ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่
 
  good plot ซีซั่น2 ที่ผ่านเข้ารอบ 15 คน เอามาให้เพื่อนๆได้อ่านศึกษาไว้ทำพลอตครับ  
 
 

ทินกฤต

9 เม.ย. 60
เวลา 23:22:55

พิมพ์
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
“ รุ้งเปลี่ยนสี” โดย นภัสกร
“แม้เวลาจะทำให้รุ้งเปลี่ยนสี แต่รุ้งก็ต้องมีอยู่คู่กับตะวันไปตลอดกาล”
รุ้งทิตา เด็กสาววัยยี่สิบต้นๆดีกรีดาวมหาวิทยาลัยระดับประเทศแห่งหนึ่ง รุ้งทิตาเป็นที่อิจฉาของหญิงสาวทั้งมหาวิทยาลัย เพราะมีความสวยโดดเด่น ทำให้เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆในวิทยาลัย แถมยังเรียนเก่ง เรียบร้อยทั้งกิริยาและมารยาทเป็นแบบอย่างที่อาจารย์มักจะเอ่ยชื่อชื่นชม อีกทั้งรุ้งทิตายังมีความสามารถ เต้นบัลเล่ย์ เล่นเปียโน
รุ้งทิตาเป็นบุตรสาวคนเดียวของ รัตนา และ ทรงยศ และทั้งสองก็วางกรอบกฏระเบียบของชีวิตไว้ให้บุตรสาวตั้งแต่เยาว์วัย รัตนาเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองในมหาวิทยาลัยเอกชน ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าระเบียบที่สุด จนลูกศิษย์แอบตั้งฉายาให้มากมาย ส่วนทรงยศเป็นผู้จัดการฝ่ายควบคุมการผลิต ของบริษัทต่างชาติที่ผลิตอะไหล่รถยนต์ส่งออก และจากความขยันของทรงยศ ทำให้มีรายได้มากกว่ารัตนาหลายเท่า
ครอบครัวของรุ้งทิตาจึงจัดว่าดีกว่าครอบครัวอื่นๆในละแวกหมู่บ้านจัดสรรแถบชานเมือง และเพราะความเจ้าระเบียบของรัตนาที่มีมากนั้น ยังครอบคลุมมาถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนในครอบครัว ความเรียบง่าย ไม่หวือหวา รวมถึงอาหารการกินก็จัดอยู่ในหมวดเพื่อสุขภาพซะส่วนใหญ่ และความเป็นอยู่ที่ถูกควบคุมด้วยกฏของเวลานั้น ก็ทำให้รุ้งทิตากลายเป็นเหมือนตัวประหลาดสำหรับเพื่อนรุ่นเดียวกันในหมู่บ้าน
ไม่เว้นแม้แต่ นิสา เพื่อนในวัยเยาว์นั้น คำสั่งเชิงปรามจากรัตนา ก็ทำให้ความสนิทในวันวานของรุ้งทิตากับนิสานั้น ต้องขาดการติดต่อกันอย่างสิ้นเชิง และทุกครั้งที่รัตนาจะสอนสั่งรุ้งทิตา นิสาก็คือผู้ที่ถูกหยิกยกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง เพราะนิสาออกจากโรงเรียนกลางคัน อีกทั้งยังทำตัวไม่สมวัย รวมถึงการแต่งกายที่ล่อตาล่อใจ ชอบมั่วสุมคบกับกลุ่มเด็กหนุ่มนักซิ่งประจำหมู่บ้าน อีกทั้งชอบเที่ยวกลางคืนและดื่มสิ่งมึนเมา สิ่งที่เกิดขึ้นกับนิสานั้น รัตนาเฝ้าดูมาตลอด และรัตนาก็จะไม่มีวันให้รุ้งทิตาเป็นอย่างนั้นเด็ดขาด
