ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่
 
  คืนสยองฯ...คืนสุดท้าย (กระดานฟ้าเข้าไม่ได้)  
 
 

iloverally

30 พ.ย. 56
เวลา 22:25:10

พิมพ์
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
บทที่ ๒๔ (จบ)
หลังจากมิ่งกมลกับพี่ขอนไม้กลับไปแล้ว ฉันก็ต้องมาทบทวนชีวิตของตัวเอง ว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี แถมวันลาก็ใกล้จะหมดแล้วด้วย ฉันยังมีหน้าที่ต้องทำ งานที่ต้องรับผิดชอบ ชีวิตกลางคืนที่ไปกำจัดพวกซอมบี้ยังมีอยู่ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะกลับพรุ่งนี้ ในเมื่ออยู่ที่นี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร รอให้เขาหายดีเสียก่อนก็คงจะได้เจอกันอีก เมื่อคิดได้อย่างนั้นฉันเลยจะขอไปเยี่ยมเขาอีกครั้ง ก่อนจะกลับไปยังที่พักเจิดจรัสเพื่อเตรียมเก็บของกลับบ้านและฉันตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะออกเดินทางเลย จะไม่มาแวะที่โรงพยาบาลอีก ราชาซอมบี้ไม่มีอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าตำรวจจะปิดข่าวแต่นักข่าวก็ยังระแคะระคายข่าวนี้อยู่ดี และเอาไปเขียนเป็นกรอบข่าวเล็กๆ ในหน้าหนึ่ง ‘ตำรวจออกหมายจับเจ้าของบริษัทเกม บงการฆ่าเกมเมอร์ชื่อดัง รอดตายอย่างหวุดหวิดแต่อาการสาหัสยังไม่พ้นขีดอันตราย’
เรื่องราชาซอมบี้เลยแพร่หลายขึ้นมา ฉันถือว่าเป็นเรื่องดีทีเดียว เพราะพวกนักล่ารางวัลคนอื่นๆ คงจะได้เข้าใจเสียทีว่าถูกหลอก และเงินรางวัลที่ว่าก็ไม่มีอยู่จริง ต่อไปใครๆ จะได้ไม่เข้าใจเขาผิดว่าเป็นราชาซอมบี้อีกต่อไป กลับไปใช้ชีวิตตามปกติไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ฉันไปที่ห้องพักฟื้นที่เขาเพิ่งย้ายมา ขออนุณาตหมอเพื่อเยี่ยมเขานานหน่อย แม้จะรู้ว่าอาจจะเป็นการรบกวนการพักผ่อนของคนไข้ สภาพคนโดนซ้อมน่วมบนเตียง ทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ ใบหน้าและตามลำตัวมีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเขาก็คงจะกลับไปหล่อเหมือนเดิม พร้อมกับที่นักข่าวขุดคุ้ยประวัติของเขาออกมา ว่าเป็นใคร ทำไมถึงได้โดนไล่ล่าขนาดนั้น และอาจขอนัดสัมภาษณ์ออกรายการโทรทัศน์เสียด้วยซ้ำไป เป็นเรื่องลวงโลกที่น่าจับตามอง
