saitharn
7 พ.ย. 54
เวลา 20:21:33
พิมพ์
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน |
สวัสดีค่ะพี่น้องชาวเว็บฟอร์ทุกท่าน วันนี้มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังค่ะ จากที่ได้รู้กันนะคะว่านิยายของสายธารสามเรื่องผ่านการพิจารณากับสำนักพิมพ์หนึ่งซึ่งเชื่อว่าทุกท่านคงรู้เพราะตอนเมลตอบมาจากบก.ว่าผ่านการพิจารณา น้องโต๊ะผู้น่ารักก็มาประกาศให้
หลังจากเรื่องแรกตีพิมพ์ไปแล้ว ล่าสุดนี้มาถึงเรื่องที่สองค่ะ ก็ได้รับโทรศัพท์จากบก.ว่าต้องการให้ปรับแก้นิยาย โดยให้เปลี่ยนปมใหม่ ปมเดิมตัดทิ้ง โดยให้ปมใหม่คือนางเอกเจอพระเอกอยู่ในห้องกับแม่เลี้ยงสองต่อสอง แล้วเพิ่มตัวละครที่จะมาทำให้พระเอกหึงนางเอกประมาณนั้น แล้วก็เพิ่มปมธุรกิจเพื่อให้เกิดปัญหากับธุรกิจของพระเอก เพิ่มฉากเหตุการณ์ให้คู่รอง ปรับบุคลิกพระเอกเวลาหึงจากตัวละครที่เพิ่มมาให้กระทำกับนางเอกแบบแรงขึ้น แล้วเขาบอกว่านางเอกไม่ค่อยมีเหตุผลก็ให้นางเอกช่างประชดประชัน แต่ประชดประชันแบบมีเหตุผล
ตอนแรกที่สายธารฟังก็อึ้ง เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อยเลย แต่ก็ตั้งใจว่าจะลองไปปรับดู ซึ่งหลังจากตั้งชื่อตัวละครชายที่จะเพิ่มเข้ามาก็เห็นว่ามันต้องเพิ่มตั้งแต่ช่วงแรก การเปลี่ยนปมก็ต้องตัดตัวละครที่เคยจับให้เป็นตัวหลักออกไป บทสนทนาที่เกี่ยวกับปมเดิมก็ต้องตัดทิ้ง คิดไปคิดมาปวดหัวค่ะ ฮ่าๆ ใช้ยาพาราบรรเทาแล้วก็ไปเดินเล่นดูนาข้าวท้องฟ้าไปตามเรื่อง กลับมานั่งคิดหาทางจะแทรกตัวละครเข้าไป เอ...เราต้องเริ่มใหม่ หรือพูดให้ดีก็เขียนใหม่แน่เลย ^ ^
สุดท้ายกลับมาจากบ้านก็เมลแจ้งให้บก.ทราบก่อนเป็นเชิงพูดคุยกันว่าเราทำได้แค่เปลี่ยนปมแต่ถ้าเพิ่มตัวละคร เพิ่มปมธุรกิจ การปรับบุคลิกพระเอกนางเอก ฯลฯ ก็ต้องเขียนใหม่หมด เพราะตอนแรกตั้งใจให้พระเอกอบอุ่น บก.ก็เมลตอบกลับมาว่า เรื่องนี้ปมมันอ่อนไปถ้าพระเอกบอกนางเอกตั้งแต่ทีแรกก็จบแล้ว อีกอย่างเหมือนตอนหลังไม่มีอะไร จะไม่ปรับตามที่เสนอก็ได้ แต่ถ้ายังคงแนวเดิมก็ยังไม่ผ่านขั้นตอนตีพิมพ์ค่ะ จนกว่าเรื่องจะสนุกกว่านี้ โอเคค่ะ จุดนี้พอเข้าใจและเห็นว่านิยายเรามันคงพล็อตอ่อน เราพอรับได้ แต่ก็ชักจะเริ่มคิดแล้วว่า ถ้าอย่างนั้นทำไมผ่านการพิจารณา?
