ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่

	สวัสดีเช้าวันจันทร์ "หนังสือ กับนักเขียน"
	ฟีลิปดา 21 ต.ค. 56 เวลา 8:54:31 พิมพ์ แจ้งลบ ส่งหาเพื่อน สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ไปงานหนังสือกันมาแล้วยังคะ พี่ฟียังไม่ได้ไป แต่เห็นกองหนังสือของคนที่ซื้อมาแล้ว ก็พลอยคึกคัก อยากจะเขียนๆๆๆๆ ให้มีเป็นเล่มอย่างนั้นบ้าง แรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อมีงานหนังสือสำหรับพี่ฟีค่ะ ^--^ ก็เห็นหลายคนพูดถึงหนังสือลดราคาปีนี้ นวนิยายลดมากกกกกกกกก ลดแบบโอ แม่เจ้า กระเป๋าตังค์ปลิ้นแน่ ฮ่าๆๆ อย่าไปตีค่าหนังสือลดราคาว่ามันจะ โน่น นี่ นั่น เพราะนี่คือโอกาสที่เราจะได้ เสาะหาโลกใหม่ๆ ของนักเขียนที่เราอาจจะไม่รู้จักในราคาย่อมเยา หนังสือบางเล่ม แค่ประโยคเดียว ก็เปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนความคิดของเราได้ ความรู้สึกเปลี่ยน โลกเปลี่ยนเนอะ ^--^ มีความรู้สึกไหมว่า ตอนนี้คนเข้ามาสู่การเป็นนักเขียนกันได้เร็วขึ้น คนเขียนกันมากขึ้น นักเขียนอิสระมีทางเลือกมากขึ้น จะส่ง สำนักพิมพ์ก็ได้ จะเขียนเอง พิมพ์เอง ขายเองก็ได้ พิมพ์เริ่มต้นสัก 10 เล่มลงทุนไม่กี่พันหรอกฮ่าๆ หากยังเงินทุนไม่สนับสนุนจินตนาการของเรา ก็ยังทำเป็นอีบุ๊กขายได้ ทางเลือกนักเขียนมีมากแล้วค่ะ แค่เขียนให้จบ เขียนให้จบ เขียนให้จบ จบ จบ จบ ลู่ทางเปิดกว้างมากแล้วค่ะ บางคนเขียนยังไม่จบ โน่นคิดไปแล้วว่า จะขายได้เหรอ ใครจะมาอ่าน ใครจะมาซื้อ ฮ่าๆๆๆ กังวลเกินเหตุไปไหม เขียนหนังสือที่เราอยากอ่านค่ะ เขียนในสิ่งที่เราอยากเล่าค่ะ ผลตอบรับออกมาอย่างไร เราก็ค่อยๆ ปรับฝีมือพัฒนาตัวเองไปค่ะ หากจะเปรียบนักเขียน เป็นผู้ผลิต เราผลิตงานออกมาจากจินตนาการของเราได้ ถือว่าเป็นความสำเร็จ ในส่วนที่เป็นตัวของเราเอง แต่หากจินตนาการของเรา มันไม่ต้องตากระแทกใจคนอื่น ก็ลองเลือกจินตนาการใหม่ ที่เป็นมุมมองใหม่ในแง่มุมของเราเอง บางคนอาจจะคิด อ้าวทำอย่างนั้นมันก็จะเหมือนไม่มีจุดยืนสิ อ้าว ก็เปลี่ยนจินตนาการแบบมีจุดยืนสิ ฮ่าๆๆ มาคุยเรื่องหนังสือดีกว่า พี่ฟีสามสี่ปีมานี่ อ่านหนังสือได้น้อยเหลือเกิน แต่ก็ซื้อค่ะ อย่างนวนิยายบางเล่มซื้อมาเอาบรรยากาศในเรื่อง หนังสือฮาวทูก็ซื้อ ซื้อพวกหนังสือประวัติศาสตร์ หนังสือท่องเที่ยว หนังสือเกี่ยวกับศิลปะก็ซื้อ ก็ซื้อมาเพื่อจะอ่านเป็นข้อมูลในการเขียนนวนิยายนั่นแหละ ฮ่าๆๆ หนังสือเมื่อก่อนจะซื้อช่วงงานมหกรรมหนังสือเสียส่วนมาก ปีหนึ่งซื้อสองครั้ง เพราะมีลดสองครั้ง ฮ่าๆๆๆ งบประมาณปีหนึ่งก็ ขึ้นกับราคาหนังสือกับจำนวนเล่ม อยากจะซื้อหนังสือปีละ ไม่เกิน 100 เล่มค่ะ ฮ่าๆๆๆ แต่หลังๆ สั่งซื้อทางอเมซอน ก็จะซื้อเดือนเว้นสองสามเดือน การอ่านนั้นไม่ต้องพูดถึง แค่ได้มาวางเรียงดูหนังสือที่ซื้อมา ก็มีความสุขแล้ว ฮ่าๆๆๆ ความจริงพี่ฟีก็ได้อ่านเหมือนกัน แต่ไม่ได้อ่านเป็นเล่มจบครั้งเดียว หลังๆ มา ก็เอาสามสี่เล่มมาตั้ง อยากหยิบเล่มไหนอ่านก็อ่าน ไม่เรียงลำดับกันแล้วค่ะ ตอนนี้ก็กำลังวางเอาไว้ 3 เล่ม กำลังฝึกอ่านภาษาปะกิตด้วย ยาวไปเลยไม่รู้ปีนี้จะจบสักเล่มหรือเปล่า พวกเรามีนิสัยในการอ่าน การซื้อหนังสืออย่างไร มาคุยให้ฟังบ้างนะคะ ขอให้ได้อ่านหนังสือทุกเล่มที่ซื้อมาค่ะ ฟีลิปดา ^--^