ฉันเดินไปยืนข้างเตียงและพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองบาดแผลตามตัวของของลุงบรรพต สิ่งที่อยากจะพูดอยากจะบอกฉันนึกไม่ออกจริงๆ แต่ในที่สุดก็หาเรือ่งพูดออกมาจนได้
“ราชาซอมบี้เดี้ยงขนาดนี้ ฉันน่าจะถ่ายรูปเอาไว้แบล็กเมล์นะ ฉันจะกลับพรุ่งนี้ ขอให้คุณหายไวๆ นะคุณบรรพต แล้วต่อไปอย่าได้รับตำแหน่งราชาซอมบี้ที่ไหนอีก คงรู้แล้วสินะว่าต้องเสี่ยงชีวิตขนาดไหน ฉัน...ฉันเป็นห่วง เอาล่ะ ฉันไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว หายไวๆ นะคะ ล่าก่อนค่ะ” ฉันพูดจบประโยคและได้แต่ยืนอยู่ที่เดิม รู้สึกบอกไม่ถูก ฉันจะไม่ได้เห็นหน้าเขาอีก และไม่รู้ว่าเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่กว่าเขาจะหายดีออกจากโรงพยาบาลได้ก็คงจะหลายอาทิตย์อยู่เหมือนกัน ใช้เวลารวบรวมกำลังใจได้ก็หันหลังเดินไปที่ประตู ก่อนจะออกไปเหลียวกลับมาดูเขาอีกครั้ง ในใจขอให้เขาปลอดภัยไม่มีโรคแทรกซ้อนอะไร เพราะเขาโดนซ้อมหนักมาก
เมื่อคิดถึงหน้าที่ของตัวเอง ทำให้มีเป้าหมายและกำลังฮึดสู้ต่อไป ฉันเลยเริ่มพักผ่อนหย่อนใจโดยการเข้าร้านสะดวกซื้อในตึกของโรงพยาบาลนั้นเอง เพราะฉันก็รู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและก็จบไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ยังเช้าอยู่และฉันคิดว่าจะออกสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ นี้โดยที่ต้องไม่ต้องเดินทางไปหลายชั่วโมง เพื่อใช้วันหยุดให้คุ้มค่าหน่อย นับตั้งแต่มาที่นี้ไม่ทันไร ก็โดนจับตัวไปแล้วก็มาโดนมัด พอฉันฟื้นมาอีกทีก็ต้องผจญกับพวกซอมบี้เพื่อเอาชีวิตรอด จากนั้นก็หลับยาว แล้วก็มาสิงสถิตอยู่ที่โรงพยาบาลแทบไม่ได้ไปไหน ฉันได้เอาผ้าพันคอที่เขาให้ไว้เอามาใช้ด้วย ต่อไปน่าจะหยิบมาใช้บ่อยๆ อาจเพราะผ้านิ่มและสีสันที่ชอบ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าใครเป็นคนให้ฉันคิดว่าอย่างนั้นนะ เอาล่ะลาก่อน ฉันคิดอย่างมุ่งมั่นแล้วเดินออกจากโรงพยาบาลไปพร้อมกับขนมถุงใหญ่
-
หนึ่งเดือนผ่านไป ฉันกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติได้เจอมิ่งกมลกับพี่ขอนไม้บ้าง สองคนนี้ดูจะทำตัวสวีตหวานแหววกว่าเดิม เจอกันทีไรก็เล่าว่าไปเที่ยวต่างจังหวัดกันอีกแล้ว ฉันได้รับของฝากจนกินพื้นที่ในห้องพักของฉันพอสมควร ไม่รู้ว่ามิ่งกมลเห็นฉันเป็นญาติผู้ใหญ่หรือไงนะ ถึงได้หอบข้าวของมาฝากเยอะแยะไปหมด เพื่อนที่ทำงานร้านวีดีโอเช่าก็ไม่มีอะไรเปลื่ยนแปลง ไม่สิ เว้นเชอร์รี่คนเดียว ที่ยังดูเหมือนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ริจะเป็นนักล่ารางวัลก็ควรจะหาข่าวให้มันชัวร์เสียก่อน ไม่ใช่ฟังแต่ข่าวโคมลอย จนเกือบจะฆ่าคนบริสุทธิ์ไปแล้ว ต๋องก็ยังเล่นเกมออนไลน์เหมือนเดิมและดูเหมือนจะหาแฟนได้แล้ว เป็นพวกเพื่อนที่เล่นเกมด้วยกันนั้นแหละ ฉันมีงานอดิเรกใหม่นั้นคือ รับตกแต่งตู้ไปรษณีย์ ทาสีใหม่วาดลวดลายต่างๆ เอาตุ๊กตาเรซิ่นน่ารักๆ มาติด เพิ่มความโดดเด่นให้สวยสะดุดตา แปลกใหม่ไม่ซ้ำบ้านอื่น ตอนแรกฉันเอากล่องไม้มาทำไว้ใส่ของไว้ใช้เอง พอคนอื่นเห็นเลยติดต่อและขอให้ฉันช่วยทำให้หน่อย ฉันอยู่ว่างๆ ตอนพักกลางวันที่ทำงานเลยใช้เวลานั้นทำงานอดิเรก ฉันเน้นความสุขมากกว่ารายได้เสริมอะไร ฉันสนุกที่ได้ไปเดินเลือกหาตุ๊กตาเรซิ่นน่ารักในวันหยุด และแม้จะทำให้ลืมใครบางคนไม่ได้ แต่การมีอะไรให้ทำก็ยังดีกว่า มาใช้เวลาคิดฟุ่งซ่านว่า ทำไมเขาไม่ติดต่อมาบ้าง หรือตัวฉันไม่มีความสำคัญแล้วใช่หรือเปล่า
หกโมงตรงฉันได้ไปยืนเคารพธงชาติในห้องพักพอดี คืนนี้ฉันตั้งใจจะไปล่าพวกซอมบี้ที่ประจำ ร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ญาติของฉันที่กลายเป็นซอมบี้จนป่านนี้ฉันก็ยังหาตัวเขาไม่พบเลย ป่านนี้เขาอาจจะโดนใครเล่นงาน หรือย่อยสลายไปแล้วมั้ง ฉันขอให้เขาไปสู่สุคติแล้วกัน บางทีเขาอาจจะยังเป็นห่วงร่างของตัวเองอยู่ ฉันคิดว่าจะหาเวลาว่างไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ญาติตัวเองสักที หลังจากที่ฉันอาการดีขึ้นพอจะออกจากโรงพยาบาลได้ในตอนที่เกิดเรื่องวันนั้น ฉันก็ย้อนกลับไปหาดาบพร้อมกับลุงเจ้าของที่พักเจิดจรัสหรือคนดูแลนี่แหละ แกอาสาไปเป็นเพื่อน เพราะแกบอกว่าจะต้องไปเอามอเตอร์ไซด์ที่ลุงบรรพตยืมแกไปด้วย เท่ากับว่าฉันมีคนไปช่วยหาดาบเพิ่มอีกสองคนคนขับรถยนต์อีกคน ใช้เวลาสักพักฉันก็เจอดาบ และรู้สึกดีใจจนแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหว ลุงแกตกใจอยู่เหมือนกันที่ผู้หญิงอย่างฉันพกดาบเล่มขนาดนี้ไปไหนต่อไหนด้วย ฉันเลยบอกว่าไว้สำหรับป้องกันตัว ถ้าไม่มีมันก็จะรู้สึกไม่ปลอดภัยทั้งจากคนและพวกซอมบี้ แกพยักหน้าเห็นด้วย
