ่งที่เป็นความขัดแย้งภายนอก
ภาวะการณ์ที่ตัวละครที่จะต้องเลือก ประมาณทิ้งท้ายคำถามน่ะ ^--^
บอกถึงสถานที่ว่าเรื่องมันจะเกิดอยู่ที่ไหน
สร้างคำถามในใจคนอ่าน เพื่ออยากจะเข้าไปหาคำตอบ กระตุ้นการอยากรู้อยากเห็น
เอาคำพูดเด็ดๆ ในเรื่องมาประกอบ
ฯลฯ
อะไรก็ได้ที่จะเชิญชวน กระตุ้นให้คนอ่านอยากรู้ ในสิ่งที่เราไม่ได้บอกเอาไว้
จะฝึกเขียนคำโปรยปกหลังนี่ ต้องศึกษาเหมือนกันนะคะ
ไปอ่านๆๆๆๆ ที่เขาเขียนกัน
แล้วมาเริ่มที่เรื่องย่อๆ ของเราก่อน กลั่นจากตรงนั้นออกมา
(แต่บอกแล้วนะว่า โปรยปก ไม่ใช่เรื่องย่อที่มีต้น กลางจบ สมบูรณ์)
แถมจะเขียนคำโปรยนี่ ก็ต้องมีสไตล์เหมือนกันนะ
น้ำเสียงที่เขียนออกมาเชิญชวน มันต้องสอดคล้องกับเรื่อง
พอเขียนเสร็จก็ต้องมา อ่าน มารีไรต์ อันไหนฟุ่มเฟือยยาวไปก็ตัดออก
อันไหนไม่จำเป็นต้องบอกให้รายละเอียดให้รก ก็เอาออก
จะมีกี่ย่อหน้า ความยาวเท่าไหร่ (ก็ไม่น่าจะเกิน 100-250 คำนะ ก็ว่ากันไป)
จะใช้ฟ้อนต์ขนาดไหน สีอะไร ฟ้อนต์แบบไหน ก็ต้องเลือก
พอเขียนแล้วลองเอาวางที่ปกหลังดูสิ สวยไหม เด่น อ่านง่ายไหม ฮ่าๆๆๆ
ก็ประมาณนั้น
ดังนั้น หากพวกเราไปงานหนังสือ เลือกซื้อหนังสือก็ลองอ่านปกหลังนะ
แล้วเช็กดูว่า เขาเขียนปกหลัง แล้วใส่อะไรลงไปบ้าง
เขียนได้ลื่นไหลไหม มันเชิญชวนเราไหม
อ่านให้ได้สัก 20-30 เล่มนะคะ
แล้วลองเอามาหัดเขียนกับนวนิยายของเราเอง
เพราะคำโปรยปกหลัง ก็เป็นไอเดียนำเสนออย่างหนึ่ง
ที่จะทำให้เราคนเขียนเอง วางกรอบเรื่องของตัวเองได้ด้วย
มีความสุขในการเตรียมตัวไปเลือกซื้อหนังสือมา ให้ได้อ่านนะคะ
จัดเต็มไปเลยค่ะ
ฟีลิปดา
^--^
ปล. ใครเคยไปเจอคำโปรยปกหลังเล่มไหน
ที่กระแทกใจ จนต้องซื้อ ก็มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
^--^
|
