เขียนนวนิยายสืบสวนแนว Cozy
นวนิยายสืบสวนที่เรียกว่า Cozy เป็นเรื่องที่อาชญากรรมที่แทบจะไม่ปรากฏให้เห็นความรุนแรงเลือดสาดแต่อย่างใด ภาษาที่ใช้ก็ไม่โลดโผน และในตอนจบของเรื่องผู้ก่ออาชญากรรม จะต้องได้รับการลงโทษ และทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับไปสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม
ตัวละครที่สืบสวนหรือคลี่คลายคดีบ่อยครั้งจะเป็นพวกนักสืบสมัครเล่น ที่เข้าไปพัวพันเพราะเหตุผลส่วนตัวบางประการ แต่กระนั้นก็ใช่ว่าเขาจะไร้ทักษะ เพราะเขาอาจจะเป็นมือโปรในเรื่องอื่น ๆ เช่นเป็นตำรวจ นักสืบเอกชน ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ หรือพวกนักข่าว
นวนิยายแนวนี้ จะเชิญชวนให้คนอ่านแก้ปัญหาอาชญากรรมเป็นอันดับแรก ทั้งร่องรอย เงื่อนงำ หรือหลักฐานจะแสดงต่อคนอ่านอย่างแฟร์ ๆ เหยื่อล่ออันเป็นเงื่อนปมที่ทำให้คนอ่านไข้วเขว ต้องถูกรวมเข้าไปสู่ประเด็นต้องสงสัย ที่มีให้เห็นทั้งเรือง แต่ ในแต่ละก้าวย่างนั้นต้องถูกอธิบายได้ในตอนจบ
อกาธา คริสตี้ เป็นนักเขียนที่ยอดเยี่ยมในแนวนี้
ตัวละคร
ตัวละครเอก ( นักสืบ ) ในโคซีมักจะเป็นคนดี เป็นคนที่เปิดเผยฆาตกรด้วยความรู้สัก หรือ ความเฉลียวฉลาดจากการพินิจพิเคราะห์ผู้ต้องสงสัย และเงื่อนงำในแต่ละฉาก
คนอ่านมักอยากจะเป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นเหมือนนักสืบผู้ที่น่ารักหรือผู้ที่มีข้อบกพร่องแต่เป็นที่ยอมรับได้ เช่น อาจจะเป็นคนที่ชอบตื่นสายประจำ แต่ต้องไม่ใช่คนติดยาเสพติด
และข้อบกพร่องนี้บ่อยครั้งอาจเป็นผลดี ต่อการสืบสวนสอบสวนด้วย
เหยื่อหรือผู้รับเคราะห์ ไม่ควรจะเป็นผู้ชั่วร้ายสุดประมาณ อาจจะเป็นคนที่มีอดีตลึกลับหรือเป็นใครสักคนที่ไม่มีใครรู้จักเขาอย่างแท้จริง ( ประเภทนักการเมือง ลุงผู้ร่ำรวยแต่ชอบเก็บตัว หรือบุคคลที่สังคมยกย่อง )
ผู้ร้าย โดยมากมักจะมีแรงจูงใจมาจากทัศนะทั่วไป ของมนุษย์ เช่น ความโลภ ความอิจฉา หรือ การแก้แค้น คุณจะไม่พบพวกฆาตกรโรคจิต หรือฆาตกรต่อเนื่องในแนวนี้ อาจจะมีการฆาตกรรมได้ในครั้งที่สองในเรื่อง แต่มันก็เป็นเพราะเส้นทางของพล็อตเรื่อง ไม่ใช่เพราะแบบฉบับของคนร้าย
ตัวละครประกอบ จะเป็นลักษณะไหนก็ได้ พวกก่อกวน น่าโมโห หรือตลกมีอารมณ์ขัน แต่ไม่ควรเป็นคนที่ร้ายกาจสุด ๆ และตัวละครเหล่านี้อาจจะใช้ให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย หรือดูบริสุทธิ์ หรือบางคนก็เป็นผู้ช่วยพระเอกไปเลย
ตำรวจ ในชีวิตจริง ตำรวจเป็นคนปิดฉากฆาตกรรม และเป็นคนสืบสวนสอบสวน แต่ในโคซีคนอ่านยอมรับได้ว่ามักจะไม่มีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะมีอุปสรรคสักอย่างที่ทำให้ตำรวจกลายเป็นคนสุดท้ายที่มาถึงในเรื่องหลังจากที่ทุกอย่างถูกเปิดเผยแล้ว
