sogood197
16 ส.ค. 56
เวลา 9:11:02
พิมพ์
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน |
ผลบุญที่ทำให้นักเขียนเจริญมันมีมากมายหลายข้อ ผมจะค่อยๆแจกแจงไปก็แล้วกันครับ
อันดับแรกเลยคือเราจะต้องกตัญญูต่อบุพการี คำว่าบุพการีในที่นี้หลายคนคงจะนึกถึงพ่อและแม่ แต่ความจริงแล้วคำว่าบุพการีมีความหมายว่า "ผู้กระทำความดีก่อน"
ซึ่งในประเด็นนี้ผมต้องการสื่อถึงเรื่อง "แรงบันดาลใจ" การที่เราเขียนหนังสือขึ้นมาสักเล่มหรือสักเรื่อง หากเราได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือเล่มไหน หรือได้แรงบันดาลใจมาจากนักเขียนคนใด หนังสือและนักเขียนเหล่านั้นจึงถือเป็นบุพการีของเราทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเราควรที่จะเอ่ยถึงหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจของเรา และเราควรจะเอ่ยถึงนักเขียนที่เป็นแรงบันดาลใจของเรา ผมหมายถึงเราควรจะเอ่ยให้กับคนอื่นๆและทุกคนได้รู้ว่าเราได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งใด เราอย่าไปมีทิฐิและอีโก้ อย่ากลัวว่าคนอื่นจะคิดว่าเราไม่เก่ง เพราะความจริงไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิดหรอกครับ ทุกคนต้องเคยมีต้นแบบและแรงบันดาลใจด้วยกันทั้งสิ้น แม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็ยังต้องผ่านการฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆมานับไม่ถ้วน
...ต้องขอเตือนเอาไว้เป็นอย่างยิ่งเลยนะครับ ว่าแรงบันดาลใจไม่ใช่การก๊อบปี้นะครับ ไม่ใช่การลอกเลียนแบบนะครับ และไม่ใช่การขโมยผลงานนะครับ เราจะต้องแยกแยะให้ออกและแยกแยะให้ดีนะครับ ถ้าสิ่งไหนมันเข้าข่ายก๊อบปี้แล้ว เข้าข่ายลอกเลียนแบบแล้ว เข้าข่ายขโมยผลงานแล้ว เราต้องหยุดและอย่าทำนะครับ เราห้ามละเมิดแรงบันดาลใจของเรานะครับ เพราะมันจะบาปมากเลย ผมคิดว่าทุกคนคงมีวิจารณญาณและปัญญาในการไตร่ตรองเรื่องนี้กันอยู่แล้ว..ว่าสิ่งใดมันจะเข้าข่าย
ผมขอเตือนนะครับว่า พวกเนื้อเรื่อง โครงเรื่อง สถานที่ ตัวละคร ชื่อและคำพูดต่างๆ และอีกหลายประการ อย่าไปให้ใกล้เคียงกับแรงบันดาลใจของเรานะครับ มิเช่นนั้นมันจะเข้าข่ายลอกความคิดได้ ซึ่งผมก็แน่ใจว่าทุกคนมีปัญญาในการไตร่ตรองและแยกแยะกันได้อยู่แล้ว
ป.ล. อย่าลืมกตัญญูต่อบุพการีในบ้านด้วยนะครับ ผมหมายถึงบิดามารดาน่ะครับ |