แต่ประโยคต่อมาที่เขาบอกว่า เรื่องนี้ถ้ากองบก.ได้อ่านก็คงไม่ผ่านตั้งแต่ทีแรก เพราะช่วงแรกคล้ายนิยายเรื่องหนึ่งในสนพ. มาก
ประโยคนี้ทำให้รู้สึกมึนและงงว่า สรุปแล้วกองบก.ไม่ได้อ่านอย่างนั้นหรือ แต่ทำไมตอนตอบรับพิจารณาก็เห็นชื่อท่านบก.กำกับอยู่ด้านล่าง?
มีอีกประโยคที่ทำให้สายธารเสียใจค่ะ เขาบอกว่า ส่วนเรื่องแรก ที่ตีพิมพ์ไปแล้ว ยังไม่ถึงขั้นว่าสนุกมากนะคะ แต่ทำปกไปก่อนเลยไม่มีการแก้ไขอะไร พอออกไปแล้วก็มีคอมเมนต์ว่าเรื่องเรียบๆ ไป
เมื่อสายธารรู้อย่างนี้แล้วก็นั่งอึ้งและเสียใจ เสียความรู้สึกไม่น้อย เพราะถ้าเป็นจริงตามที่เขาบอก ก็หมายความว่าเขาทำงานกันไม่ได้ปรึกษากันระหว่างผู้ช่วยกับกองบก.เลยอย่างนั้นหรือ? การตัดสินใจพิจารณาว่านิยายเรื่องไหนจะได้ตีพิมพ์เป็นเรื่องใหญ่ เมื่อผ่านแล้วนักเขียนใหม่อย่างเราก็ไม่ต้องร่อนต้นฉบับส่งที่อื่น แต่ถ้าไม่ผ่านเราก็คงไปส่งที่อื่นแล้ว นี่เขาตัดสินใจให้ผู้ช่วยพิจารณาก็แสดงว่าต้องมั่นใจว่าเขาทำหน้าที่นี้ได้ดีพร้อมจะรับผลที่ตามมา
และที่สายธารเอะใจก็ตรงที่ เขาบอกว่าถ้าเขาได้อ่านนิยายเรื่องที่สองนี้จะไม่ผ่าน แล้วทำไมถึงมีชื่อของเขากำกับอยู่ด้านล่างเมลหลังจากแจ้งผลการพิจารณา?
สุดท้ายจากความรู้สึกที่ว่าในเมื่อเขาเห็นว่านิยายเราไม่ควรจะผ่านตั้งแต่ทีแรก ก็เลยตัดสินใจบอกเขาว่าเพื่อไม่เป็นการลำบากใจทั้งสองฝ่าย จึงขอถอนต้นฉบับ ก็มีเมลตอบกลับมาว่า เรื่องนี้ถ้าไม่แก้พล็อตก็ลองปรับการดำเนินเรื่องจะทำให้ดูน่าสนใจขึ้น... แต่ไม่จำเป็นต้องส่งกลับไปที่สนพ.เขาก็ได้ และก็เน้นอีกว่านิยายสายธารผู้ช่วยบก.เป็นคนเลือกเข้ามา เรื่องที่ตีพิมพ์ไปแล้ว ผู้ช่วยก็ไม่แจ้งแก้ไข พอทำปก เวลาเร่งเข้ามาเลยปล่อย พร้อมกับว่าผู้ช่วยของสนพ.เป็นเชิงว่าไม่รอบคอบ (เขาใช้คำอื่นค่ะ ไม่ขอกล่าว)
ในความรู้สึกของสายธารแล้ว แม้ทางสนพ.จะแจ้งไว้ว่านักเขียนพร้อมจะปรับแก้ แต่เราก็มีสิทธิ์เลือกถ้ามันเลยจุดที่เราจะรับได้
ตอนนี้ก็เลยส่งต้นฉบับไปที่ใหม่ ซึ่งก็คงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามเดือน และอาจไม่ผ่าน บางทีถ้าไม่ผ่านก็คงจะเอาไปพิมพ์เล่มเป็นที่ระลึกเก็บไว้ให้ลูกหลานอ่านเล่น จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาเขียนเรื่องใหม่ให้มันดียิ่งๆ ขึ้นไป ซึ่งก็หวังว่ามันจะดีขึ้นค่ะ ^^
ส่วนเรื่องที่สามที่ยังค้างอยู่ก็ไม่รู้จะออกมาหมู่หรือจ่า ฮาๆๆๆ
นี่ก็เป็นประสบการณ์ที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
|