นิสาเองก็รู้ว่ารัตนาไม่ชอบ จึงแสร้งทำสิ่งที่รัตนามักจะพูดว่าเป็นสิ่งไม่ดีให้เห็นทุกครั้งที่ต้องเจอกัน และนั่นก็ทำให้นิสากับรัตนาต้องมีปากเสียงกัน จนเกิดเป็นความไม่พอใจไปถึง เพียง แม่ของนิสา ที่มีอาชีพขายข้าวแกง เพราะในอดีตรัตนากับเพียงเป็นครอบครัวที่สนิทกันมาก แต่เวลาผ่านไปหน้าที่การงานของรัตนาก็ทำให้ต้องห่างกัน เพียงเริ่มไม่ชอบรัตนา เพราะเข้าใจว่ารังเกียจที่ตนมีฐานะและอาชีพด้อยกว่า เพียงจึงชอบพูดจากระทบกระทั่งทุกครั้งที่พบกับรัตนา และทั้งสองก็มีปากเสียงกันเป็นประจำ
รัตนาอยากหนีจากสังคมที่คิดว่าจะทำให้ครอบครัวตกต่ำ จึงปรึกษากับทรงยศ ทรงยศเข้าใจจึงรับปากจะหาซื้อบ้านใหม่ รัตนาพอใจ ทางด้านเพียงก็มาพูดหว่านล้อมให้นิสาเกลียดครอบครัวของรัตนา ซึ่งนิสาจึงรับปากแม่ เพราะนิสาเองเองก็ไม่พอใจรุ้งทิตาที่แสดงทีท่ารังเกียจตนเหมือนที่แม่บอกจริงๆ
รัตนาเร่งรัดทรงยศเรื่องบ้านใหม่ ทำให้ทรงยศคิดหนักจึงต้องขอทำงานล่วงเวลาเพื่อจะเพิ่มรายได้และทรงยศก็เกิดความเครียดเนื่องจากการโหมทำงานหนัก การพักผ่อนน้อยทำให้ทรงยศประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทันที และรัตนาแทบซ๊อคเมื่อความฝันนั้นต้องสลาย หลังงานศพทรงยศเสร็จสิ้น รัตนาเริ่มเครียดกับรายจ่ายในครอบครัวที่ต้องแบกไว้คนเดียว ภาระอันหนักก็ทำให้รัตนาเกิดความเครียด กลายเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวทุกครั้งที่เห็นตัวเลขของรายจ่าย รุ้งทิตาสงสารแม่ จึงบอกแม่จะหยุดการเรียน ร้อง เต้น เล่นดนตรี และทุกๆอย่าง เพราะค่าเรียนนี่เองที่เป็นรายจ่ายหนัก และรุ้งทิตาคิดว่าไม่จำเป็นอีกแล้ว แต่รัตนาไม่ยอม ยังฝันยังหวังที่จะเห็นบุตรสาว เก่งและดีเหนือกว่าคนอื่นๆ โดยเฉพาะนิสา และเหตุผลที่สองแม่ลูกเริ่มต่างกันนี่เอง ที่ทำให้มีปากเสียงกัน
รุ้งทิตาเริ่มเครียด ความเก็บกดที่สั่งสมมานานนั้น ทำให้รุ้งทิตาเริ่มเหลวไหลไม่เข้าเรียนและกลับบ้านไม่ตรงเวลา รุ้งทิตาชอบหลบมานั่งยังสวนหย่อมของหมู่บ้าน เพราะรู้ดีว่าการกลับบ้านไม่ทำให้สุขใจอีกแล้ว และนิสาที่กำลังเที่ยวเตร็ดเตร่กับกลุ่มเพื่อนก็มาเจอรุ้งทิตา และเมื่อนิสาได้รู้ถึงความทุกข์ของรุ้งทิตา ความสนิทที่เคยมีต่อกันในอดีต ทำให้ทั้งสองเข้าใจกันได้ไม่ยาก แต่เมื่อรัตนาตามจนเจอรุ้งทิตา จึงพาลต่อว่านิสาอย่างหนักที่ทำให้รุ้งทิตากลายเป็นคนเหลวไหล รุ้งทิตาไม่พอใจที่แม่ต่อว่าเพื่อน ทั้งสองจึงมีปากเสียงกัน และนั่นก็เป็นชนวนทำให้แม่และลูกเริ่มห่างเหินกัน
