ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่
 
  นับถือ ความรับผิดชอบของสำนักพิมพ์ต้นสังกัด  
 
 

มาธิ

6 ก.พ. 56
เวลา 20:31:20

พิมพ์
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
สวัสดีครับ อาจจะนอกเรื่องไปนิดหนึ่ง แต่เพราะเหตุผลอยากจะชมเชยสำนักพิมพ์หนึ่ง การให้เกียรตินักเขียนถือเป็นสิ่งที่ต้องทำ

คำว่านักเขียนประจำ นักเขียนอิสระอาจจะไม่เข้าใจส่วนลึกของความรู้สึกทั้งสองฝ่าย ระหว่างนักเขียนกับสำนักพิมพ์

นักเขียนอิสระนั้น เมื่อผลิตผลงานออกมาส่งสำนักพิมพ์ ถ้าผ่านก็รับตีพิมพ์ ไม่ผ่านก็หาสำนักพิมพ์อื่น จนผ่านตีพิมพ์ในที่สุด ไม่ซีเรียส

ถ้าเป็นนักเขียนประจำ งานเขียนที่เราจะเขียนให้สำนักพิมพ์ มีการคุยกันก่อน เขียนแล้วควรปรับแก้ตรงไหน นักเขียนแก้เพื่อช่วยให้หนังสือเล่มนั้นขายดี เพื่อผลกำไรของสำนักพิมพ์ เพื่อความอยู่รอดของสำนักพิมพ์ ประมาณว่าสำนักพิมพ์อยู่ได้ นักเขียนก็อยู่ได้

ผมเคยเป็นนักเขียนประจำ ทั้งแบบคอลัมน์ประจำ และแบบหนังสือตีพิมพ์รูปเล่ม ได้ยินบรรณาธิการกล่าวเชิงรันทด เกี่ยวกับธุรกิจหนังสือ รู้สึกเห็นใจเขามาก

และแล้ววันหนึ่งผมก็ได้ยินจากปากเจ้าของสำนักพิมพ์ว่า เราขอปิดกิจการ

มี หลายสาเหตุที่เขาปิดการ
1 สำนักพิมพ์เล็ก การตลาด สู้สำนักพิมพ์ใหญ่ๆไม่ได้ เกี่ยวเนื่องกับยอดขายที่ขาดทุน

2 ผู้ส่งต้นฉบับตีพิมพ์ ไปคัดลอกนวนิยายจากไหนก็ไม่รู้ แล้วส่งให้พิจารณา พอตีพิมพ์ไปก็โดนฟ้อง เสียเงินอีก แทนที่จะได้กำไร

3 ธุรกิจหนังสือในเมืองไทย ยังไม่เติบโตเท่าที่ควร ที่คนจะซื้อหนังสือได้ กล่าวคือ คนไทยยังอ่านหนังสือกันน้อย นับประสาอะไรกับการซื้อหนังสือสักเล่มมาอ่าน แค่ไปยืมหนังสือห้องสมุดมาอ่านแบบฟรีๆ จำนวนยังน้อยเลย ถ้าเทียบเท่าธุรกิจหนังสือของต่างประเทศนั้น ยังห่างไกลมาก

อย่างไรก็แล้วแต่ เราก็ยอมรับโดยความจริงว่าที่นี่คือเมืองไทย ที่นี่ประเทศไทย ไม่มีฝ่ายใดถูกผิด เรามาคิดร่วมกันว่าทำอย่างไรธุรกิจหนังสือจะเจริญก้าวหน้าต่อไป โดยฝ่ายผลิตทั้งหมด ทั้งนักเขียน และสำนักพิมพ์

วันที่เจ้าของสำนักพิมพ์โทรมาแจ้งผมว่าขอปิดกิจการ ผมก็ตกใจมากเหมือนกัน เพราะไม่กี่สัปดาห์เขากำลังตีพิมพ์งานเขียนของผม สรุปว่างานเขียนของผมเป็นการตีพิมพ์ครั้งสุดท้ายของสำนักพิมพ์ของเขา โดยที่ทุกคนก็ไม่รู้ว่าตีพิมพ์ออกมาแล้วจะออกจำหน่ายหรือปล่าว เพราะทุกฝ่ายแยกย้ายกันไป

ก่อนจบการสนทนาเขาบอกว่าจะจ่ายค่าเรื่องให้ผมทั้งหมดตามสัญญา ที่จ่ายเพราะรักษาจรรยาบรรณ ทั้งๆที่หนังสือเล่มนั้นตีพิมพ์ไปแล้ว อาจสูญเปล่า

ผมยอมรับว่าผมรู้สึกอึ้งไปทันที ได้ฟังเหตุผลของการปิดกิจการก็รู้สึกเห็นใจเขามาก

นับจากนั้นมา ผมก็ไม่ได้ผลิตงานเขียนอีกเลย เรื่องเล่ามาทั้งหมด ไม่ใช่เหตุผลหรอกครับ เพียงแต่นำมาเล่าให้ฟังแค่นั้น

นับถือเขาจริงๆ
 


  คำตอบที่ 1  
 

iloverally

7 ก.พ. 56
เวลา 21:11:49
ค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์
 


  คำตอบที่ 2  
 

พี

8 ก.พ. 56
เวลา 2:41:51
ชื่นชมสำนักพิมพ์นี้ครับ
 




  เชิญกรอกข้อความเพื่อตั้งคำถาม  
  กรุณา login เพื่อตอบคำถาม