ตัวละครเล่าเรื่อง
ใช้ pov แบบบุคคลที่ ๑ หรือแบบ บุคคลที่ ๓ ก็ได้
สถานที่เกิดเรื่องราว
สำหรับโคซี เกิดได้ทุกที่ แต่โดยทั่วไปมักจะเป็นสถานที่เล็ก ๆ เพื่อที่จะทำให้ผู้ต้องสงสัยอยู่ในขอบเขตจำกัด และความสัมพันธ์ได้รับการพัฒนาง่าย และเนื่องจากตัวละครเอกของเราไม่มีห้องแลบคอยวินิจฉัยหลักฐาน ดังนั้นการแก้ปัญหามักจะเกิดจากการพูดคุยหรือซักถามตัวละครที่รู้จักกันและกัน หรืออยู่ในที่เกิดเหตุ
( โรงแรมแห่งหนึ่ง เรือสำราญ เกาะเล็ก ๆ ฯลฯ สถานที่มีขอบเขตจำกัด )
เพื่อความคุ้นเคย คุณอาจจะเขียนเรื่องให้เกิดในที่ ๆ คุณอยู่ก็ได้ และถ้าจะให้มันเกิดในเมืองที่สับสนวุ่นวาย ก็ให้อยู่ในขอบเขตที่จำกัดและอยู่เดี่ยว ๆ เช่น ตึกที่ทำงาน อพารต์เม้นท์ที่อาศัย
โคชี สามารถเกิดได้ทุกเวลา คิดถึงเรื่องของอกาธา คริสตี้ ที่มักจะให้มีสิ่งแวดล้อมที่จำกัด
เพื่อโดดเดี่ยวตัวละครในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการหลบหนีของฆาตกรหรือไม่ยอมให้มีการช่วยเหลือใด ๆ จากภายนอก เช่นฝนตกหนัก สะพานขาด หิมะถล่ม ฯลฯ พูดง่าย ๆ ก็คือสร้างสิ่งแวดล้อมที่ทำให้ตัวละครทั้งหลาย อยู่ร่วมกันในนั้น จนกว่าทุกอย่างจะถูกทำให้คลี่คลายหาตัวคนร้ายได้ ( ดูเรื่องโคนันยอดนักสืบ บางตอนก็อยู่ในลักษณะนี้ )
พล็อตเรื่อง
ให้มองถึงภาพจิ๊กซอว์ ที่ค่อย ๆหาแต่ละอย่างมารวมเข้าด้วยกัน
เหตุฆาตกรรมสามารถมีขึ้นก่อนเรื่องจะเริ่มต้น หรือ จะหลังจากเริ่มเรื่องเล็กน้อย และตัวละครเอกเข้าไปมีส่วนร่วมอาจจะด้วยความเต็มใจหรือไม่เต็มใจ และต้องเริ่มแก้ปัญหานำความถูกต้องออกมา
ระหว่างที่นักสืบรวมรวมหลักฐาน หรือคำซุบซิบต่าง ๆ สามารถสร้างความกดดัน หรือความตึงเครียด ให้เพิ่มขึ้นได้ ในเรื่อง เช่นการกลัวว่าจะเกิดการฆาตกรรมครั้งที่สอง และมันอาจจะเกิดขึ้นจริง ๆ ความระแวดระวังกันและกัน ฯลฯ
การคลี่คลายคดีมักจะเป็นลักษณะสร้างความประหลาดใจ และหักมุมอย่างคาดไม่ถึง
ในตอนจบ ตัวละครเอก และความยุติธรรม ต้องได้รับชัยชนะ
แบบฝึกฝน
๑. ให้อ่านหนังสือของ อกาธา คริสตี้ สัก สองสามเล่ม ศึกษาวิธีการเปิดเรื่อง ดำเนินเรื่อง และวิธีการเปิดเผยเรื่องราวจากการรวบรวมเงื่อนงำต่าง ๆ ของนักสืบ จะเห็นว่ามีสูตรสำเร็จไม่ต่างกันนักหรอกในแต่ละเล่ม แล้วลองเขียนของคุณขึ้นมาเอง
๒. หากยังคิดเรื่องเองยังไม่ได้ วาดภาพในหัวไม่ออก ก็ให้ลองฝึกเขียนจากการดูการ์ตูน โคนันยอดนักสืบ แล้วเขียนไปตามนั้น ( แค่ให้ฝักเขียนลงกระดาษนะ ไม่ได้ไปลอกเรื่องเขามาทั้งดุ้นแล้วเผยแพร่เป็นผลงานของตัวเอง ทำเป็นเรืองส่วนตัวก็แล้วกัน )