รุ้งทิตาเริ่มเบื่อกับชีวิตที่ถูกกำหนดจากแม่ และเริ่มต่อต้านในทุกๆเรื่องที่แม่วางกฎระเบียบให้ รัตนาโกรธที่บุตรสาวไม่เชื่อฟัง จึงทำโทษอย่างหนักและเป็นครั้งแรก อารมณ์เก็บกดจากคนเป็นแม่ได้ระบายสู่ลูกอย่างไม่มีเหตุผล รุ้งทิตาเสียใจมากจึงตัดสินใจหนีความทุกข์มาหานิสา นิสาเข้าใจจึงพารุ้งทิตามาอาศัยในห้องเช่ากับเพื่อนสนิทอีกคน
นิสารุ้ว่ารุ้งทิตาเสียใจเรื่องทางบ้าน จึงช่วยให้หายจากความเศร้าโดยการพารุ้งทิตาเข้ากลุ่มแกงค์เด็กนักซิ่งและพาตระเวณเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รุ้งทิตาไม่เคยสัมผัสมาก่อน เป็นความตื่นตาตื่นใจ สนุกสนานตามประสาวัยรุ่น รุ้งทิตาเคยได้ยินจากแม่ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ดี แต่รุ้งทิตาลืมคำสอนนั้นสนิท กลับมองว่าชีวิตที่นิสาหยิบยื่นให้นั้น เป็นชีวิตอิสระ และเป็นชีวิตวัยรุ่นเลือกที่จะทำได้
ขณะเดียวกันรัตนากลุ้มใจที่บุตรสาวหนีออกจากบ้าน ข่าวการหายของรุ้งทิตารู้ถึงเพียง เมื่อเพียงเจอรัตนาจึงแกล้งว่าค่อนขอดให้รัตนาเจ็บใจ ทั้งๆที่เพียงรู้ว่ารุ้งทิตาอยู่ที่ไหน แต่เพียงก็ไม่บอก
ความสวยของรุ้งทิตานั้นก็สะดุดตากับ เอก ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ เจ๊ใจ เจ้าแม่เงินกู้นอกระบบรายใหญ่ ที่ได้ฉายาจากลูกหนี้ว่าเจ๊ใจเค็ม เอกจึงมาขอให้นิสาช่วย นิสาจึงยื่นข้อเสนอจะทำให้เอกสมหวังแต่ขอแลกกับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ เอกตกลงทันที ทางด้านรุ้งทิตาเองก็แอบพอใจในความหล่อของเอก แต่รุ้งทิตาก็เก็บความรู้สึกนี้ไว้ พอนิสามาพูดเรื่องเอก ทำให้รุ้งทิตาเข้าใจได้ไม่ยาก และความสัมพันธุ์ของเอกกับรุ้งทิตาก็เกิดขึ้น ทำให้รุ้งทิตากลายเป็นผู้มีอำนาจในแกงค์นักซิ่งทันที และรุ้งทิตาก็หลงระเริงในสิ่งที่ได้รับ จนยอมปล่อยตัวปล่อยใจให้กับเอก และนิสาก็ได้ของตามที่เอกรับปาก
รัตนารู้ข่าวของลูกสาว จึงออกตามหาจนพบ แต่เอกขี่รถมอเตอร์”ซค์ซิ่งพารุ้งทิตาหนี การไล่ล่าจึงเกิดขึ้น และเหตุการณ์นี้เอง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เมื่อเอกขี่มาด้วยความเร็วและผ่าไฟแดง จึงประสานงากับรถบรรทุก ทำให้เอกเสียชีวิตทันที รุ้งทิตาได้รับบาดเจ็บสาหัส ตะวัน ที่จอดรอสัญญาณไฟอยู่เห็นเหตุการณ์ จึงช่วยพารุ้งทิตาส่งโรงพยาบาล รัตนาทั้งเสียใจและเจ็บใจที่ลูกสาวเป็นเช่นนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ตะวันจึงพูดปลอบใจรัตนา รุ้งทิตารักษาตัวจนอาการดีขึ้น รัตนาพากลับมาบ้าน และความบาดหมางในใจของรัตนากับรุ้งทิตานั้นก็ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม
และเหตุการณ์ที่รัตนาไม่เคยรู้มาก่อนก็เกิดขึ้น เมื่อบ้านที่อาศัยอยู่นั้น ทรงยศได้แอบเอาไปจำนองกับรุ่นพี่ที่ทำงาน และถึงเวลาต้องชำระ รัตนาเห็นตัวเลขก็รู้ว่าไม่สามารถหาเงินได้ จึงตัดสินใจขายบ้านและนำเงินที่เหลือพารุ้งทิตามาเช่าบ้านหลังเล็กๆอยู่ รัตนาในเวลานี้เหมือนคนที่ล้มเหลวในชีวิต ความฝันและความหวังที่เคยมีอยู่เต็มเปี่ยมจากสามีและลูกนั้น ต้องสูญสลายไปสิ้น รัตนากลายเป็นคนเงียบขรึมจนทำให้เป็นโรคเครียด และรัตนาก็ต้องออกจากงาน รุ้งทิตาสงสารแม่ รุ้งทิตาจึงขอโทษแม่และสัญญากับแม่ว่าจะเป็นลูกที่ดีตามที่แม่ตั้งใจ ทำให้รัตนาพอใจและเริ่มมีความหวังขึ้น
รุ้งทิตาจึงออกหางานทำ เริ่มจริงจังกับชีวิตมากขึ้น รุ้งทิตาได้งานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เดียวกับตะวัน และทั้งสองก็เริ่มสนิทกัน ตะวันหลงรักรุ้งทิตา รุ้งทิตารู้สึกว่าตะวันเป็นคนดี จึงยอมคบหาด้วย ตะวันพารุ้งทิตามาพบกับ มาลัย แม่ของตะวัน และการได้พบกับมาลัยทำให้รุ้งทิตาได้เห็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยความสุข มาลัยเป็นคนสูงวัยที่อ่อนโยน และปฎิบัติธรรม มาลัยจึงสอนรุ้งทิตาหลายๆสิ่ง ซึ่งเป็นการสอนที่แตกต่างจากรัตนาอย่างสิ้นเชิง รุ้งทิตาจึงรู้สึกได้ถึงความรักและความจริงใจที่มาลัยมีมาให้ ทำให้รุ้งทิตาเชื่ออย่างสนิทใจว่าตะวันเป็นคนดี
รุ้งทิตารู้ว่าตะวันมักจะใช้เวลาว่างมาเป็นจิตอาสาช่วย หมอวดี ที่ศูนย์รักษาผู้ติดเชื้อเอซไอวี ทำให้รุ้งทิตาได้เห็นผู้ติดเชื้อมากมาย และรุ้งทิตาก็ตกใจเมื่อพบกับ นิสา ที่ติดเชื้อระยะสุดท้าย รุ้งทิตาสงสารเพื่อนมาก แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ และไม่นานนิสาก็เสียชีวิตอย่างทรมาน รุ้งทิตารู้จากหมอวดีว่า นิสาติดเชื้อมานานและไม่เข้ารับการรักษา ข่าวนิสาเสียชีวิตถูกพูดเป็นวงกว้างในหมู่บ้าน ทำให้เพียงขายของไม่ได้ต้องย้ายที่อยู่ รุ้งทิตาสงสารจึงมาขอร้องรัตนาให้รับเพียงมาอยู่ด้วย รัตนาจึงต้องรับเพื่อตามใจลูกอย่างเลี่ยงไม่ได้
รุ้งทิตายังคงใช้ชีวิตทำงานหนักขึ้น และใช้เวลาที่เหลือไปเปิดร้านขายกิ๊ฟช๊อปในตลาดนัด โดยมีตะวันคอยช่วยเหลือ แต่ชีวิตที่ดูจะราบรื่นสวยงามของรุ้งทิตานั้น ต้องสลายลงเช่นกัน เมื่อร่างกายหักโหมหนักขึ้น ทำให้รุ้งทิตาป่วยบ่อยและถี่จนตะวันเริ่มเป็นห่วง แต่รุ้งทิตาก็ยังฝืนตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนร่างกายทรุดโทรม ตะวันเป็นห่วงแต่รุ้งทิตาก็ดื้อ จนวันหนึ่งขณะรุ้งทิตากลับบ้าน ได้ถูกรถชนและทำให้ต้องได้รับการผาตัดด่วน ตะวันได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาล และตะวันก็รับเป็นเข้าของไข้ให้หมอช่วยเร่งผ่าตัด แต่สิ่งที่ตะวันไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อหมอผู้ทำการผ่าตัดแจ้งกับตะวันว่า รุ้งทิตาติดเชื้อเอซไอวี