	คำตอบที่ 1
	copter 21 ต.ค. 56 เวลา 9:00:17 นักเขียนเยอะขึ้นมากจริงๆ ค่ะ ไม่รู้จักใครเลย ส่วนใหญ่คอปซื้อหนังสือ ถ้าไม่ใช่นักเขียนที่ติดตามอยู่ ก็มักจะเป็นนักเขียนที่รู้จักกัน แต่ปีนี้เน้นไปทาง นวนิยายลดราคา ด้วยปัจจัยทางการเงินมีจำกัด แต่ซื้อมาก็ยังไม่ได้อ่าน ตอนนี้พยายามซื้อให้น้อยลง ถ้าไม่มีคำว่าลดราคามายั่ว ต้องจัดเวลาในการอ่านด้วย แต่หนังสือภาษาอังกฤษนี่ อ่านแล้วต้องใช้สมาธิเยอะ ยังไงก็จะพยายามค่ะ ทั้งอ่านและเขียน ชีวิตช่วงนี้แม้เงินจะน้อย แต่ก็มีความสุขดีค่ะ เย้ๆๆๆๆ

	คำตอบที่ 2
	moolar 21 ต.ค. 56 เวลา 9:00:25 สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะ เห็นแค่รูปหนังสือที่เพื่อนๆ ซื้อมา ก็มีความสุขแล้วค่ะ ฮ่าฮ่า จากนั้นก็มองกองหนังสือตัวเอง มีความสุขเหมือนกัน แม้จะยังไม่ได้อ่าน ขอให้มีความสุขกับการอ่าน กันทุกคนนะคะ ฮ่าฮ่าฮ่า ปล. จะหาเวลาอ่านบ้างเหมือนกันค่ะ

	คำตอบที่ 3
	ฮาบีบี้ 21 ต.ค. 56 เวลา 9:22:50 ปีนี้เป็นปีที่มองหาหนังสือแนวอื่นนอกจากแนวมนต์รักอสูรที่อ่านประจำ แต่ก็ยังไม่ใช่ปีที่อ่านหนังสือเยอะเหมือนเดิม พยายามหาเวลาอ่านค่ะ พกหนังสือไปนู้นไปนี่ด้วยประจำ นั่งอ่านตอนรอคิวตรวจ นั่งอ่านตอนว่างจากงาน แต่ถ้าคิดเนื้อเรื่องนิยายที่กำลังแต่งไม่ออก จะไม่อ่านหนังสือค่ะ จะแกะยางลบแทน 555 อีกเวลาที่จะอ่านหนังสือก็ตอนที่เขียนเรื่องในตอนนั้นๆ จบแล้ว ถึงจะหยิบหนังสือมาอ่าน ^^ lสรุปแล้วไม่เคยจัดเวลาในการอ่านหนังสือเลย เพราะเวลาในแต่ละวันของฮามันล็อกอะไรตายตัวไม่ได้ ต้องคอยเตือนตัวเองว่าตอนนี้ว่างนะ หยิบนู้นมาทำสิ หยิบนี่มาทำสิ 5555

