ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่
 
  กระทู้ประจำวันพฤหัสบดี - ก็แค่อยากรู้ ๒  
 
 

นายมะระ

25 ม.ค. 55
เวลา 23:20:05

พิมพ์
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
เจ้าหนูมะระนั่งลุกลี้ลุกลนอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ และแล้วคำตอบที่เขารอคอยก็ปรากฏขึ้น...

“ลุงครับ... มีคนตอบแล้วครับ”

“เขาว่าไง”

“เขาบอกว่าให้เปิดคอมก่อนครับ”

ยอดชายนายวรบรรณหัวเราะร่วน “แสดงว่าก่อนถามไม่ได้จุดธูปละสิ”

“จุดธูป?”

“ไม่รู้อะไรเลยเรา ที่นั่นเจ้าที่แรง จะถามอะไรต้องจุดธูปบอกกล่าว ไม่งั้นก็โดนดีแบบนี้แหละ... ไปๆ ไปจุดธูป”

“จริงอ่ะ” มะระหลุดปากอย่างลังเล

ลุงของเขาปั้นหน้าขึงขัง “จริงสิ เร็วเข้า อยากได้วิชาก็ต้องไหว้ครู” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ลงทุนเดินเข้าไปในห้องพระจุดธูปมาให้
“เอ้า... พูดตาม”

“ผม...(ผม).. เด็กชายมะระ... (เด็กชายมะระ)... เข้ามาขอความรู้ครับ...(เข้ามาขอความรู้ครับ)... อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย... (อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย)”

“เอาไปปักกลางแจ้ง” ลุงวรบรรณเอ่ยพลางส่งธูปให้

“ทำไมไม่ปักหน้าคอมล่ะครับ”

“จะปักทำไมหน้าคอม”

“ก็เจ้าที่อยู่ในคอมไม่ใช่เหรอครับ”

“โอ๊ย... เจ้าที่ก็อยู่ทุกที่แหละ เขาถึงเรียกเจ้าที่ไง” ลุงวรบรรณพูดไปเรื่อย “ไปเร็ว อย่าซักไซ้มาก”


เด็กชายมะระปักธูปกลางสนามหญ้าแล้วเข้ามานั่งคอยคำตอบอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ด้วยความสนใจใคร่รู้ เจ้าตัวจึงคลิกหน้าจอดูทุกๆ ครึ่งนาที ถ้าปุ่ม ‘กระดานสนทนา’ เป็นกระดาษคงยุ่ยไปแล้ว... หลังคลิกอยู่หลายตลบก็เห็นตัวเลขหลังกระทู้เพิ่มขึ้น จึงรีบกดเข้าไปดู ก็เห็นว่ามีเด็กชื่อ ‘มะโรงจัง’ เข้ามาถามว่า เขาอยากเขียนเพราะอะไร

“ลุงครับ... มะโรงแปลว่าอะไรครับ” หลานขี้สงสัยตะโกนถาม

“งูใหญ่”

“แล้วจังล่ะครับ”

“จังก็คือจัง”

เด็กชายมะระนิ่งคิด ‘งั้น มะโรงจัง ก็ต้องแปลว่า...’ เจ้าตัวยิ้มอย่างภาคภูมิใจแล้วก้มหน้าหาตัวอักษรในแป้นพิมพ์

‘สวัสดีน้องงูใหญ่จัง พี่มะระอยากเขียนเพราะเห็นลุงวรเขาเขียน แต่งูใหญ่จังอย่าไปบอกใครนะ พี่มะระยังไม่รู้เลยว่าเขาเขียนกันยังไง กำลังถามพี่เว็บฟอร์อยู่ งูใหญ่จังจะถามมั่งก็ได้นะ แต่อย่าลืมจุดธูปก่อนล่ะ ในนี้เจ้าที่แรง’

พิมพ์เสร็จแล้วเจ้าตัวก็กดส่งข้อความขึ้นกระทู้ แล้วนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อ่านข้อความของตัวเอง