ตะวันรู้สึกสับสน แต่ก็ยอมรับเป็นเจ้าของไข้ และขอร้องหมอให้ช่วยปิดเรื่องติดเชื้อกับรุ้งทิตา หมอจึงรับปาก การป่วยของรุ้งทิตาครั้งนี้ ทำให้ตะวันคิดหนัก ตะวันเริ่มห่างจากรุ้งทิตา และกลายเป็นคนเงียบขรึม จนมาลัยรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ มาลัยจึงถามแต่ตะวันก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบ มาลัยคิดว่าลูกชายมีปัญหาแน่นอน จึงคาดคั้นจนตะวันยอมบอกเรื่องของรุ้งทิตา เมื่อมาลัยรู้เรื่องกลับสงบนิ่งจนตะวันแปลกใจ และมาลัยก็ตำหนิตะวันว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว และไม่รักษาคำสัญญา
มาลัยแกล้งโกรธตะวันและไม่ยอมพูดด้วย จนตะวันรู้สึกผิดจึงมาขอโทษแม่ มาลัยจึงยอมดีด้วย และบอกตะวันให้นึกถึงคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับ ดวงดาว พี่สาวที่หาเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพขายบริการเพื่อส่งตะวันเรียน และต้องมาจบชีวิตด้วยโรคร้ายนี้ การสูญเสียดวงดาวในครั้งนั้น ทำให้มาลัยรู้สึกผิดและปลงกับชีวิต จึงหันหน้าเข้าปฎิบัติธรรมอย่างจริงจัง และเหตุการณ์ที่เกิดกับรุ้งทิตาในเวลานี้ ทำให้มาลัยรู้สึกว่า ดวงดาวกำลังทวงคำสัญญาที่ตนกับตะวันเคยลั่นวาจาว่า จะไม่รังเกียจคนที่ติดเชื้อ และจะช่วยเหลืออีกทั้งจะให้โอกาสกับผู้ติดเชื้อได้อยู่ในสังคมได้อย่างสวยงาม และคำสัญญานี่เองที่ทำให้ตะวันต้องไปทำงานจิตอาสาช่วยหมอวดี ตามที่รับปากพี่สาวไว้ มาลัยรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้เป็นการท้าทายความรู้สึกของตนและลูกชายมาก แต่เพราะสัจจะที่ให้ไว้กับดวงดาว มาลัยจึงเลี่ยงไม่ได้ มาลัยจึงสั่งตะวันอย่าทอดทิ้งรุ้งทิตา
รุ้งทิตาอาการดีขึ้นจึงกลับมาพักที่บ้าน มาลัยกับตะวันก็ยังมาเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ รัตนาไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร เพียงเข้าใจจึงปลอบรัตนาให้ยอมรับในความจริง ยอมรับในตะวัน และบอกการบุตรสาวไปอย่างไม่มีวันได้กลับคืนนั้นเจ็บปวดยิ่งกว่า และนั่นทำให้รัตนารู้สึกเหมือนชีวิตสลาย รัตนาจึงระบายความทุกข์กับเพียง และบอกว่าชีวิตต่อไปคงจะลำบากเพราะเงินเก็บที่มีอยู่ได้ใช้กับการรักษารุ้งทิตาไปหมดแล้ว เพียงเข้าใจ จึงบอกจะช่วยโดยการทำข้าวแกงขายเพื่อหารายได้ รัตนาซึ้งใจ เพียงบอกเพราะความดีของรุ้งทิตา ที่ทำให้รู้สึกอยากตอบแทนบุญคุณ รัตนาจึงซึ้งใจและอาสาจะช่วยอีกแรง