	คำตอบที่ 4
	ibatman 21 ต.ค. 56 เวลา 9:41:40 งานหนังสือ ผมเพิ่งไปมาครับ ได้มาหลายเล่ม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักเขียนที่รู้จัก และตามงาม วินทร์ อุรุดา หนังสือรวมเรื่องสั้นของเฮียฮารูกิ เล่มใหม่ TV People , นิยาย Dance Dance Dance นิยายแจ่มใสอีกสี่เล่ม ให้เด็กๆ ^^ งานหนังสือคนเยอะมากครับ เยอะมากขึ้นทุกปี หนังสือมีให้เลือกชนิดที่ว่าชาตินี้อ่านให้หมดทุกเล่มก็ไม่มีทางหมด อาทิตย์ก่อน ไปเห็นหนังสือกองในกระบะ ลดราคา นิยายครับ เล่มละ 20 บาทเอง บางเล่มราคาตอนออกใหม่ๆ 280 บาท นักเขียน สนพ. ก็ไม่โนเนมนะครับ นึกแปลกใจว่า สนพ. เอามาวางขายถูกแบบเลหลังเลยเหรอเนี่ย เป็นหนังสือแนวรักๆหงานๆครับ เลยไม่ได้ซื้อมา เคยได้ยินมาว่า สนพ. บางเจ้า รอแค่ขายในงานสัปดาห์หนังสือเท่านั้นเอง ที่พอจะทำให้เงินเข้า บ. ได้ น่าสงสารครับ ผมมีนิยายรออยู่เพียบเผมือนกัน อ่านจบบ้างรวดเดียวถ้าสนุก ถ้าไม่ไหวก็เลิกครับ เสียดายเวลา บางเล่มอ่านไปสองบทเลิกก็มีครับ แล้วก็หมายหัวไว้เลยว่า นักเขียนนักแปล เจ้านี้ลาขาด สนพ.น้ำพุ มาแรงนะครับ นักแปล แปลดีทุกท่าน ล่าสุดผมอ่าน Devil Star ไปครับ หรือชื่อไทย ฤกษ์งามยามเชือด (Jo Nesbo) อ่านรวดเดียวจบ ! นานๆจะเจอหนังสือที่อ่านแล้ววางไม่ลงซะที คิดถึงทุกๆท่านครับ คุณฟี มะยม และอีหลายๆมะ คุณพีทคุงสุดหล่อ NongWingZ มูล่า คอบเตอร์ buddy น้องฮาบีบี้ (ชื่อน่ารักดี 555)

	คำตอบที่ 5
	buddy 21 ต.ค. 56 เวลา 11:23:08 งานหนังสือ อยากไปมว๊ากกกก รอคุณนายแม่อยู่ ชวนไปก็เล่นตัว ไม่ชวนก็งอน เฮอะ เอาใจยากจริง (เม้าท์แม่ก่อน อิอิ) ต้องไปแน่นอนค่ะ คราวนี้ แม้หนังสือที่ยังไม่ได้อ่านจะเต็มตู้อยู่แบบนี้ แต่มันจำเป็นจริงๆ ที่ต้องไป เพราะจะไปสูดอากาศ สูดกลิ่นไอหนังสือใหม่ค่ะ มันกระหายมว๊ากกกกก (ผีดูดหนังสือ อิอิ) ^____^

	คำตอบที่ 6
	คุณพีทคุง 21 ต.ค. 56 เวลา 16:17:09 รสนิยมการอ่านหนังสือของผมคือ หนังสือห้องสมุดครับ! ตอนนี้ที่บ้านหนังสือล้นมากๆ ตายายสองคนหนังสือมากกว่าชั้น ปวดหัวไปเลย (นี่ขนาดยังมาไม่ครบ) ต้องบอกกันว่า ซื้อน้อยๆ หน่อยนะตา! ชอบอ่านแนวความรู้ด้านต่างๆ มากกว่านิยายครับ เมื่อก่อนอ่านเยอะนะนิยายนี่ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยนึกสนุกเท่าไหร่ พอมีของคนที่ชอบจริงๆ (ไม่ต้องบอกว่าใคร) ก็ต้องเก็บไว้ไม่ยอมอ่าน รอตอนที่มันแล้งจัดๆ ถึงจะหยิบมาอ่านให้ชื่นจาย ป.ล. หวัดดีครับคุณโป้งหล่อกว่า

	คำตอบที่ 7
	ibatman 21 ต.ค. 56 เวลา 18:26:31 เดี๋ยวนี้ผมไม่ได้ไปห้องสมุดเลยครับ รู้สึกว่าตั้งแต่ค้นอะไรได้จากการเรียกใช้อากู๋ ก็ไปห้องสมุดไม่ถูกเลย จริงๆ แล้วไม่รู้ว่าจะไปห้องสมุดที่ไหนมากกว่า ฮ่าๆๆๆ (เดี๋ยวนี้เวลาเรายืมหนังสือออกมาต้องทำบัตรห้องสมุดอยู่มั้ย^^) คุณพีทมาชมผมหล่อกว่าได้ไงครับ มันมะเป็นความจริงเลย ฮ่าๆๆ ล่าสุดผมเดินเข้าวัดหมายังโก่งคอหอนเลยครับ ^^

	คำตอบที่ 8
	ibatman 21 ต.ค. 56 เวลา 18:29:05 ไปซื้อหนังสือมาเก็บไว้ แต่ไม่อ่าน เวลานั่งมองมันก็มีความสุขดีนะครับ เพราะหนังสือบางเล่มพิมพ์ครั้งเดียวแล้วหายไปเลย ไม่ซื้อเก็บตคอนนี้ ไม่รู้จะได้ซื้อตอนไหนอีก^^

	คำตอบที่ 9
	คุณพีทคุง 21 ต.ค. 56 เวลา 19:40:08 ถ้าค้นข้อมูลผมก็เข้าวิหาร(เทพกู๋)เหมือนกันครับ ห้องสมุดเอาไว้ไปพลิกหามาอ่านเล่นมากกว่า (เหมือนเข้าร้านหนังสือแต่ไม่ต้องจ่ายตังค์) ของผมโชคดีแถวบ้านนอกนี่มีห้องสมุดประชาชน หนังสือหมวดทั่วไปไม่เยอะมากแต่ก็พอเวียนๆ อ่านได้ครับ เข้าวัดแล้วหมาหอนไม่เกี่ยวกับความหล่อ(กว่า)หรอกครับ สงสัยคุณโป้งไม่ได้เดินคนเดียวรึเปล่า บรื๊อ

	คำตอบที่ 10
	ibatman 22 ต.ค. 56 เวลา 9:23:36 ห้องสมุดประชาชนเดี๋ยวนี้หนังสือupdate เล่มใหม่ๆมั้ยครับคุณพีท ? ในภาพความทรงจำของผม ห้องสมุดประชาชนจะเต็มไปด้วยหนังสือเก่า เรื่องเล่าโบราณ เล่มสีน้ำตาล คราบฝุ่นเกาะตามปก แต่นี่ก็เป็นภาพในตอนที่ผมยังเป็นเด็กๆ เดินเข้าห้องสมุด ผมเดินคนเดียวครับยืนยัน แต่ก็แปลกนะที่รู้สึกหนักๆที่บ่า หัวไหล่

	คำตอบที่ 11
	iloverally 23 ต.ค. 56 เวลา 20:59:23 ขอบคุณค่ะ พี่ฟี ^^ หนังสือ จําเป็นต่อชีวิต สุขภาพ ก็จําเป็นต่อนักเขียน เช่นกัน ฮ่าๆ เขียนจนรวยแล้วต้องมีเวลา ไปใ้ช้ตังค์ ไม่ใช่ นอนในรพ. ปรับสมดุลในชีวิต ถ้าง่ายๆ ก็คงจะดีมากค่ะ หนังสือๆๆๆ อยากได้ๆๆๆ มีมากมาย ผลิตแบงก์ไม่ทัน จะเขียนเพื่อซื้อหนังสือ ฮ่าๆ สู้ๆ ช่วงนี้สนใจหนังสืองานฝีมือ แกะตัวปั๊มยางลบ งานผ้า ถักตุ๊กตา วาดการ์ตูน แล้วก็ หนังสือ ลดราคา ฮ่าๆ นิยายช่วงนี้เงียบ

	คำตอบที่ 12
	samad 24 ต.ค. 56 เวลา 9:57:32 งานหนังสือคนเยอะ รถติด ที่จอดรถไม่มี ค่ารถเมล์แพง รถไฟฟ้าก็แพง หิวข้าว หนังสือก็แพงกว่าปีก่อน แต่ก็หอบหลังแอ่นเดินขาลากกลับบ้านทุกที

	คำตอบที่ 13
	คุณพีทคุง 25 ต.ค. 56 เวลา 19:32:51 ผมอยู่บ้านนอกครับคุณโป้ง ห้องสมุดแถวบ้านผมหนังสือใหม่ๆ ก็พอมีบ้าง ไม่เยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับเก่าเหลืองครับ นิยายเยอะพอควร เสียแต่ช่วงนี้ผมไม่ค่อยอ่านนิยายแล้ว แย่เลย

---

	เชิญกรอกข้อความเพื่อตั้งคำถาม
	กรุณา login เพื่อตอบคำถาม