พออ่านจนอิ่มตาอิ่มใจแล้ว เจ้าตัวก็คลิก กระดานสนทนา อีกครั้ง และหัวใจก็เต้นแรงอีกเมื่อเห็นตัวเลขท้ายกระทู้เพิ่มขึ้นอีก

“ลุงครับ มีคนมาตอบอีกแล้วครับ”

“เขาว่าไงล่ะ”

“เขาบอกว่าไม่เข้าใจคำถามครับ”

“มะระถามไม่รู้เรื่องน่ะสิ... นั่นแหละจำไว้... หากอยากจะเขียน สิ่งแรกที่ต้องทำให้ได้คือ เขียนให้รู้เรื่อง”

“ครับ” เจ้าหนูมะระนั่งคอตก “แล้วผมต้องถามใหม่รึเปล่าครับ”

“ไม่ต้องหรอก รอดูไปก่อน”


“ลุง...”

“เขาว่าไง” เจ้าหนูมะระยังไม่ทันจะเอ่ยอะไร ลุงก็ถามแทรกขึ้น

“เขาบอกให้เริ่มเขียนบันทึกก่อนครับ”

“ก็ดี”

“ดียังไงครับ”

“การเขียนบันทึก ส่วนใหญ่จะเขียนเรื่องที่เราเจอ เราคิด ไม่ต้องใช้สมองเสกสรรปั้นแต่งอะไรมากมาย เหมาะสำหรับการเริ่มเขียน”

“ใช้สมองเสกสรรปั้นแต่งคืออะไรครับ”

“ก็แต่งเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงให้ดูสมจริง น่าเชื่อถือ หรือถ้าจะเขียนเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ก็ต้องเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาเรียงร้อยให้น่าสนใจ น่าติดตาม ไม่ใช่เขียนไปเรื่อยเปื่อย แบบนั้นน่าเบื่อ”

“เรื่องมีหลายชนิดเหรอครับ เห็นพี่เว็บฟอร์เขาบอกให้ผมเริ่มเขียนนิทานก่อน”

“ใช่ เรื่องมีหลายประเภท นิทานอย่างที่เขาว่าก็ใช่ นอกจากนั้นก็มี นิยาย เรื่องสั้น บทความ สารคดี เยอะแยะไปหมด มะระอยากเขียนประเภทไหนล่ะ”

“ประเภทโรมานซ์”

พรวด! น้ำเย็นที่เพิ่งจิบเข้าไปพุ่งพรวดออกจากปากยอดชายนายวรบรรณ

“ลุงเป็นอะไรครับ”

“ไปเอามาจากไหนเนี่ย”

“ก็พี่เว็บฟอร์เขาบอกว่าอย่าไปเขียน ผมก็เลยจะถามว่าประเภทโรมานซ์เป็นยังไง”

“มันก็เป็นเรื่องแบบว่า... มีบทอัศจรรย์”

“บทอัศจรรย์เป็นยังไงครับ”

“มันก็เป็นบทแบบว่า... แบบว่า... ลุงปวดฉี่ เข้าห้องน้ำก่อนนะ”

เขาหวังว่าเวลาเนิ่นนานในห้องน้ำจะทำให้เจ้าหลานขี้สงสัยลืมเรื่องที่เพิ่งซักไซ้ แต่เขาคิดผิด เพราะทันทีที่ก้าวออกจากห้องน้ำ คำถามก็จู่โจมทันที

“บทอัศจรรย์เป็นยังไงครับ”

“ก็เป็นแบบ... มันต้องอธิบายกันยาว เอาไว้วันหลังแล้วกัน ... ไหนลองดูซิ มีใครมาตอบอีกหรือเปล่า” ยอดชายนายวรบรรณว่าพลางกด ‘รีเพรช’ หน้าจอคอมพิวเตอร์

“โอ้ว... มานี่เลย มาธุคนนี้เร็ว”