มาลัยยังคิดหนักเรื่องรุ้งทิตา จึงบอกตะวันให้พาไปพบกับหมอวดี เพื่อปรึกษาและจะหาทางช่วยรุ้งทิตา หมอวดีเข้าใจความรู้สึกของตะวัน จึงปลอบใจบอกจะช่วยรุ้งทิตา และรุ้งทิตาจะไม่เป็นเหมือนดวงดาวแน่นอน มาลัยกับตะวันจึงพาหมอวดีมาพบรุ้งทิตาที่บ้าน แผลจากการผ่าตัดดีขึ้น แต่สภาพร่างกายของรุ้งทิตาตอนนี้เริ่มโทรมอย่างเห็นได้ชัด มาลัยรู้สึกกังวลจึงปรึกษากับตะวันว่าควรจะรีบรักษารุ้งทิตาให้เร็วที่สุด หมอวดีจึงบอกให้ตะวันช่วยพูดกับรุ้งทิตา แต่ตะวันบ่ายเบี่ยงและขอเวลาจากหมอวดี หมอวดีเข้าใจแต่ก็เตือนตะวันว่าอย่าประมาท
ตะวันยังคงคิดหนักเรื่องจะบอกรุ้งทิตา มาลัยพูดปลอบใจให้ลูกยอมรับความจริงและเลือกทำในสิ่งที่ควรทำ ทางด้านรุ้งทิตาเองก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองแปลกๆ เมื่อรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรงลง อีกทั้งยังเริ่มมีผื่นขึ้นตามแขนตามตัว รัตนาเป็นห่วงแต่ก็เข้าใจว่าลูกสาวคงแพ้ยา แต่เพียงเริ่มสงสัยในตัวรุ้งทิตา เพราะอาการที่เกิดกับรุ้งทิตานั้น มีหลายอย่างที่นิสาเคยเป็น แต่เพียงก็นิ่ง ได้แต่เฝ้าดู เพียงกับรัตนายังช่วยกันค้าขายอย่างตั้งใจ ทำให้มีรายได้จนน่าพอใจ
หมอวดีมาเร่งรัดตะวันเรื่องรุ้งทิตา แต่ตะวันบอกไม่พร้อม หมอวดีจึงบอกให้ตะวันรีบก่อนที่จะสาย ตะวันจึงมาหารุ้งทิตา และรุ้งทิตาก็กำลังป่วยหนักจากพิษไข้ ตะวันจึงรีบพารุ้งทิตาส่งโรงพยาบาล รัตนากับเพียงรีบมาโรงพยาบาล รัตนากังวลการป่วยของรุ้งทิตา เพียงปลอบใจรัตนาให้เข้มแข็งและเปิดใจยอมรับกับทุกเรื่องที่จะเกิดขึ้น รุ้งทิตาเองก็เครียดกับอาการป่วยของตัวเอง มาลัยและตะวันจึงพาหมอวดีมาพบรุ้งทิตา หมอวดีจึงตัดสินใจบอกความจริงกับรุ้งทิตา และคำบอกจากหมอวดี ก็ทำให้รัตนาแทบล้มทั้งยืน ส่วนรุ้งทิตานั้นช๊อคจนหมดสติไป เพียงจึงบอกรัตนาว่า รู้นานแล้วว่ารุ้งทิตาเป็นอะไร และที่ไม่บอกเพราะกลัวรัตนาจะรับไม่ได้ แต่ในเมื่อรู้ความจริงแล้ว เวลานี้ก็ควรจะมาคิดว่า จะทำยังไงไม่ให้ต้องเสียรุ้งทิตาไป หมอวดีจึงช่วยพูดให้รัตนาเข้าใจในโรคเอซไอวี อีกทั้งตะวันยังรับปาก จะช่วยดูแลและช่วยให้รุ้งทิตาสู้รักษา หมอวดีจึงบอกให้ทุกคนสร้างความหวังและช่วยกันทุ่มเทความหวังนั้นส่งให้ถึงรุ้งทิตา และรุ้งทิตาจะอยู่ต่อไปได้อีกนานและอยู่อย่างมีความสุข