ฉันไปถึงร้านสะดวกซื้อตอนเกือบสองทุ่มแล้ว เพราะไม่ได้รีบร้อนอะไรเดินไปเรื่อยๆ เจอซอมบี้ที่ไหนก็จัดการที่นั้น ปริมาณซอมบี้ในคืนนี้ฉันถือว่ากำลังดี ไม่น้อยไปหรือมากไปจนรับมือไม่ไหว ฉันหยุดพักเล็กน้อยก่อนจะเริ่มลงมือล่าซอมบี้ที่บริเวณลานโล่งแถวร้านสะดวกซื้อ ดูเหมือนว่าคืนนี้จะไม่มีนักล่าซอมบี้กลุ่มอื่นเท่าไหร่ อาจจะมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลแมทต์สำคัญ หรือมีรายการที่พลาดไม่ได้ออกฉายคืนนี้ด้วย นั้นก็คงเป็นสิทธิ์ของเขาว่าจะหยุดทำงานจิตสาธารณะสักหนึ่งคืน ฉันเริ่มตัวแรกด้วยความคล่องแคล่วเช่นเดิม ระยะหลังฉันออกกำลังกายให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความคล่องตัว และช่วยให้ฉันไม่มีปัญหาในการเคลื่ยนไหวหลบหลีก ออกอาวุธได้เร็วขึ้น
หนึ่งชั่วโมงกับซอมบี้สิบกว่าตัว ฉันรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยแต่ยังไม่อยากหยุดพัก แม้ฉันไม่ได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะต้องทำได้สักกี่ตัวแล้วค่อยพักก็ตาม แต่ในเมื่อยังมีแรงอยู่ก็ต้องทำต่อไป ฉันตวัดดาบฟันคอซอมบี้ไปตัวหนึ่ง แต่ไปโดนสายโซ่เส้นโต ทำให้ฉันต้องปรับตำแหน่งเพื่อฟันซ้ำอีกรอบ นี่คงจะเป็นพวกฮิพฮอพแน่ๆ ไม่รู้ว่าไม่หนักหรือไง เอาโซ่มาคล้องคอแบบนั้น ฉันกำลังจะหันไปเล่นงานอีกตัว ก็เหลือบเห็นใครบางคนทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น ลุงบรรพตใช่หรือเปล่าและฉันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเท่าไหร่ เลยมุ่งมั่นจัดการซอมบี้ให้เรียบร้อยก่อนค่อยหันไปดูให้แน่ใจทีหลัง
“สงสัยดาบจะทื่อแล้วมั้งณิช” เสียงคุ้นเคยยืนยันคำตอบได้ดีกว่าสิ่งไหนๆ ใช่เขาจริงๆ ด้วย เขามาที่นี้ทำไม ฉันเกิดคำถามในใจ บังเอิญหรือต้องการมาหาฉัน พอฉันจัดการซอมบี้เรียบร้อยก็หันไปหาเขาจุดที่เขายืนอยู่ในมือมีไม้เบสบอลมาด้วย
“แล้วคุณมาทำอะไรคะ จะมาทุบกระจกตู้โชว์ร้านทองหรือไง” ฉันพยักพเยิดไปที่วัตถุในมือของเขา
“ผมมาพิทักษ์คุณไงล่ะครับณิช” เขาตอบพร้อมกับหวดไม้ไปที่ซอมบี้ตัวหนึ่ง
“ตกลงคุณจะมาแย่งงานฉันทำหรือคะ เราไปหาที่คุยกันดีกว่าคะ ฉันไม่อยากเห็นคุณพูดไม่ทันจบก็จะโดนซอมบี้กระโดดงับคอเสียก่อน”
“ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงผม เท่านี้ผมก็ดีใจมากแล้ว” เขาตอบพร้อมกับเข้ามาหาสอดมือเข้ามาคล้องแขนฉันเอาไว้