“ป้าฟีเป็นใครครับ”

“เจ้าของเว็บ... เอ้า! ธุเร็วสิ”

“ธุตรงนี้ป้าฟีจะรู้เหรอครับ”

“ฮึ๊ย... เราจะไหว้ เขาจะรู้หรือไม่รู้ก็ไม่สำคัญ ถ้าเราเคารพใคร ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลังเราก็ต้องเคารพ... เร็วเข้า”

ลุงวรบรรณหัวเราะถูกใจที่บังคับหลานให้ไหว้ปลกๆ หน้าคอมพิวเตอร์ได้

“นี่ๆ” เขาอ่านคร่าวๆ แล้วสรุปความให้เจ้าหนูมะระฟัง “ป้าฟีเขาเล่าว่า ตอนแรกที่เริ่มเขียน เขาก็คิดว่าต้องเขียนได้ แต่พอเขียนไปกลับล้มไม่เป็นท่า แต่ป้าฟีเขามั่นใจว่าตัวเองเก่งเรื่องปั้นน้ำเป็นตัว ฮ่าๆๆ เลยด้นเขียนไปเรื่อยๆ พอเขียนจบเรื่องแรกก็ได้เห็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น และปัญหาเหล่านั้นแหละคือประสบการณ์ สามารถนำมาปรับปรุงการเขียนในเรื่องต่อๆ ไปได้”

เขาเล่าพลางพิจารณาใบหน้าหลาน “เข้าใจหรือเปล่า”

“เข้าใจครับ”

“ดีมาก” ลุงวรบรรณว่าพลางลูบศีรษะหลานชายแผ่วเบา “นี่แหละ เราต้องเขียนเสียก่อน ทันทีที่เริ่มเขียน ย่อมหมายความว่า เราเริ่มมีประสบการณ์ ถ้าเราไม่เขียน เราก็จะไม่มีประสบการณ์ ประสบการณ์ไม่มีซื้อขาย อยากได้ต้องฝึกฝน”

“ครับ”

“และนี่ จำไว้เลย ป้าฟีเขาแนะนำมา หนึ่ง ศึกษาวิธีการเขียน ตอนนี้ถือว่ามะระกำลังศึกษาอยู่ สอง อย่าเอาแต่ถาม ต้องลงมือทำด้วย นี่ๆๆ ข้อนี้จำฝังหัวไว้เลย สาม รู้แนวที่จะเขียน อันนี้ละไว้ในฐานที่เข้าใจก่อน เดี๋ยวค่อยคุยอีกที เอาข้อสุดท้ายก่อน สี่ เขียนทุกวัน ถ้าอยากเขียนจริงๆ ต้องเขียนให้ได้ทุกวัน ... ทำได้หรือเปล่า”

“เอ่อ... ทำได้... มั้ง... ครับ”

“แสดงว่ายังไม่มั่นใจ งั้นเลิกคิด เลิกถาม จบ”

“มั่นใจครับ มั่นใจ” เจ้าหนูมะระละล่ำละลักตอบ

“แน่ใจ?”

“แน่ใจครับ”

“ถ้าแน่ใจก็ธุอีกที ธุทุกคำตอบที่พวกพี่เขาอุตส่าห์สละเวลามาตอบเรา”

คราวนี้เด็กชายมะระธุหน้าจออย่างนอบน้อมไม่เคาะเขิน

“ดีมาก… คราวนี้ตั้งคำถามใหม่อีกรอบ ว่าการเขียนนิยายมีกี่แนว และพวกเขาเลือกเขียนแนวนั้นเพราะอะไร ... เรียบเรียงคำถามให้ดีนะ การตั้งคำถามก็ถือเป็นการฝึกการเขียนอีกแบบนึง”

“ครับ”

เด็กชายมะระนั่งนิ่งอยู่หลายอึดใจก่อนกดแป้นพิมพ์

... ‘พี่เว็บฟอร์ครับ การเขียนนิยายมีกี่แนวครับ แล้วเพราะอะไรพวกพี่ถึงเลือกแนวที่เขียนครับ’ ...
 