รุ้งทิตาขณะนี้เหมือนคนสิ้นหวัง และเมื่อกลับมาบ้าน รุ้งทิตาจึงคิดฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา แต่ตะวันมาพบช่วยไว้ได้ทัน รุ้งทิตาเสียใจและรู้สึกรังเกียจตัวเองมาก แต่ตะวันได้ใช้อ้อมกอดส่งออกไปให้รุ้งทิตาอย่างจริงใจ ทำให้รุ้งทิตารู้สึกได้ถึงความรักและความห่วงใยที่ตะวันมอบมาให้ ตะวันบอกให้รุ้งทิตาสู้ และต้องอยู่อย่างเป็นมีความหวัง เพราะรุ้งทิตาคือของขวัญที่ทุกคนไม่อยากเสียไป ตะวันบอกไม่ว่ารุ้งทิตาจะเป็นยังไง ก็จะไม่ทิ้งจะอยู่เคียงข้างไปตลอด คำพูดของตะวันทำให้รุ้งทิตาคิดได้ และบอกจะสู้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอแค่มีตะวันอยู่เคียงข้าง ตะวันจึงพารุ้งทิตามาพบหมอวดี และเริ่มรักษารุ้งทิตา ตะวันพารุ้งทิตาไปพบกลุ่มคนติดเชื้อมากมาย และรุ้งทิตาก็ได้เรียนรู้ในโรคที่เป็นอยู่ และเริ่มเข้าใจในชีวิตของคนที่ติดเชื้อ และสิ่งที่รุ้งทิตาคิดได้คือ การติดเชื้อจะไม่ตาย ถ้าผู้ติดเชื้อเข้าใจและรักษาอย่างถูกวิธี
รุ้งทิตาเริ่มกลับมาเหมือนคนปกติ ซึ่งตะวันคอยดูแลอย่างใกล้ชิด คอยเตือนให้รุ้งทิตากินยาอย่างตรงเวลา รุ้งทิตาดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ ตะวันขอบคุณมาลัยที่เตือนสติ และสอนให้รู้จักคุณค่าของชีวิต ตะวันจึงบอกมาลัยจะอยู่เคียงข้างรุ้งทิตา มาลัยเข้าใจและไม่ยินดีรับรุ้งทิตา รัตนาเองก็รู้สึกดีเมื่อลูกอยู่อย่างมีความหวัง และนั่นก็ทำให้รัตนารู้สึกปลงกับชีวิต จึงหันไปปฎิบัติธรรมกับมาลัย ส่วนเพียงก็ทำอาหารขาย โดยมีรุ้งทิตาคอยช่วย และตะวันก็ยังใช้เวลาว่าง พารุ้งทิตามาช่วยงานหมอวดี ในการให้คำปรึกษากับผู้ติดเชื้อ ชีวิตของรุ้งทิตาจึงมีความสุข และรู้สึกชีวิตมีคุณค่ามากขึ้น รุ้งทิตายอมเอาชีวิตที่เคยผิดพลาดมาเป็นบทเรียนให้ทุกคนได้รู้ เพราะวันนี้ ในความโชคร้ายที่รุ้งทิตาได้รับนั้น ยังมีความโชคดีคือ มีตะวันอยู่คอยอยู่เคียงข้าง และตะวันก็เป็นผู้ที่สร้างให้รุ้งทิตากลับมางดงามอีกครั้ง และรุ้งทิตาก็จะอยู่กับตะวันตลอดไป

จบบริบูรณ์


 


  คำตอบที่ 1  
 

philipda

10 เม.ย. 60
เวลา 10:09:01
ขอบคุณมากค่ะ คุณทิน
^--^
 


  คำตอบที่ 2  
 

ibatman

10 เม.ย. 60
เวลา 14:21:26
เยี่ยมครับ ขอบคุณมาก
 


  คำตอบที่ 3  
 

buddy

1 พ.ค. 60
เวลา 21:44:24
เขียนเป็นเรื่องเลยคุณทิน เชียร์ๆ
^_^
 




  เชิญกรอกข้อความเพื่อตั้งคำถาม  
  กรุณา login เพื่อตอบคำถาม