“นี่คุณบรรพต แถวนี้ยังเป็นเขตไม่ปลอดภัย มาล็อกแขนฉันอย่างนี้เดี๋ยวซอมบี้จะให้ฉันจัดการพวกนั้นอย่างไร”
“ผมจะดูแลคุณเองน่า ไม่ต้องห่วง”
“แล้วตกลงคุณหายดีแล้วหรือคะ”
“ใช่ แต่คนที่ผมอยากให้อยู่พยาบาลไม่รู้หนีไปไหน”
“ถ้าหมายถึงฉัน ฉันไม่ใช่พยาบาลสักหน่อย ที่ถนัดที่สุดน่าจะเป็นการฆ่าซอมบี้” เขาพาฉันขึ้นไปยังแท็งค์น้ำอันหนึ่ง กว่าจะปีนขึ้นไปได้ทุลักทุเลพอสมควรซอมบี้ก็มีติดตามมาบ้าง แล้วไหนจะดาบไหนจะไม้เบสบอลอีก แต่ในที่สุดก็ขึ้นไปกันจนได้
“เอาล่ะ ผมว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมจะถามว่าคุณพร้อมจะแต่งงานกับผมได้เมื่อไหร่ครับณิช”
“ฉันคิดว่าเดือนหน้าค่ะ”
“นี่ผมหูฝาดไปหรือเปล่า ไม่คิดจะทวงถามให้ผมสารภาพรักอีกรอบหรือครับ ไม่สิ ความจริง ผมต้องถามคุณมากกว่าว่ารักผมบ้างหรือเปล่า”
“ฉันคิดว่าผู้หญิงบางคนไม่ต้องรักก็ต้องงานกับผู้ชายสักคนไหน แต่สำหรับฉันถ้าไม่รักก็คงไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นหรอก”
“ผมขอคำตอบชัดๆ ให้เคลียร์กว่านี้ได้หรือเปล่าครับ” เขาดึงมือซ้ายของฉันไปจับไว้
“นี่ฉันต้องพูดประโยคนี้จริงๆ หรือคะ สรุปว่า ฉันรักคุณค่ะราชาซอมบี้”
“ราชาซอมบี้มีที่ไหนครับณิช เอาใหม่ พูดใหม่นะครับ” เขาส่งสายตาอ้อนวอน นี่ฉันจะใจอ่อนกับผู้ชายคนนี้อยู่เรื่อยๆ ไม่ได้นะ
“ใหม่”
“ณิชครับ” ทำเป็นเสียงเข้มแต่ฉันนึกขำแต่ไม่กล้าหัวเราะออกมา กลัวผู้ชายตัวโตๆ จะร้องไห้เสียก่อน
“อืม...ฉันรักคุณค่ะ”
“แน่นอนว่าเราจะแต่งงานกัน ผมบอกคุณไปแล้ว คืนนี้รีบกลับไปเข้าหอกันดีกว่านะครับ ผมคิดถึงคุณจะแย่แล้ว คุณรู้หรือเปล่าว่าผมต้องให้หมอเจาะเอาเลือดที่คลั่งอยู่ในสมองออกอีก กว่าจะหายก็ต้องใช้เวลา แถมไม่มีคนมาดูแลจนผมเกือบจะคิดสั้นอยู่แล้วด้วย คุณก็หายเงียบไปเลยจนผมใจเสีย”
“ฉันฟังไม่ทันค่ะ แต่ว่าคุณอาการแย่ลงหรือคะ” ฉันถามด้วยความเป็นกังวล ฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย ถ้าตอนนั้นเขาเกิดเป็นอะไรไปฉันก็คงจะไม่ได้เจอหน้าเขาอีกแน่ๆ
“จริงสิครับณิช ไม่เชื่อไปเช็กกับโรงพยาบาลได้เลย เพราะไม่อย่างนั้นผมคงจะรีบกลับมารับเจ้าสาวอย่างเร็วที่สุดแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นมานี่สิคะ ฉันจะกอดปลอบให้” แม้จะไม่รู้ว่าเขาจะโกหกเพื่อเรียกคะแนนสงสารหรือเปล่า แต่ฉันก็คิดว่าเขาน่าจะพูดความจริง ไม่รอให้ฉันเดินยกแขนเพื่อต้อนรับอ้อมกอด เขาเป็นฝ่ายเข้ามากอดฉันเสียเอง กอดไปทั้งเนื้อทั้งตัวจนจะจมหายเข้าไปรวมร่างกับเขาอยู่แล้ว แทบหายใจไม่ออกแต่ฉันไม่ดิ้นรนขัดขืน