  คำตอบที่ 1  
 

iloverally

25 ม.ค. 55
เวลา 23:34:59
ไม่รู้ว่ามีกี่แนว

แต่ที่เขียน เป็น รักกุ๊กกิ๊ก คิดว่าเขียนง่ายสุด
 


  คำตอบที่ 2  
 

Tethys

26 ม.ค. 55
เวลา 0:15:02
เออ...ป้าขอตัวไปนอนก่อนนะคะ หนูมะระมาตั้งคำถามดึกๆ แบบนี้

คำถามก็อย่างกะไปตอบข้อสอบ สงสัยต้องตอบยาว ต้องหาเวลาเหมาะๆ นะลูก

เพราะป้าเขียนหลายแนว อุอุอ ต้องถามว่ามีแนวไหนที่ป้าไม่ได้เขียนนะ แล้วก็ชอบหมดด้วยอ่ะ...


5555 ถามเรื่องยากเกินตัวนะนี่ หนูมะระเอยยย กินนมนอนได้แล้วลูก
 


  คำตอบที่ 3  
 

moolar

26 ม.ค. 55
เวลา 0:47:25
ง่า...ทำไมหนูมะระนอนดึกจังคะ

มะล่าร์อ่านกระทู้ของหนูมะระแล้ว ง่วงทันทีเลย

ขอไปนอนทำใจ (จะตอบ) สักคืน เดี๋ยวกลับมาตอบค่ะ^^
 


  คำตอบที่ 4  
 

คุณพีทคุง

26 ม.ค. 55
เวลา 2:48:12
(ช่องนี้ของนายมะโรงจัง)

พี่มะระถามว่าการเขียนนิยายมีกี่แนว น้องมะโรงจังไปถามพี่คุณพีทคุงมาแล้ว เฮียแกก็ไม่รู้ครับ บอกว่าไม่เคยนับเหมือนกัน แต่ที่ถามว่าเพราะอะไรถึงเลือกแนวที่เขียน อันนี้พี่พีทคุงตอบได้ น้องมะโรงจังเลยไปจดมาฝากพี่มะระนะครับ

ส่วนใหญ่พี่พีทคุงจะเขียนแนวโรแมนติกคอมมะดี้ครับ คือเป็นเรื่องความรักที่เบาๆ ขำๆ และที่สำคัญต้องมีความสุข เลือกเขียนแนวนี้เพราะเป็นแนวที่ชอบ อ่านแล้วมีความสุข และรู้สึกว่าช่วยส่งเสริมทัศนคติที่ดีต่อความรักได้ด้วยครับ

ส่วนอีกแนวที่พี่พีทคุงเขียน เห็นพี่พีทคุงบอกว่าพี่มะระอาจจะอายุไม่ถึง 15 เลยไม่สามารถเล่าให้ฟังได้ครับ

น้องมะโรงจัง
 


  คำตอบที่ 5  
 

loma

26 ม.ค. 55
เวลา 6:35:35
มีกี่แนวหนอ ... หนูมะระรู้แล้วมาบอกน้องก้างปลาด้วยนะ น่าจะวัยไล่ๆ กันคุยกันรู้เรื่อง เผื่อน้องก้างปลาจะเป็นนักเขียนกับเขาบ้าง ฮ่าๆ (แม่จะรวยแล้ว หลังจากแม่เขียนไม่ค่อยสำเร็จ อิ อิ)

แนวที่เขียนตอนนี้คือแนว โรแมนติก คอมมะดี้ แต่มันเป็นแบบนั้นหรือเปล่ายังสงสัย 5555555 แต่ก็ยังดันทุรังเขียนต่อไป ที่เลือกแนวนี้เพราะน่าจะเข้ากับชีวิต กร๊ากกกกกกกก บ่ ใช่ คือมันน่าจะง่ายสุดสำหรับโลมาที่หัดเขียน จะดราม่า มันก็ไม่ใช่ หุ หุ

ขอบคุณน้องมะระที่ช่างถาม อยากรู้ด้วยคนคร้าาาาาาาาา



 


  คำตอบที่ 6  
 

Tethys

26 ม.ค. 55
เวลา 8:06:42
ตื่นมารอบ นั่งคิดนอนคิด ตอบไงดีให้เด็กอย่างหนูพอเข้าใจนี่ แถมมีจูเนียร์บ้านข้างๆ มาข้างบนอีก เหอะ เหอะ...