“ผมรักคุณนะครับณิช” เขากระซิบบอก
“ฉันนึกแล้วว่าคุณจะต้องพูด” ฉันตอบเสียงอู้อี้ ยืนกอดกันอยู่สักพักเขาก็ปล่อย
“สักสี่ทุ่มเรากลับห้องกันดีกว่านะครับ ผมมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณเยอะแยะไปหมดเลย” เขารีบเสนอด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ฉันยกข้อมือมาดูนาฬิกา เกือบจะสี่ทุ่มอยู่แล้ว ฉันยังไม่พอใจผลงานการล่าซอมบี้เท่าไหร่ น่าจะทำต่อได้อีกหน่อย
“ไม่ได้ค่ะ ฉันขอเป็นห้าทุ่ม อีกชั่วโมงเดียวเองนะคะ คุณบรรพต ไหนๆ คุณก็มาแล้วช่วยฉันอีกแรง แล้วถ้าเกิดว่าพวกซอมบี้ซาลงแล้ว เรากลับกันก่อนก็ได้ค่ะ”
“วันนี้วันเดียวเอง กลับก่อนเถอะครับ” เขายังตื้อให้ฉันกลับเร็ว
“คุณอย่าลืมนะคุณบรรพต ฉันไปหาคุณแล้วก็โดนจับตัวไป ได้รับบาดเจ็บหยุดงานล่าซอมบี้เพราะคุณตั้งหลายวันแล้ว”
“จริงสิ ผมลืมไปเลย คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ วันนั้นผมเห็นรอยที่แก้มคุณ คุณโดนพวกนั้นตบเอา” เขายกมือจะมาเชยคาง แต่ฉันถอยหลังไม่ใช่ว่ารังเกียจสัมผัสจากเขา แต่เป็นเพราะกลัวมือเขาเลอะต่างหาก ตอนปืนขึ้นมาน่าจะจับขอบจนมือดับไปแล้ว
“ทำไมครับ” แล้วเขาก็ก้มมองมือตัวเอง พร้อมกับหัวเราะ “เอาล่ะไปล่าซอมบี้กันดีกว่า จะได้กลับเร็วๆ จริงสิ ผมอยากบอกข่าวดีกว่า ตำรวจจับตัวพวกนั้นได้แล้วนะครับณิช แถมมีคนติดต่อให้ผมไปออกรายการโทรทัศน์ด้วยแต่ผมบอกปฏิเสธหมด เพราะว่าภรรยาไม่ชอบให้ออกสื่อ พวกนั้นก็เลยอยากรู้จักคุณเป็นการใหญ่เลยครับณิช”
“คุณบรรพตทำไมทำอย่างนั้นคะ” คิดดูว่าชีวิตฉันจะวุ่ยวายขนาดไหน เล่นประกาศตัวเสียอย่างนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยชื่อฉันออกสื่อนะ
“ก็มันเรื่องจริง ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบให้ผมเอาหน้าหล่อๆ ไปให้สาวๆ ที่ไหนเห็นในที่สาธารณะหรอกจริงมั้ยครับณิช” ทำเป็นมารู้ใจฉัน แต่ฉันก็คงรู้สึกอย่างที่เขาบอกนั้นแหละ ในอนาคตอันใกล้นี้เขาจะเป็นสมบัติส่วนตัวของฉันคนเดียวต่างหาก
“ทำเป็นมารู้ดีนะคะ เอาล่ะ ลงไปกันได้แล้วค่ะ”