สุดท้ายป้าว่าหนูมะระไปอ่านหน้าแรกเว็บฟอร์ฯ แล้วกันนะ ตอนแรกจะบอกว่ารอป้าฟี ก็เมื่อยแทนนิ้วป้าฟี แหะ แหะ


แนวที่ป้าชอบเขียนมากสุดคืะ เรื่องความรัก แล้วก็เรื่องแนวลึกลับซ้ำซ้อน ทิ้งขนมปัง แก้ปัญหา ความคิดขัดแย้งสับสนของตัวละคร ป้าก็เลยผสมๆๆๆ กันหมดให้เรื่องมีหลายๆ รส

แต่ที่ป้าได้เป็นเกียรติเป็นศรีกลับเป็นแนวดราม่าปัญหาวัยรุ่น ปัญหาเด็กอย่างหนูมะระนี่นั่นแหละ 5555

ผสมๆๆๆ กัน ไปๆ มาๆ หลังๆ ป้าก็เลยมีผลงานเป็นแต่แนวโรแมนติกซีเรียส ออกแนวรัก หวานๆ ขมๆ เครียดๆ ไม่ค่อยจะตลกซักเท่าไร



สิ่งสำคัญรอบนี้...
ป้าขอแนะนำว่า หนูควรอ่านหนังสือเยอะๆ ก่อนนะ อ่านหนังสือหลายๆ ประเภท แล้วหนูจะเข้าใจแหละว่านิยายมีกี่แนว



 


  คำตอบที่ 7  
 

Tethys

26 ม.ค. 55
เวลา 8:11:50
อ้อ! ยังตอบไม่จบสินะ ทำไมถึงเขียนแนวนั้น ป้าก็ไม่รู้แหละ รู้แต่ว่าชอบ...

สมัยเด็กๆ ป้าเขียนแต่เรื่องเศร้าๆ เรื่องโทนหม่น ทั้งๆ ที่ชีวิตลัลล้า แต่พอโตขึ้นชีวิตป้ารันทดยิ่งกว่าวัยเด็ก ป้าก็เลยจับสีสัน เอาความรักมาใส่ให้โลกสวยงาม ฝันฟุ้งๆ ให้หัวใจฟูๆ

มันคงเป็นความสุขเติมส่วนที่ขาดให้กับชีวิตเรามั้ง...


แค่นั้นแหละ ตอบหนูป้าเหนื่อยมากเลยนะนี่ หุหุหุ
 


  คำตอบที่ 8  
 

copter

26 ม.ค. 55
เวลา 15:47:43
มะระจัง เรียก "ป้าฟี" หาเรื่องดับ
เดี๋ยวป้าฟีงอนนะ ฮ่าๆ

นวนิยายมีกี่แนว ไม่รู้ไปหาดูเอง คริ คริ
มีหลายแนว
แต่แนวที่น้องคอปชอบ ก็แนวรักสิ
อบอุ่น โรแมนติกดี ฮ่าๆ
 


  คำตอบที่ 9  
 

moolar

27 ม.ค. 55
เวลา 23:19:38
ชอบแนวโรแมนติก แอคชั่น ค่ะ ^__^

ตั้งใจเขียนแนวนี้เพราะ ชอบค่ะอธิบายไม่ถูก
 




  เชิญกรอกข้อความเพื่อตั้งคำถาม  
  กรุณา login เพื่อตอบคำถาม