ตอนลงง่ายกว่าตอนขึ้นมากนัก แค่กระโดดลงไปเท่านั้นพร้อมกับฟันซอมบี้ได้อีกตัว ฉันลุยจัดการซอมบี้เพื่อเบิกทางและบอกให้เขากลับไปยังแถวร้านสะดวกซื้อที่เดิม
“ณิชครับ ดูซอมบี้ตัวนั้นสิพกหนังสืออย่างว่าด้วย” เขาชี้ให้ฉันดูซอมบี้ผู้ชายตัวหนึ่ง
“คุณอยากให้ฉันฉกมันจากซอมบี้ตัวนั้นมาให้คุณหรือเปล่าล่ะ อยากอ่านหรือคะ” ฉันถามล้อๆ
“ไม่ใช่สักหน่อย ผมคิดสงสัยว่าเขาช่างกล้าเหน็บไว้ที่กระเป๋าหลังได้อย่างไรกัน”
“แล้วคุณก็ยังสอดสายตาไปเห็นอีกแน่ะ บางทีอาจจะมีพวกเด็กวัยรุ่นเล่นพิเรนทร์ไปเสียบไว้ก็ได้”
“เอาล่ะ มันมาทางนี้แล้ว ผมจะจัดการตัวนั้นเอง”
“อย่าค่ะ คุณอยากได้หนังสือหรือเปล่า” ฉันแกล้งถามอีก
“เปล่าสักหน่อย อย่ามาแหย่ผมสิ ผมจะทำงาน” เขาเตรียมจะเหวี่ยงไม้เบสบอลไปที่ซอมบี้ตัวนั้น จังหวะเดียวกับที่ซอมบี้จอมลามกพกหนังสือโป๊ถลามา ฉันรีบนำหน้าแล้วเอาดาบเสียบไปก่อน แล้วถีบให้เดินไปอีกทางหนึ่งก่อน
“ณิชคุณทำอย่างนั้นทำไมครับ ตัวนั้นของผมนะครับ”
“ฉันคิดว่าท่าทางมันจะรักคุณเสียแล้วนะคะคุณบรรพต” ฉันบอกพร้อมกับหัวเราะไปด้วยอย่างกลั้นไม่อยู่
“ใครบอกคุณ ซอมบี้รักอาหารต่างหากครับ”
“ไม่ลองมองตามันดูหน่อยล่ะคะ เห็นมั้ยกลับมาหาคุณอีกแล้วแทนที่จะเป็นฉันที่เพิ่งเสียบมันไปหยก”
“ผมไม่สนว่ามันจะรักใคร แต่ผมนะรักคุณนะครับณิช”
“เข้าใจแล้วค่ะ บอกหลายรอบจัง” ฉันอมยิ้มแล้วปล่อยให้ซอมบี้ตัวนั้นเข้าไปหาเขาอีกรอบ ก็บอกแล้วว่าราชาซอมบี้ ซอมบี้ตัวไหนจะไม่อดรักเขาได้ขนาดฉันก็ยังไม่เว้นเลย แม้ในอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่นับแต่นี้ต่อไปฉันจะไม่ต้องออกมาล่าพวกซอมบี้เพียงลำพังอีกแล้ว

--------------------------------------------------------------------
จบ สองๆ สิบห้า
เย้ๆๆ ตัดจบก่อน ๆ
xD

ป.ล. คุณบีเิลิฟ จะมาโพสตั้งแต่หัวคํ่า เข้ากระดานไม่ได้
ถือว่าจบ คนที่ สี่
ฮ่าๆ ส่วนไอ ครองตําแหน่ง คนที่ห้า
อุบอิบ จองแล้ว
แรลลี่สิบห้า ห้องห้า จบคนที่ห้า
ฮ่าๆ

เดี๋ยวกระดานแรลลี่ใช้ได้ ่ค่่อย จัดหน้าให้อ่านอีกทีนะคะ
 


  คำตอบที่ 1  
 

copter

30 พ.ย. 56
เวลา 22:34:08
เย้ๆๆๆๆๆ ยินดีด้วยค่ะ ท่านหัวหน้า
 


  คำตอบที่ 2  
 

บีเลิฟ

1 ธ.ค. 56
เวลา 21:44:36
ยินดีด้วยครับ
 




  เชิญกรอกข้อความเพื่อตั้งคำถาม  
  กรุณา login เพื่อตอบคำถาม